สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ทำไมต้อง เก็บภาษี เมื่อค้าปลีก ออนไลน์ โตไม่หยุด

จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์ชั้น 5 ประชาชาติ โดย ก้อย ประชาชาติ

กลายเป็นประเด็นร้อน ๆ ในช่วงที่ผ่านมาไม่น้อย เมื่อ "กรมสรรพากร" เตรียมพร้อมจัดระเบียบและเก็บ "ภาษีอีคอมเมิร์ซ" ว่ากันว่าเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมระหว่างร้านค้าที่ขายสินค้าในช่องทางทั่วไปกับสินค้าที่ขายผ่านช่องทางออนไลน์

เหตุผลของกรมสรรพากรมองว่าเนื่องด้วยร้านค้าทั่วไปที่ขายสินค้าเดียวกันแล้วยังต้องเสียภาษี แต่ถ้าไม่เก็บ "ภาษี" ในสินค้าที่ขายผ่านทางอีคอมเมิร์ซก็จะเป็นการไม่เท่าเทียมกัน ซึ่งในต่างประเทศมีการเก็บภาษีจากอีคอมเมิร์ซมานานแล้ว



ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาการช็อปปิ้งผ่านช่องทางออนไลน์ หรืออีคอมเมิร์ซในเมืองไทยเติบโตร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เห็นได้จากกลุ่มผู้ประกอบการหลากหลายธุรกิจทั้งแบรนด์โลคอลและต่างประเทศที่โหนเทรนด์เข้ามาร่วมกันปลุกตลาดไม่หยุด

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินตัวเลขตลาด "ค้าปลีก" ออนไลน์ของเมืองไทยในปี 2559 มีมูลค่ากว่า 140,000 ล้านบาท ขยายตัว 20% จากพฤติกรรมนักช็อปที่ใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์มากขึ้น นิยมการสั่งซื้อสินค้าบนสมาร์ทโฟนและแท็บเลตมากขึ้น 

สอดคล้องกับ "จริยา จิราธิวัฒน์" ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ฉายภาพว่าธุรกิจขายปลีกทางอินเทอร์เน็ต มีแนวโน้มเติบโตอย่างมากในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการจำนวนมากเริ่มปรับตัวและเปลี่ยนการซื้อขายมาสู่ออนไลน์มากขึ้น ด้วยข้อดีของการค้าขายบนออนไลน์ ไม่ต้องลงทุนหน้าร้าน ค่าเช่าพื้นที่ ค่าจ้างพนักงาน รวมทั้งสามารถเปิดขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง

จึงกลายเป็นธุรกิจขายปลีกทางอินเทอร์เน็ตที่แข่งขันอย่างรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะการขยายตัวของผู้ประกอบการจากต่างประเทศที่เข้ามาจำนวนมาก และที่สำคัญผู้ประกอบธุรกิจร้านค้าออนไลน์จำนวนมากที่ยังไม่ได้เข้าสู่ระบบการเสียภาษีร้านค้าออนไลน์อย่างถูกต้อง

โดยเฉพาะผู้ค้าออนไลน์ที่อยู่ต่างประเทศโดยอ้างว่ามีเซิร์ฟเวอร์อยู่ต่างประเทศซึ่งภาครัฐต้องเข้มงวดในการจัดเก็บภาษีการค้าออนไลน์อย่างจริงจัง สอดคล้องกับตัวเลขผู้ขายออนไลน์ ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า เมืองไทยมีผู้ขายออนไลน์ 1,005,000 ราย แต่ตัวเลขการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มีเพียงแค่ 13,000 รายเท่านั้น

ขณะที่สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA ประเมินมูลค่าอีคอมเมิร์ซปี 2559 ประมาณ 2,523,994.46 ล้านบาท ซึ่ง 3 อันดับที่มีมูลค่าอีคอมเมิร์ซสูงสุด คือ ค้าปลีกและค้าส่ง 731,828.33 ล้านบาท (34.55%) ให้บริการที่พัก 643,033.15 ล้านบาท (30.35%) และอุตสาหกรรมการผลิต 343,866.80 ล้านบาท (16.23%)

อย่างไรก็ตาม ในมุมนายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย "ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ" มองว่าการจัดเก็บภาษีธุรกิจออนไลน์เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและควรต้องพูดคุยและหารือกับหลาย ๆ ส่วนที่เกี่ยวข้องในธุรกิจเพื่อหาทางออกร่วมกัน

เมื่อตลาดมีขนาดใหญ่และเติบโตไม่หยุดมากเท่าไหร่จึงไม่แปลกที่จะส่งผลต่อการแข่งขันที่ร้อนแรงและในวงกว้างทั้งในช่องทางร้านค้าปกติทั่วไปและช่องทางค้าขายออนไลน์


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ทำไมต้องเก็บภาษี ค้าปลีก ออนไลน์ โตไม่หยุด

view