สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ได้เวลา เขย่า ธุรกิจแลกเงิน

จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์ ช่วยกันคิด โดย ปิยะ ตันติเวชยานนท์ ประธานซุปเปอร์ริช อินเตอร์เนชั่นเนลฯ

นวัตกรรม คือการค้นพบใหม่ ๆ ของแต่ละยุคสมัย เมื่อล้ำสมัยก็ล้าสมัยได้ ในอดีตเหรียญกษาปณ์และธนบัตร คือสิ่งใหม่ของการแลกเปลี่ยนเงิน ที่กำลังถูกทดแทนด้วยเครื่องมือทางการเงินในยุคดิจิทัล เดี๋ยวนี้เราสามารถใช้ Bitcoin ชำระค่าสินค้าและบริการกับห้างร้านและธุรกิจหลายแห่งทั่วโลกได้

ธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราในบ้านเราจะเดินไปทางไหน ? เรกูเลเตอร์ ผู้รับแลกเงินและผู้บริโภคต้องปรับตัวอย่างไร ?

เชื่อว่าหลายคนกำลังอ่านบทความนี้ทางหน้าจอสมาร์ทโฟน บางคนอยู่ในร้านกาแฟ บนรถไฟฟ้า หรือที่สาขาของ SuperRich สีส้ม พร้อมกับเปิดจอซ้อนดูอัตราแลกเปลี่ยนไปด้วย ทุกวันนี้เราพึ่งพาสมาร์ทโฟน แท็บเลต ฯลฯ ทำกิจกรรมส่วนตัว ทำงานและธุรกรรมต่าง ๆ เสร็จในชั่วพริบตา โดยไม่ต้องลุกไปไหน ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปมาก 


ภาพจาก : www.iMoney.in.th.

ลองดูตัวเลขที่อยากจะเอามาแชร์กัน

1.ประเทศไทยมีประชากร 68 ล้านคน เข้าถึง/ใช้งานอินเทอร์เน็ตกว่า 38 ล้านคน คิดเป็น 56% มีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ 47 ล้านคน แต่มีหมายเลขโทรศัพท์จดทะเบียนถึง 82.8 ล้านเลขหมาย หรือ 122% ของประชากร และมีผู้ใช้งาน Social Media ผ่านโทรศัพท์มือถือถึง 34 ล้านคน

2.อีก 3 ปีข้างหน้า คือปี 2563 ประเทศไทยจะมีอุปกรณ์สื่อสารรวมกันถึง 400 ล้านเครื่อง บริษัท Frost & Sullivan ประเมินว่าธุรกิจกลุ่มนี้จะดึงเงินจากกระเป๋าคนไทยถึง 35,000 ล้านบาททีเดียว (สูงกว่ามูลค่าการแลกเปลี่ยนเงินของ SuperRich สีส้มในปี 2559 ทั้งปีเสียอีก)

คนไทยเปิดรับเทคโนโลยีทางการเงินใหม่ ๆ ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวตาม ธนาคารหลายแห่งและธุรกิจขนาดใหญ่เริ่มตั้ง Digital Venture ส่งเสริม Startup เด่น ๆ ทุกวันนี้ธนาคารพาณิชย์ที่เคยเป็นเสือนอนกินจากส่วนต่างดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม ยังต้องปรับและเปลี่ยน 

ฟินเทคยังส่งผลให้ SMEs ในธุรกิจแลกเงินต้องพัฒนาศักยภาพด้วยเช่นกัน ผลพวงของการเติบโตอย่างขนานใหญ่ของ "เทคโนโลยีไอที 4 สหาย" คือ Social Media, Mobile, Analytics และ Cloud ยุคโลกาภิวัตน์ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงตามการเจริญเติบโตของอินเทอร์เน็ต เพราะผู้บริโภคจะชื่นชอบแอปพลิเคชั่นทางการเงิน ที่นำเอาเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้สร้าง "ทางลัด" ให้กับผู้ใช้ แถมยังดีกว่า สะดวกกว่า และเร็วกว่า

ธุรกรรมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ที่บริษัทซุปเปอร์ริชฯทำใน 1 ปีที่ผ่านมา 23,000 ล้านบาท มีลูกค้าที่มาใช้บัตรเครดิตเพียง 120 ล้านบาทโดยประมาณ หรือแค่ .0052% ของลูกค้าทั้งหมด

ธุรกรรมการแลกเงินในประเทศไทยยังอาศัยธนบัตรเป็นหลัก สูงถึงประมาณ 99% ของวอลุ่มในแต่ละวัน แต่กลับมองว่าเราสามารถเดินทางลัดตัดตรงไปถึงจุดที่สามารถให้บริการในลักษณะของ e-Purse หรือ e-Money ได้ 

อย่างแบรนด์ SuperRich สีส้ม กำลังจะมี 1 บิสซิเนสยูนิตที่ ใช้เงินแลกเงิน และอีก 1 ยูนิตเป็น ฟินเทค หรือกรณีตลาดใหม่ที่เราจะไปลงทุน เช่น ลาว อาจจะเป็นการร่วมทุนที่ให้บริการเฉพาะ e-Money Service ซึ่งจะเป็นก้าวเล็ก ๆ ที่สำคัญในธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศของผู้ประกอบการไทย และเป็นช่องทางในการชำระเงินค้าขายตามแนวชายแดน หรือการค้าในกลุ่ม CLMVT

ธุรกิจและวิสัยทัศน์เป็นของคู่กัน SuperRich มองโมเดลธุรกิจแบบร้านสะดวกซื้อ ซึ่งตอบโจทย์ผู้บริโภค แต่สำคัญคือต้องมีทุน เรามีงบฯลงทุนในเทคโนโลยีใหม่รองรับบริการ Online Payment ทำ Online Transfer มีไอที พาร์ตเนอร์ที่เชี่ยวชาญเขียนโปรแกรมแอปพลิเคชั่น 

เราคิดและตัดสินใจได้เร็ว คาดว่าจะทำได้กลางปีนี้ ลูกค้าสามารถนำเงินมาขายแล้วจะใส่ไว้ใน e-Wallet ในมือถือ ส่วนการรับชำระเงินและค่าบริการ เรามีพาร์ตเนอร์ คือ U top up จุดแข็งคือเป็นร้านรับแลกเงินในโมเดลของร้านสะดวกซื้อที่รับชำระเงิน บริการใหม่นี้จะนำมาใช้ที่สาขาสีลมกับราชดำริก่อน จากนั้นจะทยอยทำที่สาขาอื่น ๆ ภายในปีนี้ ทั้งนี้ เพื่อตามให้ทันไลฟ์สไตล์ของคนเมืองและผันตัวเองเข้าสู่ฟินเทคอย่างสมบูรณ์

ทุกวันนี้ผู้รับแลกเงินต้องรู้จักใช้ Consumer Internet of Things ทำอย่างไรให้สะดวกและง่ายกว่าคู่แข่ง ? ทำให้ลูกค้ามีความสุข พนักงานสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ ไม่ว่าจะใช้แพลตฟอร์ม หรือหน้าจออะไร เราต้องเข้าให้ถึง ต้องมี Virtual Branch เพื่อยกระดับบริการเป็น SuperRich Digital

เทรนด์การใช้อินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ยังพุ่งขึ้น ในปี 2018 คาดว่าประชากรโลกกว่า 51.1% จะมีอินเทอร์เน็ตใช้ นี่คือโอกาสและหมายถึงวอลุ่มมหาศาล

แต่ผู้ให้บริการแลกเงินเป็น Nonbank รายเล็ก ไม่มีอำนาจต่อรอง จะทำธุรกิจใหม่ต้องขอใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน ปี 2485 (เกิดก่อนผม 35 ปีครับ !) ที่ธนาคารพาณิชย์ บุคคลรับอนุญาต บริษัทรับอนุญาต ตัวแทนโอนเงินระหว่างประเทศ ฯลฯ ต้องปฏิบัติตาม 

วันนี้ชัดเจนว่า "เงินดิจิทัล" คือ "นวัตกรรมก่อกวน" (Disruptive Innovation) ที่จะมาเขย่าธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตรา เรกูเลเตอร์ต้องโชว์วิสัยทัศน์ ปรับเปลี่ยนกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อก้าวสู่สังคมไร้เงินสด ก่อนที่จะโดนก่อกวน เพราะตลาดไปเร็วมาก คำแนะนำ คือ รวดเร็ว รอบคอบ และยั่งยืน

ประสบการณ์ 50 กว่าปีของเรา วันนี้ไม่พอแล้ว ต้องศึกษาพร้อมเปิดวิสัยทัศน์ สร้างนวัตกรรมการดำเนินงานในรูปแบบใหม่ ๆ เรามีแผนร่วมลงทุนกับสถาบันการเงินที่มีชื่อเสียงเพื่อรวมนวัตกรรมทางความคิดออกมาเป็นสิ่งใหม่ ๆ ที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 

ซุปเปอร์ริชสีส้ม จะมีทั้งศักยภาพ ความน่าเชื่อถือ เป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ พร้อมยกระดับเป็นผู้เล่นในลีกใหญ่ของธุรกิจแลกเงิน


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ได้เวลา เขย่า ธุรกิจแลกเงิน

view