สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เปิดโลกเงินบาปสกุล บิทคอยน์ หายนะแห่งอนาคตหากไม่จัดการ

จากประชาชาติธุรกิจ

เปิดโลกเงินบาปสกุล “บิทคอยน์” หายนะแห่งอนาคตหากไม่จัดการ
        เรื่องราวของจอมโจรอัจฉริยะ“อเล็กซานเดร แคซ”ยังไม่จบ!!?? ทำไมต้องมีซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ ทำไมต้องเงินบิทคอยน์ หาคำตอบได้จากคุณ ป.เซียนการเงินออนไลน์ เตือนรัฐบาลรีบหาทางป้องกัน เพราะนี่คือช่องทางฟอกเงินผิดกฎหมายที่ง่าย สะดวก ท้าทายที่สุดในโลก
       
       ปฏิบัติการ “Operation Bayonet” ของกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด จนนำสู่การจับกุม นายอเล็กซานเดร แคซ (Alexandre CAZES) สัญชาติแคนาดา อายุ 26 ปี และ น.ส.สุนิสา แคซ (นามสกุลเดิม เทพสุวรรณ์) ภรรยา ในข้อหากระทำความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 พร้อมยึดทรัพย์สิน จำนวน 10 รายการ ทั้งบ้านหรู 3 หลัง รถยนต์ปอร์เช่ ลัมบอร์กินี มินิคูเปอร์ รถจักรยานยนต์บีเอ็มดับเบิลยู และ เงินสกุลดิจิทัล รวมมูลค่าทรัพย์สิน 726 ล้านบาท หลังเป็นตัวการสำคัญในการติดต่อสั่งซื้อยาเสพติด อาวุธสงคราม และสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ ผ่านทางเว็บไซต์ Alpha Bay มีความเชื่อมโยงกันหลายประเทศทั่วโลก โดยมีประเทศไทยเป็นจุดศูนย์กลางในการกระทำความผิด ต่อมาเวลาประมาณ 07.35 น. วันที่ 12 ก.ค. นายอเล็กซานเดรได้ใช้ผ้าเช็ดตัวผูกคอ ทำให้เสียชีวิตที่ห้องควบคุมผู้ต้องหา เบื้องต้นแพทย์ระบุว่าสาเหตุการตายเกิดจากภาวะขาดอากาศหายใจนั้น
       
       สังคมออนไลน์ได้มีการแชร์กระทู้หัวข้อ “โครงการ Blue Pearl - ประวัติศาสตร์การประกอบคอมพิวเตอร์แรงที่สุดของโลก” จากเว็บไซต์พันทิป ซึ่งเขียนโดย สมาชิกหมายเลข 2730245 เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา และมีการตั้งข้อสังเกตว่า ของกลางที่ บช.ปส. จับกุมได้นั้น มีส่วนคล้ายกับคอมพิวเตอร์ที่เจ้าของกระทู้นำมาโพสต์ อีกทั้งสมาชิกพันทิปอ่านแล้วรู้สึกว่าสำนวนไม่เหมือนคนไทย จึงคาดว่าอาจเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งก็คือ นายอเล็กซานเดร ที่ผูกคอตายในห้องขังนั่นเอง กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในแวดวงไอที และในโซเชียลมีเดีย
       
       สำหรับเนื้อหาของกระทู้ที่กล่าวถึงโครงการประกอบคอมพิวเตอร์โดยใช้ชื่อว่า “บลูเพิร์ล” (Blue Pearl) นั้น เป็นการประกอบคอมพิวเตอร์ที่ใช้น้ำเพื่อระบายความร้อนจากซีพียู และ การ์ดจอ โดยเขาตั้งใจจะสร้างคอมพิวเตอร์สองระบบ ได้แก่ ระบบวินโดว์สใช้เพื่อเล่นเกม และ ระบบลีนุกซ์เพื่อใช้ทำงาน ซึ่งได้สั่งซื้ออุปกรณ์ทั้งหมดรวมกัน 2,105,500 บาท โดยการประกอบคอมพิวเตอร์นั้น เขาตั้งใจจะไม่บิดท่อน้ำ ต้องใช้แค่หัวท่อ, ไม่ใช้ท่ออ่อน และชิ้นส่วนต้องไม่อ่อน เพราะจะทำให้หลุดร่วงได้ ซึ่งเขาได้อธิบายทุกขั้นตอนพร้อมภาพประกอบ ใช้เวลาประมาณ 11 วัน กระทั่งเสร็จสมบูรณ์ ส่วนการทดสอบความเร็ว พบว่า การบูตเครื่องใช้เวลาเพียง 7.8 วินาที อุณหภูมิซีพียู 26 องศาเซลเซียส และน้ำหนักเครื่องทั้งหมด 82 กิโลกรัม เมื่อทดสอบความเร็วเครื่องพบว่าเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่แรงเป็นอันดับ 10 ของโลก และแรงที่สุดในไทย 

เปิดโลกเงินบาปสกุล “บิทคอยน์” หายนะแห่งอนาคตหากไม่จัดการ
เครื่องคอมพิวเตอร์ Blue Pearl ของ อเล็กซานเดร แคซ
         
       ...นั่นคือข้อมูลสำคัญที่ทีมข่าว MGR Online นำเสนอไว้เมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา....มีคำถามว่าทำไมจอมโจรอัจฉริยะ “อเล็กซานเดส แคซ” จึงต้องประดิษฐ์ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ขึ้นมา เขามีไว้เพื่อการอะไรและหลายท่านอาจลืมไปว่าในการแถลงของเจ้าหน้าที่ตอนหนึ่งได้เอ่ยถึงเงินสกุลออนไลน์ หรือเงิน “บิทคอยน์”ซึ่งผู้ตายมีอยู่ในครอบครองจำนวนมากนับล้านหน่วย....เงินออนไลน์หรือ “บิทคอยน์”เกี่ยวข้องกับขบวนการนอกกฎหมายอย่างไรข้อมูลต่อไปนี้คือคำเฉลย
       
       คุณ ป.นักธุรกิจ ซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องเงินออนไลน์ ขอสงวนชื่อด้วยเหตุผลไม่อยากมีปัญหาบอกรายละเอียดในทุกแง่มุมกับทีมข่าวว่าเงิน “บิทคอยน์”ถือกำเนิดมาจากชาวญี่ปุ่น สุดอัจฉริยะคนหนึ่งแต่บางทฤษฎีอ้างว่าเป็นชาวออสเตรเลีย แต่นั่นไม่ใช่สาระสำคัญ เหตุผลของการกำเนิดเงินสกุลนี้มีแรงบันดาลใจมาจากพี่ใหญ่ของโลกคือในยุคเศรษฐกิจอเมริกา ตกต่ำมีการพิมพ์แบงก์ดอลลาร์ขึ้นมาเองตามอำเภอใจ ผู้ติดเงินสกุล “บิทคอยน์”จึงมีความเชื่อว่าต่อไปในอนาคตเมื่อมีการติดต่อค้าขายในโลกออนไลน์มากๆ “บิทคอยน์”น่าจะตอบโจทก์และเข้ามามีบทบาทบางส่วนของธุรกิจการค้าได้
       
       เงิน “บิทคอยน์”จึงถูกจัดทำขึ้นมีรหัสโค๊ตกระจายไปในระบบออนไลน์ หากใครต้องการครอบครองเงินสกุลนี้จะต้องใช้คอมพิวเตอร์แรงสูงเพื่อแย่งชิงให้มากที่สุด แน่นอนว่ามองเผินๆนี่คือการหลอกขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ให้กับบรรดาพวกร้อนวิชา หลายคนทุ่มเงินซื้อโปรแกรมที่สร้างขึ้นมา โดยเฉพาะซึ่งขายดิบขายดีมากว่า 3 ปีแล้วแม้ในปัจจุบันประเทศไทยยัง กำลังขาดตลาดต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศ เรียกว่าได้สร้างเม็ดเงินอย่างเป็นร่ำเป็นสันให้กับบริษัทผู้ผลิตเลยก็ว่าได้ เงินบิทคอยน์ 1 หน่วยในอดีตมีค่าเพียงหลักพันแต่ขณะนี้พุ่งสูงถึงหน่วยละ 84,000 บาท ซึ่งถือว่ายังคงพุ่งแรงมีแนวโน้มแตะหลักแสนอยู่รอมล่อ
       
       คุณ ป.บอกถึงเหตุผลของความบ้าคลั่งเงินสกุล “บิทคอยน์”น่าจะมาจากเมื่อกลุ่มผู้ซื้อขายทางออนไลน์เล็งเห็นช่องหารายได้จึงเข้ามาแจมด้วยโดยให้อภิสิทธิ์สามารถซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ทุกชนิดไม่เว้นแม้แต่สินค้าแบรนเนมต่างๆ ล้วนหาซื้อได้ด้วยเงินบิทคอยน์
        
       ทั้งกลุ่มอเมซอล -อาลีบาบา และบรรดาโบรกเกอร์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างแห่เข้ามาร่วม ช่องทางธุรกิจนี้จึงเอื้อให้กับเงินผิดกฎหมายจำนวนมหาศาลฉวยโอกาสเข้ามาฟอกอย่างต่อเนื่องโดยคุณ ป.บอกว่าให้สังเกตจากชื่อบริษัทของบรรดาโบรกเกอร์ทั้งหลายก็จะร้องอ๋อ เงินสกปรกจากทั่วโลกทั้งบ่อนการพนัน ค้าอาวุธ ค้าของเถื่อน ค้ายาเสพติดและค้ามนุษย์จำนวนหลายล้านเหรียญแปลสภาพกลายเป็นเงินออนไลน์เนื่องจากไม่ต้องทำธุรกรรมผ่านธนาคาร ไม่ต้องมีตัวตนเพียงแต่ติดต่อผ่านโบรกเกอร์ทุกคนสามารถซื้อ “บิทคอยน์”ได้ตามใจชอบ
       
       ขณะเดียวกันคนอีกกลุ่มซึ่งเป็นกลุ่มเก็งกำไร พวกนี้จะซื้อไว้และรอจังหวะเทขาย มีการหากำไรไม่ต่างกับตลาดหลักทรัพย์ แต่พวกที่ทุนน้อยอาจใช้วิธีดั้งเดิมคือ “ขุด”หาบิทคอยน์ วิธีก็คือติดตั้งซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ หรือคอมพิวเตอร์ความเร็วสูงแต่ไม่มีใครการันตีได้ว่าจะขุดบิทคอยน์ได้หรือไม่เพราะมีขั้นตอนมากมายโดยเฉพาะความเร็วสัญญาณเน็ตต้องอาศัยบริการพิเศษจากศูนย์ต่างๆ มีค่าใช้จ่ายสูง
       
       หากจะหาเงินด้วยวิธีนี้ขอแนะนำว่าอย่างทำเลยเพราะไม่คุ้มค่า เช่นค่าประกอบคอมพิวเตอร์ไม่น่าหนีหลักแสนบาท ค่าไฟเนื่องจากต้องเปิดแอร์หล่อเลี้ยงระบบตลอด 24 ชั่วโมงทั้งวันทั้งคืนหาก 1 เดือนสามารถขุดบิดคอยน์ ได้ 1 หน่วยเป็นเงิน 84,000 บาทยังไม่คุ้มค่าลงทุนเลยและไม่มีอะไรมายืนยันว่าเราจะได้ทุกเดือน บางทีหลายๆเดือนก็ไม่ได้ดังนั้นระบบเงินบิทคอยน์ หรือเงินออนไลน์สกุลนี้จึงไม่เหมาะกับคนหารายได้เสริมหรือต้องการทำเป็นเรื่องเป็นราว
       
       “พูดตรงๆ กลุ่มบุคคลที่เหมาะกับบิทคอยน์ ก็คือพวกมีเงินเยอะๆ พวกเก็งราคา พวกนายหน้าซื้อมาขายไป หรือพวกนอกกฎหมาย แก๊งมาเฟีย มิจฉาชีพตัวเอ้ๆ ต้องการฟอกเงิน ชนชั้นล่าง คนระดับกลางผมไม่แนะนำให้เล่นหรือมาสนใจไม่มีประโยชน์” คุณ ป.อธิบายให้เห็นภาพชัดๆ
       
       คุณ ป.ฝากความห่วงใยไปถึงผู้มีหน้าที่รับผิดชอบด้วยว่าเงินสกุลบิทคอยน์ จะเข้าสู่ความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ หากยังไม่มีกฎหมายหรือมาตรการอะไรที่ทันสมัย วันหนึ่งถ้ามันสามารถซื้ออะไรก็ได้นอกเหนือจากสินค้าออนไลน์ วันนั้นสังคมโลกและสังคมไทยวุ่นวายแน่ ขณะนี้มีเงินออนไลน์สกุลอื่นเข้ามาในตลาดกันแล้วเช่นเงิน “วันคอยน์” หรือสกุลจีนทราบว่ามีกลุ่มนักธุรกิจชาวจีนเข้ามามือเปล่าๆ แต่สามารถเชิญชวนให้นักลงทุนไทยซื้อเงินหยวน จำนวนเท่าไหร่ก็ได้เพื่อนำไปซื้อสินค้าในอาลีบาบา ถึงขนาดแลกเงินสกุลหยวนกับบาท โดยไม่ผ่านตลาดการเงินไทย ไม่ต้องทำธุรการอะไรทั้งสิ้นเขาก็ทำๆได้ ตรงนี้คือเรื่องที่น่าเป็นห่วง นี่คือรายละเอียดต่างๆที่ทำให้มองเห็นภาพอดีต ปัจจุบันและอนาคตของอานุภาพเงินออนไลน์
       
       อัจฉริยะ“อเล็กซานเดร แคซ” จบชีวิตไปแล้วท่ามกลางความลับของเทคโนโลยีล้ำยุคและเส้นทางการเงินของแก๊งมาเฟียระดับโลก แต่ด้วยผลประโยชน์อันมากมายมหาศาลแม้แต่ยักษ์ใหญ่โลกออนไลน์ที่กำลังมีอิทธิพลต่อโลก ไม่มีว่าจะเป็นค่ายฝรั่งหัวแดง หรือพันธ์มังกร ชาวจีนพวกเขาย่อมไม่ทิ้งเค้กก้อนใหญ่นี้อย่างแน่นอน....รัฐบาลไทย-คนไทย ต้องเท่าทัน อย่าคิดว่าเรื่องราวของจอมโจรไอคิวทะลุ 140 จบแล้ว....มันเพิ่งเริ่มต้นต่างหาก 

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : เปิดโลกเงินบาป สกุล บิทคอยน์ หายนะแห่งอนาคต หากไม่จัดการ

view