สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ผิดกฎหมายเต็มๆ!! พ่นประจานหน้าบ้าน นิติฯ บอกเลยตั้งใจ ประกาศทวงหนี้

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

       “ผมไปพ่นหน้าบ้านเขา เพื่อเป็นการเตือนว่า นี่คือการทวงหนี้แล้วนะ!!” ชัดเจนจากปากประธานนิติฯ หมู่บ้าน "อีสเทิร์นแลนด์เฮ้าส์ 3" ที่กำลังตกเป็นประเด็นร้อน หลังถูกลูกบ้านโพสต์โซเชียลฯ ร้องเรียน ด้วยภาพพ่นตัวหนังสือแดงเถือกประจานหน้าบ้านว่า “บ้านหลังนี้ไม่จ่ายเงินค่าส่วนกลาง” แฉความจริงอีกมุม นิติฯ ไม่เคยส่งหนังสือแจ้งหนี้อย่างที่กล่าวอ้างในสื่อ ส่วนที่ถกเถียงกันระลอกใหญ่ว่าทำแบบนี้ผิดกฎหมายหรือไม่ ทนายดังช่วยฟันธง เข้าข่ายละเมิดสิทธิ และอาจตามมาอีกหลายกระทง!!
       



        
       
       ยอมจ่าย-ยอมลบ แต่ “ความอับอาย” ไม่จบแค่นั้น!!
       


       

[ภาพร้องเรียนจากลูกบ้าน ที่ส่งมายังแฟนเพจ "MGRonline Live" จนกลายเป็นประเด็นร้อน]


        “สำหรับคนที่มองว่า “สมควรแล้วที่เจ้าของบ้านถูกประจาน” ก็อยากฝากให้ดูรายละเอียดให้ดีๆ ด้วยค่ะว่า ต้นสายปลายเหตุมันคืออะไร ทางนิติฯ หมู่บ้านได้ติดต่อกับทางลูกบ้านแล้วจริงๆ ตามที่กล่าวอ้างหรือเปล่า และมีขั้นตอนการทำงานที่ได้มาตรฐานแล้วหรือยัง 
        
        อย่างน้อยๆ ถ้าจะเตือนลูกบ้านเรื่องแจ้งหนี้ ก็ควรจะส่งจดหมายลงทะเบียนเพื่อให้รู้ว่า ข้อมูลทุกอย่างถึงปลายทางที่อยากสื่อสารแล้วจริงๆ ก็รู้สึกว่ามันเป็นความหน้าด้านค่ะ ที่เขาไปอ้างกับสำนักข่าวว่าส่งใบแจ้งถึงมือเจ้าของบ้านแล้ว อันนี้ขอพูดตรงๆ เลย เพราะเขาไม่ได้เช็กด้วยซ้ำว่ามันถึงปลายทางหรือยัง 
        
        คือเรายอมรับนะคะว่าผิด ที่ไม่ได้จ่ายค่าส่วนกลางตามกำหนดจริง แต่นั่นก็เป็นเพราะเราไม่รู้ว่ากำหนดมันคือเมื่อไหร่ ในเมื่อเขาไม่ได้ส่งใบแจ้งหนี้มาให้ แต่ถึงยังไงก็ตาม ก่อนจะลงมือพ่นหรือทำอะไรลงไป ทางโครงการหรือหมู่บ้านก็ควรจะต้องมาติดต่อ ขอคุยกับเราก่อนอยู่ดีว่า เราติดเงินค่าส่วนกลางอยู่เท่าไหร่ จะจ่ายไหม ถ้าเราบอกว่าเราไม่จ่ายสิ ถึงจะเรียกว่าจงใจทำความผิด แต่นี่คุณไม่ได้พยายามแม้แต่จะติดต่อมาทางโทรศัพท์ด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่มีเบอร์อยู่ในมือ
       


       

[เจ้าของบ้านสาวยืนยันว่าไม่เคยได้รับใบแจ้งหนี้ อย่างที่นิติฯ อ้าง]


       
        นี่คือปากคำผ่านปลายสาย จากสาวเจ้าของบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้าน "อีสเทิร์นแลนด์เฮ้าส์ 3" อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่ถูกทางนิติบุคคลของหมู่บ้าน พ่นประจานหน้าบ้านโดยที่ไม่เคยทราบรายละเอียดเรื่อง “ใบแจ้งหนี้ส่วนกลาง” มาก่อนเลย เพราะปล่อยบ้านให้ผู้เช่าชายรายหนึ่งพักอยู่อาศัยกับครอบครัว มาตั้งแต่ปีที่แล้ว 
       
        เธอเพิ่งรู้ตัวว่าได้กลายเป็นผู้ถูกกระทำก็เมื่อตอนที่ผู้เช่าส่งภาพ “ตัวอักษรสีแดงเถือก” หน้าบ้านมาให้ดูทางไลน์ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 ส.ค.60) พอโทร.ไปสอบถามรายละเอียดก็ได้รับเพียงน้ำเสียงกวนประสาท ขู่กลับมาอีกว่าให้ไปฟ้องร้องเอา!!
       
        “ตอนที่โทร.หาทางนิติฯ ครั้งแรก เราก็บอกเขาไปว่าทางผู้เช่าบ้านส่งรูปโดนพ่นตัวอักษรหน้าบ้านไปให้ดู และบอกเขาไปตรงๆ ว่าทำแบบนี้ไม่ถูกนะคะ เพราะทางเรายังไม่เคยได้รับจดหมายอะไรเลย ความจริงแบบนี้เข้าข่ายหมิ่นประมาทนะ ทางเราฟ้องได้นะ เขาก็ตอบกลับมาว่า “ไปฟ้องเลย รออยู่” แล้วก็วางหูไปเลย
       


       

[บ้านอื่นๆ ก็โดน "พ่นประจาน" เหมือนกัน ทั้งหมด 80 หลัง]


       
        หลังจากนั้นสักครึ่งชั่วโมงก็มีอีกคนโทร.กลับมาใหม่ เป็นฝ่ายดูแลทางธุรกรรม คนนี้พูดจาดีหน่อยค่ะ ถามเรื่องใบเสร็จการจ่ายค่าส่วนกลางที่เคยจ่ายไปแล้ว เราก็บอกว่าไม่ได้เก็บไว้ เพราะเรื่องมันตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว ไม่มีใครเก็บบิลย้อนหลังขนาดนั้นหรอกค่ะ ทางหมู่บ้านต้องทำจดหมายแจ้งหนี้มาเรียกเก็บสิคะ ถ้าเขาเป็นิติฯ ที่ได้มาตรฐานจริงๆ 
       
        อย่างคอนโดฯ ที่เราซื้อไว้ ก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องเบี้ยวเงินค่าส่วนกลาง เพราะเขามีใบแจ้งหนี้มาให้เราตลอด และเราก็จ่ายตามนั้น ซึ่งตอนนี้เรามีอยู่ในมือ 3 แห่งค่ะ คือในกรุงเทพฯ 2 แห่ง และที่ อ.แหลมฉบัง อีก 1 แห่ง แต่ทำไมที่นี่ไม่มีมาตรฐานส่งใบเรียกเก็บ แล้วจะให้ทางเราไปคอยนึกเอาเองได้ยังไงว่าต้องจ่ายเมื่อไหร่ เพราะเราก็ไม่ได้พักอาศัยที่นั่น และยังมีภาระที่ต้องจ่ายค่าต่างๆ ในชีวิตอีกมากมายเกินจะจำได้แล้ว 
       


       

[หนึ่งใน 80 หลังที่ถูกพ่นประจาน]


       
        ที่สำคัญคือ อยากถามว่าเราจะไว้ใจและเชื่อถือในข้อมูลที่ให้มาได้ยังไง ในเมื่อทางนิติฯ บอกว่า นิติบุคคลชุดที่แล้วเป็นคนโกงเงินค่าส่วนกลางไป และกำลังฟ้องร้องกันอยู่ ที่เรารู้เรื่องนี้ก็เพราะทางหมู่บ้าน บอกให้เราไปประสานงาน ติดต่อกับนิติฯ ชุดเก่าเองค่ะ เพื่อไปเอาหลักฐานว่าเราจ่ายเงินค่าส่วนกลางไปแล้วถึงปีไหน บางทีที่เราถูกกล่าวหาว่า ไม่ได้จ่ายค่าส่วนกลางตั้งแต่ปี 55 ข้อมูลนั้นอาจจะเป็นข้อมูลเท็จที่ถูกทางนิติฯ เก่าสร้างขึ้นมาเพื่อโกงเงินก็ได้
       
       


       

[ล่าสุด บ้านของแหล่งข่าวสาว เจ้าของบ้าน-เจ้าของประเด็น จ่ายค่าส่วนกลางและถูกลบพ่นประจานออกแล้ว]


        อย่างไรก็ตาม เพื่อตัดปัญหา ลูกบ้านสาววัย 34 รายดังกล่าว ก็ได้จ่ายเงินค่าส่วนกลางที่ค้างเอาไว้เรียบร้อยแล้ว และทางนิติบุคคลของหมู่บ้าน ก็ได้มาดำเนินการลบตัวอักษรสีแดงที่พ่นประจานเอาไว้เรียบร้อยแล้วเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีร่องรอยแดงๆ ทิ้งเอาไว้อยู่ดี แถมยังสร้าง “ความอับอาย” ที่แก้ไขได้ยาก ฝากเอาไว้ในสายตาคนอื่นอีกต่างหาก
       


       

[ถึงแม้นิติฯ สั่งลบออกแล้ว แต่ร่องรอย "ความน่าอับอาย" ก็ยังสะท้อนให้เห็น]


        “ที่ยอมจ่ายไปเพราะเราไม่อยากมีปัญหาค่ะ เพราะค่าส่วนกลางก็ไม่ได้แพงอะไร เดือนละ 200-300 บาท ทั้งหมดก็แค่ 10,000 กว่าบาท อย่างที่บอกค่ะว่าเราไม่ได้มีปัญหาเรื่องการเงิน มันไม่ใช่จุดสำคัญที่เราอยากมาถกเถียงด้วย แต่ที่สำคัญกว่าคือเราอยากจะบอกว่า จำนวนเงินแค่นี้ มันคุ้มไหมกับการต้องมาทำลายชื่อเสียงของคนอื่น ที่ทำมันเข้าข่ายหมิ่นประมาทเลยนะ ยิ่งอย่างเรามีผู้เช่า และถ้าผู้เช่าเขาอับอายจนขอยกเลิกเช่า ก็จะถือว่าทางนิติฯ ทำให้เราเสียทรัพย์ได้ด้วย” 
       



        
       
       นิติฯ เผย “ตั้งใจทวงหนี้” ทนายชี้ “ผิดกฎหมาย” หลายกระทง!!
       


       

["เชษฐา นาคพงษ์" ประธานนิติบุคคล "อีสเทิร์นแลนด์เฮ้าส์ 3"]


       "เรื่องการพ่นสีหน้าบ้าน มันมาจากความคิดที่ว่า ถ้าเกิดเราส่งใบแจ้งหนี้เป็นจดหมายไปให้เขาแล้ว แล้วเขาดื้อ เขาเกิดฉีกทิ้งลงถัง หรือเขาบอกว่าไม่ได้รับ มันคงไม่ได้ผล เราเลยใช้มาตรการพ่นลงบนถนนซึ่งพื้นที่ของนิติบุคคล ไม่ใช่พื้นที่สาธารณะ ก็เลยคิดว่าวิธีนี้แหละที่จะไม่ละเมิดสิทธิเขามากเกินไป เพราะเราพ่นลงในที่ของเรา 
       
        ที่เราต้องละเมิดเขา เป็นเพราะเขามาละเมิดสิทธิเราก่อน คือใช้พื้นที่ส่วนกลางของหมู่บ้าน แล้วไม่ยอมจ่ายค่าบำรุง ผมก็เลยไปพ่นหน้าบ้านเขา เพื่อเป็นการเตือนว่า นี่คือการทวงหนี้แล้วนะ!! และถ้าลูกหนี้คนไหนมาเจรจาแล้ว เราก็จะไปลบที่พ่นออกให้ ซึ่งตอนนี้ก็มีลูกหนี้มาเจรจาแล้ว 4 ราย และยินดีจะจ่ายให้หมดเลย”
       


       
        เชษฐา นาคพงษ์ ประธานนิติบุคคล "อีสเทิร์นแลนด์เฮ้าส์ 3" เปิดใจพูดคุยถึงเบื้องลึกเบื้องหลังมาตรการประจานสุดโหดกับทีมข่าว “ผู้จัดการ Live” ผ่านทางปลายสาย ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ผู้สื่อข่าว “ศูนย์ข่าวศรีราชา ผู้จัดการ 360ํ” กำลังลงไปเก็บภาพและสำรวจพื้นที่ที่เกิดเหตุ และพบว่ามีบ้านอีกหลายหลังที่ถูกพ่นประจาน โดยประธานนิติฯ ให้ข้อมูลว่าทำไปถึง “80 หลัง” ด้วยกัน หลังมีมติจากที่ประชุมเห็นชอบร่วมกันว่าได้เวลาจัดหนัก!!
       


       
        ส่วนเรื่องใบแจ้งหนี้ที่ทางลูกบ้านสาวรายดังกล่าวอ้างว่าไม่ได้รับถึงมือแม้แต่ใบเดียวนั้น ตัวแทนนิติฯ หมู่บ้านชี้แจงว่า ก่อนหน้าที่จะพ่น ได้ส่งหนังสือเวียนเพื่อเรียนเชิญลูกบ้านมาร่วมประชุม ซึ่งเรื่องใหญ่ในนั้นคือเรื่อง “การค้างชำระค่าส่วนกลางของลูกบ้าน” และยืนยันว่าได้ทำ “จดหมายทวงหนี้” ออกไปจริง แต่ที่ยังส่งไม่ถึงมือ คาดว่าน่าจะเป็นเพราะระยะเวลาในการขนส่งทางไปรษณีย์ที่ล่าช้า 
       
        ทั้งนี้ ทางนิติฯ ยอมรับกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่ได้รอให้เอกสารเหล่านั้นถึงมือผู้รับก่อน “เพราะมติกรรมการบอกว่าให้ทำทุกขั้นตอน แบบเดินไปพร้อมกันเลย คือเรื่องส่งจดหมายทวงหนี้ ก็จะให้อีกกลุ่มทำหน้าที่นี้ ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งก็ทำหน้าที่ไปพ่นตามหน้าบ้านเขา” ดังนั้น การดำเนินการ “พ่นประจาน” ที่เห็นกันอยู่ตอนนี้ตามสื่อสำนักต่างๆ ก็คือมติที่ทำเลยหลังจากการประชุม โดยไม่ได้มองเรื่อง “ความอับอาย” ของลูกบ้านเป็นเรื่องสำคัญ
       


       
        “ถ้าให้พูดถึงเรื่องของการทำให้อับอาย ตรงนี้ผมมองว่าผมไม่ได้เอาภาพพ่นหน้าบ้านไปโพสต์ และการพ่นในหมู่บ้าน ก็มีคนไม่เกิน 10 คนหรอกที่เดินผ่านและเห็น ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องน่าหนักใจเลย ผมต่างหากที่มีความหนักใจมากกว่า ที่ลูกบ้านมาละเมิดสิทธิจ่ายค่าส่วนกลาง ทำให้ทางนิติฯ ไม่มีเงินจ่ายค่า รปภ., ค่าน้ำ, ค่าไฟ ฯลฯ ซึ่งผมจะโดนเขาตัดน้ำ-ตัดไฟ และโดนแจ้งจับ
       
        ที่ต้องทำแบบนี้ เพราะคิดว่าเราใช้ทุกวิถีทางแล้วที่นุ่มนวล มันก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมก็เลยลองใช้วิธีแรงๆ ดู อาจจะผิดกฎหมายบ้าง อาจจะเฉียดไปบ้าง แต่เราก็ลองคุยกันแล้วในกลุ่ม แล้วก็พบว่าในเน็ตก็มีที่อื่นๆ เคยทำ เราก็เลยจัดการเลย เพราะคิดว่ามันต้องลองดูครับ”
       
       


       

[ป้อมยามหน้าหมู่บ้าน ที่นัดประชุมเพื่อลงมติ]


        หนึ่งในสาเหตุหลักที่บีบให้ “นิติบุคคล” ชุดนี้ต้องทำเช่นนี้ คือปัญหาหนี้สินที่เกิดจากการโกงของทีมนิติฯ ชุดเก่า ซึ่งบริหารงานตั้งแต่ปี 2555 - 2560 และตรวจพบว่ามีการยักยอกทรัพย์ไปถึง 1,500,000 บาท จึงตั้งกรรมการขึ้นมาใหม่คือชุดปัจจุบัน และเริ่มทำงานกันตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา
       
        “เราใช้วิธีเรียกประชุมโดยส่ง “หนังสือเวียน” ซึ่งใช้วิธีเดินแจก ไปเสียบที่หน้าบ้าน โดยแจ้งล่วงหน้า 2 อาทิตย์ก่อนการประชุม เจอใครก็บอกมาประชุมหน่อยนะ และได้ออกมติร่วมกันว่า เราต้องใช้มาตรการรุนแรงแล้ว เราอ่อนน้อมให้เขามาเยอะแล้ว เพราะเงินเราก็ไม่มีแล้ว
       


       

[สภาพหมู่บ้านที่ขาด "เงินส่วนกลาง" มาคอยดูแลมาเนิ่นนาน]


       
        ส่วนเรื่องการพ่นประจานหน้าบ้านนั้น เราบอกเฉพาะคนที่มาร่วมประชุมครับ ซึ่งในมติที่ประชุมก็เห็นด้วยกันหมด ซึ่งผมก็ต้องทำงานตามมติที่ประชุม เพราะเราถือว่าถึงแม้ลูกบ้านที่มาประชุมจะไม่เกินกึ่งหนึ่ง แต่อย่างน้อยก็เป็นกลุ่มที่ให้ความสนใจ และเราก็ต้องเดินตามมตินั้น”
       


       
       

[(ซ้ายไปขวา) "รัตนภัทร สุวรรณประเสริฐ" หนึ่งในคณะกรรมการนิติฯ, "เชษฐา นาคพงษ์" ประธานนิติฯ และ "สุวรรณ ลูวิชา" ที่ปรึกษานิติฯ]


        เมื่อสอบถามพฤติกรรมการ “ทวงหนี้” ดังกล่าวไปยังผู้รู้กฎหมายอย่าง รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความชื่อดัง เจ้าของเพจ "ทนายคู่ใจ" จึงได้ความว่าการกระทำของนิติบุคคล หมู่บ้าน "อีสเทิร์นแลนด์เฮ้าส์ 3" มีความผิดตามกฎหมายอย่างชัดเจน โดยเข้าข่าย “ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล” ตาม “ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตราที่ 420”
       
        “กฎหมายระบุไว้ว่า ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ประทำต่อบุคคลอื่นให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งในกรณีนี้ที่ไปพ่นหน้าบ้าน ก็จะเข้าข่ายนี้ที่ทำให้คนอื่นมองว่าเขาเป็นคนไม่ดี เป็นการประจาน ซึ่งศาลจะเป็นผู้วินิจฉัยอีกทีหนึ่ง ซึ่งถ้าวินิจฉัยว่ามีความผิดจริง ก็ต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทน
       
        การกระทำในลักษณะนี้ เจตนาของทางผู้กระทำคือ “ต้องการประจานเขา” ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิของบุคคล และอาจจะมีความผิดตาม “พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ.2558” ด้วยครับ เลยมีสิทธิโดนอีกกระทง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจและต้องดูที่เจตนาของผู้พ่นด้วย คือถ้าผู้พ่นเจตนาให้เป็นการทวงหนี้ด้วยก็จะเข้าข่าย”
       


       

[รายชื่อนิติฯ ผู้อนุมัตินโยบาย "พ่นประจาน" ทั้งหมด ซึ่งทนายความบอกว่าถ้าขึ้นศาล ต้องโดนยกคณะ]


       
        เมื่อตรวจสอบข้อกฎหมายจาก พ.ร.บ.ดังกล่าว จึงพบว่ากรณีนี้ เข่าข่ายข้อห้ามพฤติกรรมของ "เจ้าหนี้" ซึ่งระบุเอาไว้ว่า "ห้ามมิให้ผู้ทวงถามหนี้ใช้ความรุนแรง ใช้วาจา หรือภาษาดูหมิ่น ถากถาง เสียดสี หรือเปิดเผยความเป็นหนี้ของลูกหนี้แก่ผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง" โดยกำหนดบทลงโทษเอาไว้ว่า “จะถูกปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ตามมาตรา 24 และจะถูกเพิกถอนการจดทะเบียน และจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
       
        ส่วนเรื่องการพ่นตัวอักษรหน้าบ้านนั้น ในเมื่อทางนิติฯ ยอมรับออกมาเองว่าทำไปเพื่อ “ประจาน” ก็แน่นอนว่าย่อมถือเป็นการละเมิดสิทธิ ถึงแม้จะอ้างว่าเป็นถนนในกรรมสิทธิของนิติฯ หมู่บ้านก็ตาม
       


       

[ภาพ: ศูนย์ข่าวศรีราชา ผู้จัดการ 360ํ]


       
        “ถึงแม้ว่าเขาจะไม่จ่ายค่าส่วนกลาง คุณก็ไปสิทธิทางศาลฟ้องทางแพ่งเอาสิ แต่มาพ่นประจานแบบนี้ไม่ได้ ถึงแม้ว่าอ้างว่าพื้นที่ถนนที่พ่นตรงนั้น เป็นกรรมสิทธิของทางนิติบุคคล เป็นของส่วนกลางก็ตาม เพราะประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ถนนนั้นเป็นของใคร แต่อยู่ที่การพ่นประจานบนพื้นที่นั้น ทำให้บุคคลอื่นๆ มองชื่อเสียงของบ้านหลังนั้นเสียหาย ถูกมองว่าเป็นคนไม่ดี ซึ่งยังไงก็มีความผิดอยู่ดี และคนที่เสียหายก็ย่อมใช้สิทธิทางศาลฟ้องร้องได้เช่นกัน” 
       
       ข่าว: ทีมข่าวผู้จัดการ Live
       ภาพ: ศูนย์ข่าวศรีราชา ผู้จัดการ 360ํ
       
       


       

[ต้นโพสต์ทีร้องเรียนมาทางแฟนเพจ "MGRonline Live" จนผู้สื่อข่าวตามข่าวและกลายเป็นกระแส]

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ผิดกฎหมายเต็มๆ พ่นประจานหน้าบ้าน นิติฯ บอกเลย ตั้งใจ ประกาศทวงหนี้

view