สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

มงคลชีวิตอันงดงาม รัชกาลที่ 9 ทุกคนต้องทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด

จากประชาชาติธุรกิจ

สัมภาษณ์พิเศษ

พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กว้างใหญ่ไพศาลขจรขจายไปทั่วหล้าดับทุกข์ร้อนให้ฉ่ำเย็นทุกหมู่เหล่าดั่งพระพิรุณ

“ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ” อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี บอกเล่าช่วงเวลาอันเป็นมงคลต่อชีวิตกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า พระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ครอบคลุม กว้างขวาง ไม่มีใครตกสำรวจ

Q : เรื่องความงดงามที่เกิดขึ้นในรัชกาลที่ 9 ที่อาจารย์ได้สัมผัสโดยตรง

ผมคิดว่าพระองค์ท่านให้ความสำคัญกับทุกคนที่เป็นคนไทย ไม่ได้เลือกคน หมู่ใด กลุ่มใดโดยเฉพาะ พระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ครอบคลุม กว้างขวาง ไม่มีใครตกสำรวจไปจากงานที่พระองค์ท่านทรงทำ ยิ่งอยู่ห่างไกล ในพื้นที่ลำบากยากแค้น พระองค์ท่านจะเป็นห่วงเป็นพิเศษ ใส่ใจ ให้เวลา ประสบการณ์ตรงที่ได้สัมผัสถึงพระมหากรุณาธิคุณ ครั้งเป็นอาจารย์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ได้เห็นความตั้งพระราชหฤทัยของพระองค์ที่ให้ความสำคัญกับทุกคน เหตุการณ์ในวันนั้นเกิดไฟดับทั่วทั้งพระนคร

ไฟฉุกเฉินสว่างไม่มีเพียงพอที่จะถ่ายรูปพิธีพระราชทานปริญญาบัตรกับบัณฑิตจำนวนหนึ่งได้ ขณะนั้นคิดว่าคงเป็นคราวเคราะห์ของเด็กจำนวนนั้น ใครจะทำอะไรได้ แต่พระเจ้าอยู่หัวท่านทำ ท่านมีพระราชกระแสกับอาจารย์ให้ไปตามบัณฑิตเหล่านั้นมารับพระราชทานปริญญาบัตรอีกครั้งหนึ่งเพื่อจะได้ถ่ายรูป

อีกเหตุการณ์หนึ่ง ผู้อื่นเล่าให้ฟัง อาจารย์วินิจ วินิจนัยภาค อดีตรองเลขาธิการสำนักพระราชวัง ได้ตามเสด็จไปในงานเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 60 พรรษา 5 ธันวาคม 2530 ทุกคนไชโยโห่ร้องถวายพระพร ขณะนั้นพระองค์เสด็จพระราชดำเนินในพระราชพิธีวันเฉลิมพระชนมพรรษา ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ท่ามกลางผู้ที่ไปถวายพระพร ความทุกข์ของคนไม่เลือกวันหยุด มีคนหนึ่งไปทูลเกล้าฯถวายฎีกา อาจารย์วินิจได้รับฎีกาจากพระหัตถ์พระองค์และทรงมีรับสั่งว่า ฎีกา และให้อาจารย์วินิจไปถามเรื่องราวจากปากของคนถวายฎีกาให้ชัดเจนทันที

ผมถามตัวเองถึงสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เขาเป็นใครหรือเปล่า ไม่ใช่ลูกท่านหลานเธอ ไม่ใช่ใครที่มีฐานะพิเศษ ไม่มีใครรู้จักบัณฑิตเหล่านั้น แต่เป็นผู้ที่อยู่ในข่ายแห่งพระมหากรุณาธิคุณที่ไม่ตกหล่นไป เป็นคนธรรมดาซึ่งมีเรื่องทุกข์ร้อนเมื่อเรื่องถึงพระเนตรพระกรรณแล้วพระองค์จะไม่ยอมปล่อยผ่าน

Q : ครั้งหนึ่งอาจารย์เข้าเฝ้าฯในหลวงรัชกาลที่ 9 ในพระตำหนักสวนจิตรลดาฯ พระองค์ทรงปฏิสันถารเรื่องอะไรบ้าง

เมื่อปี 2538 ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระมหากรุณารับสั่งเล่าเรื่องอะไรหลายอย่าง สิ่งที่เป็นประเด็นหนึ่งที่ทรงพระมหากรุณาเล่าถึงเรื่องงานที่พระองค์ท่านทรงงานที่อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทรงมีรับสั่งถึงคุณดุสิต กฤษณัมพก อนามัยของอำเภอพระแสง ทรงมีรับสั่งว่า ผมควรไปคุยกับคุณดุสิต

เมื่อผมเดินทางไปพบ คุณดุสิตเล่าให้ฟังว่า เมื่อปี 2510 ที่อำเภอพระแสง เป็นพื้นที่กันดาร ไกลโพ้น สมัยนั้นสงครามเวียดนามยังรบพุ่งกันอยู่ มีคนบอกว่า ไปเวียดนามดีกว่าไปพระแสง ขณะนั้นคุณดุสิตเป็นคนหนุ่มไฟแรง อาสาที่จะไปเป็นอนามัยอำเภอพระแสง และได้ชักชวนปลัดอำเภอ ตำรวจ และคนหนุ่ม ๆ ลงเรือไปเยี่ยมราษฎรตามตำบล หมู่บ้านที่ห่างไกล ความได้ทราบถึงใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท พระเจ้าอยู่หัวมีสายพระเนตรที่กว้างไกล มีพระญาณที่ส่องดูเหตุการณ์ในบ้านเมืองถี่ถ้วนรอบคอบ จึงให้ผมไปตามหาคุณดุสิตเพื่อเข้าเฝ้าฯ และพระราชทานเงินให้คุณดุสิตไปซื้อสิ่งของจำเป็น โดยคุณดุสิตจดรายละเอียดรายจ่ายทั้งหมดถวายพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงทราบ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการทำงาน ซื่อตรง ซื่อสัตย์ สุจริต รอบคอบ

สุดท้ายพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปที่ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี ฝนตกมาก ชาวบ้านเอาไม้ที่ซื้อมาเตรียมไว้สร้างบ้านพักราชการ ได้นำไม้นั้นมาปูเป็นถนนเดินผ่านห้องแถวไม้ที่มีอยู่ไม่กี่หลัง พอเป็นทางเสด็จพระราชดำเนินได้ โดยไม่ต้องไปอยู่บนโคลนเลน สุดท้ายไม้จำนวนนั้นนำไปสร้างเป็นบ้าน พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิตประทานนามว่า บ้านพระบาท 1 บ้านพระบาท 2 น่าเสียดายที่รื้อไปไม่กี่ปีนี้เอง ถ้าบ้านหลังนี้ยังอยู่ พระองค์หญิงวิภาฯท่านรับสั่งว่า จะเป็นบ้านเพียง 2 หลังในโลกนี้ที่พระเจ้าอยู่หัวทรงเหยียบบ้านไม้ทุกแผ่นมาแล้ว

Q : อาจารย์ได้ตีความพระราชประสงค์ของพระองค์ท่านที่ทรงให้หาคุณดุสิตหรือไม่ว่าเป็นเพราะอะไร

(น้ำตาคลอเบ้า) ผมมานั่งนึกสะท้อนใจตัวเองว่า ผมเองยังบกพร่องต่อหน้าที่ ผมคิดว่าพระองค์ท่านประสงค์ให้นำเรื่องราวต่าง ๆ เหล่านี้มาบอกเล่า มาทำให้ไม่สูญหายไปกับกาลเวลา เป็นการบ้านที่ยังตกค้างกับตัวเองอยู่ ที่ยังไม่ได้ทำ การได้บอกเล่าเรื่องราวในวันนี้ทำให้สบายใจได้ส่วนหนึ่ง แต่ควรจะเขียนบันทึกความทรงจำเป็นหนังสือไว้เป็นหลักเป็นฐานมากกว่านี้

Q : มงคลชีวิตที่สุดของอาจารย์ที่ได้รับพระราชทานจากในหลวงรัชกาลที่ 9

(นิ่งคิด) การได้เข้าเฝ้าฯ พระเจ้าอยู่หัวครั้งหนึ่งในชีวิต การได้เข้าเฝ้าฯโดยได้นำดอกไม้ธูปเทียนไปทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย เรียกแบบโบราณ คือการถวายตัวเป็นข้าละอองธุลีพระบาทของพระองค์ท่าน มีพระราชปฏิสันถารรับสั่งเป็นเวลานานพอสมควร เป็นการเฝ้าฯเฉพาะพระองค์ มากกว่า 1 ชั่วโมง ลองนึกตอนเป็นบัณฑิตจบมหาวิทยาลัยเพียงแค่ 1 วินาที หรือเสี้ยววินาทีที่อยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์ท่านยังเป็นมงคลกับชีวิตของเรามากมายมหาศาล

แน่นอนผมย่อมไม่คาดฝันหรือไม่บังอาจเอื้อมที่จะคิดว่า วันหนึ่งจะได้หมอบอยู่แทบพื้นเบื้องพระยุคลบาทและถวายดอกไม้ธูปเทียนกับพระองค์ท่าน พระองค์ท่านรับสั่งกับเราโดยเฉพาะเจาะจงเป็นเวลานานอย่างที่เราไม่เคยคิดว่าจะมีวันเวลาในชีวิตของเราได้ถึงเพียงนี้ จึงถือเป็นสิ่งที่เป็นมิ่งมงคลที่สุดในชีวิตของคนไทยคนหนึ่งที่จะมีได้

Q : ภายหลังจากเข้าเฝ้าฯเฉพาะพระพักตร์เกือบ 1 ชั่วโมงในวันนั้น ชีวิตเปลี่ยนอย่างไรบ้าง

สิ่งที่มีความหมายสำคัญคือ เมื่อได้ทรงรู้จักแล้ว ในปีต่อมาได้ตัดสินใจที่จะเข้าพิธีอุปสมบทเป็นนาคหลวง ผมถือว่าได้ถวายตัวเป็นข้าทูลละอองธุลีพระบาทแล้ว และถึงเวลาที่ควรจะบวช จึงขอพระราชทานพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมเป็นนาคหลวงที่วัดพระแก้ว บวชอยู่เป็นระยะเวลา 3 เดือน อยู่ในพรรษา

สิ่งที่รู้สึกตื่นเต้นเมื่อถึงคราวกับตัวเอง ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่ง เช่น ลาดพระบาทสีน้ำตาลที่ปูลาดเทียบกับรถพระที่นั่งเข้าไปถึงวัดพระแก้วเราต้องไม่กล้ำกรายไม่ไปเหยียบ ไม่ไปเดิน ด้วยความเคารพว่าเป็นสิ่งของพระเจ้าแผ่นดิน ซึ่งไม่เคยนึกมาก่อนว่าเช้าวันจะบวชตอนปลงผมที่ศาลาสหทัยสมาคม ชุดนาคเป็นของพระราชทานทั้งสิ้น

ตื่นเต้นที่สุด คือ เมื่อตอนจะเดินเข้าวัดจากศาลาสหทัยสมาคมไปพระอุโบสถ…เขาจัดให้เดินอยู่บนลาดพระบาท…น้ำตาจะไหล เพราะไม่เคยคิดเลยว่าจะมีโอกาสในชีวิตที่จะได้รับพระมหากรุณาให้เดินบนลาดพระบาท เป็นของที่เกินสติปัญญาจะคิดได้ เดินไปถึงพระอุโบสถทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ

ให้ขึ้นบันไดกลางซึ่งเป็นทางเสด็จพระราชดำเนิน ทุกครั้งที่เข้าเฝ้าฯ เราก็รู้ว่า ขึ้นซ้าย ลงขวา มิบังอาจขึ้นตรงกลางเป็นอันขาด บัดนี้เราจะเป็นนาคในฐานะเป็นนาคหลวง บวชด้วยผ้าไตรพระราชทาน ในพระอุโบสถซึ่งพระองค์ท่านเป็นเจ้าภาพ สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องกำกับใจมากว่า ตลอดพรรษานั้นต้องตั้งหน้าตั้งตาเป็นพระที่ดี ให้สมควรกับพระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทาน จะไปทำเหลวไหล เลอะเทอะ ไม่ได้ เพราะฉะนั้นความสังวรระวังในการเป็นพระบวชใหม่ในพรรษาจึงมีอยู่เป็นพิเศษ

Q : ตลอดการรับราชการได้นำพระราชดำรัสหรือพระบรมราโชวาทมาประพฤติปฏิบัติอย่างไรบ้าง

พระบรมราโชวาทที่เราได้ยิน ได้ฟัง ได้รับใส่เกล้าใส่กระหม่อมหลายวาระ มากมายหลายองค์ ส่วนตัวมีประเด็นที่คิดว่า มีความประทับใจและเป็นพระบรมราโชวาทที่มีความหมายพิเศษ ซึ่งพระองค์ท่านตรัสอยู่หลายวาระ จะพบว่าพระบรมราโชวาทหลายองค์ พูดถึงว่า ทุกคนต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ทรงอธิบายต่อว่า ทุกอย่างจะประสานสอดคล้องกัน เกิดความสามัคคี เกิดความเจริญขึ้น เมื่อมาคิดต่อยอดเองว่า ความวุ่นวายทั้งหลายเกิดขึ้นเพราะคนไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง

ผมไม่สามารถกล่าวอ้างว่า ตัวเองทำหน้าที่ได้อย่างครบถ้วนบริบูรณ์ในทุกมิติ ทุกวัน แต่ผมพยายามทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุด

Q : ในวันที่พระองค์ท่านไม่ได้เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรแล้วจะประคับประคองตนอย่างไร

เป็นวันคืนแห่งประวัติศาสตร์ ไม่มีคนไทยคนไหนอยากให้มีวันที่ 13 ตุลาคม 2559 เกิดขึ้น แต่สัจธรรมของโลกจึงไม่อาจปฏิเสธสิ่งเหล่านี้ได้ ถึงแม้พระองค์ท่านจะไม่ได้อยู่กับเราแล้ว แต่กระแสพระราชดำรัส พระบรมราโชวาท เรื่องราวที่พระองค์ทรงทำให้ดูเป็นแบบอย่าง ยังอยู่กับเราไปตลอดอีกนานแสนนาน เป็นความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

Q : แรงบันดาลใจของอาจารย์ในการศึกษาประวัติศาสตร์ของกษัตริย์ทุกพระองค์

อาจเป็นเพราะวาสนาแต่ปางก่อน มีความสนใจเป็นส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะพื้นฐานทางครอบครัว ผมเกิดเติบโตมาในครอบครัวข้าราชการ พ่อเป็นข้าราชการ ปู่ ย่า ตา ยาย เป็นคนอยู่ในราชการมานาน ได้รับพระมหากรุณาชุบเลี้ยงมา ปู่โดยตรงแท้ ๆ เป็นมหาดเล็กของในหลวงรัชกาลที่ 5 จากเด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่แม่กลอง ไกลปืนเที่ยงเต็มที ไม่ได้เป็นลูกท่านหลานเธอมาแต่ไหน แต่เรียนหนังสือดี ได้รับโอกาสหรือจังหวะชีวิตให้ไปเป็นนักเรียนโรงเรียนมหาดเล็ก ทรงตั้งขึ้นเมื่อปี 2440 ถวายตัวเป็นมหาดเล็ก รับราชการ ครอบครัวเป็นหลักเป็นฐานมาได้

หนังสือในบ้านก็เป็นหนังสืองานศพ หนังสือแจกงานสำคัญ ๆ ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 6 รัชกาลที่ 7 คุณตาเป็นข้าหลวงเดิมในรัชกาลที่ 6 ด้วยพื้นฐานอย่างนี้ หนังสือรอบตัวเป็นอย่างนี้ อ่านไป อ่านมา จึงเกิดเป็นความสนใจส่วนตัว


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : มงคลชีวิตอันงดงาม รัชกาลที่ 9 ทุกคน ต้องทำหน้าที่ตัวเอง ให้ดีที่สุด

view