จากประชาชาติธุรกิจ

บทบรรณาธิการ

แม้ไม่ได้เคลื่อนไหวต่อต้าน แต่การยื่นใบลาออกจากตำแหน่งของนายกสภามหาวิทยาลัย กรรมการสภามหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ แต่หลังเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรื่อง กำหนดตำแหน่งของเจ้าพนักงานของรัฐ ซึ่งจะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 102 พ.ศ. 2561 ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง

โดยเฉพาะการกำหนดให้นายกสภา กรรมการสภา อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ อยู่ในข่ายต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ ตามประกาศของ ป.ป.ช.ด้วย ทำให้รองนายกฯวิษณุ เครืองาม ต้องนัดหารือ ป.ป.ช. เพื่อหาทางแก้

กฎเหล็กฉบับใหม่ที่ให้เจ้าพนักงานของรัฐและข้าราชการระดับสูงตามประกาศ ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ 2 ธันวาคม 2561 จึงทำให้เกิดแรงกระเพื่อมในวงกว้าง

ทางออกจะเป็นอย่างไร จะลดแรงต้านจากผู้บริหาร นายกสภามหาวิทยาลัย และกรรมการสภามหาวิทยาลัย ซึ่งมีทั้งคนในแวดวงวิชาการ และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชนได้มากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ป.ป.ช.ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรง

สิ่งที่ท้าทายคือ ป.ป.ช.ต้องตัดสินใจว่าจะเดินหน้าหรือยอมถอย ท่ามกลางแรงกดดันที่มีเข้ามาต่อเนื่อง มีทั้งกระแสต้าน และฝ่ายที่สนับสนุนให้ ป.ป.ช.เร่งดำเนินการตามประกาศฉบับดังกล่าว เพราะไม่ว่าบทสรุปจะออกมาอย่างไร ผลที่ตามมาย่อมมีทั้งลบและบวก

แม้ฝ่ายที่เสนอให้ ป.ป.ช.ปรับปรุงแก้ไขประกาศจะให้เหตุผลว่า จำเป็นต้องดึงผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกมาปฏิบัติหน้าที่นายกสภาและกรรมการสภามหาวิทยาลัย เพื่ออาศัยประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ และคนกลุ่มนี้ไม่มีอำนาจบริหารหรือลงนามในสัญญา จึงไม่ควรสร้างภาระให้ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ ถือว่ารับฟังได้ แต่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการยกเว้นแจงบัญชีกลับมองสวนทาง

โดยฝ่ายหลังชี้ว่า แม้ประกาศของ ป.ป.ช.จะสร้างภาระความยุ่งยาก แต่เมื่อเข้ามาดำรงตำแหน่งมีอำนาจชี้ขาดไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม และรับเงินเดือน ค่าตอบแทนจากภาษีประชาชน จึงควรแสดงถึงความโปร่งใส พร้อมให้ตรวจสอบ

ป.ป.ช.รวมทั้งรัฐบาลจึงต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบรอบด้าน ก่อนชี้ขาดว่าจะแก้ไขประกาศล็อกข้อกฎหมายหรือยืนยันหลักการเดิม สำคัญที่สุดคือ เหตุผลและคำชี้แจงต้องเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ กฎเหล็กปราบคอร์รัปชั่นโกงกินจะได้ไม่ถูกสบประมาทว่าไร้น้ำยาตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มต้น

#สำนักงานบัญชี,#สำนักงานสอบบัญชี,๒ทำบัญชี,#สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน