สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

การตรวจสอบและรับรองบัญชีภาษีอากร (9)

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์


ขอนำประเด็นปุจฉา - วิสัชนา แนวคิดในเกี่ยวกับการตรวจสอบและรับรองบัญชี เพื่อประโยชน์แห่งการจัดเก็บภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร
ตามมาตรา 3 สัตต แห่งประมวลรัษฎากร ต่อจากสัปดาห์ก่อนดังนี้

ปุจฉา บัญชีเพื่อประโยชน์แห่งการจัดเก็บภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร กับ บัญชีที่ต้องจัดทำตามประมวลรัษฎากร เหมือนหรือต่างกันอย่างไร

วิสัชนา บัญชีเพื่อประโยชน์แห่งการจัดเก็บภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร กับบัญชีที่ต้องจัดทำตามประมวลรัษฎากรนั้น แท้จริงแล้ว มีความหมายอย่างเดียวกัน ได้แก่ บัญชีเพื่อประโยชน์แห่งการจัดเก็บภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ซึ่งได้แก่

1. บัญชีงบดุล บัญชีทำการ บัญชีกำไรขาดทุน

2. บัญชีรายรับก่อนหักรายจ่าย บัญชีรายรับรายจ่าย

3. รายงานที่ต้องจัดทำในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีธุรกิจเฉพาะ

4. การจัดทำใบกำกับภาษี ใบเพิ่มหนี้ ใบลดหนี้ ใบแทนใบกำกับภาษี ใบแทนใบเพิ่มหนี้ ใบแทนใบลดหนี้

5. ใบรับ ใบส่งของ

6. หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย

7. บัญชีพิเศษตามมาตรา 17 แห่งประมวลรัษฎากร

8. หลักฐานและเอกสารประกอบการลงบัญชีหรือประกอบการลงรายงาน

9. เอกสารที่ต้องเสียอากรแสตมป์

และให้หมายความรวมถึง การปฏิบัติหน้าที่ในการแสดงรายการหรือแจ้งข้อความใดๆ การคำนวณภาษีอากร การคำนวณและการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย การยื่นรายการ การชำระและการนำส่งภาษีอากร การปิดแสตมป์บริบูรณ์ การขอคืนภาษีอากร การเก็บรักษาหลักฐานและเอกสาร การจดทะเบียน รวมทั้งการปฏิบัติหน้าที่อื่นตามประมวลรัษฎากร

ปุจฉา การตรวจสอบและรับรองบัญชี เพื่อประโยชน์แห่งการจัดเก็บภาษีอากรตามมาตรา 3 สัตต แห่งประมวลรัษฎากร มุ่งหมายที่จะให้มีการตรวจสอบและรับรองบัญชีประเภทใด

วิสัชนา เมื่อพิจารณาหลักการบริหารการจัดเก็บภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร วัตถุประสงค์ของการบัญญัติมาตรา 3 สัตต แห่งประมวลรัษฎากร รวมตลอดถึงประเภทกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบและรับรองบัญชีแล้ว เห็นว่าการตรวจสอบและรับรองบัญชี เพื่อประโยชน์แห่งการจัดเก็บภาษีอากรตามมาตรา 3 สัตต แห่งประมวลรัษฎากร มุ่งหมายที่จะให้มีการตรวจสอบและรับรองบัญชีที่ต้องจัดทำเพื่อประโยชน์แห่ง การจัดเก็บเสียภาษีอากรตามประมวลรัษฎากรเท่านั้น

แต่อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับการตรวจสอบและรับรองบัญชี เรื่อง กำหนดระเบียบเกี่ยวกับการตรวจสอบและรับรองบัญชี ตามมาตรา 3 สัตต ลงวันที่ 12 มีนาคม 2544 ได้กำหนดให้การตรวจสอบและรับรองบัญชีตามมาตรา 3 สัตต แห่งประมวลรัษฎากร หมายความว่า การตรวจสอบและรับรองงบการเงินที่จัดทำขึ้นตามพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543

ดังนั้น การพัฒนาให้การตรวจสอบและรับรองบัญชี ตามมาตรา 3 สัตต แห่งประมวลรัษฎากร ให้เป็นไปเพื่อประโยชน์แห่งการจัดเก็บภาษีอากรตามประมวลรัษฎากรอย่างแท้จริง ให้สมตามเจตนารมณ์ของการบัญญัติบทบัญญัติของกฎหมายอย่างแท้จริง ก็ย่อมกระทำได้ ดังที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้เคยวินิจฉัยว่า "โดยที่มาตรา 3 สัตต แห่งประมวลรัษฎากร บัญญัติให้อธิบดีกรมสรรพากร โดยอนุมัติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมีอำนาจในการออกระเบียบเกี่ยวกับ คุณสมบัติและการปฏิบัติของบุคคลที่จะขอใบอนุญาตเป็นผู้ตรวจสอบและรับรอง บัญชีจากอธิบดีกรมสรรพากรตามมาตรา 3 สัตต วรรคสอง และประกาศกำหนดเขตจังหวัดในการนำบทบัญญัติมาตรา 3 สัตต มาใช้บังคับในมาตรา 3 สัตต วรรคสี่ ดังนั้น อธิบดีกรมสรรพากรจึงมีอำนาจตามมาตรา 3 สัตต แห่งประมวลรัษฎากร ที่จะออกระเบียบ เพื่อกำหนดให้มีผู้ตรวจสอบและรับรองบัญชีเพื่อประโยชน์แห่งการจัดเก็บภาษี อากรตามประมวลรัษฎากร"

ทั้งนี้ โดยกำหนดให้ "ผู้สอบบัญชีภาษีอากร" ทำการตรวจสอบและรับรองบัญชี เฉพาะที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งมีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้ นิติบุคคลต้องจัดทำตามประมวลรัษฎากร ซึ่งประกอบด้วย

1. ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพบัญชี

2. ผู้สอบบัญชีภาษีอากรเดิมที่ทำหน้าที่ตรวจสอบและรับรอบบัญชีตามประกาศอธิบดี กรมสรรพากร เกี่ยวกับการตรวจสอบและรับรองบัญชี เรื่อง กำหนดระเบียบเกี่ยวกับการตรวจสอบและรับรองบัญชี ตามมาตรา 3 สัตต ลงวันที่ 12 มีนาคม 2544

3. ผู้สอบบัญชีภาษีอากรใหม่ ที่ผ่านการทดสอบความรู้ตามที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด

4. ผู้สอบบัญชีภาษีอากรอื่นตามที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด

พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ

Tags : การตรวจสอบ รับรองบัญชีภาษีอากร

view