ครั้นเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2485 ได้เกิดสงครามมหาเอเชียบูรพาขึ้น และในระหว่างนั้น รัฐบาลจำเป็นจะต้องใช้เงิน

จึง ได้มีการออกกฎหมายเพื่อให้มีการจัดเก็บภาษีนำมาช่วยชาติในยามคับขันหลาย ประเภท อาทิ เงินช่วยชาติการประถมศึกษา เงินช่วยชาติภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เงินช่วยชาติภาษีโรงค้า เงินช่วยชาติจากการซื้อข้าว เงินช่วยชาติอากรแสตมป์ เงินช่วยชาติอากรมหรสพ เงินช่วยชาติอากรโรงแรม ภัตตาคาร
   
เมื่อสงครามโลกสงบลงในปี พ.ศ. 2489 รัฐบาลได้ประกาศยกเลิกพระราชบัญญัติเงินช่วยชาติทั้งหมด โดยได้เปลี่ยนแปลงเป็นภาษีการซื้อข้าว ภาษีการซื้อน้ำตาล ภาษีโรงแรมและภัตตาคารรวมอยู่ในส่วนหนึ่งของประมวลรัษฎากร 
   
นับแต่นั้นมา ได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงปรับปรุงแก้ไขประมวลรัษฎากร โดยการยกเลิกภาษีที่ไม่เหมาะสม การเพิ่มภาษีประเภทใหม่ขึ้น และการแก้ไขเพิ่มเติมข้อความเดิมให้ทันสมัยและรัดกุมยิ่งขึ้น อาทิ
   
ในปี พ.ศ. 2496 ได้มีการแก้ไขหลักการจัดเก็บจากเดิมอย่างมากมาย โดยยกเลิกภาษีโรงค้า ภาษีการซื้อข้าว ภาษีการซื้อน้ำตาล ภาษีโรงแรมและภัตตาคาร ภาษีธนาคาร เครดิตฟองซิเอร์ การออมสิน และการประกันภัย และได้จัดเก็บภาษีการค้า โดยวางหลักการจัดเก็บจากรายรับหรือจากยอดการขายทุกทอด (Multiple Stages Tax) และภาษีการซื้อโภคภัณฑ์ จัดเก็บจากสินค้าฟุ่มเฟือยบางประเภท  
   
ในปี พ.ศ. 2535 ได้นำระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีธุรกิจเฉพาะมาใช้ในการจัดเก็บแทนภาษีการค้า ที่มีปัญหาการจัดเก็บที่ซ้ำซ้อน ไม่เป็นธรรม และไม่สนับสนุนต่อภาคการส่งออกของประเทศ รวมทั้งมีความยุ่งยากในการตีความกฎหมายที่ต้องอาศัยผู้ชำนาญการอย่างมาก
   
ได้มีการยกเลิกภาษีส่วนท้องถิ่นสองประเภทออกจากประมวลรัษฎากร คือ ภาษีบำรุงท้องที่ โดยพระราชภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. 2508 และภาษีป้าย โดยพระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ. 2510
   
ในขณะเดียวกันได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมการให้หักค่าใช้จ่าย ค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา การปรับปรุงอัตราการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลให้สอดคล้องกับการพัฒนา เศรษฐกิจภายในประเทศมาอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น จนในปัจจุบันมีกฎหมายภาษีอากรและภาษีอากรที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรม สรรพากร ดังนี้
   
1. “ประมวลรัษฎากร” บัญญัติจัดเก็บภาษีอากรต่างๆ 6 ประเภท ประกอบด้วย ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์
   
2. พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 บัญญัติจัดเก็บภาษีเงินได้ปิโตรเลียมจากผู้ขุดค้นทรัพยากรธรรมชาติ ปิโตรเลียม อีกด้วย.