จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
“พาณิชย์” จัดทำดัชนีวัดศักยภาพการนำเข้าของ 168 ประเทศเป็นครั้งแรก พบมีถึง 51 ประเทศที่ไทยยังส่งออกไม่สอดคล้องกับความต้องการนำเข้า เตรียมชงข้อมูล “สนธิรัตน์” วางแผนเจาะตลาดเพิ่ม ทั้งการเปิดเจรจาเอฟทีเอ การเจรจาเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเพื่อเพิ่มโอกาสให้กับการส่งออกของไทย
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ได้จัดทำผลการศึกษาดัชนีวัดศักยภาพการนำเข้าของ 168 ประเทศ (Import Potential Index) หรือไอพีไอ ซึ่งถือเป็นการจัดทำครั้งแรกของไทย โดยรวบรวมข้อมูลจาก 30 ตัวชี้วัด เช่น การค้า เศรษฐกิจมหภาค พบว่าประเทศที่มีศักยภาพการนำเข้าสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ จีน สหรัฐฯ และอินเดีย และเมื่อแบ่งตามภูมิภาค พบว่าประเทศที่มีศักภาพนำเข้าสูงสุด 30 อันดับแรก เป็นประเทศในเอเชียถึง 10 ประเทศ เช่น จีน อินเดีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง และเกาหลีใต้ และเป็นประเทศจากอาเซียน 5 ประเทศ เช่น สิงโปร์ เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ สะท้อนถึงโอกาสที่ไทยจะขยายการค้า การส่งออก และการเจรจาที่จะเน้นนโยบายความเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจ (Strategic Partnership) ได้ ซึ่ง สนค.จะนำผลการศึกษารายงานนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ รับทราบต่อไป
ทั้งนี้ ผลการศึกษาเมื่อวิเคราะห์เปรียบเทียบจากประเทศที่มีศักยภาพนำเข้าสูงสุด 120 อันดับแรก กับการส่งออกไทยไปยังประเทศดังกล่าว พบว่ามีจำนวน 24 ประเทศ เช่น จีน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น ฮ่องกง และสิงคโปร์ ที่มีความสอดคล้องต่อการนำเข้า และ 96 ประเทศที่ไม่สอดคล้องต่อการนำเข้า แบ่งเป็น 51 ประเทศที่ไทยส่งออกได้ต่ำกว่าศักยภาพ เช่น อินเดีย เยอรมนี อังกฤษ ฝรั่งเศส และยูเออี ซึ่งเป็นประเทศที่มีศักยภาพอันดับต้นๆ ของโลก แต่สัดส่วนการส่งออกไทยไปประเทศเหล่านี้ยังไม่สูงมากนักและไม่ติด 1 ใน 10 ของการส่งออกภาพรวมไทย และอีก 45 ประเทศ ที่ไทยส่งออกได้สูงกว่าศักยภาพ เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย
สำหรับประเทศที่ไทยส่งออกได้ต่ำกว่าศักยภาพการนำเข้า สนค.มีข้อเสนอแนะให้เอกชนพิจารณาขยายส่งออกไปตลาดเหล่านี้มากขึ้น โดยภาครัฐมีความจำเป็นต้องพิจารณาจัดทำข้อตกลงเสรีการค้า หรือหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ เพื่อเปิดตลาดให้กับสินค้าไทย และต้องเร่งนโยบายการค้าให้เหมาะสมกับแต่ละประเทศ เช่น อินเดีย ควรส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยไปลงทุนและสร้างพันธมิตรท้องถิ่น เพื่อลดต้นทุนการนำเข้า และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน โดยสินค้าที่มีศัยกภาพส่งออกไปอินเดีย เช่น พืชน้ำมัน อัญมณี อุปกรณ์สื่อสาร และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี เป็นต้น, สหรัฐอาหารเอมิเรตส์ ต้องเน้นสินค้าคุณภาพและราคาสูง และสินค้าที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ผลิตไม่ได้ เช่น อัญมณี รถยนต์ อาหาร และสินค้าเกษตร เป็นต้น และอังกฤษ กำลังเจรจาออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ทำให้ไทยมีโอกาสทำการค้ามากขึ้น โดยสินค้าที่มีศักยภาพ คือ ชิ้นส่วนอากาศยาน ยานยนต์และชิ้นส่วน อัญมณี และอาหาร
ส่วนประเทศที่ไทยส่งออกสอดคล้องกับศักยภาพนำเข้า ส่วนมากเป็นตลาดสำคัญของโลกมีการแข่งขันสูง ควรเน้นการรักษาตลาด รักษามาตรฐานสินค้า เพิ่มความสามารถการแข่งขัน โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และเทคโนโลยีมาปรับเปลี่ยนผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการใหม่ๆ เช่น ตลาดจีน สินค้าที่มีศักยภาพ เช่น วงจรรวมอิเล็กทรอนิกส์ หน่วยจัดเก็บข้อมูล ยางพารา ยานยนต์ อัญมณี และสินค้าอาหาร เป็นต้น และประเทศที่ไทยส่งออกได้สูงกว่าศักยภาพนำเข้าจะต้องเร่งพัฒนาสินค้าเพื่อให้สินค้าไทยยังคงเป็นที่ต้องการ และควรหาโอกาสในการขยายการส่งออกบริการด้วย
#สำนักงานบัญชี,#สำนักงานสอบบัญชี,๒ทำบัญชี,#สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน