จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
“พาณิชย์” ทำบัญชีเฝ้าระวัง จับตาสินค้าทะลักเข้าไทย หลังสหรัฐฯ และจีนเปิดสงครามการค้า พร้อมเตรียมมาตรการรับมือ จับตาเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และเกษตร เผยเครื่องซักผ้า โซลาร์เซลล์ได้รับผลกระทบแล้ว ส่งออกลด 30% และ 50% เตรียมหาตลาดใหม่รองรับ
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องถึงการออกมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ และมาตรการตอบโต้ของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของสหรัฐฯ วันที่ 26 มิ.ย.ว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศไปจัดทำบัญชีรายการสินค้าเฝ้าติดตาม (Watch List) เพื่อจับตาปริมาณสินค้าว่ามีการนำเข้ามาไทยเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ เพื่อที่จะได้กำหนดมาตรการทางการค้าเข้ามาดูแล เช่น การใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน (AD/CVD) หรือมาตรการปกป้องการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น (เซฟการ์ด) เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับไทย โดยให้จัดทำบัญชี Watch List ให้แล้วเสร็จ และเสนอกลับมาภายใน 10 วัน
สำหรับสินค้าที่ต้องจับตา เช่น กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มสินค้าเกษตร เช่น ถั่วเหลือง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น และยังให้จับตาสินค้าที่เข้ามาสวมสิทธิ์สินค้าไทยแล้วส่งออกไปสหรัฐฯ เพราะหากมีตัวเลขการส่งออกเพิ่มสูงขึ้นมากจะทำให้สหรัฐฯ ใช้มาตรการตอบโต้สินค้าไทยได้ ซึ่งได้ขอให้เฝ้าระวังเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในติดตามสถานการณ์สินค้าเกษตรว่าได้รับผลกระทบจากมาตรการตอบโต้ทางการค้าของประเทศต่างๆ หรือไม่ เพื่อแก้ไขสถานการณ์ได้ทัน ขอให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาดูแลเรื่องการละเมิดในสินค้าไฮเทค และให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศทำงานร่วมกับเอกชน เพื่อร่วมกันหาตลาดใหม่ๆ ทดแทนตลาดที่มีปัญหาของการใช้มาตรการทางการค้า และให้เร่งเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) หรือการสร้างหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ เพื่อหาตลาดส่งออกเพิ่ม
อย่างไรก็ตาม การประเมินผลในขณะนี้ยังไม่เห็นภาพชัดเจน ต้องรออีกระยะ แต่เบื้องต้นมีสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ในกลุ่มสินค้าเครื่องซักผ้าและโซลาร์เซลล์แล้ว โดยมีการส่งออกไปสหรัฐฯ ลดลง โดยการส่งออกโซลาร์เซลล์ช่วง 5 เดือนของปีนี้ลดลงประมาณ 50% เครื่องซักผ้าลด 30% ส่วนกลุ่มเหล็กและอะลูมิเนียมก็มีแนวโน้มส่งออกไปสหรัฐฯ ลดลง แต่ก็ยังมีแนวทางแก้ไขปัญหา โดยเท่าที่รับทราบมีการขอยกเว้นภาษีนำเข้าเป็นรายบริษัทได้แล้ว 2-3 บริษัท
นายกรกฎ ผดุงจิตต์ เลขาธิการกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ผู้ประกอบการในกลุ่มได้รับผลกระทบแล้วจากการขึ้นภาษีสินค้าเหล็กและอะลูมิเนียมของสหรัฐฯ ในอัตรา 25% และ 10% ตามลำดับ โดยคาดว่าการส่งออกเหล็กไทยไปสหรัฐฯ ปี 2561 จะหายไปประมาณ 2 แสนตัน คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 6,000 ล้านบาท จากปกติที่มีการส่งออกประมาณ 3 แสนตัน มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท และมีความเป็นห่วงเหล็กจากทั่วโลกที่ถูกสหรัฐฯ ใช้มาตรการทางภาษีประมาณ 35 ล้านตันจะทะลักเข้ามาในไทย ซึ่งได้เสนอให้กระทรวงพาณิชย์ทำบัญชีติดตามปริมาณเหล็กที่เข้าเพื่อใช้มาตรการแก้ไขปัญหาได้ทัน
#สำนักงานบัญชี,#สำนักงานสอบบัญชี,๒ทำบัญชี,#สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน