สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เฮดจ์ฟันด์ขาขึ้นรับข่าวร้ายเศรษฐกิจโลกป่วน

จาก โพสต์ทูเดย์

ถึงวินาทีนี้ เชื่อแน่ว่าบรรดานักลงทุนในตลาดทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นคงได้ลิ้มรสวิกฤต

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศ

ถึงวินาทีนี้ เชื่อแน่ว่าบรรดานักลงทุนในตลาดทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นคงได้ลิ้มรส วิกฤต ทั้งจากปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปและสหรัฐ ตลอดจนการเดินหน้าเข้าสู่ยุคภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจของโลกจนกระอักไปตามๆ กัน

ขณะเดียวกันก็ต้องตกอยู่ในสภาพแบบเสือติดจั่น ที่ดิ้นรนแสวงหาทางรอดเพื่อรักษาผลประโยชน์ที่ได้ลงทุนลงแรงไป เรียกว่า แม้จะได้กำไรน้อยลง หรือเสมอตัว ก็ยังดีกว่าปล่อยให้สูญ

ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรที่ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โลกจะได้เห็นสภาพตื่นตัวของนักลงทุนที่แห่โยกย้ายหนีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นตลาดอนุพันธ์ ตราสารหนี้ หรือแม้กระทั่งกองทุนรายใหญ่อย่างเฮดจ์ฟันด์ของสหรัฐ ขาใหญ่ของตลาดทุนโลก รองจากกองทุนมั่งคั่งและกองทุนบำเหน็จบำนาญต่างๆ

ทั้งนี้ ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ผันผวนเอาแน่เอานอนไม่ได้นี้ ส่งผลให้นักลงทุนมักได้ยินข่าวคราวการขาดทุนของบรรดากองทุนยักษ์ใหญ่อย่าง เฮดจ์ฟันด์อยู่เนืองๆ เช่น การขาดทุนของกองทุนอัลฟา โกลบอล หนึ่งในเครือข่ายของกองทุนเฮดจ์ฟันด์อย่างโกลด์แมน แซคส์ ที่เพิ่งจะประกาศปิดตัวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

สถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงกลายเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้นักลงทุนในตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนในกองทุนเฮดจ์ฟันด์พากันวิ่งเข้าหาแหล่งพักพิงที่ ปลอดภัยอย่างทองคำ จนเป็นผลให้ราคาทองคำทำสถิติสูงสุดรอบแล้วรอบเล่า จนมีสิทธิพุ่งถึง 2,000 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ภายในสิ้นปีนี้

 

ขณะที่สกุลเงินปลอดภัยอย่างฟรังก์สวิสก็ปรับตัวแข็งค่าขึ้นจนรัฐบาล สวิตเซอร์แลนด์ต้องงัดมาตรการเข้มมาคุมเพื่อไม่ให้กระทบกับภาคการส่งออกของ ประเทศ

ตลาดการเงินหรือบรรดากองทุนที่นักลงทุนโดดหนีก็จำต้องรับสภาพซบเซา ร่วงหนัก หรือปิดตัวลงไปตามระเบียบ ไม่เว้นแม้แต่กองทุนยักษ์ใหญ่อย่างเฮดจ์ฟันด์ ที่นักลงทุนต่างพากันเบือนหน้าหนี จนเป็นเหตุให้กองทุนเฮดจ์ฟันด์บางกองทุน เช่น กองทุนอัลฟา โกลบอล ของโกลด์แมน แซคส์ ต้องประกาศปิดตัวลงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เฮดจ์ฟันด์ก็คือกองทุนประเภทหนึ่งที่มุ่งหมายในการลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทน หรือกำไรให้ได้มากที่สุด ดังนั้นการลงทุนในเฮดจ์ฟันด์จึงมีความเสี่ยงมากกว่ากองทุนรวมทั่วๆ ไป โดยที่คนส่วนใหญ่มักรู้จักกันในฐานะกองทุนเพื่อการลงทุนด้วยความเสี่ยง

เพราะผลตอบแทนก้อนโตที่มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงเอาเรื่อง เฮดจ์ฟันด์จึงจำกัดผู้ลงทุนไว้ที่นักลงทุนสถาบัน หรือนักลงทุนที่เป็นบุคคลฐานะดี ซึ่งมีความรู้ความเข้าใจในการลงทุนของเฮดจ์ฟันด์อย่างเพียงพอ โดยที่ผู้ลงทุนไม่ต้องเปิดเผยนาม เพียงแค่ส่งเงินให้กองทุนนำไปบริหาร แต่ต้องยอมรับกับความเสี่ยงสูงที่จะขาดทุนจากการลงทุนได้

นอกจากนี้ ด้วยเป้าหมายเพื่อกำไรสูงสุดในระยะเวลาน้อยสุด กลยุทธ์การลงทุนของเฮดจ์ฟันด์จึงมักจะเป็นการเก็งกำไรระยะสั้น และนิยมหมุนเวียนลงทุนแต่เฉพาะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์อย่างน้ำมัน ทองคำ อัตราแลกเปลี่ยน พันธบัตร และหุ้นเป็นส่วนใหญ่ โดยกองทุนที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ก็เช่น เจ.พี.มอร์แกน และโกลด์แมน แซคส์

เพราะการลงทุนที่มีแต่เสี่ยงกับเสี่ยง นักลงทุนที่ลงทุนในเฮดจ์ฟันด์จึงหนีหาย โดยกองทุนเฮดจ์ฟันด์และนักค้ารายใหญ่ได้ปรับลดสถานะการลงทุนในตลาดสินค้า โภคภัณฑ์ของสหรัฐเมื่อวันที่ 9 ส.ค. ลง 2.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นการลดสถานะซื้อสุทธิลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี

นอกจากนี้ ข้อมูลจากคณะกรรมการการค้าสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ (CFTC) ของสหรัฐ ระบุว่า นักลงทุนลดการถือครองสัญญาของตลาดต่างๆ ลง 18.5% สู่ 1.18ล้านสัญญา

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเฮดจ์ฟันด์จะเป็นการลงทุนที่เล่นกับความเสี่ยง แต่นักลงทุนส่วนหนึ่งก็ยังคงมองว่าในวิกฤตย่อมมีโอกาส และในเมื่อไม่ว่าจะหันไปลงทุนทางไหนก็หนีไม่พ้นความเสี่ยงที่ว่า จึงเป็นเรื่องดีกว่าที่จะฝากเงินลงทุนกับเฮดจ์ฟันด์ต่อไปในฐานะผู้ที่มีความ ชำนาญในการบริหารความเสี่ยง

เพราะเอาเข้าจริงแล้ว กลยุทธ์ที่เฮดจ์ฟันด์ถนัดใช้มากที่สุดก็คือ การทำกำไรที่ปราศจากความเสี่ยง โดยอาศัยส่วนต่างของดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลในแต่ละประเทศ

ข้อมูลของโกบอล ออบ ที่สำรวจความเห็นของผู้ลงทุนในกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ระบุว่า แม้จำนวนผู้ลงทุนที่ต้องการถอนเงินคืนจากเฮดจ์ฟันด์จะเพิ่มขึ้น 0.4% มาอยู่ที่ 3.11% ในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ก็เป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นช้าที่สุดนับตั้งแต่ที่เริ่มจัดทำในเดือน ม.ค. 2549 และดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของเงินทุนยังพบอีกว่า มีการย้ายทุนออกนอกกองทุนลดลง 0.57%

ตัวเลขข้างต้นล้วนแสดงให้เห็นว่า นักลงทุนเริ่มมีมุมมองเป็นบวกกับกองทุนเฮดจ์ฟันด์มากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากผลตอบแทนกองทุนที่เริ่มกลับมาอู้ฟู่อีกครั้ง

ทั้งนี้ แม้ว่ากลยุทธ์การลงทุนในหุ้นระยะยาวและระยะสั้นของเฮดจ์ฟันด์จะไม่ประสบความ สำเร็จนักในช่วงที่ผ่านมา แต่กองทุนเฮดจ์ฟันด์ขนาดใหญ่ที่ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องอย่างอัตรา ดอกเบี้ยและค่าเงินต่างๆ โดยหลีกเลี่ยงตลาดในประเทศที่มีปัญหาหนี้สาธารณะกลับได้กำไรดีขึ้น เช่น กองทุนเบรแวน โฮเวิร์ด มาสเตอร์ ฟันด์ ที่มีผลกำไรในช่วงเดือน ส.ค.เพิ่มขึ้น 6.2%

นอกจากนี้ กองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ขับเคลื่อนด้วยอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์อย่าง แมน กรุ๊ป เอเอชแอล กลับมีผลกำไรเป็นกอบเป็นกำ

ประกอบกับกองทุนเฮดจ์ฟันด์บางส่วนเริ่มเปลี่ยนเป้าหมายการลงทุนไปในตลาด สินค้าเกษตรล่วงหน้ามากขึ้น เช่น ข้าวโพด หรือข้าวสาลี ท่ามกลางราคาอาหารในตลาดโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่แพง และภัยธรรมชาติที่ทำให้ผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคในตลาด ยิ่งส่งผลให้นักลงทุนในกองทุนเฮดจ์ฟันด์ โดยเฉพาะกองทุนที่มีเงินลงทุนอยู่มากยังคงได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนใน ตลาดที่จะถือครองการลงทุนในกองทุนต่อไป

ทว่า ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ และสถานะของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ส่วนใหญ่ที่ยังคงติดลบอยู่คำว่า เฮดจ์ฟันด์ ก็ยังคงเป็นของแสลงอยู่ดี

Tags : เฮดจ์ฟันด์ ขาขึ้น รับข่าวร้าย เศรษฐกิจโลกป่วน

view