ปูแจงขออภัยโทษทักษิณสื่อนอก

จาก โพสต์ทูเดย์

ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์สื่อนอก อ้างเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษให้ทักษิณ ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา อ้อนนักลงทุนต่างชาติอย่าพึ่งหนีไทย

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีของสหรัฐรายงานโดยอ้างคำให้สัมภาษณ์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย ที่กล่าวกับผู้สื่อข่าวนอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจา ครั้งที่ 19 ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซียว่า อยากจะขอให้นักลงทุนต่างชาติทั้งหลายโปรดได้เชื่อมั่นและลงทุนในไทยต่อไป และรัฐบาลขอให้คำมั่นว่าจะไม่ยอมให้เหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้เกิดขึ้นซํ้าอีก ในอนาคต  อย่างแน่นอน หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีนักลงทุนต่างชาติจำนวนมากต่างแสดงความข้องใจและ สงสัย ตลอดไปจนถึงการออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเกี่ยวกับแผนบริหารจัดการปัญหานํ้า ท่วมของภาครัฐที่ไม่มีความแน่นอนและขาดเอกภาพในการทำงานจนสร้างความสับสน เกี่ยวกับข้อมูลที่ถูกต้อง

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

ยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลจะพลิกวิกฤติที่เกิดขึ้นมานี้ให้กลายเป็นโอกาส ด้วยการยกเครื่องแผนบริหารจัดการนํ้าใหม่ขึ้นใหม่ทั้งหมด  อีกทั้งยังกล่าวด้วยว่ารัฐบาลจะยังคงจะยึดถือแนวนโยบายการกระตุ้นการเติบโต ของเศรษฐกิจภายในประเทศต่อไป โดยผ่านทาง นโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นตํ่า(300 บาท/วัน) ถึงแม้ว่าจะมีผู้ประกอบการหลายภาคส่วนแสดงความคัดค้านก็ตาม โดยกลุ่มผู้ประกอบการเหล่านี้มองว่าจะทำให้ต้นทุนในการผลิตเพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังอยู่ในภาวะซบเซา

"เราต้องกลับมาแก้ไขปัญหาที่รากฐานของปัญหา และปัญหาสำคัญของไทยก็คือช่องว่างทางรายได้ระหว่างคนจนและคนรวยที่มีอยู่มาก ดังนั้นนโยบายการเพิ่มค่าแรงขั้นตํ่าของรัฐบาลอย่างน้อยก็จะกลายเป็นช่องทาง หนึ่งที่ช่วยบรรเทาปัญหาช่องว่างทางรายได้ตรงนี้"

ส่วนประเด็นด้านการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษซึ่งในขณะนี้กำลังกลายเป็น ประเด็นร้อนในสังคมไทย ที่กำลังเป็นที่สนใจของสื่อในประเทศและต่างประเทศนอกเหนือจากเรื่องนํ้าท่วม ว่าจะนำมาซึ่งความแตกแยกในการเมืองไทยครั้งใหม่  ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า กระบวนการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้นยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาและตัดสินใจอยู่

"มันเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไปที่จะมีการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษให้กับนัก โทษ ก่อนถึงวันเฉลิมพระชนมพรรษาที่  5 ธันวาคม  ของทุกๆปีอยู่แล้ว ทั้งนี้กระบวนการทุกอย่างยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาเสนอชื่อผู้สมควรได้ รับพระราชทานอภัยโทษอยู่" ยิ่งลักษณ์กล่าวปิดท้าย

มาร์คจี้ นายกฯแจงพรฎ.อภัยโทษ

จาก โพสต์ทูเดย์

"อภิสิทธิ์"จี้นายกฯ แจง พรฎ.อภัยโทษหวั่นทำประเทศวิกฤตซ้ำ ชี้อย่าเลี่ยงตอบเหมือน "เฉลิม"

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่คนเสื้อแดงเริ่มมีความเคลื่อนไหวต่อต้านกลุ่มประชาชนที่คัด ค้านการออกพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ว่า ปัญหาทั้งหมดรัฐบาลต้องไม่สร้างเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้ง การตราพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ทำกันมาในทุกวโรกาสสำคัญ แต่หลักเกณฑ์ไม่มีการพลิกแพลงในลักษณะนี้ รัฐบาลอยู่ในฐานะที่จะทำให้ปัญหาจบได้ นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลพูดแค่คำเดียวว่า เรื่องนี้จะปฏิบัติเหมือนทุกปีทุกอย่างก็จบ

เมื่อถามว่า หากเกิดปัญหาวิกฤตการเมืองซ้อนวิกฤตน้ำขึ้นมาอะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราจะเสียโอกาสอย่างรุนแรงเพราะถูกจับตามองจากนานาชาติอยู่แล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาเราเจอวิกฤต ผ่านพ้นมาต่างชาติก็อยากมีความมั่นใจ การบริหารจัดการวิกฤตน้ำก็ยังมีปัญหาอยู่ รัฐบาลต้องแสดงให้เห็นว่าได้เรียนรู้จากจุดอ่อนในการบริหารจัดการเพื่อเรียก ความเชื่อมั่น ถ้ามีวิกฤตการเมืองย้อนกลับมาอีกก็จะยิ่งซ้ำเติมปัญหาของบ้านเมือง ทำให้ปัญหาน้ำท่วมแก้ไขยากมากขึ้นการฟื้นฟูความเชื่อมั่นจะยิ่งยากมากขึ้น ตามไปด้วย ทั้งหมดอยู่ที่นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลแค่ตัดสินใจง่าย ๆ ทำในสิ่งที่เคยปฏิบัติมาเป็นประเพณีไม่ทำให้ระบบกฎหมายเสียทุกอย่างก็เดิน ได้

"ผมคิดว่าถ้ารัฐบาลยังเดินหน้าอย่างนี้ คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาเพื่อฟื้นฟูประเทศจะทำหน้าที่อย่างยากลำบาก ไม่มีเหตุผลที่รัฐบาลต้องมาซ้ำเติมปัญหาในขณะนี้ เอาผลประโยชน์ของประชาชนกับส่วนรวมมาก่อนดีกว่า ผมคิดว่าท่านนายกฯกลับมาจากอาเซียนนะครับ ต้องตอบคำถามนี้ให้สังคม พูดอย่างตรงไปตรงมาอย่าเลี่ยงเหมือนร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯที่เลี่ยงตอบคำถามในสภา เอาข้อเท็จจริงมาว่ากันว่า ในอดีตไม่เคยมีการวางหลักเกณฑ์ พระราชทานอภัยโทษให้คนหนีคดี ทำไมขณะนี้ถึงจะเสนอให้ทำอย่างนั้น เราถือว่าการทุจริตคอรัปชั่นเป็นความผิดที่ร้ายแรง เป็นความผิดที่เกิดจากการทำผิดกฎหมายป้องกันปราบปรามการทุจริต จึงมีการแนบท้ายบัญชีเพื่อให้การพระราชทานอภัยโทษเป็นการลดหย่อนตามพฤติกรรม ของนักโทษ ทำไมจะต้องมาเปลี่ยนแปลงในปีนี้ เปลี่ยนแปลงไปเพื่ออะไร เป็นการส่งสัญญาณที่ผิดทั้งในเรื่องของการคอรัปชั่น และการปฏิบติตามกฎหมาย ผมถามว่ามีใครได้ประโยชน์ นอกจากคนเพียงคนเดียวที่เรามองเห็นกันอยู่ ผมฝากถึงประชาชนทุกกลุ่มที่กำลังเคลื่อนไหวให่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญและอยู่ ในขอบข่ายของกฎหมาย" นายอภิสิทธิ์กล่าว

ภาค ปชช.รวมตัวถวายฎีกาค้านออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษเอื้อ “ทักษิณ”

ภาค ปชช.รวมตัวหน้าสำนักพระราชวัง ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา แสดงเจตจำนงคัดค้านการออก พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษ ของคณะรัฐมนตรี ที่เชื่อว่าเอื้อประโยชน์ต่อ "ทักษิณ"
        วันนี้ (18 พ.ย.) ที่สำนักพระราชวัง ตัวแทนประชาชนจากกลุ่มองค์กรต่างๆ อาทิ การแพทย์และสาธารณสุขแห่งประเทศไทย นำโดย นายวัฒโนทัย ไทยถาวร ได้รวมตัวกันทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา เพื่อคัดค้านการออกพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) พระราชทานอภัยโทษที่มุ่งหมายว่าเป็นการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐนตรี พร้อมแสดงความไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว
       
       นอกจากนี้ นักวิชาการ 85 คนจาก 6 สถาบัน ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านร่าง พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษของรัฐบาล พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนการเสนอร่างกฎหมาย เพราะว่าอาจจะนำไปสู่วิกฤตความแตกแยกของบ้านเมือง และขอให้กระบวนการการออกพระราชกฤษฎีกาเป็นไปอย่างโปร่งใสและเปิดเผย โดยเฉพาะหลักเกณฑ์ที่จะได้รับพระราชทานอภัยโทษและเสนอว่าผู้ที่จะได้รับ อภัยโทษควรจะรับโทษในคดีที่กระทำความผิด
       
       ขณะที่กลุ่มเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน ยื่นหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อคัดค้านร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ เพราะเชื่อว่าผิดหลักนิติธรรม

พท.อ้าง'ยิ่งลักษณ์'ค้างสิงห์บุรีเหตุเชื่อ'สุกำพล'ไม่บินกลางคืน

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

เพื่อไทย ระบุ"ยิ่งลักษณ์"ค้างสิงห์บุรีไม่จัดฉาก อ้าง"สุกำพล"เคยเตือนบินกลางคืนอันตราย
แหล่งข่าวจากแกนนำพรรคเพื่อไทย เปิดเผยกรณีกองทัพ ออกมาระบุว่าสำนักนายกฯได้ทำหนังสือขอใช้เฮลิคอปเตอร์ จำนวน 2 วัน  ซึ่งไม่ตรงกับที่นายกฯระบุว่าเป็นเหตุจำเป็นที่ต้องค้างที่จว.สิงห์บุรี เนื่องจากไม่มีเรดาห์ใช้บินกลางคืน ยืนยันว่า  รองเลขาธิการนายกฯเป็นผู้ลงชื่อในหนังสือสำนักนายกฯที่แจ้งขอใช้เฮลิคอปตอร์ของกองทัพ เพื่อไปปฏิบัติภาระกิจที่จว.สิงบุรีโดยไม่มีการระบุวันที่ว่าจะใช้จำนวนกี่วัน และเนื้อหาใน จม.มี 3-4 บรรทัดเท่านั้น

ยืนยันว่าเครื่องที่ใช้ไม่มีระบบนำร่องกลางคืน แต่กองทัพคงไม่อยากให้คนโทษทหาร จึงออกมาระบุว่าแม้ไม่มีระบบนำร่อง แต่ด้วยประสบการณ์ของนักบินรวมทั้งแสงสว่างของพระจันทร์ทำให้ไม่สามารถบินกลับกลางคืนได้ เชื่อว่าหากเป็นผบ.ทบ.ก็คงไม่บินเวลากลางคืนเช่นกัน เนื่องจากพล.อ.อ.สุกําพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม  ยังเคยเตือนคนใกล้ชิดนายกฯ ให้กำชับนายกฯว่าอย่าขึ้นบินกลางเพราะเป็นอันตราย  พล.อ.อ.สุกำพลยังระบุด้วยว่า เป็นทหารอากาศมา 40 ปี  ก็ยังไม่อยากขึ้นบินกลางคืนเลย

ส่วนเรื่องเสื้อสำนักนายกฯที่อาจมีการมองว่าเตรียมล่วงหน้าที่สื่อและนายกฯใช้แบบเดียวกันนั้นก็ไม่เป็นความจริง  แต่เพราะหน่วยล่วงหน้าที่เดินทางไปก่อนหน้านั้นเดินทางไปโดยรถยนตร์และในรถคันดังกล่าวมีเสื้อสำนักนายกฯอยู่แล้ว   ทีมล่วงหน้าก็นำมาแจกนักข่าว  เพราะทราบว่าไม่มีใครเตรียมชุดมาเปลี่ยน และไม่มีใครตั้งใจให้นายกฯ ใส่เสื้อสำนักนายกฯดังกล่าวด้วย หากมีการเตรียมการล่วงหน้าจริง ๆ  นายกฯก็ไม่จำเป็นต้องสวมเสื้อของสำนักนายกฯอยู่ดี เพราะนายกฯจะมีชุดสำรอง  ติดตัวเวลาไป ตจว.อยู่แล้วแต่วันดังกล่าวที่นายกฯสวมเสื้อสำนักนายกฯนั้นเนื่องมาจากผู้สื่อข่าวขอให้นายกฯสวม เพื่อจะได้ภาพข่าวที่ออกมาแล้วนักข่าวใส่เสื้อเหมือนทีมเดียวกัน

กมธ.พิทักษ์สถาบันฯ เรียก"ยิ่งลักษณ์"แจงอภัยโทษ

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

กมธ.พิทักษ์สถาบันฯ วุฒิจี้รัฐบาลทบทวนร่าง พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ให้ถูกต้อง-ไม่ขัดนิติรัฐ พร้อมเรียก“ยิ่งลักษณ์” แจงในที่ประชุม 25 พ.ย.นี้
พ.ญ.พรพันธุ์ บุญยรัตพันธุ์ ส.ว.สรรหา ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาติดตาม การบังคับใช้กฎหมายและมาตรการเกี่ยวกับการพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา แถลงเรียกร้องให้รัฐบาล ทบทวนร่างพระราชกฤษฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2554 ให้เป็นไปอย่างถูกต้อง ชอบธรรม และไม่ขัดหลักนิติรัฐ ส่วนกรณีที่มีการตัดถ้อยคำบัญชีแนบท้ายส่วนของผู้ต้องโทษข้อหาทุจริตและยาเสพติด ทำให้มีส่วนเอื้อให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่หลบหนีโทษ ตามคำพิพากษาของศาลอาญา ทำให้สังคมเกิดความสงสัย และอาจกลายเป็นปมขัดแย้งในสังคมไทยได้ ดังนั้นกรรมาธิการ จึงได้ออกหนังสือเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ เข้าชี้แจงในที่ประชุม วันจันทร์ ที่ 25 พ.ย. นี้

พ.ญ.พรพันธุ์ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 21 พ.ย. กรรมาธิการเตรียมระดมรายชื่อสมาชิกวุฒิสภาที่เห็นด้วยกับการคัดค้านร่างพระราชกฤษฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2554 เพื่อยื่นให้กับองคมนตรี และสำนักราชเลขาธิการ ให้พิจารณา

'ดาว์พงษ์'ชี้รัฐออกพ.ร.ฎ.อภัยโทษไม่เกี่ยวกองทัพ

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

'ดาว์พงษ์' ชี้ รัฐออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ไม่เกี่ยวกองทัพ เผย 'ประยุทธ์' ให้ความสำคัญช่วยเหลือประชาชนน้ำท่วม
ที่กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รองผู้บัญชาการทหารบก กล่าวกรณีการเตรียมออกพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษของรัฐบาลว่า เรื่องนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกองทัพ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ก็ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่กองทัพห่วงทุกวันนี้ คือ การช่วยเหลือประชาชนให้บรรเทาความเดือดร้อนจากอุทกภัย แม้สถานการณ์จะคลี่คลายไปบ้างแล้วก็ตาม แต่งานใหญ่ที่รออยู่ตรงหน้านั้นยังมีอยู่ คือ การฟื้นฟู บูรณะบ้านเรือน สถานที่สำคัญ รวมทั้งหน่วยทหารด้วย

สมเจตน์ชี้รบ.ออกพ.ร.ฎ.อภัยโทษทักษิณจุดชนวนขัดแย้ง

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

'สมเจตน์' ชี้รัฐบาลออกพ.ร.ฎ.อภัยโทษ'ทักษิณ'เป็นการจุดชนวนความขัดแย้งให้คน2กลุ่มอดีตอธิบดีราชทัณฑ์ยันคนไม่เคยถูกจำคุกไม่มีสิทธิได้พระราชทาน
พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา ฐานะแกนนำกลุ่มสยามสามัคคี กล่าวเปิดเสวนา เรื่อง "พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ซ้ำเติมวิกฤตประเทศไทย" ว่า หาก พ.ร.ฎ.ขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2554 มีผลบังคับใช้ เชื่อว่า จะเป็นสิ่งที่จุดชนวนให้ คนที่คัดค้าน และ สนับสนุน การออกพ.ร.ฎ.ขอพระราชทานอภัยโทษ ออกมาชุมนุมใหญ่ ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความขัดแย้งในสังคม สำหรับกรณีที่รัฐบาลใช้อำนาจรัฐออก พ.ร.ฎ.ขอพระราชทานอภัยโทษ นั้นถือเป็นการใช้อำนาจฝ่ายบริหาร แทรกแซงอำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจตุลาการ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ถูกตัดสินให้รับโทษ แต่ใน พ.ร.ฎ.ขอพระราชทานนอภัยโทษกลับขอให้บุคคลที่ไม่เคยรับโทษให้พ้นผิด ส่วนกรณีที่ระบุว่าจะมีนักโทษที่ได้รับประโยชน์ 2.6 หมื่นคน นั้นเท่ากับนำนักโทษดังกล่าวเป็นตัวประกัน และหากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธ จะถือว่าได้ทำผิดทำเนียมการออก พ.ร.ฎ.ฉบับอื่นๆ ที่เคยออกมา

 จากนั้นนายสุริยัน ทองหนูเอียด เลขาคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย อ่านแถลงการณ์ ว่า คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย ขอประณามและคัดค้านการออก พ.ร.ฎ. ขอพระราชทานอภัยโทษ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงบัญชีรายชื่อแนบท้าย คุณสมบัติผู้ที่ต้องได้รับพระราชทานอภัยโทษ  ทั้งนี้การกระทำดังกล่าวถือว่าขัดต่อนิติรัฐ  ดังนั้น ของเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว และเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการร่างกฎหมายดังกล่าวต่อประชาชนโดยเร็วที่สุด

 ด้านนายทวี ชูทรัพย์ อดีตอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า คนที่ไม่เคยติดคุก ไม่มีทางที่จะได้รับอภัยโทษ เนื่องจากขั้นตอนทางราชทัณฑ์จำเป็นต้องมีระเบียบประวัติเพื่อไปยืนยันต่อศาลว่า เป็นนักโทษที่เข้าเกณฑ์รับอภัยโทษ หากไม่มีระเบียนประวัติ แม้จะมีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ อาทิ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือนักโทษอายุ 60 ปีขึ้นไป ไม่สามารถได้รับการปล่อยตัวได้ ดังนั้นตนสนับสนุนแนวคิดของ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ส.ส.พรรครักษ์สันติ อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ว่าให้กลับมาติดคุกก่อนขอพระราชทานอภัยโทษ นอกจากนั้นแล้วในร่างพ.ร.ฎ.ขอพระราชทานอภัยโทษ ล่าสุดที่มีหลายฝ่ายตีความหมายว่าเป็นการยกโทษจำคุกให้คนที่ไม่เคยติดคุกนั้น ตามกฎหมายแล้วไม่สามารถทำได้ เพราะการยกโทษจำคุกนั้นเป็นอำนาจของศาล ไม่สามารถออกเป็น พ.ร.ฎ. ได้

 จากนั้น นายแก้วสรร อติโพธิ แกนนำกลุ่มสยามสามัคคี กล่าวว่า ร่าง พ.ร.ฎ.ขอพระราชทานอภัยโทษ ล่าสุดที่ตัดหลักเกณฑ์นักโทษคดีทุจริตคอรัปชั่น ออกไปนั้น เป็นสิ่งที่เอื้อให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงคนเดียว ดังนั้นตนขอเรียก พ.ร.ฎ. ฉบับดังกล่าวว่า เป็น พ.ร.ฎ. ฉบับเด็กเส้น ดังนั้นเพื่อความบริสุทธิใจขอให้นักกฎหมายที่ทำเรื่อง พ.ร.ฎ.ขอพระราชทานอภัยโทษ ปีปัจจุบัน ตนเสนอให้แยกเป็น 2 ฉบับ คือ 1.พ.ร.ฎ.ขอพระราชทานอภัยโทษ ที่ไม่ตัดหลักเกณฑ์นักโทษคดีทุจริต เพื่อให้นักโทษ 2.6 หมื่นคนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง และ 2. พ.ร.ฎ.ฉบับเด็กเส้น

 ด้าน พล.ท.นันทเดช เมฆสวรรค์ อดีตหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรท.) กล่าวตอนหนึ่งบนเวทีเสวนา พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ซ้ำเติมวิกฤตประเทศไทย ว่า ตนทราบมาว่า ขณะนี้มีหน่วยงานของรัฐได้แจ้งให้ประชาชนที่จะเข้าร่วมงานเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม ใส่เสื้อสีแดงเข้าร่วมงาน บริเวณท้องสนามหลวง  ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง ทั้งนี้ในส่วนของสังคมออนไลน์ เครือข่ายเฟซบุ๊ค ตนพบว่ามีการตั้งกลุ่มต่อต้าน พ.ต.ท. ทักษิณ รวมทั้งยังมีสมาชิกเข้าร่วมเป็นแฟนเพจและยอมรับเข้าร่วมกิจกรรมแล้ว กว่า 1.5 แสนคน

ทักษิณไม่รู้ไทยออกพรฎ.อภัยโทษ

จาก โพสต์ทูเดย์

ทักษิณ แจงสื่อนอกไม่รู้เรื่อง รัฐบาลเตรียมออก พรฎ.อภัยโทษ

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ สำนักข่าวรอยเตอร์ส ที่บ้านพักในดูไบ เกี่ยวกับประเด็นรัฐบาลไทยเตรียมออกพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษจนเป็นที่วิพากษ์ วิจารณ์ว่า เพื่อช่วยเหลือ ตนเอง โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ตนไม่ทราบ ไม่คิดอย่างนั้น ไม่มีใครรู้ เพราะมันเป็นความลับในการประชุมคณะรัฐมมนตรี(ครม.) ของรัฐบาล และทั้งหมดขึ้นอยู่กับดุลพินิจของสถาบันสูงสุด

ขณะที่ รอยเตอร์ส รายงานว่า เรื่องนิรโทษกรรมมีการเสนอกันในที่ประชุม ครม.เมื่อวันอังคารที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา ตามรายงานจากสื่อไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรี ไม่ได้อยู่ในที่ประชุมด้วย และเจ้าหน้าที่ทุกคนถูกขอให้ออกจากห้อง เมื่อปัญหาได้รับการพิจารณาตามการรายงานจากสื่อที่อ้างอิงจากแหล่งข่าว ทำเนียบรัฐบาล โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ตอบเรื่องดังกล่าวเพียงว่า รัฐบาลจะทำหน้าที่อยู่ภายใต้กฎหมาย

สุวัจน์ ชี้พ.ร.ฏ.อภัยโทษทุกรบ.ต่างเคยทำ

จาก โพสต์ทูเดย์

แกนนำพรรคชาติพัฒนา เผย พ.ร.ฏ.อภัยโทษ ทุกรัฐบาลต่างเคยทำ

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคชาติพัฒนา เปิดเผยว่า กรณีการออก พ.ร.ฏ.อภัยโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เรื่องนี้ไม่ทราบในรายละเอียดใน พ.ร.ฏ.นี้ว่าในเนื้อหาเป็นอย่างไร แต่ว่าถ้าเป็นเรื่องที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้พิจารณาและเป็นเรื่องที่ในวโรกาส ที่สำคัญๆ รัฐบาลที่ผ่านมาก็จะมีการทำเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษกันเป็นประจำ  แต่ว่าในรายละเอียดเนื่องจากว่าเป็นเรื่องลับก็เลยไม่ทราบ แต่ทราบว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ได้มีการพูดคุยกัน มีการชี้แจงกันในสภาผู้แทนฯไปแล้ว 
 
"ผม คิดว่าวันนี้บ้านเมืองต้องการความปรองดอง และเราก็มีหลายเรื่องอยู่ตอนนี้ ทั้งเรื่องเก่า เรื่องความขัดแย้ง เรื่องปัญหาน้ำท่วมผมว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดแล้ว ฉะนั้นวันนี้ความปรองดองหรือความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนในชาติที่จะ ช่วยกันฝ่าฟันวิกฤตต่างๆเป็นสำคัญ  วันนี้บ้านเราเป็นสังคมเปิด การแสดงความคิดเห็นในทุกๆเรื่องวันนี้ก็จะมีมากกว่าเดิม และมีการแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณหลากหลายวิธีมากขึ้น ฉะนั้นทุกคนก็แสดงความคิดเห็นกันเป็นเรื่องของผู้ที่จะได้ตัดสินใจในแต่ละ เรื่อง แต่ผมคิดว่าวันนี้สำคัญที่สุดเราต้องยึดหลักของความเข้าใจกันว่าทำอย่างไร ให้บ้านเมืองเรียบร้อยที่สุด แต่ว่ารายละเอียดต่างๆไม่ทราบว่ามีเนื้อหาอะไร เพราะไปประชุมต่างประเทศเพิ่งกลับมา"นายสุวัจน์ กล่าว