จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...ทีมข่าวการเมือง

การปล้นบ้าน “สุพจน์ ทรัพย์ล้อม” อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม นอกจากนี้จะเป็นคดีที่สลับซับซ้อน อันเนื่องมาจากวงเงินที่ถูกปล้นนั้นสูงกว่า 200 ล้านบาทแล้ว ยังกลายเป็นประเด็นทางการเมือง ที่พรรคเพื่อไทยใช้โอกาสนี้ไล่เช็กบิล พรรคภูมิใจไทย ของ “เนวิน ชิดชอบ” รวมถึงกระทบชิ่งรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ปล่อยให้มีการทุจริตเกิดขึ้น

คำให้การของผู้ต้องหาที่ระบุว่า ได้ปล้นเงินไปกว่า 200 ล้านบาท จากเงินที่มีอยู่ในบ้านราว 1,000 ล้านบาท แต่ “สุพจน์” ยืนยันว่าเงินหายไป 5 ล้านบาท ส่วนเจ้าหน้าที่แถลงว่า ยึดเงินของกลางมาได้ประมาณ 18 ล้านบาท จึงเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่จะดำเนินการให้กระจ่างต่อไป

ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นประชาชนเชื่อแน่นอนว่าเงินมหาศาลดังกล่าว น่าจะไม่ใช่เงินที่สุจริต

งานนี้มีการเชื่อมโยง “สุพจน์” สนิทสนมกับคนในพรรคภูมิใจไทย ทั้ง “โสภณ ซารัมย์” อดีต รมว.คมนาคม และมีสายสัมพันธ์อันดีกับ “เนวิน”

ทั้งนี้ หลังจาก “เนวิน” แปรพักตร์จาก “ทักษิณ” ไปหนุน “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ” ประกาศไม่เผาผีทันที และจากนั้นทั้งสองฝ่ายก็เดินเกมห้ำหั่นกันตลอด แม้กระทั่งการเลือกตั้งในช่วงที่ผ่านมา ภูมิใจไทยถือเป็นเสี้ยนหนามชิ้นใหญ่ในพื้นที่ภาคอีสานของพรรคเพื่อไทย

ดังนั้น เมื่อสบช่อง พรรคเพื่อไทยจึงไม่ปล่อยโอกาสให้ “เนวิน” และภูมิใจไทยได้หายใจ และ “สุพจน์” ก็กลายเป็นตัวละครและหมากสำคัญ ให้เพื่อไทยใช้กลไกอำนาจรัฐจัดการเชือดเฉือนคนคุ้นเคย พร้อมตอกลิ่มทางการเมือง โดยเฉพาะเนวิน ให้หมดทางกลับคืน หลังจากหลุดบ่วงบ้านเลขที่ 111

เกมไล่บี้เริ่มขึ้นเมื่อ “พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรีต่อสภา ซึ่งนายกฯ ได้มอบหมาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ เป็นผู้ตอบกระทู้แทน

การตอบกระทู้ของ ร.ต.อ.เฉลิม ครั้งนี้จึงกลายเป็นของร้อนทันที

“เงินที่ถูกปล้นในครั้งนี้ น่าจะเป็นเงินที่มาจากการทุจริตคอร์รัปชันในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสี ม่วง สีแดง และสีฟ้า ที่มีการเรียกรับผลประโยชน์ถึง 8% ไม่เช่นนั้น องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ ไจกา คงไม่บอกเลิกสัญญากับ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น อีกทั้งการที่อ้างว่าเป็นเงินสินสอดนั้น ก็มีมากเกินความเป็นจริง”

จากปมตรงนี้เป็นการพุ่งเป้าไปยังพรรคภูมิใจไทยซึ่งคุมกระทรวงคมนาคมในช่วงที่มีการประมูลรถไฟฟ้า

งานนี้ “โสภณ ซารัมย์” ต้องออกโรงชี้แจงถึงความบริสุทธิ์ พร้อมซัดกลับว่า เป็นการสร้างละครเพื่อกลบข่าวใน 2 ประเด็น คือ การออกพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ และเตรียมออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมทักษิณ และกรณีฝ่ายค้านตรวจสอบการทุจริตเรื่องการช่วยเหลือน้ำท่วม

ขณะที่ ชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะออกมาสำทับพร้อมยืนยันว่าเรื่องที่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวในสภาไม่เป็นความจริง และพรรคภูมิใจไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินในบ้านของปลัดกระทรวงคมนาคม ส่วนที่มีการอ้างไปถึงชื่อ ของบริษัท ซิโน-ไทย เป็นเรื่องของบริษัทเอกชนจะเป็นผู้ไปดำเนินการไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และมองว่าเป็นเรื่องการเมืองน้ำเน่า

“ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง คงต้องขอฟังก่อน หากข้อมูลที่กล่าวหาไม่ถูกต้องและไม่เป็นความจริง อาจตัดสินใจฟ้องหมิ่นประมาทได้เหมือนกัน แต่ทั้งหมดเป็นสิทธิด้วยว่าจะตัดสินใจฟ้องหมิ่นประมาทหรือไม่”

ปมเรื่องนี้ยังเป็นประเด็นให้ต้องตามติดอย่างใกล้ชิดเพราะ ร.ต.อ.เฉลิม ประกาศ จะเปิดข้อมูลอีกรอบในอีก 1-2 อาทิตย์

อย่างไรก็ตาม ใช่ว่า ร.ต.อ.เฉลิม จะลุยเรื่องการทุจริตเรื่องรถไฟฟ้าได้เต็มที่ เพราะ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม ออกมาการันตีว่าจะไม่มีการรื้อเรื่องรถไฟฟ้า เพราะการดำเนินการช่วงที่ผ่านมาถูกต้องแล้ว

จากประเด็นตรงนี้ทำให้เห็นว่าในพรรคเพื่อไทยเองก็ยังไม่ตกผลึกกันในเรื่องนี้ และยังมีลับลวงพรางกันอีกเยอะ

ทั้งนี้แว่วว่า “สุพจน์” ก่อนแนบแน่นกับ “เนวิน” เป็นคนของเฮียเพ้ง “พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล” อดีต รมว.คมนาคม คนสนิท “ทักษิณ” มาก่อน และยังสนิทสนมกับ “สุกำพล” อีก

ฉะนั้น งานนี้ “เฉลิม” ต้องออกแรงอีกเยอะ

สำนักงานบัญชีและธุรกิจ พี.เอ.แอล.,สำนักงานสอบบัญชี พีแอนด์อี
ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,จดทะเบียนธุรกิจ,วางระบบบัญชี