ป.ป.ช.ค้นบ้าน สุพจน์ พบในบ้านอาจมีลานจอดเฮลิคอปเตอร์!
จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
ป.ป.ช.นำหมายศาลค้นบ้าน “สุพจน์” แต่เช้าตรู่ ขณะที่เจ้าตัวกำลังตักบาตร เพื่อเก็บหลักฐาน และสอบปากคำเพิ่มเติม โดยห้ามสื่อและตำรวจเข้า ด้านปลัดฯ ยังเก็บตัวเงียบอยู่ในบ้านหรู ที่มีลานสำหรับจอด ฮ. พร้อมรถยนต์หรูอีกนับสิบคัน
วันนี้ (29 พ.ย.) เมื่อเวลา 06.30 น. เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. นำโดย พ.ต.อ.อิทธิพล กิจสุวรรณ ผอ.ศูนย์เทคโนฯ หมายศาลฯ เข้าค้นบ้านเลขที่ 77 ซอยลาดพร้าว 64 แยก 2 แขวงและเขตวังทองหลาง ของนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม เพื่อหาหลักฐานคดีปล้นเงิน โดยนายสุพจน์กำลังใส่บาตรตามปกติอยู่หน้าบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ได้เข้าตรวจค้นส่วนต่างๆ ภายในบ้านพักเพื่อหาหลักฐานที่เกี่ยวข้องในคดี รวมทั้งสอบปากคำตัวนายสุพจน์และคนในบ้านเป็นเวลาหลายชั่วโมง โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปในบ้านแต่อย่างใด
ต่อมาเมื่อเวลา 08.00 น. พล.ต.ต.สุธีร์ เณรกณฐี ผบก.น.4 หร้อมด้วย พ.ต.อ.ธวัช วงศ์สง่า ผกก.สน.วังทองหลาง ที่ดูแลคดีนี้ได้เดินทางมายังบ้านพักของนายสุพจน์ เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย แต่ไม่ได้เข้าไปยังบ้านพักนายสุพจน์ เนื่องจากคณะของ ป.ป.ช.ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการสอบสวนคดีกำลังสอบนายสุพจน์อยู่
สำหรับบ้านของนายสุพจน์เป็นบ้านเดี่ยว 2 หลังปลูกแยกกันในรั้วเดียว และฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักรับรองแขก รวมทั้งบริเวณหลังบ้านยังมีลานกว้างไว้สำหรับจอดเฮลิคอปเตอร์ พื้นที่ประมาณ 6-7 ไร่ ภายในยังมีรถหรูยี่ห้อต่างๆ จอดอยู่นับ 10 คัน โดยปากซอยมีอพาร์ตเมนต์สูง 6 ชั้น ตั้งอยู่ ซึ่งตรงกับที่ผู้ต้องหาให้การไว้ว่าได้ไปเช่ารายวันเฝ้าจับตาดูความเคลื่อน ไหวภายในบ้านก่อนจะลงมือปล้น ทั้งนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.วังทองหลาง ทั้งในและนอกเครื่องแบบจำนวนประมาณ 5-10 นายคอยเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม บรรดาสื่อมวลชนจากสำนักต่างๆ ที่ทราบข่าวว่า ป.ป.ช.เข้าตรวจค้นบ้านพักนายสุพจน์ ต่างมารอทำข่าวตั้งแต่ช่วงเช้านานหลายชั่วโมง จนกระทั่งเวลาเที่ยงแต่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดแจ้งรายละเอียดในการตรวจค้น ในครั้งนี้ให้ทราบ
ต่อมาเวลา 12.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมหลังจากเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นำโดย นายวรวิทย์ สุขบุญ ผู้ช่วยเลขาสำนักงาน ป.ป.ช. ได้เข้าตรวจสอบบ้านของนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม เพื่อหาหลักฐานคดีปล้นเงิน นานกว่า 6 ชั่วโมงได้เดินทางกลับ
นายวรวิทย์ ได้กล่าวหลังเข้าตรวจสอบบ้านนายสุพจน์ว่า ในวันนี้ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการขอหมายค้นจากศาลอาญา เพื่อเข้าทำการตรวจค้นบ้านของปลัดฯ หลังจากที่ถูกโจรปล้นบ้าน ซึ่งศาลได้อนุมัติหมายจับ จึงเข้ามาทำการตรวจค้นดังกล่าวตั้งแต่เวลา 06.30 น. โดยใช้เวลประมาณ กว่า 5 ชั่วโมง โดยเบื้องต้นได้ทำการตรวจค้นบ้าน 2 หลังคือบ้านเลขที่ 77 และบ้านเลขที่ 29 เพื่อหาพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับทางคดี แต่ในเบื้องต้นยังไม่ได้ทำการสอบปากคำนายสุพจน์และบุคคลภายในบ้านแต่อย่างใด ซึ่งนายสุพจน์ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีและข้อมูลต่างๆ ที่ตรวจค้นเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ตนไม่สามารถบอกถึงรายละเอียดการเข้าตรวจสอบได้ ซึ่งหลังจากนี้จะนำข้อมูลที่ได้จากการเข้าตรวจค้นทั้งหมดกลับไปรายงานต่อผู้ บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาต่อไป ส่วนจะเรียกตัวนายสุพจน์มาสอบปากคำเมื่อใดนั้นจะต้องรอทาง ป.ป.ช. ประชุมหารือกันอีกครั้ง
ตร.ไล่บี้ตามจับ "ไอ้โก้"
ส่วนความคืบหน้าของคดีนี้ พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.นพศิลป์ พูนสวัสดิ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ประสานกับตำรวจภูธรภาค 4 และเจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศ เพื่อติดตามนายวีระศักดิ์ หรือโก้ เชื่อลี อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาที่หลบหนีอยู่ในประเทศลาว ซึ่งจากการสังเกตการณ์พบว่าขณะนี้นายวีระศักดิ์ยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ ไม่มีท่าทีเคลื่อนไหวแต่อย่างใด ส่วนการติดตามนายพงษ์ศักดิ์ หรือเจี๊ยบ นามวงศ์ อายุ 35 ปี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ เพื่อไปตามหาบ้านของภรรยาคนที่ 2 ของนายพงษ์ศักดิ์ ซึ่งยังไม่พบ แต่ยังมีกำลังติดตามข่าวในพื้นที่อย่างใกล้ชิด หากมีความเคลื่อนไหวจะทราบทันที
“กล้านรงค์” เผยอายัดเงิน “สุพจน์” แล้ว 18 ล้าน-ค้นบ้านเจออีก แต่เป็นเบี้ยประชุม
จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
“กล้านรงค์” เผย ป.ป.ช.ใช้อำนาจตามมาตรา 78 อายัดเงินของกลางคนร้ายปล้นบ้าน “สุพจน์” แล้ว 18.1 ล้าน พร้อมทองหนัก 10 บาท เพื่อประกอบการไต่สวนกรณีร่ำรวยผิดปกติต่อไป ระบุ ผลตรวจค้นบ้านพบเงินสดอีก แต่ยังไม่ได้ยึด เพราะมีเอกสารบอกเป็นเบี้ยประชุม
วันที่ 29 พ.ย.นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงผลการตรวจค้นบ้าน นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ว่า ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ขอหมายศาลอาญาเข้าค้นบ้านปลัดคมนาคม มาจากมติคณะกรรมการ ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 22 พ.ย.54 กรณีที่มีข้อมูลจากสื่อมวลชนและการตรวจสอบเบื้องต้นจากสำนักการข่าวกิจการ ของ ป.ป.ช.ที่มีคนร้ายบุกเข้าปล้นทรัพย์บ้านนายสุพจน์ ซึ่งการปล้นเงินจำนวนมาก ป.ป.ช.จึงมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ เรื่องนี้ โดยมีเหตุอันควรสงสัยว่า นายสุพจน์ มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ มีพฤติการณ์กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและยื่นบัญชีทรัพย์สินและ หนี้สินต่อ ป.ป.ช.น่าสงสัยว่ายื่นโดยปกปิดข้อเท็จจริง
นายกล้านรงค์ กล่าวว่า ทาง ป.ป.ช.ใช้อำนาจตามกฎหมาย ป.ป.ช.มาตรา 25(2) และมาตรา 78 กล่าวคือ มีอำนาจขอให้ศาลออกหมายเพื่อเข้าไปในเคหสถาน สถานที่ทำการ ที่อื่นใด หรือยานพาหนะ ของนายสุพจน์ หรือบุคคลใดๆ เพื่อตรวจสอบค้น หรืออายัดทรัพย์สิน เอกสาร หรือพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง คณะอนุกรรมการไต่สวนบุคคลและรวบรวมข้อมูลแล้ว และได้มอบหมายให้ นายวรวิทย์ สุบุญ ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช.ในฐานะหัวหน้าคณะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วังทองหลาง ขอหมายศาลค้นบ้านนายสุพจน์ รวม 2 หลัง บ้านเลขที่ 77 และบ้านเลขที่ 29 ทั้งนี้ ได้มีการเข้าค้นบ้านตั้งแต่เวลา 06.00-12.00 น.ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากนายสุพจน์อย่างดี พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ยึดหลักฐานเอกสาร และวัตถุพยานบางอย่างเพื่อนำไปตรวจสอบประกอบการไต่สวนต่อไป
นายกล้านรงค์ กล่าวว่า ป.ป.ช.ได้มีคำสั่งอาศัยตามอำนาจของพระราชบัญญัติ ป.ป.ช.มาตรา 78 อายัดเงินและทรัพย์สินของกลางในคดีที่ 2458/2554 สถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง ซึ่งเป็นเงินสดจำนวน 18,121,000 บาท ทองรูปพรรณ หนัก 10 บาท ที่ยึดได้จากคนร้ายที่เข้าลักทรัพย์ พร้อมกับของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดต่อไป ซึ่งการอายัดครั้งนี้ได้แจ้งกับพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ไว้แล้ว ซึ่งเหตุผลที่ทาง ป.ป.ช.ขออายัดเงินจำนวนดังกล่าว เนื่องจากนายสุพจน์อาจขอรับเงินจำนวนดังกล่าวกลับคืนไปได้ ซึ่งจะมีปัญหาในการติดตามทรัพย์สินคดีของ ป.ป.ช.เพื่อนำไปตรวจสอบ โดยนายสุพจน์ยินยอมให้ยึดเพื่อตรวจสอบ สำหรับวัตถุพยานทาง ป.ป.ช.จะตรวจสอบความเชื่อมโยงต่อไป
เมื่อถามว่า 3 กรณี ที่ ป.ป.ช.ตั้งไว้มีมูลเหตุให้เชื่อได้อย่างไร ว่า นายสุพจน์ กระทำความผิด นายกล้านรงค์ กล่าวว่า เป็นไปตามที่สื่อมวลชนลงข่าวการลักทรัพย์บ้านของนายสุพจน์ และจับคนร้ายได้ พร้อมยึดเงินที่คนร้ายลักไปเป็นจำนวนมาก และการให้สัมภาษณ์ของคนร้าย อีกทั้งทางสำนักการข่าวกิจการพิเศษรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นเสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.และทางคณะกรรมการ ป.ป.ช.เห็นควรสงสัยที่จะดำเนินการไต่สวนเรื่องนี้ จึงตั้งอนุกรรมการไต่สวน สำหรับขั้นตอนการดำเนินการต้องมีการสอบบุคคล หลักฐานเอกสาร โครงการต่างๆ สุดท้ายต้องสอบนายสุพจน์ด้วย ส่วนจะสอบช่วงไหนอย่างไรเป็นการพิจารณาของคณะกรรมการ
เมื่อถามว่า จากการรายงานพบเงินสดในบ้านหรือไม่ นายกล้านรงค์ กล่าวว่า จากการรายงานได้มีการพบเงินสดบางส่วน แต่อยู่ในลักษณะได้รับแจ้งว่าได้มาจากเบี้ยประชุม ซึ่ง ป.ป.ช.ไม่ได้ยึดมา เนื่องจากเงินจำนวนดังกล่าวอยู่ในซองเอกสาร ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากเบี้ยประชุม ส่วนเอกสารที่ได้เป็นเอกสารที่เกี่ยวข้องทางการเงิน สำหรับวัตถุพยานต้องตรวจสอบถึงความเชื่อมโยงข้อมูลต่อไป
ช.การช่างยันประมูลโปร่งใสไม่เกี่ยว'สุพจน์'
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ช.การช่างยันประมูลงานภาครัฐในช่วงที่ผ่านมาโปร่งใส ปปช.สอบ"สุพจน์"ไม่กระทบโครงการ รับมหาอุทกภัยกระทบรายได้ไตรมาส 4 วูบ 10%
นายวรพจน์ อุชุไพบูลย์วงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ช.การช่าง (CK) กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ยื่นเรื่องสอบสวนคดีการปล้นนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม เบื้องต้นขอยืนยันว่าการประมูลงานของบริษัท ที่ผ่านมาเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายทางราชการทุกประการ ตามที่ภาครัฐได้มีการเสนอโครงการต่างๆ มา และคดีดังกล่าวก็ไม่ได้มีผลกระทบแต่อย่างใดกับบริษัท
ส่วนผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ จะส่งผลกระทบทำให้รายได้ในไตรมาส 4/2554 หายไปประมาณ 10% ของที่ประมาณการไว้จะมีรายได้ 2 พันล้านบาท โดยบริษัทมีโครงการที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะและบางปะอิน 2 โครงการ เป็นโครงการสร้างโรงงานยาสูบ และโรงไฟฟ้า ซึ่งได้รับผลกระทบประมาณ 1-2 เดือน ถือว่าเป็นมูลค่าไม่สูงมาก ขณะที่คาดว่ารายได้ทั้งปี 1.2-1.3 หมื่นล้านบาทต่ำกว่าปีก่อน 1.4 หมื่นล้านบาท
"ในปีนี้ บริษัทได้ขายเงินลงทุนในบริษัท เซาท์อีสท์ เอเชีย เอนเนอร์จี และบริษัทได้กำไรจากการขายครั้งนี้ประมาณกว่า 3 พันล้านบาท ทำให้ภาพรวมบริษัทในปีนี้น่าจะมีกำไรราว 1 พันล้านบาท แม้รายได้จะต่ำเป้า แต่กำไรก็จะเติบโตดีขึ้น ทั้งนี้ หากได้เซ็นสัญญาโครงการไซยะบุรีเร็วๆ นี้ จะทำให้ในปีแรกรับรู้รายได้ ราว 8,000-10,000 ล้านบาท และ ปีถัดไปจะรับรู้รายได้ 1.5-2 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้โครงการไซยะบุรี มีระยะเวลาก่อสร้าง 7-8 ปี จะช่วยทำให้รายได้ของบริษัทเติบโต"
นายวรพจน์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทรอเซ็นสัญญางานโครงการไซยะบุรี มูลค่างาน 7.6 หมื่นล้านบาท และ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว แบริ่ง-สมุทรปราการ 1.4 หมื่นล้านบาท รวม 9 หมื่นล้านบาท จากที่มีงานในมืออยู่ 3.08 หมื่นล้านบาท หากได้เซ็นสัญญาแล้วจะทำให้บริษัทมีงานในมือสูงถึง 1.2 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่บริษัทก่อตั้งบริษัทมา 40 ปี
บริษัทมีโอกาสได้รับงานใหม่เพิ่ม จากแผนงานก่อสร้างรถไฟฟ้า 10 สาย รวม 473.3 กิโลเมตร ได้แก่ สายสีส้ม สีชมพู สีเหลือง ซึ่งบริษัทพร้อมเข้าร่วมประมูล อีกทั้งโอกาสได้งานจากบริษัทในกลุ่ม ช.การช่างได้แก่ การจ้างงานบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ (BMCL) ที่เป็นผู้ได้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง บริษัททางด่วนกรุงเทพ (BECL) ที่จะได้งานสัมปทานทางด่วนใหม่ ศรีรัช-วงแหวนรอบนอก บริษัท น้ำประปาไทย (TTW) ที่คาดว่าจะขยายกำลังการผลิตจากปัจจุบันที่กำลังการผลิตเต็มแล้ว และ บริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด จะมีการลงทุนโรงไฟฟ้าเอสพีพี เฟส 2
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะได้งานใหม่ที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำที่รัฐบาลและเอกชนจะดำเนินการ ขณะนี้ได้งานสร้างคันคอนกรีต ในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน มูลค่างาน 700 ล้านบาทแล้ว รวมทั้งมีแผนการเพิ่มทุนจดทะเบียนในบริษัทซีเค พาวเวอร์ เป็น 9.2 พันล้านบาท จาก 100 ล้านบาท ภายในไตรมาส 1/2555 โดยบริษัทได้เตรียมเงินที่ได้จากการขายหุ้นเซียร์มาลงทุนโดยบริษัทไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน
นายวรพจน์ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายปีหน้า คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาทและอัตรากำไรขั้นต้นในปี 2555 ที่ 10% ซึ่งสูงกว่าในปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 2-3% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากค่าวัสดุก่อสร้างที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับในช่วงปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี จากนโยบายการปรับเพิ่มขึ้นค่าแรง 300 บาทต่อวัน มีผลบังคับใช้ เดือนเม.ย. 2555 จะกระทบต่อต้นทุนของบริษัท ประมาณ 1-2% ของต้นทุนรวม ซึ่งถือว่าไม่ได้กระทบต่อด้านการเงินมากนัก ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถบริหารได้ โดยปัจจุบันบริษัทฯ ได้จ้างแรงงานอยู่ที่ 220 บาทต่อวัน
ชุดค้นบ้าน'สุพจน์'รายงานกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่บ่ายนี้
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
เลขาฯป.ป.ช.เผยเจ้าหน้าที่ชุดค้นบ้าน "สุพจน์" รายงานผลต่อกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่บ่ายนี้ ระบุ เป็นครั้งแรกที่ใช้กฎหมายป.ป.ช.มาตรา 25 อนุสอง
นายอภินันท์ อิศรางกูร ณ อยุธยา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เปิดเผย "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" ว่า บ่ายวันนี้ (29 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ที่ได้รับอำนาจจากคณะอนุกรรมการสอบสวนทรัพย์สินนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ที่มีนายใจเด็ด พรไชยา และนายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้รับผิดชอบ ให้ไปขอหมายจากศาลอาญา เพื่อเข้าค้นบ้านนายสุพจน์ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จะนำผลการตรวจค้นมารายงานต่อกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่ ในช่วงบ่ายวันนี้
เลขาธิการป.ป.ช. กล่าวว่า กรณีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ใช้อำนาจตามกฎหมายป.ป.ช.มาตรา 25 อนุสอง ในการขออำนาจศาลเพื่ออนุมัติหมายค้น เนื่องจากว่ากรณีนี้ถือเป็นการใช้อำนาจที่กระทบสิทธิของบุคคล แต่หากป.ป.ช.เชื่อว่า มีสิ่งผิดปกติและผิดกฎหมายก็ขอให้ศาลอนุมัติหมายค้นได้
ทั้งนี้ ปงป.ช.สอบสวนนายสุพจน์ 3 ประเด็น คือ 1.กรณีการยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จหรือไม่ 2.มีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติหรือไม่ และ 3.การทุจริตต่อหน้าที่ โดยจะมีผลย้อนหลังสอบไปถึงการดำรงตำแหน่งที่ผ่านมา
ป.ป.ช.ค้นบ้าน'สุพจน์'หาหลักฐานซุกเงินสด
ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้าคดีปล้นบ้าน นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ล่าสุดตั้งแต่เมื่อเวลา 06.30น. เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) นำโดย พ.ต.อ.อิทธิพล กิจสุวรรณ ผอ.ศูนย์เทคโนฯ หมายศาลฯ เข้าค้นบ้าน เลขที่ 77 ซอยลาดพร้าว 64 แยก 2 แขวง-เขต วังทองหลาง ของ นายสุพจน์ เพื่อหาหลักฐานคดีปล้นเงิน ขณะที่นายสุพจน์กำลังใส่บาตรตามปกติอยู่หน้าบ้าน
โดยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ได้เข้าตรวจค้นส่วนต่างๆ ภายในบ้านพักเพื่อหาหลักฐานที่เกี่ยวข้องในคดี รวมทั้งสอบปากคำตัวนายสุพจน์และคนในบ้านเป็นเวลาหลายชั่วโมง โดยไม่อนุญาตให้สือมวลชนเข้าไปในบ้านแต่อย่างใด
ต่อมาเมื่อเวลา 08.00น. พล.ต.ต.สุธีร์ เณรกณฐี ผบก.น.4 หร้อมด้วย พ.ต.อ.ธวัช วงศ์สง่า ผกก.สน.วังทองหลาง ที่ดูแลคดีนี้ได้เดินทางมายังบ้านพักของนายสุพจน์ เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย แต่ไม่ได้เข้าไปยังบ้านพักนายสุพจน์ เนื่องจากคณะของ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการสอบสวนคดี กำลังสอบนายสุพจน์อยู่
สำหรับบ้านของนายสุพจน์เป็นบ้านเดี่ยว 2 หลังปลูกแยกกันในรั้วเดียวและฝั่งตรงข้ามก็เป็นบ้านพักรับรองแขก รวมทั้งบริเวณหลังบ้านยังมีลานกว้างไว้สำหรับจอดฮอลิคอปเตอร์ พื้นที่ประมาณ6-7ไร่ ภายในยังมีรถหรูยี่ห้อต่างๆ จอดอยู่นับ 10 คัน โดยปากซอยมีอพารตเม้นสูง 6ชั้น ตั้งอยู่ซึ่งตรงกับที่ผู้ต้องหาให้การไว้ว่าเช่ารายวันเฝ้าจับตาดูความเคลื่อนไหวภายในบ้านก่อนจะลงมือปล้น ทั้งนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.วังองหลางทั้งในและนอกเครื่องแบบ จำนวนประมาณ 5-10 นาย คอยเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้บรรดาสื่อมวลชนจากสำนักต่างๆ ที่ทราบข่าวว่า ป.ป.ช. เข้าตรวจค้นบ้านพักนายสุพจน์ ต่างมารอทำข่าวตั้งแต่ช่วงเช้านานหลายชั่วโมง จนกระทั่งเวลาเที่ยงแต่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดแจ้งรายละเอียดในการตรวจค้นในครั้งนี้ให้ทราบ
สำนักงานบัญชีและธุรกิจ พี.เอ.แอล.,สำนักงานสอบบัญชี พีแอนด์อี
ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,จดทะเบียนธุรกิจ,วางระบบบัญชี