จาก ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

แฟชั่นวัยรุ่นสวมกางเกงเด ฟเอวต่ำรัดรูปอันตราย นักวิจัยพบเป็นต้นเหตุโรคปวดหลัง เนื่องจากการเคลื่อนไหวของข้อสะโพกถูกจำกัด ส่งผลให้องศาการเคลื่อนไหวของกระดูกสันหลังระดับเอวเพิ่มมากกว่าปกติ แนะโจ๋-วัยทำงานเลี่ยงใส่

รศ.ดร.รุ้งทิพย์ พันธุเมธากุล หัวหน้ากลุ่มวิจัยปวดหลัง ปวดคอ และปวดข้ออื่นๆ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) พร้อมด้วย รศ.ดร.วิชัย อึงพินิจพงศ์ รองหัวหน้ากลุ่มวิจัยปวดหลัง และคณะ ร่วมกันแถลงผลวิจัย เรื่อง "ผลของกางเกงขายาวแบบรัดรูปต่อองศาการเคลื่อนไหวของกระดูกสันหลังส่วนเอวและการทำงานของกล้ามเนื้อลำตัว" ที่ห้องวิจัยทางกายภาพบำบัดชั้น 5 คณะเทคนิคการแพทย์ มข.เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม โดยพบว่าการสวมใส่กางเกงขาเดฟรัดรูป เอวต่ำที่เป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นทั่วประเทศขณะนี้ ส่งผลเสียต่อสุขภาพ

การแถลงผลวิจัยครั้งนี้ คณะผู้วิจัยได้ฉายสไลด์แสดงภาพประกอบ การ สวมกางเกงยีนส์ขายาวแบบรัดรูปเอวต่ำเดินตามที่ชุมชน ตามห้างสรรพสินค้า นั่งโต๊ะทำงาน และยกของหนัก จนกลายเป็นโรคปวดเมื่อยที่พบมากในภาคอีสาน ซึ่งมีสาเหตุเกิดจากการสวมกางเกงแบบรัดรูป และพบว่าปัจจุบันวัยรุ่นภาคอีสานประมาณร้อยละ 80 เป็นโรคปวดหลัง ซึ่งมีที่มาจากการสวมใส่กางเกงรัดรูปเอวต่ำตามแฟชั่นที่เป็นที่นิยมกันอยู่ ในขณะนี้นั่นเอง ทั้งนี้ คนไข้ที่สวมกางเกงขายาวแบบรัดรูปอายุยังน้อยๆ ทำให้มีปัญหาเรื่องปวดหลังมากกว่าร้อยละ 20 และเข้าสู่ในวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ร้อยละ 80 เป็นโรคปวดหลัง

รศ.ดร.รุ้ง ทิพย์กล่าวว่า อาการปวดหลังส่วนล่างเป็นปัญหาหนึ่งที่สำคัญในวัยรุ่น ซึ่งส่งผลต่อการเรียน การทำงาน และค่าใช้จ่ายในการรักษาทางการแพทย์ สาเหตุของการปวดหลังส่วนล่างในวัยรุ่นมีหลากหลายสาเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจำกัดของการเคลื่อนไหวของข้อสะโพก อาการปวดหลังส่วนล่างในวัยรุ่นจะมีส่วนเชื่อมโยงกับอาการปวดหลังส่วนล่างใน วัยผู้ใหญ่ ดังนั้น หากวัยรุ่นคนใดมีอาการปวดหลังส่วนล่างเกิดขึ้นแล้ว ก็เชื่อได้ว่าในวัยผู้ใหญ่ก็น่าจะเกิดอาการปวดหลังส่วนล่างขึ้นได้อีกอย่าง ต่อเนื่อง

รศ.ดร.วิชัยกล่าวว่า วัยรุ่นไทยในปัจจุบันมักนิยมสวมกางเกงขายาวแบบรัดรูปตามสมัยนิยม โดยกางเกงแบบดังกล่าวจะรัดแนบแน่นบริเวณสะโพก ต้นขา และข้อเข่าของผู้ใส่ เช่น กางเกงยีนส์ขาเดฟ เป็นต้น ซึ่งลักษณะของกางเกงขายาวแบบรัดรูปอาจทำให้การเคลื่อนไหวของข้อสะโพกถูก จำกัดได้ และอาจจะทำให้เกิดการทำงานของกล้ามเนื้อลำตัว และช่วงของการเคลื่อนไหวของกระดูกสันหลังส่วนเอวที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะฉะนั้นหากมีการเปลี่ยนแปลงการทำงานของโครงสร้างเหล่านี้เป็นระยะเวลา นาน อาจนำไปสู่การบาดเจ็บของโครงสร้างดังกล่าว และทำให้เกิดอาการปวดหลังส่วนล่างตามมาได้ในอนาคต

ดังนั้น จึงทำการศึกษาถึงผลการสวมกางเกงขายาวแบบรัดรูปต่อองศาการเคลื่อนไหว ของกระดูกสันหลังระดับเอวและการทำงานของกล้ามเนื้อลำตัว การศึกษาในครั้งนี้ทำโดย ให้อาสาสมัครทำกิจกรรม 3 กิจกรรม (ซึ่งประกอบด้วย การนั่งยองๆ ทำกิจกรรม ยกของขึ้นจากพื้น และนั่งเอื้อมมือไปหยิบวัตถุที่อยู่ด้านหน้า) ในขณะที่ใส่กางเกงขายาวแบบรัดรูปหรือกางเกงขายาวแบบสวมใส่สบาย ในระหว่างที่ใส่กางเกงดังกล่าว อาสาสมัครจะได้รับการวัดองศาการเคลื่อนไหวของกระดูกสันหลังระดับเอวและวัด ศักย์ไฟฟ้าของกล้ามเนื้อลำตัวไปพร้อมกัน เพื่อเปรียบเทียบผลการวัดดังกล่าวระหว่างกางเกงขายาวทั้งสองแบบข้างต้น

"ผล การวิจัยพบว่า กางเกงขายาวแบบรัดรูปจำกัดการเคลื่อนไหวของข้อสะโพก แล้วส่งผลให้องศาการเคลื่อนไหวของกระดูกสันหลังระดับเอวเพิ่มมากขึ้นกว่า ปกติ การทำงานของกล้ามเนื้อหลังลดลง และทำให้ผู้สวมใส่เกิดความไม่สบายที่บริเวณหลังส่วนล่าง เมื่อเปรียบเทียบกับกางเกงขายาวแบบสวมใส่สบายในขณะทำกิจกรรมต่างๆ ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น" รศ.ดร.วิชัยกล่าว

รศ.ดร.วิชัยกล่าว ว่า ผลจากงานวิจัยนี้คณะผู้วิจัยแนะนำว่าวัยรุ่นและคนทำงานควรหลีกเลี่ยงการสวม กางเกงขายาวชนิดรัดรูป และจำกัดการเคลื่อนไหวที่ข้อสะโพกในการทำกิจกรรมหรืองานในชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยลดอุบัติการณ์ของอาการปวดหลังส่วนล่าง ลดอัตราการหยุดงาน รวมถึงลดงบประมาณค่าใช้จ่ายในการชดเชยสวัสดิการแก่ผู้ที่มีอาการปวดหลังส่วน ล่างต่อไป หากชอบกางเกงรัดรูปก็ควรเลือกกางเกงที่ทำจากเนื้อผ้าที่ยืดหยุ่นได้ดี

(ที่มา หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 29 ธันวาคม)

สำนักงานบัญชีและธุรกิจ พี.เอ.แอล.,สำนักงานสอบบัญชี พีแอนด์อี
ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,จดทะเบียนธุรกิจ,วางระบบบัญชี