มีอะไรในกอไผ่? สื่อสงสัย ไฉนต้องติด "กล้องวงจรปิด 360 องศา" ในห้องนักข่าวพรรคเพื่อไทย

จาก ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

กลายเป็นเรื่องขึ้นมา เมื่อเหตุเกิด ณ ห้องสื่อมวลชนประจำพรรคเพื่อไทย ในอาคารโอเอไอ ทาวเวอร์ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ซึ่งรู้กันดีว่า อาคารโอเอไอเป็นหนึ่งในทรัพย์สินของตระกูลชินวัตร โดยย่อมาจากอักษรย่อ“โอ๊ค-เอม-อิ้ง” ชื่อเล่นของบุตรชายและบุตรสาวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  เดิมก่อนนี้อาคารแห่งนี้ใช้ชื่อว่าอาคารไอเอฟซีทีซึ่งเป็นที่ทำการของพรรคไทยรักไทยมาก่อน

เหตุเป็นเรื่องมาจากวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ฝ่าย อาคารและสถานที่ของอาคารโอเอไอทาวเวอร์นำกล้องโทรทัศน์วงจรปิดมาติดตั้งภาย ในห้องสื่อมวลชนซึ่งเป็นสถานที่ที่ใช้ในการแถลงข่าวและนั่งทำงานรวมสื่อมวล ชนประจำพรรคเพื่อไทย 

กระจอกข่าวปีนขึ้นไปดูใกล้ๆก็พบว่ากล้องตัวดังกล่าวเป็นกล้องที่สามารถหมุนซูมลึกและส่ายรอบตัวได้ 360 องศา ซึ่งภาพจากกล้องตัวนี้จะถูกถ่ายทอดสดไปยังห้องคอนโทรลของฝ่ายอาคารและสถานที่ตลอด 24 ชั่วโมง  

โดยเจ้าหน้าที่พรรคได้นำมาติดตั้งในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งไม่มีสื่อมวลชนเดินทางทำข่าว

หากย้อนไปก่อนหน้านี้ในช่วงที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับตำแหน่งใหม่ๆนั้นได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมในบริเวณอาคารลานจอดรถ อาคารด้านหลัง และ บริเวนโถงหน้าลิฟท์ที่พรรคเพื่อไทยแห่งนี้แล้วเพื่อวางมาตรการรักษาความปลอดภัย แต่กลับมาติดเพิ่มเติมอีกในห้องสื่อมวลชน


นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ชี้แจงว่า การติดตั้งกล้องวงจรปิดในห้องสื่อมวลชนนั้นพรรคเพื่อไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เป็นเรื่องของฝ่ายอาคารและสถานที่ของอาคารโอเอไอ ทาวเวอร์ ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ทำการเช่าสถานที่อยู่ในบางชั้น และบางชั้นมีสำนักงานเอกชนอื่นเช่าอยู่ ซึ่งการติดกล้องวงจรปิดนั้นเป็นไปเพื่อการรักษาความปลอดภัย เพราะหลังจากที่พรรคเพื่อไทยเป็นพรรครัฐบาลปรากฏว่ามีคนเดินเข้าเดินออกพรรคพลุกพล่านมากกว่าปกติในสมัยเป็นฝ่ายค้านถึง2-3เท่าตัว จึงมีความกังวลว่าบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอาจจะเล็ดลอดเข้ามาอยู่ในห้องผู้สื่อข่าวและอาจจะหยิบฉวยอะไรไปได้ซึ่งมาตรการดังกล่าวในสมัยที่มีการย้ายที่ทำการพรรคเพื่อไทยไปอยู่อาคารบีบีดีบิวดิ้ง ถ.พระรามสี่ ก็มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อรักษาความปลอดภัยเช่ากัน โดยที่อาคารนั้นมีการติดตั้งของเดิมไว้อยู่แล้ว

เมื่อ ถามว่าเหตุใดถึงต้องมีการติดกล้องในห้องผู้สื่อข่าวทั้งที่ในบริเวณประตูทาง เข้าออกห้องผู้สื่อข่าวก็มีการติดตั้งกล้องและมีเจ้าหน้าที่รักษาความ ปลอดภัยดูแลอยู่แล้วนายพร้อมพงศ์ให้คำตอบว่า ที่ผ่านมาในห้องนี้เคยมีการวางสายและติดตั้งกล้องมาแล้ว แต่ใช้ไปนานๆมีความเสียหายเกิดขึ้น ฝ่ายอาคารและสถานที่จึงติดตั้งใหม่ เพราะกังวลเรื่องทรัพย์สินของมีค่าขิงผู้สื่อข่าว หากสูญหายไปฝ่ายอาคารก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ

เกิดคำถามว่าจะชี้แจงอย่างไรหากถูกมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิของสื่อมวลชน?นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของฝ่ายอาคารไม่เกี่ยวกับพรรค พรรคเพื่อไทยไม่ละเมิดสิทธิ์ของสื่อมวลชน ยืนยันว่าไม่มีการเซ็นเซอร์หรือตรวจสอบว่าใครเป็นแหล่งข่าวเดินเข้ามาให้ข่าวกับนักข่าวในห้องนี้ และไม่มีการถ่ายทอดเสียงอย่างแน่นอน เป็นการใช้เทคโนโลยีช่วยเพื่อรักษาทรัพย์สินเท่านั้น

ทั้งนี้ ฟากพรรคประชาธิปัตย์เอง มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดทั้งบริเวณภายนอกและภายในที่ทำการพรรคเช่นกัน โดยภายในอาคาร ส่วนหนึ่งมีการติดตั้งบริเวณทางเดินภายใน ทำให้เห็นการเข้าออกของหัองสื่อมวลชน แต่ไม่ได้ติดในห้องสื่อ อย่างไรก็ตามมีสื่อมวลชนจำนวนหนึ่งนั่งปฏิบัติหน้าที่บริเวณทางเดินเข้าออก ที่มีกล้องวงจรปิดตั้งอยู่ด้วยเช่นกัน

สมาคมนักข่าวชี้ติดวงจรปิดห้องนักข่าวส่อคุกคามสื่อจี้ถอดออก

นาย ปราเมศเหล็กเพ็ชร์ รองเลขาธิการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศ  กล่าวว่า ดูแล้วเข้าข่ายคุกคามการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนที่มาประจำติดตามความเคลื่อน ไหวพรรคเพื่อไทยเพราะตามปกติที่พรรคเพื่อไทยก็มีการติดกล้องวงจรปิดรอบ บริเวณพรรคอยู่แล้วซึ่งสามารถจับภาพคนเข้าออกได้ตลอดเวลาและยังมีรปภ.ดูแล ความปลอดภัยอย่างแน่นหนาดังนั้นจะมาอ้างว่าเพื่อเพิ่มมาตรการการรักษาความ ปลอดภัยหรือดูแลทรัพย์สินของสื่อมวลชนก็คงไม่ใช่ อยากเรียกร้องให้พรรคพิจารณาทบทวน ยกเลิกการติดตั้งกล้องวงจรในห้องสื่อมวลชนเพื่อให้นักข่าวรู้สึกว่า มีอิสระในการปฏิบัติหน้าที่นำเสนอความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยให้ประชาชน รับทราบ

เรื่องราวของกล้องวงจรปิดในห้องสื่อพรรคเพื่อไทยณอาคาร โอ๊ค เอม อิ๊ง จะเป็นอย่างไร ที่แน่ๆคงไม่ใช่แค่กล้องดัมมี่ (กล้องเปล่า) แบบที่เคยมีบางหน่วยงานคิดจะติดไว้ขู่โจรขู่ม็อบ งานนี้จะเป็นอย่างไรโปรดติดตาม...

เพื่อไทยติดกล้องสอดแนมสื่อ

จาก โพสต์ทูเดย์

เพื่อไทยติดกล้องวงจรปิดในห้องสื่อมวลชนพรรคอ้างเพื่อรักษาความปลอดภัย ด้านสมาคมนักข่าวหวั่นนักข่าวพรรคถูกคุกคาม

กล้องวงจรปิดที่ถูกติดตั้งในห้องผู้สื่อข่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายอาคารและสถานที่ของอาคารโอเอไอ ทาวเวอร์  ที่ทำการของพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้นำกล้องโทรทัศน์วงจรปิดมาติดตั้งภายในห้องสื่อมวลชนซึ่งเป็นสถานที่ที่ ใช้ในการแถลงข่าวและนั่งทำงานรวมสื่อมวลชนประจำพรรคเพื่อไทย  โดยกล้องตัวดังกล่าวเป็นกล้องที่สามารถหมุนซูมลึกและส่ายรอบตัวได้ 360 องศา ซึ่งภาพจากกล้องตัวนี้จะถูกถ่ายทอดสดไปยังห้องคอนโทรลของฝ่ายอาคารและสถาน ที่ตลอด 24 ชั่วโมง  โดยเจ้าหน้าที่พรรคได้นำมาติดตั้งในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ซึ่งไม่มีสื่อมวล ชนเดินทางทำข่าว

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพท. ชี้แจงว่า การติดตั้งกล้องวงจรปิดในห้องสื่อมวลชนนั้นพรรคเพื่อไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เป็นเรื่องของฝ่ายอาคารและสถานที่ของอาคารโอเอไอ ทาวเวอร์ ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ทำการเช่าสถานที่อยู่ในบางชั้น และบางชั้นมีสำนักงานเอกชนอื่นเช่าอยู่ ซึ่งการติดกล้องวงจรปิดนั้นเป็นไปเพื่อการรักษาความปลอดภัย

ทั้งนี้หลังจากที่พรรคเพื่อไทยเป็นพรรครัฐบาลปรากฏว่ามีคนเดินเข้าเดิน ออกพรรคพลุกพล่านมากกว่าปกติในสมัยเป็นฝ่ายค้านถึง 2-3 เท่าตัว จึงมีความกังวลว่าบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอาจจะเล็ดลอดเข้ามาอยู่ในห้อง ผู้สื่อข่าวและอาจจะหยิบฉวยอะไรไปได้ ซึ่งมาตรการดังกล่าวในสมัยที่มีการย้ายที่ทำการพรรคเพื่อไทยไปอยู่อาคารบีบี ดี บิวดิ้ง ถ.พระรามสี่ ก็มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อรักษาความปลอดภัยเช่ากัน โดยที่อาคารนั้นมีการติดตั้งของเดิมไว้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่าจะชี้แจงอย่างไรหากถูกมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิของสื่อมวลชน นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของฝ่ายอาคารไม่เกี่ยวกับพรรค พรรคเพื่อไทยไม่ละเมิดสิทธิ์ของสื่อมวลชน ยืนยันว่าไม่มีการเซ็นเซอร์หรือตรวจสอบว่าใครเป็นแหล่งข่าวเดินเข้ามาให้ ข่าวกับนักข่าวในห้องนี้ และไม่มีการถ่ายทอดเสียงอย่างแน่นอน เป็นการใช้เทคโนโลยีช่วยเพื่อรักษาทรัพย์สินเท่านั้น

ทั้งนี้อาคารโอเอไอ ทาวเวอร์ เป็นหนึ่งในทรัพย์สินของตระกูลชินวัตร โดยย่อมาจากอักษรย่อ“O-Oke,  A-Aim,  I-Ing”  ชื่อเล่นของบุตรชายและบุตรสาวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  โดยก่อนหน้านี้อาคารแห่งนี้ใช้ชื่อว่าอาคารไอเอฟซีทีซึ่งเป็นที่ทำการของ พรรคไทยรักไทยมาก่อน

นายปราเมศ เหล็กเพ็ชร์  รองเลขาธิการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศ  กล่าวว่า ดูแล้วเข้าข้ายคุกคามการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนที่มาประจำติดตามความเคลื่อน ไหวพรรคเพื่อไทยเพราะตามปกติที่พรรคเพื่อไทยก็มีการติดกล้องวงจรปิดรอบ บริเวณพรรคอยู่แล้วซึ่งสามารถจับภาพคนเข้าออกได้ตลอดเวลา  และยังมีรปภ.ดูแลความปลอดภัยอย่างแน่นหนา

ดังนั้น จะมาอ้างว่า เพื่อเพิ่มมาตรการการรักษาความปลอดภัยหรือดูแลทรัพย์สินของสื่อมวลชนก็คงไม่ ใช่ อยากเรียกร้องให้พรรคพิจารณาทบทวน ยกเลิกการติดตั้งกล้องวงจรในห้องสื่อมวลชนเพื่อให้นักข่าวรู้สึกว่า มีอิสระในการปฏิบัติหน้าที่นำเสนอความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยให้ประชาชน รับทราบ

พท.ติดวงจรปิดสอดแนมสื่อ-สมาคมนักข่าวจี้ทบทวน

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

เพื่อไทย ติดตั้งกล้องวงจรปิด ในห้องสื่อมวลชนประจำพรรค โฆษกพรรคอ้างเป็นเรื่องของฝ่ายอาคารสถานที่ เพื่อป้องกันถูกฉกทรัพย์สินเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายอาคารและสถานที่ของอาคารโอเอไอ ทาวเวอร์ ที่ทำการของพรรคเพื่อไทย ได้นำกล้องโทรทัศน์วงจรปิดมาติดตั้งบนฝ้ากลางห้องสื่อมวลชน บริเวณชั้น 1 ที่เป็นสถานที่ที่ใช้ในการแถลงข่าว และที่นั่งทำงานรวมสื่อมวลชนทุกแขนงที่ติดตามทำข่าวประจำพรรค โดยกล้องมีคุณสมบัติหมุนซูมลึกและส่ายรอบตัวได้ 360 องศา สัญญาณภาพจากกล้องถูกถ่ายทอดสดไปห้องคอนโทรลของฝ่ายอาคารและสถานที่ตลอด 24 ชั่วโมง

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการติดตั้งกล้องวงจรปิดในห้องสื่อมวลชนว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เป็นเรื่องของฝ่ายอาคารและสถานที่ของอาคารโอเอไอ ทาวเวอร์ พรรคเพื่อไทยได้ทำการเช่าสถานที่อยู่ในอาคารบางชั้น และบางชั้นมีสำนักงานเอกชนอื่นเช่าอยู่ โดยการติดกล้องวงจรปิดเพื่อการรักษาความปลอดภัย เพราะหลังจากที่พรรคเพื่อไทยเป็นพรรครัฐบาลปรากฏว่ามีคนเดินเข้าเดินออกพรรค พลุกพล่านมากกว่าปกติในสมัยเป็นฝ่ายค้านถึง 2-3 เท่าตัว จึงมีความกังวลบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอาจจะเล็ดลอดเข้ามาอยู่ในห้องผู้สื่อข่าวและอาจจะหยิบฉวยอะไรไปได้

เมื่อถามว่าบริเวณประตูทางเข้าออกห้องผู้สื่อข่าวก็มีการติดตั้งกล้องและมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลอยู่แล้ว นายพร้อมพงศ์ตอบว่า ที่ผ่านมาในห้องนี้เคยมีการวางสายและติดตั้งกล้องมาแล้ว แต่ใช้ไปนานๆ มีความเสียหายเกิดขึ้น ฝ่ายอาคารและสถานที่จึงติดตั้งใหม่ เพราะกังวลเรื่องทรัพย์สินของมีค่าของผู้สื่อข่าว หากสูญหายไปฝ่ายอาคารก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ

ต่อข้อถามว่าเป็นการคุกคามการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน นายพร้อมพงศ์ตอบว่า เป็นเรื่องของฝ่ายอาคารไม่เกี่ยวกับพรรค พรรคเพื่อไทยไม่ละเมิดสิทธิ์ของสื่อมวลชน ยืนยันว่าไม่มีการเซ็นเซอร์หรือตรวจสอบว่าใครเป็นแหล่งข่าวเดินเข้ามาให้ข่าวกับนักข่าวในห้องนี้ และไม่มีการถ่ายทอดเสียงอย่างแน่นอน เป็นการใช้เทคโนโลยีช่วยเพื่อรักษาทรัพย์สินเท่านั้น

นายปราเมศ เหล็กเพ็ชร์ รองเลขาธิการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวดูแล้วเข้าข่ายคุกคามการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนที่มาประจำพรรคเพื่อไทย เพราะตามปกติที่พรรคเพื่อไทยก็มีการติดกล้องวงจรปิดรอบบริเวณพรรคอยู่แล้ว ซึ่งสามารถจับภาพคนเข้าออกได้ตลอดเวลา และยังมี รปภ.ดูแลความปลอดภัยอย่างแน่นหนา ดังนั้น จะมาอ้างว่า เพื่อเพิ่มมาตรการการรักษาความปลอดภัยหรือดูแลทรัพย์สินของสื่อมวลชนก็คงไม่ใช่ จึงอยากเรียกร้องให้พรรคพิจารณาทบทวน ยกเลิกการติดตั้งกล้องดังกล่าว

สำนักงานบัญชีและธุรกิจ พี.เอ.แอล.,สำนักงานสอบบัญชี พีแอนด์อี
ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,จดทะเบียนธุรกิจ,วางระบบบัญชี