จากประชาชาติธุรกิจ

เป็นประเด็นร้อนมาได้ 2-3 สัปดาห์ สำหรับกรณีที่ "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกโรงขย่มธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้แทรกแซงค่าเงินบาทให้อ่อนค่าด้วยเหตุผล "เพื่อดูแลผู้ส่งออก"

แต่ การส่งสัญญาณของ รมว.คลัง ถูกหลายฝ่ายมองว่าไม่ใช่จังหวะที่เหมาะสักเท่าใด เพราะช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจเอเชียเติบโตดีกำลังดึงดูด "เงินร้อน" ต่างชาติให้ไหลเข้าทั่วภูมิภาค รวมถึงประเทศไทย เป็นสถานการณ์ยากยิ่ง ที่ ธปท.จะฝืนแทรกแซงให้ค่าเงินอยู่ในกรอบ 32-34 บาท/ดอลลาร์ ดังที่ รมว.คลังต้องการ

และน่าสังเกตว่าราว 1 ปีที่ผ่านมานี้ แม้เงินบาทผันผวนอย่างมาก แต่ผู้นำเข้าหรือส่งออกไม่ได้ออกมาเรียกร้องให้ ธปท.ต้องเข้าไปดูแล หรือแทรกแซงค่าเงินบาทแต่อย่างใด

 เตือนปล่อยบาทตามกลไก  

"บุญ ส่ง บุณยะสาระนันท์" รองผู้จัดการใหญ่ สายบริหารการเงิน ธนาคารกรุงเทพ กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงภาวะตลาดตอนนี้ว่า รอบนี้ค่อนข้างแปลก ที่ค่าเงินบาทผันผวนมากคือในเดือน ม.ค.-มี.ค. 3 เดือนนี้เงินบาทปรับตัวขึ้นลงในกรอบ 1.50 บาท/ดอลลาร์ แต่ผู้ส่งออก นำเข้า ไม่มีการออกมาโวยวายเลย

เขากล่าวว่า จากที่ได้ติดตามการเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนแปลงของตลาดเงิน ได้เห็นการปรับตัวของภาคธุรกิจไปค่อนข้างมาก ตลาดซื้อขายเงินตราที่ใหญ่ขึ้น มีผู้นำเข้า ส่งออกจำนวนมากเป็นผู้เล่น ทำให้ตลาดมีความสมดุล ความจำเป็นที่ ธปท.เข้าไปแทรกแซงมีน้อยลง

"ที่มีการออกมาให้ความ เห็นว่าอยากเห็นเงินบาทอ่อนระดับไหนก็ตาม ผมว่าไม่มีความจำเป็น เพราะตอนนี้ตลาดเอื้อให้ผู้ค้าในทุกระดับสามารถซื้อขายเงินได้ ปล่อยไปตามกลไกตลาดดีที่สุด เพราะถ้าไปยุ่งแล้วจะยุ่ง แต่ถ้าตลาดเคลื่อนไหวผิดปกติค่อยมาว่ากัน แต่สังเกตว่าตั้งแต่ต้นปีมานี้ เงินบาทขึ้นลง 1.50 บาท/ดอลลาร์ แต่ไม่มีเสียงร้องจากใครเลย" บุญส่งกล่าว

ตาม ความเห็นของผู้ที่ใกล้ชิดกับตลาดเงินแล้ว จะเห็นว่าจังหวะนี้ ผู้นำเข้า ส่งออกอาจไม่ได้ต้องการให้ ธปท.เข้าแทรกแซงดูแลอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้นการออกมาให้ความเห็นของ รมว.คลัง จึงกำลังถูกตีความว่า เป็นเกมเขย่าเก้าอี้ของ "ประสาร ไตรรัตน์วรกุล" ผู้ว่าการ ธปท. ในช่วงที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญใน "รั้วบางขุนพรหม"

 ปมร้อนประธานบอร์ด ธปท.

สิ้น เดือน เม.ย. 2555 ตำแหน่งประธานคณะกรรมการ ธปท. (บอร์ด ธปท.) ซึ่งปัจจุบัน ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล นั่งอยู่ จะหมดวาระลงพร้อมกับกรรมการอีก2 คน ช่วงนี้จึงเป็นระยะเวลาของการสรรหาผู้เข้ามาดำรงตำแหน่งแทน

ทั้งนี้ แม้คณะกรรมการ ธปท. จะไม่มีบทบาทบริหารจัดการ ธปท. รวมถึงมีส่วนร่วมในกระบวนการกำหนดนโยบายหลักของ ธปท. คือนโยบายการเงิน และนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนโดยตรง แต่สามารถ "ให้ข้อเสนอแนะ" ในเชิงนโยบายได้ ดังนั้น ฝ่ายการเมืองต้องการส่งคนของตัวเองเข้ามานั่งในตำแหน่งประธานและกรรมการ โดยในกระบวนการสรรหาประธานบอร์ด และบอร์ด ธปท. ผู้ว่าการ ธปท.ถือเป็น"การวางหมาก" สำคัญเช่นเดียวกัน เพราะตามขั้นตอนแล้ว ผู้ว่าการ ธปท.จะเป็นผู้เสนอชื่อผู้รับการคัดเลือกจำนวน 2 เท่าของตำแหน่งที่ว่างลง ส่วนปลัดกระทรวงการคลังเสนอได้ 1 เท่า โดยจะเสนอผู้มีความเหมาะสมต่อคณะกรรมการสรรหาบอร์ด ธปท.

หมายความ ว่าการสรรหาครั้งนี้ ผู้ว่าการ ธปท.สามารถเสนอชื่อผู้ที่จะรับเลือกเป็นประธานบอร์ด ธปท.ได้ 2 คน ผู้รับเลือกเป็นกรรมการได้ 4 คน ส่วนปลัดกระทรวงการคลังเสนอได้ 1 คน และ 2 คน ตามลำดับ

ดังนั้นแม้โผคณะกรรมการสรรหาฯที่ออกมาเมื่อไม่นานมานี้ จะถูกระบุว่า ส่วนใหญ่แล้วมีความใกล้ชิดกับสายพรรคเพื่อไทย แต่ทางเลือกของคณะกรรมการสรรหาฯ ก็มีผู้ว่าการ ธปท. และปลัดกระทรวงการคลังเป็นผู้กำหนด

 บอร์ดสรรหาใกล้ชิดเพื่อไทย

ทั้ง นี้ คณะกรรมการสรรหาฯทั้ง 7 คน ได้แก่ 1.นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ซึ่งเคยถูกปลดออกจากราชการ จากกรณีเป็นหนึ่งในคณะกรรมการคัดเลือกข้าราชการดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรม สรรพากร เมื่อปี 2544 เป็นไปโดยมิชอบ แต่นายศุภรัตน์ได้รับอภัยโทษในเดือน ต.ค. 2554 ที่ผ่านมา

2.นายพรชัย นุชสุวรรณ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และอดีตผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ หนึ่งในรัฐมนตรีที่เคยถูกฟ้องร้องในคดีหวยบนดิน

3.นายศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร ซึ่งเคยต้องออกจากราชการ จากกรณีละเลยการจัดเก็บภาษีการซื้อขายหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น แต่ต่อมาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้ยกฟ้องกรณีนี้ไปเมื่อ พ.ศ. 2552

4.นายสวัสดิภาพ กันทาธรรม อดีตสมาชิกวุฒิสภา และผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ

5.นายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

6.นายพนัส สิมะเสถียร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และปลัดกระทรวงการคลัง และ 7.นายปรีชา อรรถวิภัชน์ อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม

การ ที่ผู้ว่าการ ธปท. มีโควตาในการเสนอผู้ที่จะเข้ารับการสรรหา ในสัดส่วนที่มากกว่าปลัดกระทรวงการคลังอยู่ 1 เท่าตัว การที่ "กิตติรัตน์" พยายามออกมาให้ความเห็นกรณีอยากให้ค่าเงินบาทอ่อน ในจังหวะที่ใคร ๆ ก็มองว่า "ไม่เหมาะ" โดยสังเกตว่าค่าเงินบาท

ไม่ได้ตอบรับการส่ง สัญญาณของ รมว.คลัง เห็นได้จาก 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.65-30.85 บาท/ดอลลาร์ และปิดตลาดล่าสุด ณ วันที่ 2 เม.ย. 2555 ที่ 30.75 บาท/ดอลลาร์ ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงก่อนหน้าการให้ความเห็นของ รมว.คลัง มากนัก

การ เคลื่อนไหวของรองนายกรัฐมนตรีฯจึงถูกตีความว่า มีวาระซ่อนเร้นมากกว่าที่บอกว่าต้องการอุ้มผู้ส่งออกหรือไม่ และเป้าประสงค์นั้นก็คือการส่งสัญญาณถึง "ประสาร" ในช่วงเปลี่ยนผ่านตำแหน่งสำคัญในรั้วบางขุนพรหม

การลงทุนออกตัวขย่ม ธปท. ของ รมว.คลัง รอบนี้ จะคุ้มกับการที่ถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากเพียงใด จะสามารถส่งคนของสายเพื่อไทย เข้าไปนั่งในองค์กรที่ (น่าจะ) เป็นอิสระที่สุดในเวลานี้ อย่าง ธปท.ได้หรือไม่ อีกไม่เกิน 1 เดือนต่อจากนี้ ผลการสรรหาจะออกมาให้เห็นรูปร่างอย่างแน่นอน

สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน