สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ตั้ง บุญเชิด อธิบดีที่ดินคนดังพท.-สัมพันธ์ทุกก๊วน

จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...สุภชาติ เล็บนาค

ในที่สุด ก็ถึงเวลาสำหรับการโยกย้ายล็อตเล็ก ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน เม.ย. โดยการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 เม.ย. ยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย นั่งเป็นประธานการประชุม (ครม.) กุมบังเหียนด้วยตัวเอง และนำบัญชีโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัด (ผวจ.) และอธิบดีเสนอต่อ ครม.อย่างสะดวกโยธิน

เป้าที่น่าจับตามอง หนีไม่พ้น ตำแหน่งของ “บุญเชิด คิดเห็น” ผวจ.ลำปาง ที่เพิ่งได้รับตำแหน่งเมื่อปลายเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ถูกผลักดันให้ขึ้นไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดินในทันทีทันใด และย้าย อนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ อธิบดีกรมที่ดิน ซึ่งเหลืออายุราชการอีกไม่ถึง 6 เดือน เข้าไปเกษียณอายุราชการในตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทยแทน

จับสายทางการเติบโตทางราชการ ของ บุญเชิด พบว่า เป็นลูกหม้อกรม ที่ดินในตำแหน่ง นายช่างจัตวา ประจำสำนักงานที่ดินบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา มาตั้งแต่ปี 2515 และเติบใหญ่มาจากสำนักงานที่ดินจังหวัด แตกต่างจากเส้นทางของผู้ว่าราชการจังหวัดคนอื่น ที่เคยเป็นปลัดอำเภอ นายอำเภอ หรือรอง ผวจ. เพราะบุญเชิดนั้น รับราชการในกรมที่ดิน มาตลอด 40 ปี แน่นอนว่าเขาย่อมรู้งานในกรมที่ดินทุกซอกทุกอณู

แต่หากถามว่า แตกต่างจาก อนุวัฒน์เมธีวิบูลวุฒิ อธิบดีคนเดิมหรือไม่ ต้องตอบว่าประสบการณ์ของ อนุวัฒน์ นั้นเหนือกว่ามาก เพราะแม้ อนุวัฒน์ จะเริ่มต้นอาชีพราชการด้วยตำแหน่งนายช่างเช่นเดียวกันกับ บุญเชิด แต่ อนุวัฒน์ นั้นผ่านการเป็นทั้งรองผู้ว่าราชการจังหวัดมาแล้ว 2 จังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัดมาแล้วถึง 3 จังหวัด ใน จ.พังงา จ.สมุทรสาคร และจ.สมุทรปราการ ก่อนจะขึ้นมานั่งเป็นอธิบดีกรมที่ดินในรัฐบาลพรรคพลังประชาชน สมัย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนั้นหลายคนก็ลือกันว่าเหตุที่ อนุวัฒน์ ได้ขึ้นเป็นเพราะสายสัมพันธ์อันดีระหว่าง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยาของ สมชาย และตัว อนุวัฒน์ เอง

ทว่า เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นเป็นรัฐบาล และพรรคภูมิใจไทยแผ่อำนาจปกคลุมกระทรวงมหาดไทย กรมที่ดิน ก็อยู่ในอำนาจการดูแลของถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย จากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งทั้งคู่ก็ทำงานเข้าขากันได้ดี ทำให้อีกฝ่าย โยง อนุวัฒน์ ว่าเป็นส่วนหนึ่งของพรรคประชาธิปัตย์

 

เพราะเหตุใด อนุวัฒน์ จึงถูกโยกย้ายก่อนเกษียณอายุราชการ เป็นคำถามใหญ่ที่เกิดขึ้นภายในกระทรวงมหาดไทย เพราะนอกจาก อนุวัฒน์ จะเป็นลูกหม้อกรมที่ดินแล้ว เขายังเป็นลูกน้องคนสนิทของ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ มท.1 คนปัจจุบันสมัยเป็นอธิบดีกรมที่ดิน และสนิทสนมแนบแน่นกับ ยงยุทธ ตั้งแต่ ยงยุทธ เริ่มรับตำแหน่ง มท.1

คำตอบที่ออกมาจากภายในพรรคเพื่อไทยพบว่า อนุวัฒน์ ไม่ได้สนองตอบการทำงานเพียงพอ ในยุคที่การเมืองเข้าไปล้วงลูกในทุกเรื่อง เพราะอำนาจและผลประโยชน์ภายในกรมที่ดินนั้นมหาศาล เรียกได้ว่ากลับขาวเป็นดำ กลับดำเป็นขาวได้ และยิ่งเปรียบเทียบกับ บุญเชิด ที่มีกำลังภายใน สนิทชิดเชื้อกับคนในพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่ระดับแกนนำพรรคอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ไปจนถึงเบื้องหลังพรรคอีกหลายคน ทั้งที่อยู่ในบ้านเลขที่ 111 และในกรรมการบริหารพรรคชุดนี้บุญเชิด ก็เคยคุยด้วยหมดทำให้เขาย่อมมีภาษีเหนือกว่ามาก

ผลงานหนึ่งของ บุญเชิด ที่สะท้อนชัดก็คือ การบี้ สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในเรื่องการออกเอกสารสิทธิเหนือที่ดินเขาแพง บน อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ทั้งที่อยู่ภายใต้รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์จนทำเอา สุเทพ แทบไปไม่เป็นนั้น ถูกอกถูกใจสมาชิกพรรคเพื่อไทยอย่างมาก จนต้องตอบแทนด้วยการไปเป็น ผวจ.ลำปาง เมื่อปลายปีก่อน

ส่วนกระแสสังคมและความเหมาะสมนั้น ภายในพรรคหารือกันแล้วว่า หากให้ บุญเชิด เป็นคงไม่น่าเกลียด เพราะตอน บุญเชิด เป็นรองอธิบดี ก็ถือเป็นรองอธิบดีที่อาวุโสมากที่สุด เตรียมจ่อขึ้นอธิบดีได้ทุกเวลาแต่จังหวะไม่เป็นใจ เลยย้ายออกไปเป็น ผวจ.เสียก่อนสุดท้าย อนุวัฒน์ ก็เลยเป็นฝ่ายพ่าย ถูกย้ายไปเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่เพิ่งเปิดตำแหน่งเพิ่มขึ้นมาใหม่แบบบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น

ส่วนตำแหน่งที่น่าสนใจอีกหนึ่งตำแหน่งก็คือ เชิดศักดิ์ ชูศรี ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ที่เคยถูกป้ายสีว่าเป็นเด็กของพรรคภูมิใจไทย มาโดยตลอด เพราะเชิดศักดิ์เคยเป็น ผวจ.บุรีรัมย์ ก่อนจะย้ายมาเป็น ผวจ.สมุทรปราการ จังหวัดใหญ่ในสมัย ชวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็น มท.1 จนถูกย้ายเข้ากรุเมื่อครั้งก่อน กลับได้ดิบได้ดี ออกมารับตำแหน่ง ผวจ.สุราษฎร์ธานี อีกครั้ง ก่อนเกษียณอายุราชการในเดือน ต.ค. โดยให้ ธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผวจ.สุราษฎร์ธานี คนใกล้ชิด สุเทพเทือกสุบรรณ ขึ้นไปนั่งเป็น ผวจ.ตรัง ซึ่งเป็นจังหวัดเล็กกว่าแทน

คนในพรรคเพื่อไทย ให้เหตุผลของการย้าย เชิดศักดิ์ ว่า เป็นเพราะประทับใจในการเตรียมความพร้อม จ.สมุทรปราการ ทำให้รอดพ้นจากน้ำท่วมมาเมื่อปีก่อน เพราะฉะนั้น ถือว่าไม่ขี้เหร่ หากจะให้ไปเกษียณในจังหวัดใหญ่อย่าง จ.สุราษฎร์ธานี อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หวังไปถึงขั้นจะสร้างฐานเสียงให้กับบ้านเกิดของยงยุทธ เพราะมีเวลาอีกเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น

ขณะที่ตำแหน่ง ผวจ.ระยอง ของ ธวัชชัย เทอดเผ่าไทย ที่ถูก ปิยะ ปิตุเตชะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยองก่อม็อบไล่หลายครั้ง เนื่องจากสงสัยว่าเกี่ยวพันกับการบริหารงานไม่โปร่งใสในองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น ก็ถูกย้ายไปดำรงตำแหน่งในจังหวัดที่ใหญ่ขึ้นใน จ.ลำปาง แทน ตรงตามที่ ยงยุทธ เคยให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า หากผลสอบสวนแล้วไม่ผิด ก็คงจะให้ธวัชชัย ไปดำรงตำแหน่งในจังหวัดที่ใหญ่ขึ้น และให้ เสนีย์ จิตตเกษม ผวจ.ตรัง ขึ้นมาเป็น ผวจ.ระยอง แทน

ส่วนการย้ายสลับ สมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผวจ.ร้อยเอ็ด เข้าไปเป็นผู้ตรวจฯ นั้น ก็ ถือว่าไม่ผิดธรรมเนียมประเพณีเท่าใด เพราะ สมศักดิ์ นั้นมีอายุราชการยาวนานถึงปี 2560 ถือว่ายังรอกลับมาเป็น ผวจ.ได้อีก จึงให้ วันชาติวงษ์ชัยชนะ ผู้ตรวจฯ ไปเป็น ผวจ.ร้อยเอ็ด แทน

นอกนั้น ชัยโรจน์ มีแดง ผวจ.นครสวรรค์ ไปเป็น ผวจ.พิษณุโลก สลับกับ ปรีชา เรืองจันทร์ ผวจ.พิษณุโลก มาเป็น ผวจ.นครสวรรค์ แทน ถือว่าเป็นการโยกย้ายตามวงรอบ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น

สุดท้าย สัจธรรมการแต่งตั้งโยกย้ายภายในกระทรวงก็หนีไม่พ้น สายสัมพันธ์ระหว่างข้าราชการและพรรคการเมือง ที่เป็นตัวส่งสำคัญในการขึ้นสู่ตำแหน่งใหญ่ แต่การโยกย้ายครั้งนี้ คงไม่สำคัญเท่าห้วงเวลาเดือน ต.ค. ที่ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่ พระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย แท็กทีมรองปลัดฯ อีก 2 คน ร่วมด้วยอธิบดีอีก 2 คน และผู้ว่าราชการจังหวัดอีกเกิน 10 คน เกษียณอายุราชการไปพร้อมกัน ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดเริ่มขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดแล้ว สำคัญอยู่ที่ว่าเมื่อถึงวันนั้น ยงยุทธ จะอยู่ได้ถึงหรือไม่ หรือจะถูกย้ายพ้นเก้าอี้ รมว.มหาดไทย ไปก่อน


สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : บุญเชิด อธิบดีที่ดินคนดัง พท. สัมพันธ์ทุกก๊วน

view