ปิยสวัสดิ์'เผยเหตุถูกเด้งพ้นดีดี จี้ถาม'อำพน'
จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
"ปิยสวัสดิ์"แจงถูกเด้งพ้นดีดีมีประเด็นใหม่โยงจัดซื้อฝูงเครื่องบิน แต่ไม่น่าจะเป็นความขัดแย้ง เหตุครม.อนุมัติแผน ลั่นเรื่องใดให้ไปถาม"อำพน"
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ให้สัมภาษณ์ "สถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ รายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์" หลังจากพ้นตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า ได้เกิดมีประเด็นใหม่ขึ้นมาเกี่ยวกับการจัดซื้อฝูงเครื่องบินฝูงใหม่ของบริษัทการบินไทย ซึ่งส่วนตัวแล้วไม่คิดว่าเรื่องนี้ ไม่น่าจะเป็นที่จะมาขัดแย้งอะไรกัน เพราะในเดือนเมษายนปีที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติแผนการจัดหาเครื่องบินจำนวน 75 ลำ สำหรับแผนในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นส่วนของโครงการในปี 2560 มีจำนวน 37 ลำ และปี 2561- 2565 อีกจำนวน 38 ลำ ซึ่งเราเรื่องนี้เราได้มีการดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว ซึ่งในโครงการปี 2018 -22 ก็จะเป็นโครงการต่อไปที่เรากำลังจะดำเนินการต่อไป
โดยในเครื่องบินจำนวน 38 ลำ เราจะมาดำเนินการแบบกระชั้นชิดใกล้ปี 2018 มากเกินไปก็ไม่ได้ เพราะเครื่องบินมันจะไม่มี เนื่องจากการจัดเครื่องบินดังกล่าวจะต้องมีการจองในระยะยาว ดังนั้นเราจึงจะต้องดำเนินการจัดหาเครื่องบินก่อนปี 2018 เพราะเครื่องบินที่จะจัดหามีจำนวนน้อย เรื่องทุกอย่างได้มีการจัดทำรายละเอียดเสนอคณะกรรมการบริหารไปแล้ว แต่ไม่ได้มีการนำเรื่องเสนอเข้าไปยังบอร์ด โดยคณะกรรมการบริหารในชุดนั้นมีทั้งดร.ประวิตร รัตนเพียร เป็นประธาน ก็ได้ให้ความเห็นชอบ แต่ไม่ได้มีการนำเสนอเข้าบอร์ด รวมทั้งในตอนนั้นฐานะการเงินของบริษัทการบินไทย มีฐานะการเงินไม่ค่อยดี ก็ทำให้เรื่องต่างๆ ก็ได้เงียบไป
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวต่อว่า มาในปีนี้เราเห็นว่าเรื่องดังกล่าวควรจะต้องเริ่มดำเนินการใหม่ได้แล้ว เนื่องจากเราเห็นว่าหากไม่เริ่มดำเนินการในตอนนี้ อาจจะทำให้มีปัญหาไม่สามารถจัดหาเครื่องบินได้ จึงได้ทำเรื่องเสนอเข้าไปยังกรรมการบริหาร และได้นำเรื่องเสนอบอร์ดชุดใหญ่ ว่าเราจะมีการดำเนินการจัดหาเครื่องบินในโครงการที่สองแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือช่วงแรกจำนวน 12 ลำ และที่เหลืออีก 26 ลำ จะเป็นการดำเนินการในช่วงที่สอง แต่ทางประธานบอร์ดได้บอก กลับมาว่าในตอนนี้ฐานะการเงินของการบริษัทการบินไทยมีฐานะการเงินที่ไม่ค่อยดี และยังมีความเสี่ยง จึงไม่อยากให้มีการจัดหา รวมทั้งมีการพูดถึงว่าควรจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีใหม่อีกหรือไม่
โดยได้บอกว่าเรื่องนี้ไม่ควรที่จะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของครม.อีก เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องระยะยาว และเมื่อปีที่ผ่านเรามีปัญหาเรื่องน้ำท่วม และในปีนี้ทุกได้มีการฟื้นสภาพกลับคืนมาแล้ว ดังนั้นฐานะการเงินในไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
" ผมขอเรียนว่าเรื่องการจัดหาเครื่องบินนั้น จนถึงเวลานี้เรายังไม่มีการพิจารณาลงรายละเอียด มีแต่เพียงขอหลักการเท่านั้น เพื่อเราจะนำไปทำรายละเอียด ดังนั้นทางบอร์ดก็บอกมาว่าให้กรรมการบริหารความเสี่ยงเข้าไปดูในสองประเด็น คือ หากมีการจัดหาเครื่องบินดังกล่าวจะทำให้เกิดความเสี่ยงหรือไม่ สอง จะต้องนำเรื่องนั้เสนอเข้าครม.หรือไม่ โดยหลังจากกรรมการบริหารความเสี่ยงไปตรวจสอบ ก็มีความเห็นว่าเรื่องเรื่องความเสี่ยงไม่มีปัญหา เห็นควรให้ดำนินการจัดหาเครื่องบินจำนวน 38 ลำต่อไป ส่วนเรื่องจะต้องเสนอเรื่องนี้ไปยังครม.หรือไม่นั้น กรรมการบริหารความเสี่ยงเห็นว่าไม่จำเป็นจะต้องเสนอเรื่องเข้าไปยังครม. แต่มาตอนหลังหนึ่งในคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง คงจะได้รับสัญญาณอะไรลงมา จึงกลับความเห็นว่าควรจะต้องนำเรื่องเสนอครม.ให้พิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง ซึ่งผมเองก็บอกไปว่าไม่มีปัญหา ดังนั้นเรื่องการจัดหาเครื่องบินไม่น่าจะมีปัญหาอะไร โดยเรื่องการจัดหาเครื่องบิน จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการลงไปในรายละเอียดว่าจะใช้เป็นเครื่องรุ่นนี้รุ่นนั้นแต่อย่างใด " นายปิยสวัสดิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ในที่ประชุมบอร์ดได้มีการกล่าวกันว่าในประชุมบอร์ด มีนายปิยสวัสดิ์เพียงคนเดียวที่คัดค้านไม่ให้นำเรื่องการจัดหาเครื่องบินในโครงการเข้าสู่การพิจารณาของครม. แต่บอร์ดที่เหลือ 14 มีความเห็นด้วยที่จะให้นำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของครม. นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า การประชุมบอร์ดในเดือนมีนาคม ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องดังกล่าว ซึ่งตนได้เสนอความเห็นว่าไม่ควรเสนอเข้าจริง ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้ผ่านตรวจสอบของกรรมการบริหารความเสี่ยงแล้ว แต่หากจะให้มีการเสนอเรื่องเข้าสู่ครม. ตนก็ไม่ว่าอะไร ดังนั้นหากตนมีปัญหาเรื่องการสื่อสารระหว่างตนกับบอร์ดเรื่องเครื่องบิน ตนก็อยากจะตั้งคำถามกลับไปว่าการเอานายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ และทำหน้ารักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ มานั่งเป็นประธานมารักษาบีบีทำไม ในเมื่อตัวของนายโชคชัยเป็นประธานในการจัดหาเครื่องบิน
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้จะมีเรื่องเกี่ยวกับผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้จะมีความเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ และการที่ตนมานั่งอยู่ตรงนี้จะทำให้เกะกะอะไรหรือไม่ตนไม่สามารถบอกได้ อย่างไรก็ตามตนขอยืนยันว่าการจัดซื้อเครื่องบินดังกล่าวยังไม่มีการพิจารณาลงรายละเอียดแต่อย่างใดเลย
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การลงโทษพนักงานฝ่ายช่างเกี่ยวกับการขายเครื่องยนต์เครื่องบิน นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า เรื่องเป็นเรื่องของกรรมการสอบสวนที่จะลงไปดู เรื่องนี้ขอบอกได้ว่าเป็นเรื่องของเครื่องยนต์ได้หายไป ดังนั้นคิดการเลิกจ้างไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ส่วนจะเป็นเรื่องใดนั้นคงจะต้องไปถามบอร์ดเอาเอง ถามประธานอำพนเอาเอง เพราะตนไม่อยากจะพูดอะไรในเรื่องนี้
'อภิสิทธิ์'ยันปลด'ปิยสวัสดิ์'กระทบความเชื่อมั่น
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
"อภิสิทธิ์"แจงปลด"ปิยสวัสดิ์" ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือขององค์กรต่อชาวต่างชาติ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทาง Blue Sky Channel ถึงเหตุผลการปลดการปลด นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ออกจากตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย ที่นายกิติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าการปลดดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ว่า ขณะนี้เริ่มมีการให้ความเห็นแตกประเด็นออกไป แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ การปลดครั้งนี้จะมาอ้างว่าเป็นเพราะนายปิยสวัสดิ์ปฏิบัติหน้าที่ไม่มีประสิทธิภาพไม่ได้ เพราะผลการประเมินนั้นออกมาได้คะแนน 86% ซึ่งเดิมบอกว่า เกิดจากความขัดแย้ง แต่วันนี้รัฐมนตรีว่าการคมนาคม ระบุว่า มีปัญหาเกี่ยวกับการซื้อเครื่องบิน ซึ่งมันคนละเรื่องกับการสื่อสารขององค์กร
ทางฝ่ายค้านกำลังตรวจสอบอยู่ว่า สาเหตุจริงเกิตจากอะไร ถ้ามันกรณีที่ใครไปขัดขวางนโยบายหรือว่าทำให้งานมันเดินไม่ได้ตรงตนก็เข้าใจ แต่ผลการประเมินชัดเจนเพราะมีการเปลี่ยนแปลงฐานะของบริษัทดีขึ้นอย่างชัดเจน การปลดนายปิยะสวัสดิ์ดูแล้วไม่เป็นผลดีต่อภาพรวม โดยเฉพาะความน่าเชื่อถือขององค์กรต่อชาวต่างชาติ ที่บริหารงานแล้วทำให้บริษัทดีขึ้นแต่กลับไม่สามารถดำรงอยู่ในตำแหน่งต่อไปได้ ซึ่งจะเกิดคำถามเกี่ยวกับระบบการบริหารจัดการในประเทศของเราแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่ารองนายกรัฐมนตรีระบุว่า ไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เป็นเรื่องของการบริหารภายในบริษัท นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า แทนที่จะออกมาบอกว่าเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่กระทรวงการคลัง หรือกระทรวงคมนาคม ควรจะเข้าไปดูว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมีผลกระทบกับบริษัท หรือกระทบต่อการบริหารจัดการอย่างไร เนื่องจาการปลดครั้งนี้มีผลกระทบต่อบริษัทและแนวทางการบริหารในอนาคต ไม่ใช่แค่บอกว่า ไม่เกี่ยวกับการเมือง ซึ่งประธานบอร์ดจะต้องออกมาชี้แจงให้ชัดเพื่อความโปร่งใส เพราะหากว่า ให้คนอื่นหรือรัฐมนตรีออกมาชี้แจงแทนก็อาจจะเป็นคนละเรื่องกัน
“เรื่องการจัดซื้อจัดจ้างขนาดใหญ่ มันก็มีผลประโยชน์อยู่แล้ว แต่ผมคิดว่าในช่วงที่คุณปิยสวัสดิ์เข้ามาทำงานนั้น ก็ได้ริเริ่มอะไรหลายอย่าง ที่เปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดซื้อ เครื่องบินมาในลักษณะที่ไม่ได้มีการล็อคสเปค ทำให้ต้นทุนการซื้อต่ำกว่าที่เคยมีมา”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
“เพรียวพันธ์” ผงาดนั่งรอง ปธ.บอร์ดบินไทย “แจ่มศรี” ไม่ขัดคนใกล้ชิด “ปู” ดันเข้าเสียบ
จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
บอร์ด “บินไทย” แต่งตั้ง “เพรียวพันธ์-อารีพงศ์” นั่งเก้าอี้รอง ปธ.บอร์ด “แจ่มศรี” กระทุ้งรัฐบาลบีบ “อำพน” แจงเหตุผลสั่งเด้ง “ปิยสวัสดิ์” ท้าให้ออกมาเปิดเผยแบบ “ลูกผู้ชาย” ขีดเส้นตาย 3 วัน แต่หากยังหลบหนีความจริงก็แสดงให้เห็นว่าไม่มีภาวะผู้นำ อัดซ้ำคนที่ไม่กล้าเผชิญความจริงก็ไม่สมควรเป็นผู้นำองค์กรใหญ่ เพราะสหภาพฯ การบินไทยถือเป็น รัฐวิสาหกิจชั้นดี ต้องการเรียกร้องความถูกต้องให้สังคมรับรู้ ลั่นไม่ติดใจหากคนใกล้ชิด “นายกฯ ปู” ดันเข้าเสียบแทน
มีรายงานข่าวว่า บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ถึงผลประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา มีมติยกเลิกสัญญาว่าจ้างนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2555
ทั้งนี้ มติดังกล่าวมีผลให้พ้นจากตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และคณะกรรมการบริษัทฯ ยังได้มีมติให้นายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ ปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2555 จนกว่าการสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่จะแล้วเสร็จ นอกจากนี้ ได้แต่งตั้งกรรมการตรวจสอบจำนวน 3 คน มีผลตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน 2555 เป็นต้นไป ดังนี้
1. นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ ประธานกรรมการตรวจสอบ
2. นายวีระวงค์ จิตต์มิตรภาพ กรรมการตรวจสอบ
3. นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี กรรมการตรวจสอบ
รวมทั้ง แต่งตั้งรองประธานกรรมการบริษัทฯ เพิ่มเติม มีผลตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2555
1. นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม รองประธานกรรมการ
2. พลตำรวจเอก เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองประธานกรรมการ
ขณะที่นางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย กล่าวถึงการเดินทางไปหน้าทำเนียบรัฐบาลเมื่อเช้าวันนี้ โดยระบุว่าเป็นการแสดงท่าทีเพื่อเรียกร้องต่อรัฐบาลสั่งให้นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และประธานกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จัดการประชุมชี้แจงพนักงานบริษัทเป็นการด่วน กรณีบอร์ดการบินไทยมีมติเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา ให้เลิกจ้างนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) การบินไทย ด้วยเหตุผลสื่อสารไม่เป็นเอกภาพ เนื่องจากเป็นที่กังขาของพนักงานกว่า 27,000 คน
โดยการเข้ายื่นหนังสือในวันนี้ได้มีนายอำนาจ พัวเวส ผู้อำนวยการสำนักนิติธรรม รักษาการที่ปรึกษาสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) มารับหนังสือแทนนายอำพนที่ติดราชการที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมรับปากว่าจะนำเรื่องดังกล่าวแจ้งนายอำพนโดยเร็วที่สุด
นางแจ่มศรีกล่าวเสริมว่า มติของสหภาพฯ ขอให้ชี้แจงความจริงถึงเหตุผลที่แท้จริงให้ชัดเจน เพราะเหตุผลดังกล่าวไม่สามารถเข้าใจได้ และขัดต่อความจริงที่พนักงานรับทราบ คือ ผลการประเมินนายปิยสวัสดิ์อยู่ในเกณฑ์ดีมาก โดยในปี 2554 ผ่านการประเมินผลงานด้วยคะแนน 4.36 จากคะแนนเต็ม 5 หรือคิดเป็นร้อยละ 87.2 อีกทั้งผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2555 มีกำไร 3,645 ล้านบาท และกำไรจากการประกันความเสี่ยงน้ำมัน 900 ล้านบาท รวม 4,545 ล้านบาท และที่ผ่านมาการมอบนโยบายต่างๆ เพื่อนำไปบริหารจัดการไม่เคยมีความขัดแย้ง
นอกจากนี้ บอร์ดการบินไทยยังแขวนตำแหน่งนายสาธก วรศะริน รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายทรัพยากรบุคคลและบริหารทั่วไป และให้นายนิรุจน์ มณีพันธ์ รักษาการแทน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าอาจมีความพยายามแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายและการสอบสวน การทุจริต ดังนั้น ปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นควรมีคำตอบที่ชัดเจน เพื่อให้ผู้ถือหุ้นและประชาชนผู้เป็นเจ้าของการบินไทยได้มั่นใจในการบริหาร ที่มีธรรมาภิบาล
ประธานสหภาพฯ การบินไทยกล่าวด้วยว่า หากนายอำพนยังหลบหนีความจริง ก็แสดงให้เห็นว่าไม่มีภาวะผู้นำ คนที่ไม่กล้าเผชิญความจริงก็ไม่สมควรเป็นผู้นำองค์กรใหญ่เช่นนี้ เพราะสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยเป็นรัฐวิสาหกิจชั้นดี เราต้องการเรียกร้องความถูกต้องให้สังคมรับรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ถูกต้อง โดยจะให้เวลานายอำพน 3 วันในการชี้แจงพนักงาน หากเหตุผลฟังไม่ขึ้น นายอำพนก็ไม่มีความชอบธรรมที่จะเป็นประธานบอร์ดอีกต่อไป แต่หากครบกำหนดแล้วไม่มีการชี้แจงก็จะกำหนดแนวทางเคลื่อนไหวต่อไป
“ที่ผ่านมามาตรการลดค่าใช้จ่าย บอร์ดก็สั่งให้ลด 17% พนักงานก็เดือดร้อน ผู้บริหารจะขอให้ขึ้นเงินเดือนพนักงาน บอร์ดก็ไม่ให้ขึ้น ทั้งที่พนักงานทำรายได้ให้กับบริษัทต้องได้รับผลกระทบทุกอย่าง แต่บอร์ดลอยตัวไม่เคยได้รับผลกระทบอะไรเลย และนายอำพนไม่เคยลงมาชี้แจงกับพนักงานเลยแม้แต่ครั้งเดียว”
ส่วนกระแสข่าวที่สะพัดว่าจะมีคนใกล้ชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะมาเป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนต่อไปนั้น นางแจ่มศรีกล่าวว่า เราเชื่อมั่นรัฐบาล ถ้าคิดว่านายอำพนมีปัญหากับพนักงานก็ขอให้หาใครคนอื่นมาก็ได้ รัฐวิสาหกิจเป็นเรื่องที่อยู่กับการเมืองตลอด ฉะนั้น เรื่องนี้สหภาพฯ รู้สึกเฉยๆ ใครจะมาเป็นก็ได้แต่ขอให้มีความรับผิดชอบและมีความชัดเจนอย่างนายปิยสวัสดิ์
ปูโยนคมนาคมเคลียร์สหภาพบินไทย
จาก โพสต์ทูเดย์
นายกรัฐมนตรี สั่ง รมว.คมนาคม-บอร์ด แจงสหภาพการบินไทย ปมปลด ปิยสวัสดิ์ เชื่อคุยกันได้
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย ยื่นหนังสือเพื่อขอคำชี้แจงในการเลือกจ้างนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่าส่วนนี้คณะรัฐมนตรี หรือรัฐบาล คงไม่สามารถชี้แจงข้อมูลได้ ต้องให้ทางบอร์ดเป็นผู้ชี้แจง ซึ่งมติเป็นเอกฉันท์ ก็ต้องเคารพการตัดสินใจ ทั้งนี้ได้ให้ทางนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ช่วยดูแลให้เกิดความเป็นธรรม และสื่อสารให้เข้าใจมากที่สุด
เมื่อถามจะเกิดปัญหาบานปลายหรือไม่ เพราะทางสหภาพยืนยันต้องการคำชี้แจง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องฝากทางกระทรวงคมนาคม ชี้แจงกับทางสหภาพ ซึ่งการทำงานทุกอย่างอาจมีบางส่วนไม่เข้าใจกันบ้าง ขอให้ทุกฝ่ายพูดคุยกัน เชื่อว่าคนไทยทุกคนมีความหวังดีต่อองค์กร ประเทศชาติ ต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันให้ดี ทั้งนี้ ยังไม่ทราบเรื่องที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจจะออกมาเคลื่อนไหว แต่ไม่ต้องการให้มีการเคลื่อนไหว อยากให้พูดจากัน ซึ่งเชื่อว่าจะพูดคุยกันได้
บินไทยจี้'อำพน'แจงเหตุปลด'ปิยสวัสดิ์'
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
)สหภาพบินไทยจี้"อำพน"แจงปลด"ปิยสวัสดิ์" ต้องโปร่งใส อธิบายสังคมเข้าใจได้
นางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย พร้อมด้วยพนักงานบริษัทการบินไทย จำกัด(มหาชน) ประมาณ 20 คน เดินทางมาที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายอําพน กิตติอําพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อขอให้ชี้แจงเหตุผลจากกรณีประชุมคณะกรรมการบริษัทการบินไทยมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เลิกจ้างนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัทการบินไทย พร้อมทั้งแต่งตั้งนายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ การบินไทย รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ มีผลตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.เป็นต้นไป และให้เร่งสรรหาคนใหม่ให้แล้วเสร็จภายใน 2 - 3 เดือน โดยมีนายอำนาจ พัวเวศ ผู้อำนวยการสำนักนิติธรรม ที่ปรึกษาพิเศษสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี รับหนังสือแทนโดยให้เหตุผลว่านายอำพล ติดภารกิจราชการที่จ.เชียงใหม่
นางแจ่มศรี กล่าวว่า เหตุผลของคณะกรรมการในการปลดนายปิยสวัสดิ์ ที่ว่าเนื่องจากการสื่อสารที่ไม่เป็นเอกภาพนั้น เหตุผลดังกล่าวพนักงานไม่สามารถเข้าใจได้ เพราะจากข้อเท็จที่พนักงานได้รับทราบจากกรรมการบริษัทฯคือผลการประเมินกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อยู่ในเกณฑ์ดีมาก และผลประกอบการในไตรมาสแรกมีกำไรอยู่ในเกณฑ์ดี อีกทั้งที่ผ่านมาการมอบนโยบายต่างๆ เพื่อนำไปบริหารจัดการไม่เคยมีความขัดแย้ง โดยขอให้นายอำพน เรียกประชุมพนักงานทั้งหมดเพื่อชี้แจงรายละเอียด
"การที่ประธานบอร์ดให้สัมภาษณ์โดยหาเหตุผลไม่ได้ ในโลกของความโปร่งใสการเลิกจ้างบอร์ดมีอำนาจในการทำได้ แต่เหตุผลในการเลิกจ้างบอร์ดควรจะอธิบายให้สาธารณะชนเข้าใจได้เพื่อไม่เกิดความเคลือบแคลงในการบริหารจัดการ" นางแจ่มศรี ระบุ
นางแจ่มศรี กล่าวอีกว่า หลังจากยื่นหนังสือแล้วจะรอรับการตอบกลับจากนายอําพนในอีก 3 - 7 วัน และการมายื่นหนังสือครั้งนี้เนื่องจากนายอำพล มีตำแหน่งเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แน่นอนว่ารัฐบาลเป็นคนส่งมาไม่ว่าจะชุดไหนก็ตาม เพราะฉะนั้นรัฐบาลก็จะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของประธานบอร์ด และพร้อมทีจะรวบตัวเคลื่อนไหวต่อหากนายอำพน และผู่ที่เกี่ยวข้องยังนิ่งอยู่
สิ่งที่ไม่ยุติธรรมสำหรับรัฐวิสาหกิจคือบอร์ดทุกที่จะลอยตัวเหนือปัญหา อย่างเช่นที่ผ่านมาเราขาดทุน 2หมื่นกว่าล้านในช่วงปี 2551 บอร์ดต้องรับผิดชอบแต่ก็กลับลอยตัว แล้วโยนความผิดทั้งหมดมาให้ผู้นำ คือ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อันนี้ถือว่าไม่เป็นธรรม
"ถ้าคุณอำพลไม่ชี้แจงก็จะถือว่าหมดความชอบธรรม เราคิดว่าเราเชื่อมั่นในรัฐบาล ถ้ารัฐบาลคิดว่านายอำพลนั่นล่ะคือปัญหาของบริษัทการบินไทย รัฐบาลก็ควรจะต้องพิจารณาส่งประธาบอร์ดมาใหม่ ที่สามารถสื่อสารกับพนักงานได้ด้วยความจริงใจ" นางแจ่มศรี ระบุ
สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน