จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...ไพบูลย์ กระจ่างวุฒิชัย 

จุดแรก โฟกัสไปที่บรรยากาศการได้รับการอิสระของสมาชิกบ้านเลขที่ 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย หลังจากถูกจองจำในคุกจินตนาการนานถึง 5 ตามคำวินิจฉัยยุบพรรค แน่นอนว่าเมื่อถึงวันสูดกลิ่นอายแห่งอิสรภาพย่อมจะต้องมีการจัดกิจกรรมเพื่อ สร้างขวัญและกำลังใจตามมาเริ่มตั้งแต่พิธีทำบุญเลี้ยงพระเพลจำนวน 9 รูป จาก 9 วัด ในเวลา 11.00 น. และปล่อยนกพิราบขาวจำนวน 111 ตัว ออกจากกรง พร้อมทั้งปล่อยลูกโป่งสีขาว 111 ลูก 

ความน่าสนใจพุ่งเป้าไปที่การโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคไทยรักไทยคนแรก เนื้อหาว่า “ขอขอบคุณทุกคนที่เสียสละ มาร่วมทำงานการเมือง เพราะ 5 ปีที่ผ่านมาทุกคนต้องทิ้งอาชีพมาทำงานไม่มีตำแหน่งและค่าตอบแทน สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการรัฐประหารที่เกิดกับรัฐบาลที่ได้รับความนิยมสูง มาก ซึ่งการรัฐประหารที่เกิดขึ้นไม่ใช่ใช้กำลังทหารอย่างเดียว แต่มีกระบวนยุติธรรมด้วย แต่ก็พิสูจน์แล้วว่า ไม่ว่าการเลือกตั้งกี่ครั้ง ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน มาเป็นพรรคเพื่อไทย เราก็ชนะการเลือกตั้งมาตลอด”

“ผมเป็นคนกตัญญูไม่เคยลืมบุญคุณคน แม้กระทั่งคนให้น้ำกินแก้วเดียวก็ไม่ลืม พี่น้องเสื้อแดงโดยเฉพาะ ผมไม่เคยลืมบุญคุณ และไม่คิดจะเอาตัวรอด มีคนมาเสี้ยม มาพูดเพื่อจะให้เกิดความแตกแยก ผมว่าหัวใจของเราถักทอกันมานาน ถึงแม้ว่าเราจะถูกใส่ร้ายยังไง พวกเราก็ยังรักใคร่กัน เมื่อผมกลับไปจะเปลี่ยนพลังของเสื้อแดง ให้เป็นพลังที่สร้างเศรษฐกิจและสังคมที่ดีให้ประเทศไทยอย่างมโหฬาร” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

ถึงบรรดาสมาชิก111จะชื่นมื่นขนาดไหนก็ไม่ได้อยู่ในความสนใจของ ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำประเทศ เพราะยังคงปฎิบัติภารกิจของตัวเองต่อไปโดยไม่ได้เข้าสภาฯ เริ่มตั้งแต่ 10.30น.บันทึกเทปโทรทัศน์กล่าวคำปราศรัยเนื่องในวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ประจำปี 2555 ต่อด้วยหารือข้อราชการกับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรี ลังกา ณ ตึกไทยคู่ฟ้า

ช่วงบ่ายเกี่ยวก้อยพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา  รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.สุกำพล  สุวรรณทัต รมว.กลาโหม  พล.อ.ประยุทธ์ จันทน์โอชา ผบ.ทบ. ส่งมอบงานโครงการ "ขุดลอกคลองในพื้นที่ กทม. ตามนโยบายของรัฐบาลโดยกองทัพบก" ณ คลองสนามชัย วัดบางกระดี่ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ

“ขอให้ประชาชนสบายใจว่าทุกภาคส่วนทำงานกันเต็มที่ เพื่อการแก้ปัญหาอุทกภัย ไม่ให้เป็นฝันร้ายเหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วอีก” คำยืนยันจากผู้นำประเทศ 

ทันทีที่เสร็จภาพกิจนี้ขบวนรถของนายกรัฐมนตรีได้แยกออกจากขบวนสื่อมวลชน โดยไม่ได้เข้าทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภาเพื่อประชุมสภาฯแต่อย่างใด จบงานของนายกฯไปอีกหนึ่งวัน ส่วนใครจะคิดว่านายกฯหนีม็อบก็สุดแล้วแต่

ความสุขของสมาชิกบ้านเลขที่ 111 และนายกฯยิ่งลักษณ์แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับอารมณ์ที่เกิดขึ้น ณ รัฐสภา ท่ามกลางการห้อมล้อมไปด้วยม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งต่อต้านการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่มีวาระพิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยความ ปรองดองแห่งชาติ

ถึงจะเป็นเพียงแค่การขอให้ที่ประชุมมีมติเลื่อนขึ้นมาเป็นเรื่องด่วนยัง ไม่ใช่การพิจารณาเพื่อรับหลักการวาระที่ 1 แต่กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเมื่อสส.ฝ่ายค้านจำนวนมากได้เข้าไปยืนล้อม ‘สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์’ ประธานสภา ไม่ให้รวบรัดลงมติเพื่อเลื่อนเรื่องดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาทั้งที่ยังมีปัญหา ว่ากฎหมายปรองดองเข้าข่ายเป็นกฎหมายการเงินตามรัฐธรรมนูญมาตรา 143 หรือไม่ 

การสุมไฟในสภาฯเริ่มขึ้นมาเป็นระยะตั้งแต่การพยายามของพรรคเพื่อไทยที่ ต้องการให้มีการลงมติ ท่ามกลางเสียงโห่ของฝ่ายค้านที่ไม่เห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทยเพราะเห็นว่า ประธานสภาฯยังไม่ให้ความกระจ่างทำไมถึงบรรจุระเบียบวาระเรื่องนี้ทั้งทีมี ข้อสงสัยทางกฎหมายมากมาย

ไฟในสภาฯเริ่มลุกโชนมากขึ้นเมื่อ ‘ประชา ประสพดี’ สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายแสดงความไม่พอใจพรรคประชาธิปัตย์ว่า “ถ้าฝ่ายค้านส่งเสียงโห่พวกผมเวลาอภิปราย ผมจะโห่ผู้นำฝ่ายค้านฯทุกครั้งที่ท่านอภิปราย” ระหว่างนั้นได้มีเสียงโห่ของพรรคประชาธิปัตย์สวนขึ้นมา ทำให้นายประชาหลุดคำหยาบคายออกมาว่า "โห่ทำวรนุช(คำแปลอย่างสุภาพ)อะไร" ก่อนเจ้าตัวจะยอมถอนคำพูดตามคำร้องขอของนายสมศักดิ์ แล้วจุดเดือดและรอยด่างที่สุดของสภาไทยก็มาถึงอย่างไม่มีใครคาดคิด ‘ประธานสมศักดิ์’ ตัดสินใจกดปุ่มหักดิบให้ลงมติว่าจะเลื่อนระเบียบวาระหรือไม่ ไม่ทันสิ้นเสียงกดปุ่มเรียกลงมติปรากฏว่าสส.ประชาธิปัตย์นำโดย อภิชาติ สุภาแพ่ง สส.เพชรบุรี เข้าไปประชิดตัวยกมือไหวขอให้สมศักดิ์ลงจากเก้าอี้

จากนั้นสภาฯก็เกิดความอลหม่าน สส.ทั้งเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ต่างกรูเข้าไปเกือบถึงตัวประธานสภาฯโชคดีที่ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสภาเข้ามาเป็นโล่มนุษย์ป้องกันเจ้านายเอาไว้ ทันไม่งั้นสถานการณ์อาจดูไม่จืด งานนี้ทำให้สีหน้าของประมุขนิติบัญญัติเครียดอย่างเห็นได้ชัด เพราะเป็นครั้งแรกที่สส.ต่างมีอารมณ์รุนแรงกันมากขนาดนี้เป็นอันว่าวันที่ 30 พ.ค.กลายเป็นหนึ่งวันที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงมีทุกอารมณ์ให้เห็นในวันเดียว กันทั้งชื่นมื่นสุดๆและเดือดสุดๆ โชคดีของประเทศไทยที่ยังไม่เกิดอะไรรุนแรง

สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน