จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ณัฐพล หวังทรัพย์
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา "พานทองแท้ ชินวัตร" ลูกชาย "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี
โพสต์ข้อความแสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว "Oak Panthongtae Shinawatra" จนสื่อหลายสำนักหยิบมาเป็นประเด็นทางการเมือง
"พานทองแท้" อาจจะตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ ให้ข้อความที่เขาโพสต์ผ่านโซเชียล มีเดีย กลายเป็นข่าวก็ตาม
แต่ต้องไม่ลืมว่าเขาคือบุคคลสาธารณะ เพราะนอกจากจะเป็นลูกชายอดีตนายกฯ แล้ว "พานทองแท้" ยังเป็นตัวละครสำคัญในคดีซุกหุ้น บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือชินคอร์ป บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ อันนำมาสู่คำพิพากษายึดทรัพย์กว่า 4.6 หมื่นล้านบาท
จึงไม่แปลกที่หลายความเห็นของ "พานทองแท้" จะกลายมาเป็นข่าวปิงปอง ตอบโต้ไปมาระหว่างตัวเขากับฝ่ายค้าน เสมือนเป็นคนหนึ่งในสมาชิกพรรคเพื่อไทย
ในฐานะบุคคลสาธารณะ นอกจากสื่อสามารถนำความเห็นมาเผยแพร่ให้ประชาชนรับทราบแล้ว ในทางกลับกัน สื่อย่อมสามารถตรวจสอบ วิพากษ์วิจารณ์ การกระทำของบุคคลสาธารณะผ่านสื่อ ตราบเท่าที่ไม่ละเมิดเรื่อง "ส่วนตัว" หรือเรื่องที่ "ไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน"
แน่นอนว่า คดีซุกหุ้นชินคอร์ปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษายึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านบาทไปแล้ว แต่คนในตระกูลชินวัตรพยายามชี้แจงต่อสังคม ว่า คดีดังกล่าวเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง และมีความพยายามที่จะออกกฎหมายนิรโทษกรรม ลบล้างคำพิพากษา
"พานทองแท้" ในฐานะผู้ถือหุ้นชินคอร์ป ซึ่งมีส่วนได้เสียโดยตรง น่าจะใช้ช่องทางโซเชียล มีเดีย ชี้แจงให้ประชาชนหมดข้อกังขาเรื่องนี้ให้ชัดเจน
โดยเฉพาะกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งบริษัท แอมเพิล ริช อินเวสต์เมนต์ ที่หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน เพื่อเข้ามาถือหุ้นในชินคอร์ป และมีการขายหุ้นให้กับนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร
เพราะจากข้อมูลบันทึกการของ "พานทองแท้" ต่อคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2550 พบว่ายังมีหลายประเด็นที่ยังมีความไม่ชัดเจน
เช่น กรณี คตส.ถามที่ว่า วันที่ 1 ธันวาคม 2543 “พานทองแท้” ซื้อหุ้นชินคอร์ปจากใคร จำนวนเท่าใด เป็นการซื้อหุ้นถึง 5% ของบริษัทหรือไม่
คำตอบที่ได้จาก "พานทองแท้" คือ มีการซื้อหุ้น แต่จำวันที่แน่นอนและจำนวนหุ้นไม่ได้ จำไม่ได้ว่ามีสัญญาซื้อขายหรือไม่ และชำระเงินค่าหุ้นกันอย่างไร เป็นการซื้อหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์หรือในตลาดหลักทรัพย์ก็จำไม่ได้
เมื่อ คตส.ถามต่อว่า หุ้นของบริษัทชินคอร์ปที่แอมเพิลริชถืออยู่ฝากไว้ที่บริษัทใดและฝากไว้ในประเทศหรือนอกประเทศ "พานทองแท้" เป็นผู้ถือหุ้นชินคอร์ป โดยตรงหรือถือผ่านบริษัทแอมเพิลริชเกิน 5% หรือ 25% บ้างหรือไม่ และเคยรายงาน ก.ล.ต.หรือไม่ และเคยได้รับเงินปันผลแอมเพิลริชหรือไม่
"พานทองแท้" ก็ตอบว่า ข้าพเจ้าจำรายละเอียดไม่ได้ เพราะให้นางกาญจนาภา หงษ์เหิน เป็นผู้จัดการ แต่จำได้ว่าเคยได้รับเงินปันผลจากแอมเพิลริช เพียงครั้งเดียวประมาณเดือนพฤษภาคม 2549 จำนวน 40 ล้านดอลลาร์ โดยโอนเข้าบัญชีธนาคารยูบีเอส ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ส่วนเหตุใดต้องนำเงินปันผลเข้าบัญชียูบีเอส ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก็ไม่ทราบเพราะมอบให้นางกาญจนาภาดำเนินการ ส่วนบัญชีดังกล่าวเปิดตั้งแต่เมื่อใด มีเงินฝากเท่าจำนวนเท่าไร ก็จำไม่ได้
ก็ได้แต่หวังว่า "พานทองแท้" จะไม่ปล่อยให้คำว่า “จำไม่ได้” เป็นคำตอบสุดท้ายเหมือนในอดีตที่ผ่านมา
สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน
