บิ๊กโอ๋” ปิดประตู “ทัพฟ้า”-โยนบาปสื่อ! ไม่แถลง “มาร์ค” ใช้เอกสารทหารเท็จ ปัดช่วย “ไอ้ตู่
จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
“สุกำพล” ปากกล้าขาสั่น ไม่แถลงข่าวกรณี “อภิสิทธิ์” ใช้เอกสารปลอมเข้าเป็นครูนายร้อย จปร. โทษสื่อเอาไปลงผิด หลังสะพัดวานนี้ กำชับโฆษกกลาโหมแจงยิบ ปัดช่วยเหลือ “จตุพร” บอกรอวัน-สองวันจะแถลง ฉวยจังหวะ รมช.กลาโหมมะกันมาเยือน สั่งทัพอากาศปิดประตูห้ามนักข่าวเข้าสัมภาษณ์ ส่วนโฆษกกลาโหมทำมึน ไม่ทราบให้ชี้แจง เผยเมื่อสัปดาห์ก่อนส่งข้อมูลให้ผู้ตรวจการฯ แล้ว
วันนี้ (22 ก.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีต้อนรับ นายแอชตัน บี. คาร์เตอร์ รมช.กลาโหมสหรัฐฯ ในโอกาสเดินทางมาเยือนกระทรวงกลาโหมอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ได้มีการหารือกันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหรัฐฯที่มีความ สัมพันธ์ใกล้ชิดกันมายาวนานตลอดระยะเวลา 179 ปี มีการพัฒนาความร่วมมือในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด ทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม สำหรับความสัมพันธ์ด้านทหารนั้น ไทยและสหรัฐฯ มีความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง เช่น การฝึกร่วมคอบร้าโกลด์ การช่วยเหลือทางด้านทหาร รวมทั้งการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและสันติภาพ โดยเฉพาะกรณีโครงการเอชเอดีอาร์ เป็นโครงการที่ต่อยอดจากการที่ไทยได้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมตอนที่ ประสบกับเหตุการณ์ภัยพิบัติสึนามิในไทย เมื่อเดือน ธ.ค.2547 โดยโครงการเอชเอดีอาร์จะเป็นศูนย์กลางความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่มี ประสิทธิภาพ
ภายหลังจากที่ พล.อ.อ.สุกำพล ทำพิธีต้อนรับ รมช.กลาโหมสหรัฐอเมริกา เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะมอบหมายให้ พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม เป็นผู้แถลงชี้แจงผลสรุปของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของทางกระทรวง กลาโหมที่ตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประธิปัตย์ ที่ใช้เอกสารเท็จในการเข้ารับราชการที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และการหลบหนีการเกณฑ์ทหาร ทำให้มีสื่อมวลชนจำนวนมากเดินทางมายัง บก.ทอ. แต่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริเวณทางเข้า-ออก บก.ทอ. แจ้งว่างดไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปทำข่าวภายใน โดยระบุว่าเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชาไม่สะดวกให้บันทึกภาพทำข่าว เพราะเกรงเรื่องความปลอดภัยและการอารักขา รมช.กลาโหมสหรัฐอเมริกา
ด้าน พ.อ.ธนาธิป ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าวว่า พล.อ.อ.สุกำพลมอบหมายให้ชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริงการเข้ารับราชการทาง ทหารของนายอภิสิทธิ์ว่า ตนไม่ทราบเรื่องที่ทาง พล.อ.อ.สุกำพล มอบหมายให้แถลงข่าวชี้แจงเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งน่าจะเป็นการเข้าใจที่คาดเคลื่อนหรือเป็นการประสานงานที่ผิดพลาดมากกว่า แต่ทั้งนี้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.อ.สุกำพลได้มีการชี้แจงเบื้องต้นในเรื่องดังกล่าวนี้โดยได้ตั้งคณะ กรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้ส่งข้อมูลให้กับทางสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเรียนร้อยแล้ว
เมื่อถามว่านายอภิสิทธิ์ระบุว่าทางกระทรวงกลาโหมออกมาพูดเรื่องนี้ เพราะต้องการช่วยคดีนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ถูกฟ้องอยู่ในขณะนี้ และอาจจะมีการฟ้องดำเนินคดีกระทรวงกลาโหมด้วย พ.อ.ธนาธิป กล่าวว่า ขอชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวเริ่มต้นจากการที่มีผู้ร้องเรียนมายังสำนักงานผู้ ตรวจการแผ่นดิน และทางสำนักงานผู้ตรวจการฯ ก็ทำหนังสือขอข้อมูลจากกระทรวงกลาโหม ซึ่งตามระเบียบมีระยะเวลากำหนดว่าต้องส่งข้อมูลกลับภายในระยะเวลากี่วันและ ทางกระทรวงกลาโหมก็ได้ส่งข้อมูลให้สำนักงานผู้ตรวจการฯ เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามกระทรวงกลาโหมยืนยันว่าเราดำเนินการตามขั้นตอน
มีรายงานว่า พล.อ.อ.สุกำพล รู้สึกไม่พอใจต่อกระแสข่าวดังกล่าว เพราะกังวลว่าจะถูกข้อครหาเป็นการช่วยเหลือนายจตุพร ที่ถูกนายอภิสิทธิ์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ภายหลังจากที่ นายจตุพร ขึ้นเวทีปราศรัยกล่าวหาว่านายอภิสิทธิ์หนีทหาร ทั้งนี้เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช นายอภิสิทธิ์ ได้ขึ้นเวทีปราศรัย โดยระบุว่า มีขบวนการจ้องทำลายตน โดยใช้กรณีดังกล่าวมาเป็นเครื่องมือ เพื่อต้องการช่วยเหลือนายจตุพร
ขณะที่ ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถาม พล.อ.อ.สุกำพล ถึงเรื่องการแถลงข่าวในวันนี้ว่ามีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร โดย พล.อ.อ.สุกำพล ปฏิเสธว่า ไม่มีการแถลงข่าว และไม่มีการชี้แจงทั้งนั้น สื่อเอาไปลงผิด แต่ถ้ามีข้อสงสัยและถามกันมาก อาจจะมีการชี้แจงให้ทราบในเร็วๆ นี้ และที่การที่ตนให้สัมภาษณ์ในประเด็นดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะมีนักข่าวมาถาม ซึ่งไม่มีอะไรต้องปิดบัง เป็นเรื่องที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งมาถามที่กระทรวงกลาโหม
ส่วนการที่นายอภิสิทธิ์ จะฟ้องร้องกระทรวงกลาโหมที่นำเรื่องนี้มาชี้แจงเพื่อต้องการช่วยนายจตุพร นั้น ตนไม่อยากตอบโต้ ก็เขาชอบพูดแบบนี้ เป็นปกติที่ชอบพูดแบบนี้ อย่างที่บอกไปแล้วว่า ที่พูดเพราะมีนักข่าวมาถาม ก็ชี้แจงข้อเท็จจริง ไม่ได้เกี่ยวกับใคร สำหรับที่นายกมล บันไดเพชร สมาชิกพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นผู้นำเรื่องไปร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ออกมาระบุว่าเอกสารผ่อนผันการเกณฑ์ทหารของนายอภิสิทธิ์ ไม่มีเจ้าหน้าที่ลงนามรับรองอาจเป็นการทำขึ้นเองนั้น ตนยังไม่ขอพูดตอนนนี้ ไว้ชี้แจงในอีก 1-2 วันข้างหน้า
“มาร์ค”ไม่หนักใจถูกตีหนีทหาร “สุกำพล”สั่งโฆษก กห.แถลงใช้เอกสารเท็จ
จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
“อภิสิทธิ์” ไม่ห่วงถูกเล่นงานเรื่องหนีทหาร งงกองทัพ และ “จตุพร” ไม่นำบัญชีการขอยื่นผ่อนผันมาแสดงต่อศาล เชื่อกลัวคดีจะเป็นผลประโยชน์กับตน ด้าน “สุกำพล” สั่งโฆษกกลาโหม แจงข้อเท็จจริง “มาร์ค” ใช้เอกสารปลอมในการเข้าเป็นครู โรงเรียนนายร้อย จปร.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หันหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายกมล บันไดเพชร สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวหาว่าหนีทหารและใช้เอกสาร สด. 9 เท็จสมัครรับราชการทหาร ว่า ถือเป็นการกล่าวหาตนในเรื่องเดิมๆ ของพรรคเพื่อไทยเช่นเดียวกับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดงกล่าวหา ซึ่งตนไม่ได้หนักใจ เพราะได้มีการชี้แจงอย่างละเอียดแล้ว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การที่นายจตุพรนำเอกสารผลการตรวจสอบของกองทัพบกเมื่อปี 2542 มาโจมตี ยิ่งไม่น่ากังวล เพราะเป็นเรื่องในอดีต แต่สิ่งที่อยากตั้งข้อสังเกต คือเหตุใดนายจตุพรและกองทัพไม่นำบัญชีการขอยื่นผ่อนผัน มาแสดงหรือยื่นต่อศาลอาญาในระหว่างที่มีการพิจารณาคดีของศาลด้วย หรือเพราะรู้ว่าเมื่อมีการนำมายื่นแล้วจะทำให้ผลในคดีมีการเปลี่ยนแปลงในทาง ที่เป็นประโยชน์กับตน
“ในการสืบพยานของศาลอาญา ได้เรียกนายกมลขึ้นให้การ ซึ่งเมื่อทนายถามนายกมลว่าทำไมไม่เอาเอกสารบัญชีการขอผ่อนผันมาแสดงต่อศาล หรือเพราะรู้ว่าเมื่อนำมายื่นแล้วจะมีผลต่อรูปคดี ซึ่งนายกมลก็ยอมรับ แต่นายจตุพรยังไม่ขึ้นให้การต่อศาล ขณะเดียวกันทั้งนายกมล นายจตุพร หรือแม้แต่กระทรวงกลาโหม กลับไม่มีการพูดถือเอกสารผ่อนผันเลย และไม่มีการเอาบัญชีการขอผ่อนผันของผมมาแสดงด้วย ดังนั้นจึงเป็นความพยายามโจมตีทำลายผม โดยไม่นำข้อเท็จจริงทั้งหมดมาเปิดเผย”
มีรายงานว่า พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้ พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงข่าวรายละเอียดเกี่ยวกับข้อเท็จจริงการเข้ารับราชการทหารของ นายอภิสิทธิ์ ในวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) โดยจะมีการอธิบายถึงความผิดปกติที่คณะกรรมการตรวจพบของกระทรวงกลาโหมดำเนิน การ ซึ่งเป็นไปตามเอกสารต่างๆ ที่คณะกรรมการตรวจสอบฯ รวบรวมจากกรมเสมียนตราและกรมพระธรรมนูญ เพื่อนำมาใช้ประกอบการตรวจสอบ และได้ยื่นให้ผู้ตรวจการแผ่นดินไปพร้อมหนังสือตอบกลับของ รมว.กลาโหมแล้ว
โดยหลักฐานดังกล่าวนั้นถูกอ้างว่าเป็นสิ่งผิดปกติ ที่บ่งชี้ว่านายอภิสิทธิ์ใช้เอกสารเท็จในการสมัครเข้ารับราชการครูที่ ร.ร.นายร้อย จปร. และไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนทางทหารอย่างถูกต้องตามขั้นตอน
ขณะที่ พ.อ.ธนาธิป กล่าวว่า การชี้แจงเรื่องดังกล่าว น่าจะใช้เวลาในช่วงบ่าย ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ เนื่องจาก กระทรวงกลาโหมจะมีพิธีต้อนรับ รมต.กลาโหมสหรัฐอเมริกา ซึ่งเดินทางมาเยือนอย่างเป็นทางการ โดยมีกำหนดการเข้าพบ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม เพื่อร่วมหารือกันด้วย โดยจะใช้สถานที่ของกองบัญชาการกองทัพอากาศเป็นที่รับรอง
“กมล” ยอมกราบหาก สด.20 “มาร์ค” มีพยาน แฉ พล.อ.-พ.อ.คอยช่วย
จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
“กมล” ไม่จบ ยังเชื่อ “อภิสิทธิ์” หนีทหาร ยัน สด.20 ของปลอม ท้า ปชป.หาคนมายืนยัน ย้อนตรวจปี 42 ไม่พบ โยงไม่ไว้วางใจปี 43 ไม่ยื่นให้สภาหวั่นกระทบรูปคดี เผยทหารยศพลเอก และพันเอก 6 นายช่วยจัดทำ ลั่นของจริงยอมกราบ ด้าน “เด็จพี่” ยังไม่พอ ขอ สด. 43 และ สด. 8 อีก ยันพรรคสอบตรงไปตรงมา
วันนี้ (22 ก.ค.) นายกมล บันไดเพชร สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุถึงการเกณฑ์ทหารเมื่อวานนี้ โดยได้ท้าให้นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ หาบุคคลมารับรองบัญชีการยกเว้นผ่อนผันทหารของนายอภิสิทธิ์ หรือใบ สด.20 ที่นายกมลเชื่อว่าเป็นเอกสารเท็จอย่างแน่นอนนั้น เนื่องจากการสอบสวนเมื่อปี 2542 ไม่ปรากฏว่ามีหลักฐานชิ้นนี้ในกระทรวงกลาโหม อีกทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อปี 2543 นายอภิสิทธิ์ได้นำเอกสารดังกล่าวมาแสดงในที่ประชุมสภา แต่เมื่อมีการอภิปรายแล้วเสร็จ พบว่านายอภิสิทธิ์ไม่ได้ยื่นให้ประธานสภาในสมัยนั้นตรวจสอบ ตลอดจนสาเหตุที่ไม่ได้ยื่นเอกสารดังกล่าวต่อศาลเป็นเพราะอาจจะมีผลต่อรูปคดี
นายกมลกล่าวต่อว่า ตนจึงขอท้าให้พรรคประชาธิปัตย์หาบุคคลมารองรับเอกสารใบ สด.20 ซึ่งหากหาบุคคลมารองรับได้ตนพร้อมจะกราบ 3 ครั้ง ขณะเดียวกันได้ระบุเปิดเผยถึงบุคคลที่ร่วมกันจัดทำเอกสารใบ สด.20 ด้วยว่ามีบุคคลยศพลเอก และพันเอก ร่วมกันจัดทำรวม 6 นาย และตนก็มีรายชื่ออยู่แต่ไม่สามารถเปิดเผยในขณะนี้ได้
ส่วน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ออกมาระบุว่าพรรคเพื่อไทยนำเรื่องเก่ามาเล่า ใหม่เป็นการโจมตีตนทางการเมืองนั้น นายพร้อมพงศ์ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง หลักฐานที่นำออกมาเปิดเผยมีการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา ดังนั้นจึงเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์นำหลักฐานมาเปิดเผยเพื่อแสดงความชัดเจน ต่อประชาชน โดยเฉพาะเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์นำหลักฐานใบ สด.43 และ สด.8 มาเปิดเผย ซึ่งหากพบว่าหลักฐานดังกล่าวตรงกับหลักฐานของกระทรวงกลาโหมจริงก็ถือว่าถูก ต้อง แต่หากไม่มีนายอภิสิทธิ์ต้องออกมายอมรับความจริง อีกทั้งได้ขอให้กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ออกมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เช่นกัน
“ศิริโชค” ยัน “มาร์ค” ผ่อนผันทหารตรง แฉจเร ทบ.สนิท “ไอ้ตู่” ซัด “กมล” สะตอ-ตีรวน
จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
“วอลล์เปเปอร์อภิสิทธิ์” โชว์หลักฐาน สด.20 ชี้ ก.พ.ทำเรื่องผ่อนผันตรง ไม่ต้องตรวจเลือก กังขา “พ.อ.สมโชค” รับกลางศาลเป็นเพื่อนสนิท “จตุพร” แกนนำแดง แถมทำมึนไม่รู้ ก.พ.ทำเรื่องโดยตรง ซัดมีอคติ-ไม่โปร่งใส ตั้งฉายา “กมล สตอเบอรี่” ชี้ ป.ป.ช.แจ้งไม่มีมูล แต่ยังกุเรื่องมี 1 พลเอกร่วมกับ 5 พันเอกสร้างหลักฐานเท็จ ชี้การสอบสวนปี 42 ไม่พิจารณาเอกสารเพราะทำลายไปแล้วตามระเบียบ แต่ตีรวนเมินเอกสาร ก.พ. เย้ยกลาโหมไม่แถลงกลัวถูกฟ้อง
วันนี้ (22 ก.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แถลงชี้แจงกรณีที่มีการกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ใช้เอกสารเท็จสมัครรับราชการทหารเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า หรือ จปร. โดยยืนยันเอกสารที่เคยนำมาแสดงคือ ทะเบียนบัญชียกเว้นหรือผ่อนผันกรณีไปศึกษาต่างประเทศ (สด.20) ที่มีชื่อนายอภิสิทธิ์ในลำดับ 3 ได้รับการผ่อนผันตามใบ สด.41 เลขที่ 4892/29 ลงวันที่ 4 พ.ย.2529 โดยสำนักงานผู้ดูแลนักเรียนไทยในประเทศอังกฤษ ภายใต้ดำเนินการของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ผ่อนผันให้ตั้งแต่ ปี 2530 ถึง 2532 ทำให้นายอภิสิทธิ์ไม่ต้องไปตรวจเลือกในเดือนเมษายน ปี 2530 ซึ่งเป็นตามหลักเกณฑ์ตามมาตรา 21(2) อีกทั้งนายอภิสิทธิ์อายุเกิน 21 ปี แต่ยังมิได้ตรวจเลือกเนื่องจากได้รับการยกเว้น จึงเข้าเกณฑ์ใช้ สด.9 และ สด.41 ไม่จำเป็นต้องใช้ใบสด.43
พร้อมกันนี้นายศิริโชคยังตั้งข้อสังเกตถึงผลสอบสวนคณะกรรมการปี 2542 ที่มี พ.อ.สมโชค ไกรศิริ จเรทหารบก เป็นหนึ่งในกรรมการสอบสวน ยอมรับกลางศาลระหว่างสืบพยานคดีที่นายอภิสิทธิ์ฟ้องหมิ่นประมาทนายจตุพรว่า เป็นเพื่อนสนิทกับนายจตุพรตั้งแต่ปี 2530 จึงแสดงให้เห็นว่ามีอคติในการสอบสวน อีกทั้งการสอบสวนดังกล่าวยังมีความไม่โปร่งใสรอบคอบ เนื่องจาก พ.อ.สมโชคยอมรับด้วยว่าไม่เคยทราบว่าศึกษาต่ออังกฤษมี ก.พ. ดูแลทำหนังสือผ่อนผันโดยตรงจึงไม่ต้องรับการตรวจเลือก หากเป็นเช่นนี้ก็ยอมรับไม่ใช่การหนีทหาร แต่เป็นเรื่องที่รับการผ่อนผันและเมื่อเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อย จปร.แล้ว จึงไม่เข้าเกณฑ์เข้าประจำการตามมาตรา 14 วรรค 7
นายศิริโชคกล่าวว่า ที่น่าสงสัยคือ เหตุใดเมื่อตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขึ้นมาใหม่ในวันที่ 25 มิ.ย. 2555 ก็ยังอิงผลการตรวจสอบในปี 2542 ทั้งที่ปรากฏหลักฐานใหม่คือ สด.20 กรณีผ่อนผันไปต่างประเทศ ที่มีการชี้แจงตั้งแต่ระหว่างอภิปรายไม่ไว้วางใจในปี 2553 แต่ไม่มีการเรียกนำเอกสารดังกล่าวพิจารณาในคณะกรรมการ จึงเห็นว่าเป็นขบวนการที่ต้องการช่วยเหลือนายจตุพรให้พ้นจากการติดคุกกรณี หมิ่นประมาทนายอภิสิทธิ์ เพราะผลสรุปคณะกรรมการชุดนี้ สอดรับกับเอกสารประกอบของนิตยสารเรดพาวเวอร์ ซึ่งเป็นสื่อเครือข่ายคนเสื้อแดง
นอกจากนี้ยังมี มติคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.วันที่ 10 ส.ค. 2553 ว่าข้อกล่าวหาหนีทหารและใช้เอกสารเท็จในการรับราชการทหารไม่มีมูลความจริง ซึ่งเรื่องนี้ ป.ป.ช. ก็ได้แจ้งมติดังกล่าวไปยังนายกมล บันไดเพชร ซึ่งเป็นผู้ยื่นคำร้องแล้ว จึงไม่เข้าใจว่า นายกมลที่พยายามขุดคุ้ยเรื่องนี้ตั้งแต่ ปี 2552 ยังไม่หยุดกล่าวหา และกล่าวหาว่ามีพลเอก 1 คนและ พันเอก 5 คนร่วมกันสร้างหลักฐานเท็จเป็นหลักฐานที่โคมลอย ควรเปลี่ยนนามสกุลเป็น “กมล สตอเบอรี่” มากกว่า ตนจะล้างเท้ารอให้นายกมลมากราบ เพราะหลักฐานที่ชี้แจงเป็นเรื่องจริงไม่ใช่หลักฐานเท็จ
ส่วนกรณีที่นายกมล ท้าว่าให้นำเอกสารการผ่อนผันของจริงมาแสดงนั้นเป็นเรื่องแปลก เพราะแม้แต่การสอบสวนในปี 2542 ก็ไม่มีการพิจารณาเอกสารนี้ ซึ่งในระบบราชการจะมีการทำลายเอกสารทุก 10 ปี แต่เมื่อมีหลักฐานการผ่อนผันที่ทำโดย ก.พ. มาแสดงให้เห็น นายกมลกลับไม่ให้ความเชื่อถือ ส่วนที่กระทรวงกลาโหมไม่แถลงวันนี้ก็เป็นไปตามคาดหมาย เนื่องจากกลัวการถูกฟ้องร้อง เนื่องจากไม่มีผลสรุปที่ชัดเจน
สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน
