สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

โต้งอ้างต้องโกหกเป้าส่งออกสร้างเชื่อมั่น

โต้ง” จำใจ “มุสา” ตัวเลขส่งออก 15% ครวญหากพูดความจริงการลงทุนมีปัญหาแน่

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

“โต้ง” ยอมรับตั้งเป้าตัวเลขการส่งออกขยายตัว 15% สูงเกินความเป็นจริง แต่ที่ต้องโกหกเพื่อสร้างความเชื่อมั่น พร้อมชี้แจงในฐานะที่เป็นหัวหน้าทีม ศก.รัฐบาล “ปู” ได้รับอนุญาตให้พูดไม่จริงได้ในบางเรื่อง ซึ่งภาษาอังกฤษเรียก “White lie” แปลว่าโกหกสีขาว เพราะหากตั้งแต่ต้นปี รบ.พูดความจริงว่าการส่งออกของไทยจะทำได้ไม่ถึง 15% จะทำให้ความมั่นใจของนักลงทุนมีปัญหาแน่นอน
       
       นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในการสัมมนา 1 ปียิ่งลักษณ์กับอนาคตเศรษฐกิจไทย โดยยอมรับว่าตัวเลขการส่งออกในปีนี้อาจไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ที่ร้อยละ 15 โดยคาดว่าจะเหลือเพียงร้อยละ 9 เนื่องจากปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่ชะลอทั้งยุโรป และสหรัฐฯ ส่งผลให้การส่งออกของไทยนั้นชะลอตัว
       
       ทั้งนี้ การที่รัฐบาลตั้งเป้ามูลค่าการส่งออก 15% ทั้งที่ทำไม่ได้จริง ทำให้มีคำถามว่าทำไม่ได้และตั้งเป้าไว้ทำไม ตนจึงอยากจะชี้แจงว่าในฐานะที่เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลได้รับอนุญาต ให้พูดไม่จริงได้ในบางเรื่อง ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า White lie ที่แปลว่า โกหกสีขาว เพราะหากตั้งแต่ต้นปีตนพูดความจริงว่าการส่งออกของไทยจะทำได้ไม่ถึง 15% จะทำให้ความมั่นใจของนักลงทุนมีปัญหาแน่นอน
       
       นายกิตติรัตน์ยังยืนยันว่า ภายใน 1 ปีรัฐบาลจะขับเคลื่อนทิศทางเศรษฐกิจไทยภายใต้ 3 ปัจจัยหลัก เพื่อให้เศรษฐกิจไทยยังเติบโตต่อไปได้ ได้แก่ ส่งเสริมการอุปโภคบริโภคในประเทศที่มีคุณภาพ การใช้จ่ายภาครัฐและเอกชน รวมถึงการเพิ่มรายได้ภาคประชาชน และยกระดับราคาสินค้าเกษตร โดยเชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวจะช่วยปรับสมดุลเศรษฐกิจไทยทดแทนการส่งออกที่ลด น้อยลงได้
       
       แม้จะคาดการณ์ว่าตัวเลขการส่งออกลดลง แต่ยังเชื่อว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ในปีนี้จะยังอยู่ที่ร้อยละ 6-7 ได้ โดยมองว่าเสถียรภาพทางการเมืองจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ภาคเอกชน พร้อมขอให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน เพราะที่ผ่านมาปัญหาการทุจริตบั่นทอนการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย


โต้งอ้างต้องโกหกเป้าส่งออกสร้างเชื่อมั่น


จาก โพสต์ทูเดย์

"โต้ง" ออกมามายอมรับตั้งเป้าตัวเลขการส่งออกขยายตัว 15% สูงเกินความเป็นจริง แจงต้องโกหกเพื่อสร้างความเชื่อมั่น

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวว่า การตั้งเป้ามูลค่าการส่งออก 15% ทั้งที่ทำไม่ได้จริง ทำให้มีคำถามว่าทำไม่ได้และตั้งเป้าไว้ทำไม ก็อยากจะชี้แจงว่าในฐานะที่เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลได้รับอนุญาตให้ พูดไม่จริงในบางเรื่อง ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า White lie ที่แปลว่า โกหกสีขาว

"หากตั้งแต่ต้นปีผมพูดความจริงว่าการส่งออกของไทยจะทำได้ไม่ถึง 15% จะทำให้ความมั่นใจของนักลงทุนมีปัญหา"นายกิตติรัตน์ กล่าว

รมว.คลัง กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลตั้งเป้าการส่งออกของไทยขยายตัวได้ 9% เพราะยิ่งเวลาผ่านไปเป้าที่ตั้งไว้เดิม 15% ยิ่งทำไม่ได้มากขึ้น ซึ่งการตั้งเป้าการส่งออกของรัฐบาลสูงกว่าที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่คาดว่าจะโตได้ 7.3% เพราะต้องการให้รัฐบาลมีความตั้งใจทำงานมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการส่งออกจะลดลงไม่ถึง 15% แต่ก็ยังเชื่อว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้จะได้ 5.5-6% เพราะการบริโภคภายในประเทศ การใช้ภาครัฐ และการลงทุนภาคเอกชน ขยายตัวได้ดีมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจแทนภาคการส่งออก

ทั้งนี้ในส่วนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประมาณการส่งของไทยไว้ล่าสุดปีนี้ขยายตัวได้ 7% ลดลงจาก 9% ที่ประมาณการณ์ไว้ก่อนหน้า


เตือนโต้งให้ข้อมูลเท็จกระทบเชื่อมั่น

จาก โพสต์ทูเดย์

อดีตรมว.คลัง และนักวิชาการ เตือน "โต้ง" ใช้ข้อมูลเศรษฐกิจบิดเบือน สร้างผลกระทบความเชื่อมั่นไม่มีใครเชื่อถือรัฐบาล

นายกรณ์ จาติกวณิช สส.พระประชาธิปัตย์ และ อดีต รมว.คลัง กล่าวให้ความเห็นกรณีที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ออกมาเปิดเผยว่า ตัวเลขการส่งออกที่ตั้งเป้าไว้เดิม 15% เป็นการตั้งเป้าไว้สูงเกินจริง จนต้องลดเป้าเหลือ 9% เพราะในฐานะที่เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลได้รับอนุญาตให้พูดไม่จริงใน บางเรื่อง ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า White lie ที่แปลว่า โกหกสีขาว ว่าจะมีผลทำให้ข้อมูลของรัฐบาลต่อไปไม่มีความน่าเชื่อถือ

นายกรณ์ กล่าวว่า คำพูดทางเศรษฐกิจของ รมว.คลัง ถือว่ามีความสำคัญ เพราะนักลงทุนใช้ตัดสินใจด้วยเม็ดเงินจำนวนมหาศาล การที่ รมว.คลัง มีทัศนคติว่าสามารถนำตัวเลขทางเศรษฐกิจที่เป็นเท็จมาเสนอได้ จะทำให้มีผลกระทบกับอำนาจหน้าที่และบารมีในตำแหน่งที่ทำอยู่

ด้านนายสมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง กล่าวว่า รัฐบาลต้องพูดความจริง เพราะนักลงทุนเชื่อข้อมูลของรัฐบาล การตั้งเป้าเศรษฐกิจต้องใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด โดยมองว่าการส่งออกของไทยจะขยายตัวได้ 5-7% เนื่องจากเศรษฐกิจยุโรปยังมีปัญหา ทำให้การขยายตัวเศรษฐกิจของโลกชะลอ กระทบการส่งออกของไทยมากขึ้น


สภาอุตฯแนะรัฐให้ข้อมูลที่เป็นจริง

จาก โพสต์ทูเดย์

สภาอุตฯแนะรัฐบาลให้ข้อมูลที่เป็นจริงกับภาคเอกชน หอการค้าไทยเผยเอกชนรู้อยู่แล้วส่งออกไม่ถึงเป้า ยกเป็นบทเรียนรัฐบาล

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า สำหรับภาคเอกชนที่ค้าขาย และเป็นผู้ส่งออกการประกาศเป้าหมายการส่งออก การปรับลดตัวเลขการส่งออก หรือการส่งออกไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้นั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะเข้าใจสถานการณ์เศรษฐกิจอยู่แล้ว แต่ต้องการข้อมูลที่เป็นความจริง เพื่อจะได้เตรียมความพร้อมให้ถูกวิธี

ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัทขนาดใหญ่นั้นไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เพราะส่วนใหญ่มีสถิติเป็นของตัวเอง แต่เอสเอ็มอียังต้องอ้างอิงข้อมูลของรัฐบาล รวมถึงการประมาณการแนวโน้มของรัฐบาลในการทำแผนธุรกิจ หากรัฐบาลบอกแนวโน้มดี ภาวะตลาดดี ผู้ประกอบการจะเร่งผลิต เก็บสต็อก ซึ่งหากให้ข้อมูลที่ไม่เป็นจริงก็จะส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจ และรัฐบาลก็จะไม่มีความน่าเชื่อถือเอง

“รัฐบาลต้องอย่าไปยึดติดกับตัวเลข ประกาศเป็นแนวทางได้ แต่ก็ต้องปรับเพิ่ม ลด ได้เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ความผิด เพราะเอกชนก็เข้าใจและรู้อยู่แล้วในฐานะที่เป็นพ่อค้าเอง และการประเมินของรัฐส่วนใหญ่จะดูจากสถิติเก่า ซึ่งสถานการณ์ในปัจจุบันได้เปลี่ยนไปแล้ว เช่น ไทยมีต้นทุนสูงขึ้น ขีดความสามารถลดลง และขาดแคลนแรงงาน ดังนั้นจึงใช้ตัวเลขในอดีตมาประเมินไม่ได้” นายธนิต กล่าว

อย่างไรก็ตาม ต้องการให้รัฐบาลเร่งทำหน้าที่สนับสนุนการส่งออกของภาคเอกชน โดยรับฟังความเห็นจากเอกชนให้มาก และเร่งปรับกลยุทธ์ให้ทันกับเหตุการณ์

นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ตัวเลขส่งออกไม่ถึงเป้าหมาย 15% เอกชนประเมินกันมานานแล้ว และเข้าใจว่ารัฐบาลยืนยันเป้าหมายเพราะเป็นเรื่องทางการเมือง แต่เมื่อสถานการณ์ฝืนต่อไปไม่ได้ก็ต้องออกมายอมรับ เพราะไม่อย่างนั้นรัฐบาลจะดูเหมือนคนไม่มีความรู้ ซึ่งเอกชนก็ไม่ได้ว่ากัน และรู้ว่าพูดไปอย่างนั้น

ทั้งนี้ ผลที่เกิดขึ้นจะสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อรัฐบาล และก่อให้เกิดความไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งต้องอย่าปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้บ่อยๆ เพราะเป้าหมายการส่งออกเป็นตัวเลขพยากรณ์ สามารถปรับเปลี่ยนและผิดได้ แต่ต้องรีบออกมายอมรับและเร่งหาทางแก้ไขดีกว่ามายื้อเอาไว้

“จะมายอมรับตอนนี้ก็ช้าไปแล้ว นักธุรกิจ เอกชน เค้าก็รู้สถานการณ์กันอยู่ จะอ้างว่าเพื่อสร้างความเชื่อมั่น ก็คงไม่ใช่ ซึ่งครั้งนี้ก็ถือเป็นบทเรียนของรัฐบาลอีกหน่อยถ้ารู้ว่าผิดก็รีบบอก ไม่มีใครว่า”นายพรศิลป์ กล่าว

สำหรับตัวเลข 9% ของรัฐบาล ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง ซึ่งต้องคอยจับตาดูเดือนนี้ว่ายอดการส่งออกจะถึง 2.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือไม่ หากไม่ถึง การส่งออกคงเติบโตน้อยลงไปกว่านี้


สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : โต้งอ้าง ต้องโกหกเป้าส่งออก สร้างเชื่อมั่น

view