จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
กนกนภา เพิ่มบุญพา

คนไทยภูมิอกภูมิใจนักหนา กับการเป็นพลเมืองในประเทศที่อุดมสมบูรณ์ เป็นประเทศแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิ
 อันลือลั่นไปทั่วโลก เพราะรสชาติดี นุ่มลิ้น และมีกลิ่นหอม สมชื่อสายพันธุ์  ฟังดูไทยน่าจะได้เปรียบด้านการแข่งขันในตลาดข้าวโลก แต่เปล่าเลย  เรากลับแข่งขันกับคู่แข่งหลักๆ อย่างเวียดนาม ไม่ได้ด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงประเทศอื่นๆ ที่ปลูกข้าวได้เหมือนไทย แม้จะไม่ถึงขั้นเป็นข้าวคุณภาพดีเท่าๆ กับไทย

  อุปสรรคที่ทำให้ไทย เสียเปรียบด้านการแข่งขันในตลาดโลก ก็เพราะโครงการรับจำนำข้าว ที่ยังเป็นประเด็นให้คุยกันได้ทุกวัน ล่าสุด ธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) ทำเอกสารว่าด้วยเรื่องข้าวในภูมิภาคอาเซียน และเจาะถึงนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลไทยด้วย

พร้อมทั้งพูดชัดว่า เพราะนโยบายนี้แหละ ที่ทำให้การส่งออกข้าวของไทยไปตลาดโลก ลดลงไปแล้ว 43.1% แถมบอกด้วยว่า หากไทยจะดำเนินโครงการรับจำนำข้าวต่อไปจนสำเร็จ ข้าวจากไทยจะมีราคาในตลาดโลก สูงกว่าเพื่อนๆ ที่เขาขายกันอยู่ถึง 2 เท่า พูดง่ายๆ ขายของแพงกว่าคู่แข่ง แล้วลูกค้าที่ไหน อยากจะมาซื้อข้าวไทย

 เพราะหากผู้กำหนดนโยบายของไทยยังมั่นใจว่า  ไม่ว่าอย่างไร ข้าวไทยก็แข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้ เพราะมีคุณภาพข้าวที่ดีกว่าแล้วละก็  ดูจะเป็นมุมมองที่สะท้อนถึงความประมาทอย่างชัดเจน เพราะเท่าที่รู้มา หลายประเทศที่เป็นแหล่งปลูกข้าวในภูมิภาคเอเชีย ต่างเร่งพัฒนาสายพันธุ์ข้าวให้ยอดเยี่ยมและเป็นที่ยอมรับของลูกค้าในตลาดข้าวโลกกันแทบทั้งนั้น  แม้แต่พม่า

 หากไทยยังทำตัวเป็นกระต่าย  ที่มีความมั่นใจเกินร้อย นอนกระดิกหางเล่น  ปล่อยให้เต่าค่อยๆ เดินต้วมเตี้ยมล่วงหน้าไปก่อน  รับรอง งานนี้  ข้าวไทยไร้อนาคตในตลาดแน่ๆ  หรือถ้าคิดในมุมกลับ  จริงๆ แล้ว นี่อาจเป็นประเด็นซ่อนเร้นของผู้กำหนดนโยบาย ที่ไม่ต้องการให้ข้าวไทยขายได้ในตลาดโลก หรือขายได้ ก็ให้น้อยที่สุดเข้าไว้  เพื่อเก็บข้าวไว้ให้คนไทยในประเทศได้บริโภคกันอย่างจุใจ  ในราคาถูกสุดๆ

  เอดีบี บอกว่า การส่งออกข้าวของประเทศรายใหญ่อื่นๆ อย่าง เวียดนาม อินเดีย และปากีสถาน ไม่จำเป็นต้องให้ผู้บริโภคข้าวทั่วโลก ซื้อข้าวในราคาแพงกว่าต้นทุนการผลิต ดังนั้น  ราคาข้าวของไทยจะสูงกว่าราคาตลาด และทำให้ข้าวไทยกลับมาอยู่ในตลาดในประเทศ หรือโกดังเก็บสต็อกข้าว หรือส่งออกไม่ได้

 และถึงแม้ว่าไทย  จะพิจารณาการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวไปพร้อมกับการอุดหนุนการส่งออก แต่นั่นจะทำให้ต้นทุนโครงการเพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

 ขณะที่ข้อมูลจากสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย  ระบุว่า ไทยสูญเสียรายได้จากการส่งออกข้าวมาอย่างต่อเนื่อง  นับตั้งแต่ปลายปี 2554 หลังจากเริ่มโครงการรับจำนำข้าว และนับจนถึงวันที่ 28 พฤษภาคม 2555 การส่งออกข้าวของไทย  ก็ลดลงไปแล้ว 43.1% หรือ  2.86 ล้านตัน

 อยากฝากผู้กำหนดนโยบายทั้งหลาย  โดยเฉพาะที่ดูแลเรื่องการค้าข้าวของไทย ช่วยรับฟังข้อเสนอแนะของบุคคลภายนอกบ้างดีมั้ย  เพราะลำพังคนไทยกันเองเตือน อาจจะได้ยินได้ฟังจนเบื่อ  และพาลคิดว่า เตือนด้วยอคติ  หรือมีนัยแอบแฝง  แต่การที่องค์กรพัฒนาระดับโลกอย่างเอดีบี  ถึงกับออกรายงานเตือนแบบนี้ น่าจะมีความหมายบ้างนะ

สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน