สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

40 ส.ว. อัด บุญทรง เต้าขายข้าวในสต๊อก - คำนูณ หนุนคำพิพากษาคดีสลายพันธมิตร 7 ตุลาฯ

40 ส.ว. อัด บุญทรง เต้าขายข้าวในสต๊อก - คำนูณ หนุนคำพิพากษาคดีสลายพันธมิตร 7 ตุลาฯ

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

การประชุมวุฒิสภาวันนี้มีเรื่องหารือก่อนเข้าสู่วาระหลายประเด็น “สมชาย” จี้ “ดีเอสไอ” ทบทวนตรวจสอบจับฉ่าย วอนดูชายชุดดำ-มือยิงเอ็ม 79 “ประสาร-สุมล” ซักนโนบายจำนำข้าว จับโกหก “บุญทรง” ขายข้าวในสต๊อกจริงหรือไม่ “คำนูณ” หนุนคำพิพากษาศาลปกครองคดีสลายชุมนุมพันธมิตรฯ ล้อมรัฐสภาไม่ชอบ เหตุเป็นแนวทางเดียวกับวุฒิสภาศึกษาไว้
       
       เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระได้เปิดโอกาสให้สมาชิกหารือ โดยนายวิบูลย์ คูหิรัญ ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีที่องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซา) ขอใช้พื้นที่สนามบินอู่ตะเภา เพื่อดำเนินโครงการศึกษาการก่อตัวของเมฆที่มีผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศใน ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในประเทศไทยว่า เชื่อว่าถ้ารัฐบาลไทยจะอนุญาตตามคำขอเรื่องนี้จริง ควรจะให้เจ้าหน้าที่ไทยได้มีส่วนร่วมในกระบวนการตั้งแต่เริ่มต้น การเตรียมแผนดำเนินการของนาซา รวมทั้งการศึกษาข้อมูลที่ได้จากนาซาก็ควรให้เจ้าหน้าที่ไทยเป็นผู้จัดตั้ง ซอฟต์แวร์ในการศึกษาครั้งนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม หากจำเป็นที่จะต้องใช้เจ้าหน้าที่ไทยเข้าร่วมโครงการ อาจต้องใช้งบประมาณในการจัดจ้างเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้าน มาร่วมเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้เต็มที่
       
       นายสุธรรม พันธุศักดิ์ ส.ว.สรรหา กล่าวถึงสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ตามที่ปรากฎเป็นข่าวการก่อความไม่สงบมีระดับที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และผู้ก่อความไม่สงบผยองถึงขั้นออกใบปลิวสั่งให้ประชาชนหยุดทำการค้าขายใน ทุกวันศุกร์ ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา มีประชาชนหยุดทำการค้าขายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ต่อมาวันศุกร์ที่ 5 ต.ค. ร้านค้าใน จ.ยะลา กลับหยุดการค้าขายถึง 80 เปอร์เซนต์ ทั้งการบริการของรถโดยสารประจำทางก็หยุดวิ่งด้วย จึงรู้สึกเป็นกังวลว่ารัฐบาลจะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ อีกทั้งยังมีประเด็นที่กลุ่มนักวิชาการมหาวิทยาลัยของรัฐชื่อดัง ได้ทำการศึกษาวิเคราะห์วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็พบว่ามีความคล้ายคลึงกับประชาชนในรัฐกลันตัน ตรังกานู เคดาห์ และปะลิส ของประเทศมาเลเชีย ซึ่งเป็นเครือญาติกันมาตั้งแต่ในอดีต เพียงแค่เส้นกั้นเขตแดนจึงทำให้อยู่คนละประเทศ โดยเฉพาะรัฐกลันตัน ยังพบว่ามีวิถีชีวิตหยุดทำงานวันศุกร์ด้วย เรื่องดังกล่าวจึงเป็นอันตรายต่อประเทศไทยมาก ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้มีนโยบายที่แน่นอน ไม่เช่นนั้นรัฐบาลจะสูญเสียการปกครองใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
       
       นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ขอหารือผ่านไปยังนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในเรื่องเจตนารมณ์การก่อตั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในปี พ.ศ. 2545 ซึ่งได้ระบุว่า สถานการณ์ของโลกเปลี่ยนแปลงไป จนกระทบต่อสังคม เศรษฐกิจ รวมทั้งก่อให้เกิดอาชญากรรมที่ได้ใช้เทคโนโลยีและอิทธิพลเครือข่ายภายในและ ภายนอกประเทศ ทำให้ยากต่อกระบวนการสืบสวนสอบสวนคดีตามปกติ จากสาเหตุนี้จึงตั้งองค์กรดังกล่าวขึ้น แต่ขณะนี้ดีเอสไอกลับปฏิบัติงานไม่ตรงตามเจตนารมณ์ ทำหน้าที่สอดรับกับนโยบายการเมืองของรัฐบาล และทำหน้าที่จับฉ่ายเลอะเทอะ ดังนั้นจึงขอให้คณะกรรมการพิเศษที่จัดตั้งองค์กรดังกล่าวได้หันมาทบทวน เรื่องนี้
       
       นายสมชายกล่าวต่อว่า ตนได้ศึกษา พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ในมาตรา 21 ซึ่งระบุว่าคดีที่ดีเอสไอจะรับไว้ตรวจสอบได้นั้น จะต้องเป็นคดีที่มีความซับซ้อน และรวบรวมหลักฐานเป็นพิเศษ เช่น ความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ การประกอบธุรกิจแรงงานต่างด้าว การค้ามนุษย์ เป็นต้น แต่ในข้อเท็จจริงไม่เห็นว่าดีเอสไอจะรับเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง เพราะขณะนี้ก็เห็นรับแต่คดีของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ที่ไปร้องให้ตรวจสอบการพิจารณากฎหมายขององค์กรนิติบัญญัติที่ไม่ครบองค์ ประชุม หรือเป็นเรื่องที่นายเรืองไกร ร้องให้ตรวจสอบ 2 พรรคการเมือง คือพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทย ในกรณีรับเงินบริจาค หรือตรวจสอบนายชัช ชลวร ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่าได้รับการโปรดเกล้าฯ หรือไม่ หรือแม้แต่การตรวจสอบจีที 200 การลอกท่อระบายน้ำ เรื่องน้ำท่วม ทั้งนี้ จึงขอเรียกร้องให้ดีเอสไอกลับมาพิจารณาคดีที่พิเศษจริงๆ เช่น ชายชุดดำที่ถูกจับได้ และรับสารภาพจำคุกอยู่ที่เรือนจำพิเศษบางเขน อีกทั้งผู้ต้องหาที่สารภาพว่ายิงเอ็ม 79 และปาระเบิดใส่ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม อดีตรอง เสธ.พล.ร.2 รอ.ค่ายจักรพงษ์
       
       นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา แกนนำกลุ่ม 40 ส.ว.ได้หารือถึงนโยบายการจำนำข้าวของรัฐบาลว่า การที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ระบุว่ามีผู้ซื้อข้าวแล้ว 7.5 ล้านตัน แต่ก็ไม่มีรายละเอียด จาการสอบถามแวดวงผู้ส่งออกข้าว บอกว่าขายข้าวขนาดนี้จะต้องใช้กระสอบกี่พันกี่ร้อยล้านใบ จองเรือกี่ร้อยล้านเที่ยว แต่ก็ไม่มีความเคลื่อนไหวในการผลิตกระสอบหรือจองเรือเลย ดังนั้นอย่ามั่วๆ ไปอย่างนี้ อีกทั้งนายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานที่ปรึกษาเศรษฐกิจของนายกฯ และประธานธนาคารแห่งประเทศไทยให้สัมภาษณ์ว่าการจำนำข้าวเปิดช่องการทุจริต ทำลายโครงสร้างตลาด จะให้ตนเชื่อนายวีรพงษ์หรือจะให้เชื่อ รมว.พาณิชย์ หรือเชื่อนายกฯ
       
       ด้าน น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรีและกลุ่ม 40 ส.ว.กล่าวว่า ฝากไปถึงนายกฯ รองนายกฯ และ รมว.คลัง รมว.พาณิชย์ ปลัดกระทรวง และอธิบดีกระทรวงพาณิชย์ โมเดลโกหกสีขาวจากการที่โครงการรับจำนำข้าว เมื่อวันที่ 5 ต.ค.อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศแจ้งว่าให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้ทำใบส่งสินค้าจ่ายข้าวให้กับผู้ซื้อข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี ที่มารับมอบ 4-5 ราย แต่พอวันที่ 6 ต.ค. อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกลับบอกว่ากรมได้ทำสัญญาซื้อขายข้าวระหว่างรัฐต่อ รัฐจำนวน 7 ล้านตันจริง แต่ไม่สมารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากเป็นข้อตกลงที่ทำไว้กับประเทศนั้นๆ จึงคิดว่าเป็นหน้าที่ของกรมการค้าต่างประเทศต้องชี้แจงว่าใครเป็นผู้ซื้อไป ราคาเท่าไหร่ แต่กลับไม่มี จึงคิดว่าการโกหกสีขาวได้ระบาดไปถึงข้าราชการประจำ และคิดว่ารัฐบาลนี้มีเรื่องโกหกสีขาวอีกกี่เรื่อง
       
       นายเจริญ ภักดีวานิช ส.ว.พัทลุง หารือว่า การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยซึ่งมีหลายระลอก แต่จากบทเรียนปีที่แล้วมีผู้เสียชีวิต 700 กว่าคน ระบบการช่วยเหลือรัฐบาลต้องเตรียมการที่ดี คือต้องตรวจสอบสัญญาณการเตือนภัย มีประสิทธิภาพมีการซักซ้อมเป็นประจำหรือไม่ และจากการติดตามสาเหตุการเสียชีวิตในปีที่แล้วมาจากจมน้ำ ไฟฟ้าดูด ซึ่งรัฐบาลต้องเตรียมมาตรการแก้ไข โดยเฉพาะระบบไฟฟ้า นอกจากนี้กรณีผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้ชรา หญิงมีครรภ์ระบบการช่วยเหลือบางพื้นที่ค่อนข้างมีปัญหา
       
       นายมณเฑียร บุญตัน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า กรณีที่รัฐบาลมีแนวคิดที่จะนำรถเมล์ระบบเอ็นจีวีกลับมาปัดฝุ่นอีกครั้ง ซึ่งการกำหนดคุณสมบัติยังไม่ยุติ ว่าจะทำอย่างไรให้เป็นรูปแบบที่เอื้อประโยชน์ให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ทุกคน ไม่สร้างอุปสรรค์ในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์ แม้ประชาชนจะมีข้อจำกัด ไม่ว่าวัย เพศ ความพิการ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลได้เร่งทบทวน จุดยืนที่แข็งกร้าว ของกระทรวงคมนาคม และขสมก.ที่ไม่ยอมนำข้อเสนอของกลุ่มคนพิการไปพิจารณา ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้ขยายเวลาการขึ้นรถเมล์ฟรี แต่ยังปรากฎว่าผู้สูงอายุ และคนพิการถูกปฏิเสธ โดนพนักงานขับรถหนี นอกจากนี้การจ่ายค่าโดยสารหรือไม่ก็เป็นดุลพินิจของพนักงานเก็บค่าโดยสาร มากกว่านโยบายที่ชัดเจนของรัฐบาล ดังนั้นรัฐบาลจะต้องประกาศนโยบายให้จริงจัง ไม่ใช่เป็นดุลพินิจของคนใดคนหนึ่งที่จะทำบุญเป็นครั้งๆ ไป
       
       นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา หารือว่า เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ครบรอบ 4 ปีของการที่มีมวลชนกลุ่มหนึ่งมาล้อมรัฐสภา และเกิดเหตุการณ์รุนแรง ตนจะไม่พูดถึงมูลเหตุและเหตุการณ์เพราะเป็นแนวคิดทางการเมือง แต่สิ่งที่ผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ยินแล้วรู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่งคือ พวกเขาใช้ความรุนแรง โดยผู้เสียชีวิตถูกกล่าวหาอย่างผิดๆ ว่าพกระเบิดมาเอง ซึ่งเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 55 ได้มีการคำพิพากษาศาลปกครองกลางที่นายชิงชัย อุดมเจริญกิจ ผู้ฟ้องคดีที่หนึ่ง กับพวกรวม 250 คน ได้ฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับสำนักนายกฯ โดยพิพากษาระบุว่าการสลายการชุมนุมในวันนั้นไม่ได้เป็นการปฏิบัติตามหลัก สากลจากเบาไปสู่หนัก ไม่ชอบด้วยรูปแบบขั้นตอน “กรกฎ 48” และเป็นการกระทำที่เกินความจำเป็นเพราะกระทำหลายรอบตลอดทั้งวันจนค่ำ และข้ออ้างที่ว่าผู้ชุมนุมทำผิดกฎหมายนั้นก็ไม่เป็นเหตุให้รับฟังได้ว่า ต้องกระทำการด้วยความรุนแรง ศาลปกครองจึงพิพากษาว่าละเมิดตามมาตรา 420 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 8 มาตรา 10 พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 พิพากษาให้ชดใช้แก่ผู้ถูกฟ้อง ตามกรณีรวมแล้วมากกว่า 32 ล้านบาท เป็นแนวทางคำพิพากษาที่เป็นไปตามที่คณะกรรมาธิการสามัญของวุฒิสภาได้ศึกษามา แล้ว 3 ชุด คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ศึกษามาแล้ว และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ชี้มูลความผิดไว้แล้ว
       
       นายสุเมธ ศรีพงษ์ ส.ว.นครราชสีมา หารือว่า ขอฝากไปถึงนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ในการแต่งตั้งข้าราชการตั้งแต่ระดับข้าราชการระดับสูง ซี 9 และซี 10 โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด และปลัดกระทรวง การแต่งตั้งเป็นไปอย่างล่าช้า มาถึงวันนี้ยังไม่มีการแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าฯ ซึ่งอาจจะช้าไปถึงเดือน ม.ค. 56 ซึ่ง 3-4 เดือนที่ไม่มีผู้บริหารทำให้เกิดปัญหา อย่างปีที่แล้วเกิดปัญหาน้ำท่วมหนัก หรือปัญหาชายแดนที่จังหวัดศรีสะเกษ จึงขอให้ก.พ.ทบทวนระบบโดยการขึ้นบัญชีได้หรือไม่ ในการสรรหา และบรรจุแต่งตั้งตามบัญชีที่ทำไว้


“บิ๊กโอ๋” ปัดพูดรับได้โกงจำนำข้าว 20% ขู่ตบบ้องหูพวกฟังไม่เข้าใจ- กห.ระแวงจัด! ริบมือถือสื่อทำข่าว

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

“สุกำพล” ส่งโฆษกกลาโหมแจงจำนำข้าว จวกสื่อเขียนผิด ยันไม่ได้พูดยอมรับได้โกง 20% บอกนายพูดสั้นเลยทำเข้าใจผิด ลั่นคนบ้าที่ไหนจะยอมรับได้ แนะฟังให้ดี ขู่ฟังไม่เข้าใจต้องตบบ้องหู ด้านกลาโหมเข้มระบบรักษาความลับ สั่งเก็บมือถือนักข่าว-ช่างภาพขณะบันทึกภาพ แถมตัดสัญญาณฮัลโหลด้วย

         คลิกที่นี่ เสียงแถลงการณ์ " พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง"  
       
       วันนี้ (8 ต.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 14.00 น. พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทระทรวงกลาโหม แถลงชี้แจงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์โจมตีคำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ที่อ้างยอมรับได้กับการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว 20 เปอร์เซ็นต์ว่า จากการที่สื่อมวลชนมีการนำเสนอการให้สัมภาษณ์ของ รมว.กลาโหมเกี่ยวกับโครงการนำข้าว ซึ่ง รมว.กลาโหมได้ชี้แจงตามข้อมูลมีอยู่ว่าเป็นโครงการที่รัฐบาลได้คิดทบทวน หารือร่วมกันเพื่อทำให้เกิดประโยชน์กับชาวนา ซึ่งตัวเลขที่ รมว.กลาโหมระบุนั้นเป็นการประเมินผลว่า 80 เปอร์เซ็นต์เป็นส่วนที่ชาวนาได้ประโยชน์ ส่วนอีก 20 เปอร์เซ็นต์คือปัญหาทุจริตคอร์รัปชันที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไข ซึ่ง รมว.กลาโหมชี้แจงไปตามเอกสารข่าวที่ปรากฏขึ้น ความจริงเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระทรวงกลาโหม เพียงแต่กระทรวงกลาโหมเป็นกลไกหนึ่งของรัฐบาลที่รับทราบข้อเท็จจริง แต่มีสื่อมวลชนบางฉบับ และวิทยุบางคลื่นอาจไม่เข้าใจ พูดทำนองว่า รมว.กลาโหมยอมรับได้กับการทุจริต 20 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสั่งการทางตนเพื่อให้ชี้แจงว่าความจริงไม่ได้ คิดพูดแบบนั้น เพราะเด็ก ป.4 ยังยอมรับไม่ได้กับการทุจริตที่เกิดขึ้นในสังคม ซึ่งการให้สัมภาษณ์ในวันนั้น รมว.กลาโหมอาจจะพูดสั้นไปจึงทำให้สื่อเสนอคลาดเคลื่อนไปจากความคิดของท่าน ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลประกาศนโยบายเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันอย่างเร่ง ด่วนอยู่แล้ว
       
       “สิ่งที่มีผู้หวังดีบางคนได้ให้ข้อเสนอแนะว่าไปตบปาก รมว.กลาโหม ซึ่ง พล.อ.อ.สุกำพลฝากบอกผ่านผมมาว่าถ้า พล.อ.อ.สุกำพลพูดจริงจะตบปากตัวเอง สิ่งที่เกิดขึ้นอยากให้ใช้สติปัญญา ใช้วิจารณญาณของคนที่มีความรู้ความสามารถ สิ่งต่างๆ ที่แอบแฝงเข้ามา โดยมีอคติคิดว่าจะทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนสงสัยในสังคม ควรต้องใช้พิจารณาไตร่ตรอง ฟังไม่ได้ศัพท์แล้วจับมากระเดียด ท่านบอกว่า คนบ้าที่ไหนจะยอมรับได้ในสิ่งที่ผิด ถ้าทำได้ลองใช้ไม้แคะหูเอาไปแคะให้ดี ต้องฟังให้ดี คิดว่าถ้าจะทำให้ประโยชน์ร่วมกันน่าจะต้องให้ข่าวอย่างสร้างสรรค์ สิ่งไหนไม่เรียบร้อยจะต้องมีการประสานงานร่วมกัน ดังนั้นจะต้องไตร่ตรองให้รอบคอบ และอยากให้คนที่เสนอแนะมีวิจารณญาณของความเป็นผู้นำของคนที่มีความรู้ ถ้าฟังแล้วไม่เข้าใจจะต้องมีการตบบ้องหู ทั้งนี้ สาเหตุที่ รมว.กลาโหม ไม่ได้มาชี้แจงด้วยตัวเองเนื่องจากติดภารกิจ ซึ่งการที่ รมว.กลาโหม ให้ผมมาชี้แจงในครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับกระแสข่าวการปรับ ครม. แต่อยากให้สังคมเข้าใจในสิ่งที่ถูกต้อง” พ.อ.ธนาธิปกล่าว
       
       อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าขณะนี้ทางกระทรวงกลาโหม และสำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ออกมาตรการในการรักษาความปลอดภัย และมาตรการรักษาความลับของทางราชการ โดยเมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา เมื่อเวลา 14.00 น.ระหว่างงานรับมอบเงินบริจาคสมทบทุนให้แก่โรงพยาบาลทหารผ่านศึกที่ห้อง รับรองสำนักงานรมว.กลาโหม เพื่อสนับสนุนการก่อสร้าง “อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา” ที่มี พล.อ.อ.สุกำพลเป็นประธานการรับมอบ ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนขึ้นไปทำแต่อย่างใด เพียงแต่ให้ช่างภาพขึ้นไปบันทึกภาพเท่านั้น โดยก่อนเข้าห้องรับรอง ทางเจ้าหน้าที่และสารวัตรทหารได้ขอให้ช่างภาพนำโทรศัพท์มือถือใส่ตะกร้าหน้า ห้องไว้ และเมื่อบันทึกภาพเสร็จจึงมอบโทรศัพท์มือถือคืนให้ โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรายหนึ่งเปิดเผยว่า ถือเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยตามปกติ ซึ่งได้นำมาใช้ประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยผู้ที่เข้าพบจะต้องไม่พกอาวุธ และโทรศัพท์มือถือ แม้กระทั่งนายทหารระดับชั้นนายพลยังต้องนำโทรศัพท์มือถือวางไว้ด้านนอก ส่วนการประชุมสภากลาโหมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีการตัดสัญญาณโทรศัพท์บริเวณศาลาว่าการกระทรวงกลาโหมนั้น ถือเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง แต่ช่วงนี้จะมีการเข้มงวดเป็นพิเศษ
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดปัญหาความขัดแย้งจากการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระหว่าง พล.อ.อ.สุกำพล และ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม จนมีคำสั่งให้ พล.อ.เสถียรพ้นจากการทำหน้าที่นั้น ภายในกระทรวงกลาโหมได้มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะความระมัดระวังสำหรับบุคลที่จะเข้ามาพูดคุยเป็นการส่วนตัว เนื่องจากพบว่าในช่วงที่มีการเรียก ผบ.เหล่าทัพ และอดีตปลัดกระทรวงกลาโหม เข้าพบนั้นมีการอัดเทปการสนทนาทางโทรศัพท์มือถือ ทำให้ พล.อ.อ.สุกำพลต้องระมัดระวังผู้ที่เข้าพบและห้ามนำโทรศัพท์มือถือติดตัวเข้า ไปด้วย


62 ส.ว.ยื่น ปธ.วุฒิฯ ขออภิปรายรัฐบริหารชาติเสียหาย “นิคม” จ่อยำรวมญัตติจำนำข้าว

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

ส.ว.ตรัง นำทีม 62 ส.ว.ยื่นประธานวุฒิสภา ขออภิปรายทั่วไป ครม.แจงบริหารแผ่นดินส่อทำชาติเสียหาย จี้แจง 4 ประเด็น แก้ราคาพืชผลตกต่ำ ไฟใต้ จัดการน้ำขาดบูรณาการ และอื่นๆ ด้าน “นิคม” ขอเช็กดูก่อน จ่อยำรวมของ 40 ส.ว.ด้วย

       
       วันนี้ (8 ต.ค.) ที่รัฐสภา นายวิเชียร คันฉ่อง ส.ว.ตรัง พร้อมด้วยสมาชิกส.ว.ได้นำรายชื่อ 62 ส.ว. ยื่นต่อนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา เพื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปให้คณะรัฐมนตรีชี้แจงปัญหาบริหารราชการแผ่นดินที่ ส่อว่าจะเกิดความเสียหายแก่บ้านเมืองตามมาตรา 161 ของรัฐธรรมนูญ โดยนายวิเชียรกล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ยังไม่สามารถดำเนินการตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาได้อย่างเต็มที่ หลายนโยบายยังไม่มีการดำเนินการ บางนโยบายแม้จะมีการดำเนินการไปแล้ว แต่ก็สร้างปัญหา และเกิดอุปสรรคอย่างมากมาย ดังนั้นเพื่อให้ปัญหาต่างๆ ได้รับการดูแลจึงขอเปิดอภิปรายให้ครม.ชี้แจงใน 4 ประเด็นต่อไปนี้ คือ 1. ปัญหาการแก้ไขราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ โดยการรับจำนำสินค้าทางการเกษตร ทั้งข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง การรับซื้อสินค้าทางการเกษตรในราคาประกัน เช่น ยางพารา หอมแดง เป็นต้น ซึ่งแม้จะประสบความสำเร็จในการยกระดับราคาเพื่อให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น แต่ก็ได้ก่อให้เกิดปัญหาต่อระบบตลาด ส่อไปในทางทุจริตและประพฤติมิชอบ และเป็นภาระงบประมาณแก่รัฐเป็นจำนวนมาก
       
       นายวิเชียรกล่าวต่อว่า 2. ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งที่รัฐบาลได้เปลี่ยนโครงสร้างการบริหารราชการ และทุ่มงบประมาณไปแล้วกว่า 2 แสนล้านบาท 3. ปัญหาการบริหารราชการที่ขาดเอกภาพ และบูรณาการในการแก้ปัญหาร่วมกัน เช่น การบริหารจัดการน้ำ ที่ยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ รวมไปถึงปัญหาการจัดการกับภัยธรรมชาติต่างๆ 4. ปัญหาเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินในส่วนที่เกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ เช่น การท่องเที่ยว การศึกษา การปรองดอง ยาเสพติด เป็นต้น
       
       ด้าน นายนิคมกล่าวว่า ขอเวลาในการตรวจสอบญัตติดังกล่าวว่าถูกต้องหรือไม่ อย่างไรก็ตาม คงจะมีกาหารือกันก่อนว่าจะสามารถนำญัตติของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ที่มาขอเปิดอภิปรายในมาตราเดียวกันมารวมกับญัตตินี้ได้หรือไม่ เพราะการเปิดอภิปรายตามมาตรา 161 สามารถทำได้เพียงครั้งเดียวในสมัยประชุม


'พันศักดิ์'แจงไม่มีก.ม.ห้ามเอกชนรับซื้อข้าวถูกกว่ารบ.

"พันศักดิ์"โผล่แจงปมจำนำข้าวรบ. ระบุไม่มีก.ม.ห้ามเอกชนรับซื้อข้าวถูกหรือแพงกว่ารบ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันนี้ในเว็บไซต์อินไซด์ไทยกอฟ(www.insidethaigov.com)ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาลเคยใช้อ้างอิงข่าวในระยะหลังรายงานคำสัมภาษณ์ของนายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกรัฐมนตรี ในกรณีเสียงวิจารณ์นโยบายรับจำนำข้าวที่ถูกโจมตีว่ารัฐบาลค้าขายข้าวแข่งกับภาคเอกชน และทำให้เกิดการผูกขาด

โดยนายพันศักดิ์ กล่าวว่า โครงการรับจำนำข้าวไม่ได้เป็นการผูกขาด หรือกีดกันเอกชนเข้าสู่ตลาดการซื้อขายข้าว และไม่มีกฎหมาย หรือนโยบายของรัฐบาลข้อใดที่ห้ามเอกชนซื้อข้าวในตลาดข้าวเปลือก ไม่ว่าจะซื้อต่ำกว่า หรือมากกว่ารัฐบาล เพราะฉะนั้นประเด็นปัญหาของโครงการรับจำนำข้าว จะมีการขาดทุนทั้งสิ้นเท่าไรต้องรอจนกว่าจะมีตัวเลขที่แท้จริงออกมา หลังจากที่ได้รับเงินสดคืนกลับมาจากการขายข้าวในสต๊อก และต้องนำมาคำนวณต่ออีกครั้งกับเงินที่ชาวนาได้รับไป


สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : 40 ส.ว. บุญทรง เต้าขายข้าวในสต๊อก คำนูณ คำพิพากษา คดีสลายพันธมิตร 7 ตุลาฯ

view