จาก โพสต์ทูเดย์

กฟผ. ยืนยัน แม้ฝนน้อยแต่จะมีน้ำพอใช้ตลอดหน้าแล้ง วอนใช้น้ำอย่างมีวินัยไม่ขยายพื้นที่เพาะปลูกเกินแผน

นายกิตติ ตันเจริญ ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)  เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนจากอ่างเก็บน้ำของ กฟผ. ทุกแห่งในสิ้นเดือนตุลาคม มีปริมาณ 23,826 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 62% ของความจุใช้งานได้ แบ่งเป็น   เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ 6,800 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ 7,000 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนอุบลรัตน์ 200 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนสิรินธร 175 ล้าน ลบ.ม.  เขื่อนจุฬาภรณ์ 70 ล้าน ลบ.ม.  เขื่อนห้วยกุ่ม 10 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนบางลาง 600 ล้าน ลบ.ม.

ทั้งนี้ ปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนของ กฟผ. ปีนี้น้อยกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนน้อย โดยเฉพาะเขื่อนในภาคเหนือและภาคตะวันออกฉียงเหนือ  มีเพียงเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ ในภาคตะวันตกที่มีฝนดีและน้ำไหลเข้าเขื่อนในเกณฑ์มาก คณะทำงานวางแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง จึงวางแผนการระบายน้ำเพื่อการชลประทานในช่วงฤดูแล้งปี 2555/56 จากเขื่อน กฟผ. ลดลงจากปีก่อน 5,877 ล้าน ลบ.ม. หรือจาก 20,732 ล้าน ลบ.ม. เหลือ 14,855 ล้าน ลบ.ม. ตามปริมาณน้ำต้นทุนที่ลดลง

อย่างไรก็ตาม สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำน้อยและยังมีความแห้งแล้ง โดยเฉพาะที่เขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งในปีนี้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนอยู่ในเกณฑ์น้อยกว่าค่าเฉลี่ยถึง 51%  ปัจจุบันยังคงระบายน้ำเพื่อข้าวนาปีวันละ 4 ล้าน ลบ.ม. จนส่งผลให้หลังสิ้นสุดฤดูฝนปี 2555 เหลือปริมาณน้ำใช้งานได้เพียง 510 ล้าน ลบ.ม. หรือ 28~ ของความจุใช้งานได้ คณะทำงานฯ จึงได้พิจารณาให้งดการทำนาปรังในช่วงฤดูแล้งปี 2555/56 นี้ และได้สนับสนุนให้เกษตรกรปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยแทน เช่น ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ข้าวโพด
 
“อย่างไรก็ดี หวั่นว่าแนวโน้มราคาพืชผลทางการเกษตรในปี 2556 ที่อยู่ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะราคาข้าว อาจเกิดความต้องการน้ำเพื่อการเกษตรมากกว่าแผนที่วางไว้ จนส่งผลให้เกิดวิกฤติการขาดแคลนน้ำ และสร้างความเสียหายแก่พืชผลทางการเกษตร  ทั้งนี้ หากเกษตรกรมีวินัยไม่ขยายพื้นที่ทางการเกษตรเกินกว่าแผน ก็มั่นใจว่าจะมีน้ำจัดสรรเพื่อการเกษตรได้อย่างเพียงพอตลอดฤดูแล้งอย่างแน่ นอน” นายกิตติกล่าว

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน