สื่อพม่าพลัดถิ่น ตีข่าว จนท.ระดับสูงของไทยวิตก หวั่น “ทักษิณ” ถูกปลิดชีพสัปดาห์นี้

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

       เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-สื่อในความควบคุมของขบวนการพม่าพลัดถิ่น รายงาน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทยมีความกังวล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทยที่ถูกกองทัพโค่นอำนาจเมื่อ 6 ปีก่อน และอยู่ระหว่างหลบหนีคดีทุจริตในต่างแดนอาจถูกสังหาร ระหว่างเดินทางเยือนเมียนมาร์ หรือ พม่า เป็นเวลา 3 วันในสัปดาห์นี้
       
        รายงานซึ่งอ้างข้อมูลจากสื่อต่างประเทศหลายสำนัก รวมถึง เว็บไซต์สำนักข่าว “มิซซิมา นิวส์” ที่เป็น “กระบอกเสียง” ของกลุ่มเคลื่อนไหวขบวนการพม่าพลัดถิ่น ซึ่งมีฐานอยู่ในอินเดีย เมื่อวันจันทร์ (5) ระบุว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทย รวมถึง “บิ๊กโอ๋” พลอากาศเอกสุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไทยออกโรงแสดงความกังวลถึงความปลอดภัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีกำหนดเดินทางมายังพม่าในสัปดาห์นี้ เนื่องจากมีข่าวว่า อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยรายนี้อาจถูกลอบสังหารแม้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทย จะยังคงมั่นใจว่าทางการพม่าจะสามารถปกป้องพ.ต.ท.ทักษิณ จากการถูกฆ่าได้
       
        สื่อดังของขบวนการพม่าพลัดถิ่นซึ่งก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ.1998 และมีฐานอยู่ที่กรุงนิวเดลีของอินเดีย รายงานว่า เมื่อวันศุกร์ (2) ที่ผ่านมา ทางการพม่าได้ส่งกำลังเข้าจู่โจมบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ใกล้กับ “เรจินา โฮเต็ล แอนด์ กอล์ฟ คลับ” ซึ่งเป็นสถานที่ที่พ.ต.ท.ทักษิณจะเข้าพักระหว่างเดินทางเยือนจังหวัดท่าขี้ เหล็กของพม่า โดยเจ้าหน้าที่พม่าพบลูกระเบิดอาร์พีจี 3 ลูก ดินปืน และกระสุนปืนเอ็ม 16 อีก 10 นัดในบ้านหลังดังกล่าว และได้ควบคุมตัวชายคนหนึ่งในบ้านไปสอบสวน แต่เจ้าหน้าที่พม่ายังไม่พบความเชื่อมโยงกับการเยือนพม่าของพ.ต.ท.ทักษิณ โดยอ้างว่า การบุกค้นบ้านหลังดังกล่าวเป็นเพียงปฏิบัติการต่อเนื่องในการกวาดล้างขบวน การค้าอาวุธข้ามพรมแดน
       
        ทั้งนี้ มีข้อมูลว่า อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย วัย 63 ปี ซึ่งจะเดินทางเยือนพม่านาน 3 วัน มีกำหนดจะเข้าพบกับประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ผู้นำรัฐบาลพลเรือนของพม่าในวันพฤหัสบดี (8) ที่กรุงเนปีดอ เมืองหลวงแห่งใหม่ ก่อนจะเดินทางไปพบกับบรรดานักการเมืองของไทย และกลุ่มผู้สนับสนุนรวมถึงนักธุรกิจทั้งของไทยและพม่าที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ที่อยู่ตรงข้ามอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายของไทย ในวันศุกร์ (9) ท่ามกลางข่าวลือเรื่องแผนลอบสังหารพ.ต.ท.ทักษิณ และเตรียมโยนความผิดในการสังหารพ.ต.ท.ทักษิณไปให้กับพวกชนกลุ่มน้อยและขบวน การค้ายาเสพติดในพื้นที่

“โอ๊ค” ตีดรามา! อ้อน “นช.แม้ว” อย่ามาท่าขี้เหล็ก อ้างกลัวพวกค้ายาสอย

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

“พานทองแท้” เว้าวอนไม่เลิก! โพสต์เฟซบุ๊กกลัว “นช.แม้ว” ถูกพวกแค้นปราบยาสอย เผยเจ้าตัวชักกังวลจ่อไม่ไป ตีดรามา! หวั่นแดงโดนลูกหลง ขอผู้จัดใจเย็นรอสถานการณ์เอื้ออำนวยค่อยเจอกัน ทำเป็นขู่! ถ้ายังดื้อจะชวนน้องไปด้วย
       
       วันนี้ (5 พ.ย.) นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เขียนข้อความลงบนเว็บไซต์เฟซบุ๊ก Oak Panthongtae Shinawatra โดยระบุว่า “คุณพ่อผมเป็นคนที่ไม่เคยกลัวตายครับ หลายครั้งที่คุณพ่อผมอยู่ในสถานการณ์ที่ล่อแหลม เวลามีคนทักด้วยความเป็นห่วง คุณพ่อมักจะบอกว่า “ไม่ต้องห่วง ผมมีพระดี” แล้วก็เปิดคอเสื้อให้ดูพร้อมกับบอกว่านี่ไง “หลวงพ่อหนัง” (คือหนังล้วนๆ ไม่มีอะไรแขวนคอเลยครับ) การจะไปท่าขี้เหล็กครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน คุณพ่อผมก็ไม่กลัวเหมือนเช่นเคย จากข้อมูลจริงในพื้นที่, สมมุติฐานที่สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวใน กทม. และข้อมูลจากการลอบสังหารในอดีต ซึ่งผมได้ลงในโพสต์ที่แล้ว พื้นที่นี้ยังเป็นพื้นที่ ที่ทาง ป.ป.ส.กำหนดให้เป็นสีแดง มีชนกลุ่มน้อยกลุ่มต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และผู้ค้ายาของไทยที่มีคดีติดตัว หลบหนีไปอยู่เป็นจำนวนมาก”
       
       นายพานทองแท้ระบุโดยอ้างว่า การลอบสังหารนั้นสืบเนื่องมาจากสมัยที่พ่อของเขาเป็นนายกฯ ได้กดดันและปราบปรามผู้ค้ายาเสพติดจนกระทั่งแทบจะหมดไปจากผืนแผ่นดินไทย ซึ่งแน่นอนว่าคนกลุ่มนี้ย่อมเสียผลประโยชน์ และก็จัดอยู่ในกลุ่มที่เป็นปฏิปักษ์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ และเป็นอีกกลุ่มที่มีอิทธิพลในพื้นที่มากพอที่จะปฏิบัติการโดยใช้ความรุนแรง ได้ ทั้งขาเก่าเจ้าประจำ กลุ่มค้ายา และธุรกิจผิดกฎหมายต่างๆ
       
       นายพานทองแท้บอกด้วยว่า “จนถึงตอนนี้คุณพ่อผมยังบอกว่าไม่เคยกลัว และยืนยันที่จะไปอยู่เลยครับ แต่เมื่อผมพูดว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้น มันไม่ใช่พ่อคนเดียว พี่น้องประชาชนที่มาพบกับพ่อจะพลอยถูกลูกหลงไปด้วย ผมสังเกตุว่าท่านเริ่มลังเลใจ และอาจเปลี่ยนใจครับ แต่ตอนนี้ผมทราบว่าท่านเกรงใจคนที่เตรียมงาน เกรงใจพี่น้องจากทุกจังหวัดที่ได้ข่าวว่าพ่อจะมา และได้เตรียมตัวเตรียมใจที่จะพบกับคุณพ่อ และที่สำคัญตัวคุณพ่อผมเองก็คิดถึงและอยากเจอกับพ่อแม่พี่น้องมวลชนคนเสื้อ แดงทุกท่านครับ”
       
       นายพานทองแท้ระบุด้วยว่า “ผมต้องขอกราบเรียนทีมงาน และพี่น้องเสื้อแดงที่รักทุกท่านครับ ทุกท่านให้ความรักความศรัทธากับคุณพ่อผม ทุกท่านมีบุญคุณกับผมและครอบครัว ผมไม่มีวันลืมบุญคุณทุกๆท่าน ผมทราบดีครับว่าทุกๆ ท่านอยากเจอคุณพ่อผมตัวเป็นๆ มากกว่าการโฟนอิน หรือวิดีโอลิงก์ แต่ในเมื่อการมาเจอกันครั้งนี้อาจเป็นการเจอแบบมีของแถม คือเจอตัวและก็แถม RPG ให้ด้วย ผมเกรงว่ามันจะไม่ใช่ “ตัวเป็นๆ” อย่างที่คิดไว้สิครับ ผมว่าเราใจเย็นๆ กันก่อน ถ้าครั้งนี้สถานการณ์และสถานที่ มันไม่เอื้ออำนวย เราไว้ค่อยเจอกันใหม่ในสถานที่ ที่ปลอดภัยกว่านี้ ผมว่าเราจะได้เจอกันอย่างสบายใจกว่าครับ ครั้งนี้นึกว่าเป็นคำขอจากลูกๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นะครับ ช่วยกันบอกคุณพ่อผมว่าอย่ามาเลยท่าขี้เหล็ก ยิ่งบอกกันเยอะๆ ยิ่งดี ให้ท่านรู้ว่าพวกเราเป็นห่วงในความปลอดภัย แล้วหาโอกาสดีๆ สถานที่เหมาะๆ แล้วค่อยเจอกันใหม่ ปลอดภัยกันทุกคน จะเจอกัน 3 วัน 3 คืนก็ยังได้ หากคุณพ่อยังยืนยันว่าจะมาอีก โอ๊ค, เอม,อิ๊ง จะใช้ไม้ตายครับ เราจะบอกพ่อว่า ถ้าพ่อคิดว่ามันปลอดภัยจริง โอ๊ค+เอม+อิ๊ง ก็จะไปกับพ่อด้วยครับ”
       
       อย่างไรก็ตาม วานนี้ (4 พ.ย.) นายพานทองแท้ได้เขียนข้อความลงบนเว็บไซต์เฟซบุ๊กพร้อมรูปถ่ายของผู้ต้องหาขน อาวุธสงครามที่ทางการพม่าจับได้ที่ จ.ท่าขี้เหล็ก โดยอ้างว่าเจ้าหน้าที่ไทยเปิดเผยผลสอบสวนกับตนว่าผู้ต้องหาเตรียมใช้อาวุธ จรวดอาร์พีจีลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ในงานที่เจดีย์ชเวดากองจำลอง วันที่ 10 พ.ย. พร้อมระบุด้วยว่า ขาประจำที่เคยสร้างสถานการณ์คาร์บอมบ์ลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ สมัยเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นผู้สั่งการ

สุกำพล'โยนถาม'พานทองแท้'หลังปูดแผนฆ่า'ทักษิณ'

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

"สุกำพล"โยนถาม"พานทองแท้"หลังปูดแผนฆ่า"ทักษิณ"ชี้ข่าวเตรียมบินพบหรือไม่นั้น เป็นเรื่องส่วนตัว
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊คระบุว่ามีการจับอาวุธสงครามได้ โดยเฉพาะจรวดอาร์พีจีบริเวณจ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า เพื่อนำมาใช้ลอบสังหารพ.ต.ท.ทักษิณ ว่า “ต้องไปถามน้องหนูพานทองแท้ ผมไม่ทราบ ต้องไปถามเขา ข่าวนี้ถ้าพบเราไม่กระพือก็ไม่มีอะไร นายกฯทักษิณไปที่จ.ท่าขี้เหล็ก และก็มีการจับอาวุธได้ตรงนั้นตรงนี้บ้างเท่านั้นเอง หากถามว่าเกี่ยวพันกันหรือไม่นั้น เท่าที่ผมทราบก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน อย่าไปเขียนให้มันเกี่ยวพันกัน เพราะไม่ได้เกี่ยวพันกัน จับลูกจรวดอาร์พีจีได้แค่ 3 ลูก ไม่มีอาวุธปืน ซึ่งขณะนี้ก็มีการตรวจสอบว่าอาวุธดังกล่าวมาจากไหนอย่างไรแค่นั้นเอง คิดว่าท่าน (พ.ต.ท.ทักษิณ) อยู่พม่าก็มีคนดูแลอยู่ ทางเราก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร เป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน ผมดูแลความมั่นคงแต่เรื่องตรงนั้นไม่ได้ดู ”

ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่จะมีการปราบหรือไม่ที่มีการโพสต์ข้อความแบบนี้ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ถ้าเตือนก็จะต้องเตือนคนอีก 100 คนมากมายที่เขียนข้อความไม่ถูกต้อง เพียงแต่เรื่องนี้เป็นแง่มุมของนายพานทองแท้ ไม่เชื่อก็อย่าไปอ่าน และสื่อก็อย่าไปทำข่าวต่อ ถ้ารู้ว่าไม่ดีก็อย่าไปนำมาเป็นข่าว

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าให้น้ำหนักแผนการลอบสังหารพ.ต.ท.ทักษิณแค่ไหน พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ไม่วิจารณ์เรื่องนี้ แต่พ.ต.ท.ทักษิณรู้ดีที่สุด ถ้าท่านเดินทางมาก็แสดงว่าไม่มีอะไร ส่วนโอกาสที่พ.ต.ท.ทักษิณจะถูกลอบสังหารนั้นตนไม่ทราบว่ามีโอกาสแค่ไหน และตนไม่ต้องไปดูแล เพราะเป็นคนละดินแดนกัน จะเข้าไปดูแลได้อย่างไร เพียงแต่ติดตามข่าวเท่านั้น ทั้งนี้ตนไม่ได้มองว่าเป็นการปลุกกระแสเพื่อโจมตีฝ่ายตรงข้าม และไม่อยากมองนอกประเด็นอย่างที่สื่อมอง ตนมองเพียงว่าพ.ต.ท.ทักษิณเดินทางมาในพื้นที่เท่านั้น และพ.ต.ท.ทักษิณคงประเมินสถานการณ์เอง ถ้าปลอดภัยก็คงจะมา

ส่วนเราก็ดูว่าอะไรจะปัญหาในบ้านเราบ้าง อย่ามองยาก ถ้ามองยากอย่างผู้สื่อข่าวนั้นปวดหัว ส่วนจะเดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่นั้นเป็นเรื่องส่วนตัว ส่วนกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะเดินทางเข้าไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่หน้าที่ของตนที่จะต้องดูแลเรื่องความปลอดภัย ตนไม่เข้าไปเกี่ยวข้องเพราะคิดว่าหน่วยงานในพื้นที่คงดูแลกันอยู่แล้ว

“พัลลภ” ไม่เชื่อมีลอบฆ่า “ทักษิณ” ขำ “โอ๊ค” กุข่าวเคยถูกสั่งยิงถล่มจันทร์ส่องหล้า

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

“ปึ้ง” ไม่รู้มีคนวางแผนลอบสังหาร “นช.แม้ว” ด้าน “สุกำพล” ระบุการจับกุมอาวุธสงครามในพม่าเป็นเรื่องปกติ ด้าน “พัลลภ” ไม่เชื่อ “ทักษิณ” จะถูกลอบสังหาร หัวเราะเย้ย “โอ๊ค” กุข่าว เคยถูกจ้างให้ยิงอาร์พีจีถล่มบ้านจันทร์ส่องหล้า ถามไปเอาข่าวมาจากไหน
       
       วันนี้ (5 พ.ย.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กนาม Oak Panthongtae Shinawatra ระบุมีคนวางแผนสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณที่จะเดินทางมายังประเทศพม่าในวันที่ 10 พ.ย. โดยโยงเหตุการณ์การจับกุมอาวุธสงครามโดยเฉพาะอาร์พีจีได้ที่แนวชายแดน พื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็กว่ายังไม่ทราบรายละเอียด และยังไม่ได้รับแจ้งจากทางการพม่า
       
       ด้าน พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า จะไม่ส่งกำลังไปช่วยอารักขา พ.ต.ท.ทักษิณที่ประเทศพม่าแต่อย่างใด ซึ่งการจับกุมอาวุธสงครามของประเทศพม่านั้นเป็นเรื่องปกติ
       
       ขณะที่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่ายังไม่ทราบรายละเอียดมากนัก แต่โดยส่วนตัวไม่คิดว่าจะมีใครกล้าลงมือลอบสังหาร เพราะเป็นการกระทำนอกประเทศ ซึ่งลงมือลำบากและไม่น่าจะมีใครกล้าทำ
       
       “มันไม่น่าจะมีนะ ใครจะกล้าทำอะไรท่าน แล้วอยู่นอกประเทศด้วย ผมว่าไม่น่าจะมีหรอก ส่วนจะเป็นฝีมือใคร ผมไม่รู้จริงๆ”
       
       ส่วนที่ นายพานทองแท้อ้างว่ามีขบวนการจะลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นทหารเก่าคนดีเจ้าประจำ พล.อ.พัลลภกล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องนี้
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า นายพานทองแท้เขียนเฟซบุ๊กระบุว่า “พลเอก พ.พาน” เคยถูกสั่งให้นำอาร์พีจีไปยิงบ้านจันทร์ส่องหล้าแต่ไม่รับทำ โดย พล.อ.พัลลภหัวเราะ ก่อนจะกล่าวว่า “คงไม่เกี่ยวกับผม ไม่มีหรอก ไปเอามาจากไหน ทำไมพอเกิดอะไรขึ้นต้องมาโยนที่ผมตลอด ทั้งที่ไม่เคยยุ่ง”
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า ท้อหรือไม่ที่เวลาเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมักมีการโยงมาถึงพลเอก พ.พาน ทุกครั้ง พล.อ.พัลลภกล่าวว่า “นั่นสิ ใครจะทำอะไร ก็มาลงที่ผมทุกที”

“เสธ.อ้าย” ซัด “โอ๊ค” กุข่าวลอบสังหารพ่อเลอะเทอะ เมินข้อเสนอ ปชป.ซักฟอกไปไร้ประโยชน์

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

“พล.อ.บุญเลิศ” ซัดลูกชายทักษิณกุข่าวโคมลอยเลอะเทอะ อ้างมีคนลอบสังหารพ่อแค่ร้องความเห็นใจ ระบุคนไทยจะเอาอาวุธไปท่าขี้เหล็กยังไง เพราะชายแดนเข้มงวด ตาสับปะรดเพียบ จับได้ก็ฆ่าทิ้ง โต้ “เด็จพี่” ยันยังไม่กำหนดวันชุมชุมอีกครั้ง เมินข้อเสนอ “พิชัย” ให้ส่งข้อมูลฝ่ายค้านซักฟอก ชี้ไม่เป็นผล แพ้รัฐบาลอยู่ดี
       
       วันนี้ (5 พ.ย.) พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม กล่าวถึงกรณีที่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่ามีขบวนการลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ในช่วงวันที่ 8-10 พ.ย.นี้ โดยผู้สั่งการอยู่เบื้องหลังเป็นขาเก่าเจ้าประจำ คนดี คนเดิม โดยเชื่อมโยงจากกรณีที่มีการจับกุมชนกลุ่มน้อยและพบอาวุธสงครามจำนวนมากว่า เป็นการกุข่าว และเป็นข่าวโคมลอยมากกว่า เพราะคนไทยจะเอาอาวุธข้ามไป จ.ท่าขี้เหล็กได้อย่างไร เนื่องจากทางการพม่ามีความเข้มงวดเป็นอย่างมาก และเป็นการเพ้อเจ้อที่ระบุว่ายังมีขบวนการลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะด่านชายแดนพม่ามีความเข้มงวดเป็นอย่างมาก จะเอาอาวุธเข้าไปได้อย่างไร อีกทั้งเขาต่อสู้กับชนกลุ่มน้อยอยู่ เห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นแค่การกุข่าวเพื่อให้เกิดการสงสารหรือเห็นใจ มากกว่า และยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มตน เนื่องจากกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามได้ชุมนุมอย่างเปิดเผย
       
       “ผมไม่เชื่อข่าวนี้ ผมว่าเป็นข่าวเลอะเทอะ ทางพม่าเขาคงไม่ยอมให้เอาอาวุธเข้าไปสังหารใครก็แล้วแต่ในประเทศเขาได้ และผมไม่ทราบรายละเอียดว่า คนดี คนคนเดิม จะลอบสังหารคุณทักษิณตามที่นายพานทองแท้กล่าว แต่ผมยืนยันว่าไม่เชื่อข่าวนี้ คนจะขนอาวุธเข้าไปพม่าเพื่อสังหารคุณทักษิณ ผมไม่เชื่อ พม่าเข้มงวดจะตาย ใครขนอาวุธเข้าไปก็มีแต่ตาย แต่ถ้าเป็นอาวุธของพม่าที่อยู่ที่นั้นผมไม่รู้ พม่ามีตาเป็นสับปะรดจะตาย ถ้าเอาจริงๆ เขาจับได้เขาฆ่าทิ้งเลย” พล.อ.บุญเลิศกล่าว
       
       พล.อ.บุญเลิศยังกล่าวปฏิเสธกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่ากลุ่มองค์การพิทักษ์สยามจะนัดชุมนุมครั้งที่ 2 ในวันที่ 25 พ.ย.นี้ว่า ขณะนี้องค์การพิทักษ์สยามยังไม่ได้มีการกำหนดวันชุมนุมครั้งที่ 2 ที่แน่นอน จะเป็นวันใดก็ได้ เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมจำนวนผู้ที่จะเข้าร่วมชุมนุมที่แน่นอนอยู่ ว่าจะมีจำนวนเท่าใดจากทุกจังหวัด เพราะมองว่าหากมีการชุมนุมครั้งที่ 2 แล้ว มีผู้เข้าร่วมชุมนุมมีจำนวนไม่ถึงล้าน หรือใกล้เคียงหลักล้าน การชุมนุมก็จะไม่มีประโยชน์ เพราะจะสู้รัฐบาลไม่ได้
       
       นอกจากนี้ พล.อ.บุญเลิศยังกล่าวถึงกรณีที่นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามว่า ทุกความเห็นที่แสดงออกมาตนพร้อมรับฟัง รวมถึงความเห็นของนายพิชัยที่เลิกเล่นการเมืองไปแล้วนั้นตนก็รับฟังไว้ แต่คงจะไม่นำมาเป็นเหตุผลการพิจารณาถึงการชุมนุมครั้งที่ 2 ส่วนที่นายพิชัยเสนอว่าควรนำข้อมูลส่งให้ฝ่ายค้านเพื่อประกอบการอภิปรายไม่ ไว้วางใจนั้น ตนเห็นว่าฝ่ายค้านอภิปรายไปก็ไม่เป็นผล เมื่อมีการลงคะแนนก็แพ้รัฐบาลอยู่ดี และเมื่ออภิปรายไปรัฐบาลก็ไม่ใส่ใจที่จะรับฟังหรือนำไปปฏิบัติอยู่ดี

เลขาฯ สมช.กลับลำตาม “โอ๊ค” เออออมีแผนฆ่า “นช.แม้ว” จริง ที่ท่าขี้เหล็ก

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

“เฉลิม” เรียกเลขาฯ สมช.เฉ่งนับชั่วโมง ฐานให้ข่าวขัดแย้ง “โอ๊ค” สุดท้ายต้องออกมาให้สัมภาษณ์เออออตาม “พานทองแท้” มีแผนลอบสังหาร “นช.แม้ว” ที่ท่าขี้เหล็กจริง แปลกจับผู้รับจ้างได้แต่ไม่รู้ใครเป็นคนสั่ง ระบุแม้จับคนร้ายได้แต่เพื่อความไม่ประมาท ต้องหาทางป้องกัน รักษาความปลอดภัยนักโทษหนีคดี โดยไม่คิดจะหาทางนำตัวมาดำเนินคดี
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ออกมาปฏิเสธข่าวที่ นายพานทองแท้ หรือโอ๊ค ชินวัตร ออกมาระบุว่ามีกลุ่มคนวางแผนลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา ระหว่างเดินทางมายังท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า หลังทางการพม่าจับกุมชายไทยใหญ่พร้อมเครื่องยิงและจรวดอาร์พีจี ได้ที่ฝั่งพม่า ทำให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงไม่พอใจต่อการให้สัมภาษณ์ที่ขัดกับคำกล่าวของ นายพานทองแท้ จึงได้เรียก พล.ท.ภราดร และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.เข้าพบ ที่ห้องทำงานชั้น 4 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล โดยใช้เวลาเข้าพบประมาณ 1 ชั่วโมง
       
       พล.ท.ภราดรเปิดเผยภายหลังเข้าพบว่า จากการสอบสวนพิสูจน์หลักฐานพยานสิ่งแวดล้อมล่าสุดกรณีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.และทหารพม่าจับกุมชาวไทยใหญ่เชื้อสายพม่า ซุกซ่อนอาวุธสงครามไว้เป็นจำนวนมากอยู่ห่างจากพระธาตุชเวดากอง และโรงแรมเรจิน่า แอนด์ กอล์ฟคลับ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะไปสักการะ และเข้าพักระหว่างวันที่ 9-10 พ.ย.พบว่าการลอบขนอาวุธครั้งนี้มีแผนลอบสังหารพ.ต.ท.ทักษิณสอดแทรกอยู่ด้วย เพราะคนที่ถูกจับยอมรับสารภาพแต่ยังไปไม่ถึงผู้จ้างวาน ดังนั้นประมาทไม่ได้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ได้เพิ่มความระมัดระวังและขยายผล เรื่องนี้ ร.ต.อ.เฉลิมคงรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบแล้ว
       
       พล.ท.ภราดรกล่าวว่า ดังนั้นไม่ควรประมาท เพราะคนที่คิดในแง่ไม่ดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังคิดอยู่ตลอดเวลา รัฐบาลต้องให้ความสำคัญทั้งการมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย และประชาชนคนไทยข้ามไป
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่าอย่างนี้ พ.ต.ท.ทักษิณจะลังเลมาพม่าหรือไม่ พล.ท.ภราดรกล่าวว่า ยังไม่ถึงขั้นลังเลใจ แต่เพื่อความปลอดภัยเราประมาทไม่ได้ พยายามตรวจสอบและจะชี้แจงท่านอีกที และทางพม่าเองยังไม่ถึงขั้นขอร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณยกเลิกการเดินทางเข้ามาพบกับคนเสื้อแดง ตอนนี้กำลังสื่อสารกันอยู่ ซึ่งขณะนี้ข้อมูลยังไม่ตกผลึกสุดท้ายยังพอมีเวลา
       
       ส่วนที่มีหลายฝ่ายจับตาหน่วยงานรัฐพยายามทำข้อมูลให้สอดคล้องกับการ โพสเฟสบุคส์ของนายพานทองแท้นั้น เลขาฯ สมช.กล่าวว่า คงไม่ใช่ เอาตามข้อเท็จจริงดีกว่า ความกังวลที่นายพานทองแท้ มีความเป็นห่วงคุณพ่อก็คงมีฐานข่าวระดับหนึ่ง เป็นถึงลูกอดีตนายกฯ ความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ข่าวต่างๆ ก็พอมี ขณะเดียวกันของตนก็ตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ และจากแหล่งข่าวที่ปฏิบัติงานอยู่
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าทาง สมช.เองก็หวั่นในเรื่องของมือที่ 3 พล.ท.ภราดรกล่าวว่า เราต้องตั้งสมมติฐานและระวังป้องกัน อย่าลืมว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีขั้วของความขัดแย้งอยู่ ไม่ใช่เฉพาะพม่าไปที่อื่นก็ต้องระวัง แต่บังเอิญพม่ามันใกล้ไทยและมีคนไทยเดินทางไปจำนวนมาก รวมถึงการเมืองภายในประเทศมีการติดตาม เพราะเป็นเรื่องที่ประมาทไม่ได้ โดยเฉพาะการรวมกลุ่มของม็อบต่างๆ เพราะเรื่องเหล่านี้มันแสวงประโยชน์กันได้
       
       ต่อข้อถามว่า จากเหตุการณ์ตรงนี้ที่ยังมีข่าวในเรื่องของการลอบสังหาร จะยิ่งทำให้สถานการณ์การเมืองในบ้านเราแย่ลงไปอีกหรือไม่ พล.ท.ภราดรกล่าวว่า ก็มีส่วน แต่หลักคนที่รัก พ.ต.ท.ทักษิณก็ต้องเป็นห่วงท่านเป็นเรื่องปกติ เมื่อถามว่า ทำไมช่วงแรกรายงานด้านการข่าวของ สมช.ไม่ตรงกับที่ตำรวจสอบสวน พล.ท.ภราดรกล่าวว่า ถามว่าตรงไหมก็ตรงกัน เพียงแต่ตอนนั้นยังไม่ได้พิสูจน์ทราบ จึงพูดในส่วนที่เป็นชั้นต้นก่อน แต่เจ้าหน้าที่สอบสวนประกอบกับข่าวในพื้นที่ขยายผลก็พบมีความสัมพันธ์กัน เมื่อถามว่าการข่าวระบุหรือไม่ว่าเป็นทหารหรือเป็นผู้มีอิทธิพล พล.ท.ภราดรกล่าวว่า คงยังไม่ถึงขั้นนั้น
      

'เลขาสมช.'ยอมกลับลำ ข่าวลอบฆ่า'ทักษิณ'มีมูล

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

"เลขาสมช."ยอมกลับลำ ข่าวลอบฆ่า"ทักษิณ"มีมูล หลังกินข้าวเที่ยงกับรองนายกฯเฉลิม ปฏิเสธที่ถูกมองว่าหน่วยงานรัฐปั้นข้อมูล
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในช่วงที่นายกฯเดินทางไปประชุมอาเซ็มที่ สปป.ลาว ระหว่างวันที่ 5 - 6 พ.ย. 55 ได้เชิญให้ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) และพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. มารับประทานอาหารกลางวันร่วมกันและมีการพูดคุยกัน ซึ่งคาดว่ามีการพูดถึงทางด้านการข่าวกรณีที่นายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โพสต์เฟซบุ๊คเชื่อมโยงว่าขบวนการลอบฆ่าพ่อตัวเองกลับมาอีกครั้งหลังจากมีการจับกุมอาวุธสงครามจำนวนมากได้ที่ชายแดนไทย-พม่า ก่อนที่พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางมาทำกิจกรรมที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ของพม่าในวันที่ 10 พ.ย.นี้

โดยภายหลังการรับประทานอาหารมีเพียงพล.ท.ภราดร ที่ให้สัมภาษณ์โดยยืนยันว่า เหตุดังกล่าวมันเกิดมามีความสัมพันธ์กัน เพราะปัญหามันสัมพันธ์กัน ที่เรื่องการค้าอาวุธยึดโยงกับยาเสพติดที่เขาทำกันอยู่แล้ว จึงความเข้มงวดกันขึ้นมาทั้งฝั่งไทยและพม่า

“พอมีเรื่องเกี่ยวข้องกับท่านนายกฯทักษิณก็เป็นจังหวะที่มาบรรจบกันทั้งจากฐานข่าว และการสืบสวนของตำรวจภูธรภาค 5 ถือว่ามีมูล แต่ตอนนี้อยู่ในกระบวนการที่ท่านผู้บัญชาการกำลังสืบสวนเพิ่มเติมอยู่ เพราะคนที่ถูกจับครั้งแรกเขาหลุดปากออกมาทำนองว่าเกี่ยวข้องกัน แต่ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการสืบสวนอยู่ครับ อย่างไรก็ตามเชื่อว่ารองนายกฯเฉลิมคงรายงานให้นายกฯทราบแล้ว ” พล.ท.ภราดร กล่าว

เลขาสมช.กล่าวย้ำว่า ในชั้นนี้เราถือว่ามีมูล แต่ตอนนี้กำลังขยายผลต่อ เพราะต้องเกี่ยวข้องกับหลายส่วน เพราะเหตุการณ์ลักษณะอย่างนี้ในพื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่ค่อนข้างล่อแหลม กำลังเสนอแนะมาตรการและแนวทางป้องกันความปลอดภัย ไม่ใช่แค่ตัวอดีตผู้นำที่เราต้องให้ความสำคัญเต็มที่ แต่หมายถึงประชาชนชาวไทยที่ต้องข้ามไปด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่าการให้ปากคำของผู้ต้องหาได้มีการพูดถึงผู้จ้างวานหรือยัง พล.ท.ภราดร กล่าวว่า วันนี้ยังไม่ถึง แต่ก็กำลังพยายามสืบสวนอยู่ เพราะว่าผู้ต้องหาพอดีไม่ใช่คนไทย แต่ว่ามีความสัมพันธ์กันอยู่ แต่ก็พอจะต่อภาพยึดโยงมาถึงคนไทยได้ระดับหนึ่ง ทั้งนี้การข่าวยังไม่ได้ระบุว่าเป็นทหาร หรือผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลัง

ผู้สื่อข่าวถามว่าการข่าวของสมช.ตอนแรกทำไมถึงไม่ตรงกับตำรวจ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า “ตรงกันไหม ตรงกัน แต่พอดีตอนนั้นยังไม่ได้พิสูจน์ทราบ ก็เลยพูดเฉพาะในส่วนที่เป็นชั้นต้นก่อน แต่พอตอนนี้ทางตำรวจสืบสวนขยายผลมาประกอบกับการข่าวในพื้นที่ขยายผลก็มาต่อภาพแล้วก็มีความสัมพันธ์กันครับ ” อย่างไรก็ตามตอนนี้มีการตรวจสอบสภาพในพื้นที่อยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องห้ามคนเสื้อแดงที่จะข้ามไปท่าขี้เหล็กหรือไม่ พล.ท.ภาราดร กล่าวว่า ตอนนี้จำนวนมันมาก ไม่รู้จะห้ามยังไง แต่ก็กำลังสื่อสารกันอยู่และรอให้ตกผลึกสุดท้ายก็ยังพอมีเวลา และเชื่อว่ามีการแจ้งเตือนไปแล้วเพราะเราถือว่าเป็นคนไทยที่จะไปเจ้าหน้าที่ต้องเต็มที่อยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าเดี๋ยวสังคมเขาก็จะจับตาว่าหน่วยงานความมั่นคงของรัฐจะทำข้อมูลให้ซับพอร์ทการโพสต์เฟซบุคของนายพานทองแท้หรือไม่ พล.ท.ภราดร กล่าวยิ้มว่า “คงไม่ใช่ เอาตามข้อเท็จจริงดีกว่า เพราะว่าไอ้ความกังวลที่ท่านพานทองแท้ห่วงคุณพ่อเนี่ยท่านก็คงมีฐานข่าวระดับหนึ่งเพราะท่านเป็นถึงลูกอดีตนายกฯ และความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ แต่ขณะเดียวกันในส่วนของผมตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ แล้วก็แหล่งข่าวที่เราปฏิบัติงานอยู่

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน