สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ภัยเหลี่ยมคุกคามนาข้าวไทย

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

โสภณ องค์การณ์
       ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์
       
       ปี 2556 จะเกิดอะไรขึ้นในเมืองไทย ดีหรือร้าย รัฐบาลแม่นางโพยปูโพรกเน่าในจะอยู่รอดปลอดจากการโดนมวลชนขับไล่ เพราะความล้มเหลวในการบริหารจัดการบ้านเมือง พวกเครือข่ายขี้ข้าทักษิณยังมุ่งโกงบ้านกินเมืองต่อไปหรือไม่
       
        จะอยู่หรือจะไป ไม่มีใครตอบได้ แม้แต่ว่าจะอยู่อย่างไร หรือจะไปอย่างไร ก็ยากสำหรับการคาดเดาเช่นกัน! สิ่งที่คาดการณ์ได้คือ ประชาชนจะต้องเผชิญกับทุกข์เข็ญจากปัญหาค่าครองชีพ เพราะสิ่งที่จำเป็นในการดำรงชีพล้วนแต่จะเป็นภาระหนักกว่าที่เคยเป็นมา
       
        เอาเพียงแค่ราคาก๊าซหุงต้มสำหรับครัวเรือน ยานพาหนะ จะกระโดดไปสู่ระดับเกินทนเท่านั้น ราคาน้ำมัน ค่าไฟฟ้าพร้อมจะเข่นชาวบ้าน พวกมี รายได้ชักหน้าไม่ถึงหลัง รวมทั้งมนุษย์เงินเดือนระดับ 1-2 หมื่นบาทอีกด้วย
       
        ยิ่งมีรถยนต์ใหม่ป้ายแดงจากโครงการคืนภาษีให้ออกมาวิ่งเกลื่อนถนน จะทำให้สภาพจราจรโดยรวมย่ำแย่กว่าที่เป็นอยู่ เพราะกระทรวงการคลังคาด ไว้ว่าจำนวนรถยนต์ภายไต้โครงการนี้จะเพิ่มถึง 1.5 ล้านคัน มีความยาวรวมกันกว่า 6 พันกิโลเมตรถ้าเอามาจ่อต่อกัน ขณะที่ถนนไม่เพิ่มขึ้นเท่าไหร่
       
        การสูญเสียเงินตราต่างประเทศ การเสียรายได้จากภาษี การต้องนำเข้าผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และอุปกรณ์ต่างๆ ทำให้เรามีปัญหาด้านดุลการค้า ขณะที่รัฐบาลต้องจ่ายคืนภาษีให้มากกว่า 8 หมื่นล้านบาท
       
        โครงการประชานิยมเสี่ยงต่อเศรษฐกิจล่มสลายจะทำให้รัฐบาลต้องหาทางออก ด้วยการรีดภาษีจากแหล่งใหม่ หรือเข้มงวดในการจัดเก็บ เพื่อพยายามลดขนาดของรูรั่วและการขาดดุลเงินสด บัญชีเดินสะพัด
       
        ระดับหนี้สาธารณะ ไม่ว่าจะกู้จากแหล่งต่างประเทศหรือในประเทศก็ตาม เป็นภาระเพิ่มขึ้นของรัฐบาล ทั้งๆ ที่รายได้ไม่เพิ่มขึ้น การเก็บภาษีไม่เข้าเป้า ระดับของการโกงกิน ล้างผลาญทรัพยากร งบประมาณหนักข้อกว่าเดิม
       
        ประเด็นน่าห่วงคือ เมื่อโครงการประชานิยมถมไม่เต็มยังเป็นไปอย่างสุดโต่ง รัฐบาลมุ่งเอาใจชาวบ้านทุกระดับเพื่อรักษาอำนาจบริหารบ้านเมืองต่อไป ไม่แยแสเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ข้อครหา ชาวบ้านจะทนได้นานแค่ไหน
       
        การจำนำข้าวยังเดินหน้าต่อไป ทั้งๆ ที่รัฐบาลขาดทุนบานทะโรค ธนาคารการเกษตรฯ หรือ ธ.ก.ส. ต้องหวานอมขมกลืนรับสภาพการขาดทุนบักโกรกจนเสี่ยงต่อการลดชั้น และขาดสภาพคล่อง รัฐบาลก็ไม่ช่วยเหลือ
       
        เมื่อต้องแบกภาระและการเงินง่อนแง่น ย่อมส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพ และไม่สามารถรับใช้รัฐบาลอย่างเต็มที่อีกต่อไป สิ่งที่น่ากลัวคือแผนร้ายด้าน ความมั่นคง เมื่อธนาคารมีปัญหาขาดทุน อาจถูกบีบให้เดินเข้าสู่กับดัก
       
        ต้องไม่ลืมว่ารัฐบาลเหลี่ยมร้ายมีนโยบายมุ่งมั่นแปลงสินทรัพย์เป็นทุน แปรรูปรัฐวิสาหกิจ สร้างความมั่งคั่งให้เครือข่ายกลุ่มผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง ดังที่ได้เกิดขึ้นกับ ปตท. ทำให้ประชาชนต้องจ่ายเงินซื้อน้ำมัน ก๊าซ และไฟฟ้าในอัตราสูงกว่าหลายประเทศ แม้แต่สหรัฐและเพื่อนบ้าน
       
        เป็นการขูดรีด เอารัดเอาเปรียบอย่างเลือดเย็น ทั้งๆ ที่น้ำมันและก๊าซอยู่ในแผ่นดินไทยแท้ๆ! แต่ประชาชนยังทนได้กับราคาน้ำมันเฉียด 2 ลิตร100 บาท ธุรกิจพลังงานอยู่ในสภาพเหมือนถูกผูกขาดโดยผู้ค้ากลุ่มเดียว คือ ปตท.
       
        อะไรจะเกิดขึ้น ถ้า ธกส. ขาดทุน ขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินทุนสนับสนุนเกษตรกรตามเป้าประสงค์เดิม เพราะรัฐบาลใช้ธนาคารแบบผิดประเภทในการเป็นตัวหลักสำหรับนโยบายรับจำนำข้าว ในลักษณะ “ซื้อแพง ขายถูก”
       
        เมื่อถึงจุดนั้น ธนาคารต้องหาทางเพิ่มทุน ให้อยู่รอด! แต่จะเอามาจากไหน ในเมื่อเป็นรัฐวิสาหกิจ ดังนั้นรัฐบาลต้องหาข้ออ้างลดภาระด้วยการระดมทุนจากภาคเอกชน ก็คือการแปรรูปให้เป็นองค์กรเอกชนเพื่อความคล่องตัว
       
        ถ้าประชาชนยอม! ซึ่งไม่น่าจะมีเสียงคัดค้าน เพราะคนทั่วไปซึ่งไม่ใช่ชาวนาคงมองว่าธุระไม่ใช่ ยังดีกว่าเอาเงินภาษีไปอุ้ม! ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็จะเข้าทางนักการเมืองชั่วร้ายและกลุ่มทุนสามานย์ภายไต้อำนาจบักเหลี่ยม ร้าย
       
        คนทั่วไปอาจไม่รู้ว่าธนาคารรับจำนองอสังหาริมทรัพย์เพื่อค้ำประกันเงินกู้ ภาคเกษตร และหลักทรัพย์คือที่นา ที่ดิน พื้นที่ทำการเกษตร โดยผู้กู้คือชาวนาเกษตรกร หวังได้เงินทุน และรายได้ไถ่ถอน สะสมหนี้และดอกเบี้ย
       
        ถ้ากลุ่มคนชั่วร้ายสร้างภัยพิบัติจากธรรมชาติให้การเกษตรเสียหาย ผู้จำนองไม่มีเงินรายได้มาไถ่ถอนจำนอง ต้องสูญเสียกรรมสิทธิ์ โดนยึดที่ทำกิน! ไม่มีความเห็นใจเมื่อ ธกส. เป็นธุรกิจกึ่งเอกชน มุ่งเน้นกำไรสูงสุดเหมือน ปตท.
       
        ใครก็ตาม ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ มีอิทธิพลเหนือองค์กร ย่อมได้โฉนด กรรมสิทธิ์ที่ดิน ที่นา ในราคาต่ำกว่าที่เป็นจริง นั่นคือโอกาสได้สะสมพื้นที่ทำการเกษตรเพื่อขายให้นักลงทุน โดยเฉพาะต่างชาติด้วยกำไรอย่างงาม
       
        คงไม่ต้องบอกว่าชาวนาไทยกำลังกลายเป็น “ชาวเช่านา” และ ธกส. ในรูปแบบใหม่คือสำนักงานรวมโฉนดเพื่อสร้างกำไรเต็มที่ในการซื้อขายที่ดิน! คงไม่ใช่ประเด็นน่าสงสัยว่า “ใคร” ชื่นชอบกับนโยบายขายชาติ ขายแผ่นดิน
       
        เมื่อถึงวันนี้ ต่างชาติคงเป็นเจ้าของแผ่นดินไทยเกินกว่าครึ่ง! ใครควบคุมพื้นที่เกษตรได้ ย่อมควบคุมวงจรและห่วงโซ่การผลิตอาหาร และ “ข้าว” ได้
       
        เห็นหรือยังว่าการทำให้การเกษตรนาข้าวไทย การส่งออกเสียหาย ล่มจมนั้นเลือดเย็น อำมหิต ชั่วร้ายกว่าการขายชาติแค่ไหน! คงไม่น่าแปลกใจ ถ้าคนไทยต้องเข้าคิวซื้อข้าวในราคาโหด เหมือนซื้อน้ำมันและก๊าซดังเช่นปัจจุบัน!


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ภัยเหลี่ยม คุกคาม นาข้าวไทย

view