สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ช่อง3เผยเหตุสั่งถอดเหนือเมฆ2ขัดมาตรา37

ช่อง3เผยเหตุสั่งถอดเหนือเมฆ2ขัดมาตรา37

จาก โพสต์ทูเดย์

กสทช.เผยช่อง3ระบุเหตุระงับออก อากาศเหนือเมฆ2เหตุเนื้อหาขัดมาตรา37 กม.ประกอบกิจการโทรทัศน์ "สุภิญญา" เสนอบอร์ดถกจันทร์นี้แนะควรเชิญช่อง3มาชี้แจง

พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช. ) ในฐานะประธานอนุกรรมการกำกับเนื้อหา กล่าวว่า ได้คุบกับผู้บริหารระดับสูงของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ถึงเหตุผลในการะงับออกอากาศละครเรื่องเหนือเมฆ2แล้ว ได้รับชี้แจงว่าเนื้อหาของละครขัดมาตรา 37  พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 จึงต้องงดออกอากาศ แต่ไม่ได้บอกว่าเนื้อหาตรงส่วนไหนขัดกับมาตราดังกล่าว

อย่างไรก็ตามเมื่อเนื้อหาส่วนที่เหลือยังไม่ได้ออกอากาศ กสทช.ก็ไม่มีระบบที่จะไปขอตรวจเนื้อหา และการที่ช่อง 3 งดออกอากาศละครเหนือเมฆ 2 คิดว่าช่อง 3 คงพิจารณาดีแล้วว่าตัวเนื้อหาละครไม่เหมาะสม ซึ่งการที่จะให้ละครออกอากาศหรือไม่นั้น ช่อง 3 ก็มีคณะกรรมการที่ดูแลเรื่องเนื้อหาอยู่แล้ว

ทั้งนี้ในวันที่ 7 ม.ค.นี้กสทช.จะส่งหนังสือสอบถามไปยังสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3 เพื่อขอข้อมูลการยกเลิกออกอากาศละครเรื่องเหนือเมฆ2  เนื่องจากเห็นว่าเป็นประเด็นที่สังคมสนใจเป็นวงกว้าง

"เรื่องดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นปัญหาที่ต้องเรียกทางช่อง3เข้ามาชี้แจง โดยจะเป็นเพียงแค่การส่งหนังสือเพื่อขอข้อมูลมาศึกษาและพิจารณาเท่า นั้น"พล.ท.พีระพงษ์กล่าว

อนึ่งมาตรา 37 ตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ระบุไว้ว่า ห้ามมิให้ออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระที่ก่อให้เกิดการล้มล้างการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของ ประชาชน หรือมีการกระทำซึ่งเข้าลักษณะลามกอนาจาร หรือมีผลกระทบต่อการให้เกิดความเสื่อมทรามทางจิตใจหรือสุขภาพของประชาชน อย่างร้ายแรง

ด้าน น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ คณะกรรมการ กสทช. ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ @supinya ระบุว่า ทางกฎหมาย กสทช.คงไม่อาจไปสั่งให้สถานีฉายหรือไม่ฉายละครเรื่องอะไร เพราะเป็นการตัดสินใจของสถานี แต่ถ้าถูกแทรกแซงทางการเมืองจริงก็ถือว่ากระทบเสรีภาพและเป็นเรื่องขาดวุฒิ ภาวะมาก ถ้าช่อง3 ยอมให้แทรกแซงด้วยเหตุผลที่อ่อนแอก็เป็นปัญหาจริยธรรมและศักดิ์ศรีสื่อของ ตัวเองซึ่งเรื่องนี้ส่วนตัวมองว่าสะท้อนวิกฤตศรัทธาต่อละครไทยในฟรีทีวีหนัก ขึ้น

"ดิฉันจะเสนอเรื่องนี้เข้าที่ประชุมบอร์ดกสทช.ในวันที่ 7 ม.ค.นี้แต่ไม่มั่นใจว่า กสทช.ท่านอื่นจะว่าอย่างไร เพราะอาจไม่ขัดข้อกฏหมาย ส่วนตัวคิดว่าเป็นปัญหาสิทธิเสรีภาพสื่อ อย่างไรก็ตามแม้อาจไม่เข้าข้อกฏหมายตรง แต่เรื่องนี้ กสทช.แสดงท่าทีได้ โดยสำนักงาน กสทช. สามารถเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงในเวทีทวิภาคี หรือไตรภาคีได้"น.ส.สุภิญญา

น.ส.สุภิญญากล่าวว่า กสทช. ควรเชิญตัวแทนช่อง3มาชี้แจงถึงเหตุผลในการปลดรายการกลางอากาศ เพราะกระทบคนรอดูปริมาณมาก


กสทช.อุ้มรัฐบาลไม่ได้สั่งแบน “เหนือเมฆ 2” อ้างเนื้อหาละครขัด ม.37

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

กสทช. ออกหน้ายืนยันแทนรัฐบาล ไม่ได้เข้าไปแทรกแซงแบนละคร “เหนือเมฆ 2” แต่ต้องช่อง 3 พิจารณาแล้วเห็นว่าเนื้อหาเข้าข่าย ผิด มาตรา 37 พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551

       
       พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ในฐานะประธานอนุกรรมการกำกับเนื้อหา กล่าวถึงกรณีที่ช่อง 3 ระงับการออกอากาศละครเรื่อง เหนือเมฆ 2 ที่ออกอากาศทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ หลังข่าว ทั้งที่ละครเพิ่งออกอากาศและยังไม่ถึงตอนอวสาน ว่า ในหลักการเมื่อเทียบกับประเทศที่เจริญแล้ว ถ้าปล่อยให้สื่อไปหารายได้เอง ผลคือ รายการที่ผลิตออกมาจะขึ้นอยู่กับเรื่องของการตลาดไม่อิงกับหลักการของปรัชญา และศาสนา เพราะไม่ได้เป็นเรื่องของการตลาด และเมื่อเทียบกับรายการที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสนำเสนอซึ่งมีรัฐสนับสนุน เรื่องของงบประมาณ ก็จะทำเนื้อหารายการที่เหมาะสม ดังนั้นต้องมองหาจุดสมดุล
       
       พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวว่า วันนี้จะบอกว่าสื่อไม่รักชาติคงไม่ใช่ เพราะประเทศไทยมีหลักการแบบนี้ ซึ่งต้องมีการลงทุน ต้องหารายได้ และไม่มีอะไรเป็นของฟรี ส่วนกรณีของละครเรื่อง เหนือเมฆ 2 กสทช. ทำหน้าที่กำกับรายการและเนื้อหา โดยไม่มีระบบเซ็นเซอร์เนื้อหา ซึ่งการทำหน้าที่นี้ช่อง 3 ต้องแจ้งรายละเอียดผังรายการที่เปลี่ยนมา ให้ กสทช.ทราบโดยที่ในเนื้อหารายละเอียดต่างๆ ของรายการ ช่อง 3 ก็มีระบบตรวจสอบของเขาเอง เช่นกรณีไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ที่เปลือยอกวาดภาพ ช่อง 3 ก็ยอมรับว่าเกิดการตรวจสอบที่ผิดพลาดและชี้แจงมายัง กสทช. ดังนั้น เมื่อเคยเกิดความผิดพลาดยิ่งทำให้ช่อง 3 ต้องระวังมากขึ้น ดังนั้น กรณีของละครเหนือเมฆ 2 ช่อง 3 คงตรวจสอบแล้วว่าอาจผิดตามมาตรา 37 จึงสั่งให้หยุดการออกอากาศ ซึ่งเป็นการกำกับดูแลตัวเองของช่อง 3
       
       สำหรับ มาตรา 37 ตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ระบุว่า ห้ามไม่ให้ออกอากาศเนื้อหารายการที่มีลักษณะล้มล้างการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของ ประชาชน หรือกระทำซึ่งเข้าลักษณะลามกอนาจารหรือมีผลกระทบต่อการให้เกิดความเสื่อม ทรามทางจิตใจหรือสุขภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง
       
       ส่วนที่กระแสสังคมมองว่าละครเรื่องเหนือเมฆ 2 เป็นละครน้ำดี ที่ไม่มีการใช้คำหยาบ หรือตบตี แต่กลับโดนแบน พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวว่า ในเมื่อไม่เห็นเนื้อหาจริงๆ ก็พูดไม่ได้ ซึ่งการถ่ายทอดละคร หรือศิลปะก็ต้องดูด้วยว่าไปกระทบกับใคร อาจเข้าข่ายละเมิด เรื่องที่ว่าดี เป็นเรื่องของอัตวิสัย ถ้าดีแล้วเข้าข่ายหมิ่นประมาท ช่อง 3 อาจมองว่าตัดออกดีกว่า ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงว่าผลกระทบจะก่อให้เกิดความขัดแย้งไหม
       
       “ส่วนตัวได้คุยกับผู้บริหารระดับสูงของช่อง 3 แล้ว เขาบอกว่าเนื้อหาของละครขัดมาตรา 37 จึงต้องงดออกอากาศ แต่ไม่ได้บอกว่าเนื้อหาตรงส่วนไหนขัดกับมาตราดังกล่าว ซึ่งในส่วนของละครเหนือเมฆ 2 ถ้ายังไม่ได้ออกอากาศ หรือนำไปเผยแพร่ในสื่อ กสทช. ก็ไม่มีระบบที่จะไปขอตรวจเนื้อหา และการที่ช่อง 3 งดออกอากาศละครเหนือเมฆ 2 คิดว่าช่อง 3 คงพิจารณาดีแล้วว่าตัวเนื้อหาละครไม่เหมาะสม ซึ่งการที่จะให้ละครออกอากาศหรือไม่ก็แล้วแต่ความเห็นของช่อง 3 และช่อง 3 ก็มีคณะกรรมการที่ดูแลเรื่องเนื้อหาอยู่แล้ว”
       
       พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวอีกว่า กสทช. มีอำนาจหน้าที่ถาม และขอให้ ช่อง 3 ชี้แจง สาเหตุของการงดออกอากาศละครเหนือเมฆ 2 มาที่ กสทช. กรณีที่มีประชาชนที่เดือดร้อนจากการไม่ได้รับชมร้องเรียนเข้ามา ซึ่งการเปลี่ยนเรื่องละครที่จะออกอากาศ ช่อง 3 ได้แจ้งมาที่ กสทช.แล้ว เป็นลักษณะของการเปลี่ยนเรื่องละครไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงลักษณะรายการ
       
       พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวว่า ส่วนตัวมีความคิดเห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการปรับตัวของสื่อ ซึ่งเกิดจากระบบตรวจสอบที่เคยผิดพลาดกรณีไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ จึงทำให้ช่อง 3 มีการตรวจสอบที่เข้มงวด และตรวจสอบก่อนที่จะผิดพลาดอีก ซึ่งสิ่งที่ต้องทำของช่อง 3 ขณะนี้คือ ต้องชี้แจงกับประชาชนว่าทำไมต้องจบละครเรื่องเหนือเมฆ 2 เร็ว
       
       “มีคำถามว่า ความขัดแย้งทางการเมืองเป็นปัญหาที่ตัวบุคคล หรือเป็นปัญหาที่โครงสร้าง ถ้าปัญหาเกิดจากส่วนไหนก็ต้องไปแก้ไขที่ส่วนนั้น ซึ่งสังคมต้องมองข้ามเรื่องเหล่านี้ไปให้ได้ โดยส่วนตัวเห็นว่าประเทศไทยควรทำละครที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเมือง แต่ต้องเน้นให้คนเข้าใจที่ข้อเท็จจริง ไม่ใช่เน้นตัวบุคคล แต่ให้ชี้ไปที่โครงสร้างซึ่งปัญหาในเรื่องของโครงสร้างเป็นสิ่งที่เราต้องไป จับจ้อง และกรณีเหนือเมฆ 2 ที่งดออกอากาศ รัฐบาลไม่มีสิทธิ์มาแทรกแซง และไม่เห็นว่ารัฐบาลเข้าไปยุ่งหรือกำกับสื่อแต่อย่างใด”


'สุภิญญา'ทวิตปมช่อง3สั่งแบนละครเหนือเมฆ

สุภิญญา"ทวิตปมช่อง 3 สั่งแบนละครเหนือเมฆ2 กลัวมือที่มองไม่เห็น ชี้หากฝ่ายการเมืองแทรกแซงจริง ถือเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการ "ขาดวุฒิภาวะ"

นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ทวีตข้อความผ่านระบบทวิตเตอร์ สื่อสังคมออนไลน์ชื่อดัง แสดงความเห็นซึ่งเธอย้ำว่าเป็น ความเห็นส่วนตัว ต่อกรณีสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 สั่งแบนละครเหนือเมฆ 2 เมื่อวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงตอนอวสาน โดยอ้างว่ามีเนื้อหาไม่เหมาะสม ขณะที่มีกระแสวิจารณ์ในวงกว้างว่าถูกฝ่ายการเมืองแทรกแซง ข้อความทั้งหมดนี้เป็น ทวีต บนไทม์ไลน์ของ นางสาวสุภิญญา ซึ่งเธอย้ำหลายครั้งว่าเป็นความเห็นส่วนตัว

- รับทราบเรื่องละคร #เหนือเมฆแล้วนะคะ ไว้มาทวิตยาวๆ คืนนี้ติดภาระกิจสำคัญ #คหสต มองเรื่องนี้ว่าสะท้อนวิกฤตศรัทธาต่อละครไทยในฟรีทีวีหนักขึ้น

- ทางกฎหมาย กสทช.คงไม่อาจไปสั่งให้สถานีฉายหรือไม่ฉายละครเรื่องอะไร เพราะเป็นการตัดสินใจของสถานี แต่ถ้าถูกแทรกแซงทางการเมืองจริงก็กระทบเสรีภาพ

- ถ้าการเมืองแทรกแซงละคร #เหนือเมฆ จริงก็ขาดวุฒิภาวะมาก ถ้าช่อง3 ยอมให้แทรกแซงด้วยเหตผลที่อ่อนแอก็เป็นปัญหาจริยธรรมและศักดิ์ศรีสื่อของตัวเอง

- คนไทยต้องดูแต่ละครตบตี ข่มขืน ตลก ติ๊งต๊องก็เพราะไม่มีใครอยากสร้าง #ละครแนวอื่นโดยเฉพาะแนวการเมือง เพราะกลัวเกินกว่าเหตุ

- กสทช.เป็นองค์กรกำกับดูแลช่อง3โดยตรงตามกฏหมาย ยังไม่เคยมีท่าทีไปแบนละครใดเลย เรื่องนี้สะท้อนว่าฟรีทีวีกลัวมือที่มองไม่เห็นมากกว่า กสทช.

- ดิฉันเสนอเรื่องนี้เข้าบอร์ดกสทช.ได้ แต่ไม่มั่นใจว่า กสท.ท่านอื่นจะว่าอย่างไร เพราะอาจไม่ขัดข้อกฏหมาย ส่วนตัวคิดว่าเป็นปัญหาสิทธิเสรีภาพสื่อ

- ถ้าช่อง3ถูกแทรกแซง แล้วร้องเรียนมาที่ กสทช. เราพิจารณาได้ แต่ถ้าช่อง3เซ็นเซอร์ตัวเองก็คงไม่ร้องเรียนมา ดังนั้นผู้เสียหายจะเป็นคนดู

- เมื่อคนดูร้องเรียน กสท.ต้องดูว่าขัดกฏหมายข้อไหน ถ้าไม่ขัดกฏหมายแต่เป็นเรื่องจรรยบรรณ ตามกม. กสท.ต้องส่งเรื่องให้วิชาชีพสื่อตัดสินก่อน

- อย่างไรก็ตามแม้อาจไม่เข้าข้อกฏหมายตรง แต่เรื่องนี้ กสทช.แสดงท่าทีได้ ทั้งนี้ดิฉันไม่ทราบว่ามติบอร์ดจะเป็นอย่างไร แต่แสดงจุดยืนส่วนตัวได้เสมอ

- กสทช.มีฐานะเป็นนิติบุคคล การจะพิจารณาลงมติตัดสินอะไรก็ต้องเรียกประชุมบอร์ด ดังนั้นดิฉันจึงทวิตได้เฉพาะความคิดเห็นส่วนตัวในฐานะ กก.คนหนึ่ง

- ทั้งนี้ความคิดเห็นดิฉันอาจถูกหรือผิดก็ได้ วันนี้เป็นความเห็นเบื้องต้น จากนี้ก็ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน แต่รู้ว่าเป็นปัญหาสิทธิเสรีภาพ

- สำนักงาน กสทช. สามารถเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงในเวทีทวิภาคี / ไตรภาคี ได้ ส่วนผลจะเป็นอย่างไร จะเสนอและตามเรื่องให้ค่ะ

- ผู้บริโภค/คนดูที่เห็นว่าตนเองถูกละเมิดสิทธิ์ ช่วยกันร้องเรียนมาที่ กสทช.ได้ ร้องมากเรื่องก็จะใหญ่มากตาม โทรฟรี call center 1200

- กสทช.มีอำนาจตามกฏหมายโดยตรงตามมาตรา37 พรบ.ประกอบกิจการฯในการสั่งแบนวิทยุ-ทีวีได้ แต่กสท.ยังไม่เคยใช้อำนาจนี้และระวังในการใช้มาก

- ดังนั้นเมื่อกสทช.ยังไม่ได้ใช้อำนาจ แต่สื่อสั่งแบนตัวเอง สะท้อนว่ามีองค์กรที่สื่อกลัวกว่า กสทช.และ กสทช.ก็ยังไม่มีบารมีพอจะคุ้มครองสื่อได้

- รัฐธรรมนูญกำหนดให้มี กสทช.มากำกับดูแลสื่อ เพื่อให้สื่อเป็นอิสระจากรัฐบาล ดังนั้นถ้า กสทช.ไม่ได้สั่งแบน สื่อก็ไม่จำเป็นต้องกลัว แต่ยังกลัว

- ย้ำอีกครั้ง ทั้งหมดคือความเห็นที่เป็นอิสระของดิฉัน อาจถูกหรือผิด สังคมตัดสิน ดิฉันมีสิทธิ์คิดและพูดในฐานะ กสทช.คนหนึ่ง มติบอร์ดเป็นอีกเรื่อง

- ส่วนมติกสทช.ที่เป็นทางการ ก็ต้องรอเรื่องเข้าที่ประชุมบอร์ด กสท. แล้วพิจารณาลงมติต่อไปค่ะ cc กสท

- สรุป ดิฉันรับเรื่องนี้ไปเสนอวาระเข้าที่ประชุมบอร์ดกระจายเสียง(กสท.) และจะตามเรื่องต่อให้ค่

- วันจันทร์นี้มีประชุมบอร์ดกระจายเสียง กสทช. (กสท.) ตามวาระปรกติ คงได้มีการหารือเรื่องนี้ในวาระจร

- ที่ต้องเป็นวาระจรก็เพราะวาระการประชุมปรกติต้องส่ง/เสนอต้นเรื่องให้ท่านประธาน กสท. เซ็นรับวาระเข้าที่ประชุมก่อนล่วงหน้า

- แม้แต่ละครแรงเงาที่มีเรื่องร้องเรียนมาก กสท.ยังไม่มีแม้แต่การเตือนเพราะเป็นเสรีภาพสื่อ เพียงขอให้ปรับเรทให้เหมาะสม #เหนือเมฆ แบนตัวเองทำไม

- จริงๆในสังคมที่เป็นประชาธิปไตยและมีวุฒิภาวะแล้ว รัฐไม่ควรไปจุกจิกควบคุมเนื้อหาสื่อ เว้นแต่เนื้อหาที่ระบุว่าผิดกฏหมายชัดเจน

- ส่วนตัวคิดว่า #Ch3 แบนตัวเองเพราะความ กลัวมือที่มองไม่เห็น นัยหนึ่งคืออิทธิพลทางการเมือง ที่ผูกพันกับสัญญาสัมปทาน

- ส่วนมือที่มองไม่เห็นก็เป็นพวกไม่มีวุฒิภาวะทางการเมืองหรือพวกบ้าอำนาจ

- #Ch3 คงเกรงอิทธิพลทางการเมืองมากกว่ากลัว กสทช. เพราะเขายังอยู่ภายใต้ระบบสัญญาสัมปทานที่ควบคุมโดยสำนักนายกฯผ่านรัฐวิสาหกิจ อสมท.

- ในระบบสัญญาสัมปทาน ย่อมมีเหตุผกผันได้ตามการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ทุกรัฐบาลอยากคุมรัฐวิสาหกิจการสื่อสาร อาทิ TOT-CAT-MCOT

- สัญญาสัมปทานช่อง3 มีปัญหามานานแล้ว อำนาจในการตรวจสอบย้อนหลังเป็นของ กสทช.ตามกฏหมาย ถ้าฝ่ายอื่นอยากมีส่วนตรวจสอบก็ทำแบบเปิดเผย จริงใจ

- เฉพาะสำหรับเรื่องนี้ สนง.กสทช.(กสท.)ควรเชิญตัวแทนช่อง3มาชี้แจงถึงเหตุผลในการปลดรายการกลางอากาศ เพราะกระทบคนรอดูปริมาณมาก

- กสทช.คงไม่อาจเรียกมือที่มองไม่เห็นมาชี้แจงได้ เพราะเขา/เธอไม่ได้เป็นผู้รับอนุญาตประกอบกิจการฯ แต่เราส่งสัญญาณที่ถูกต้องให้คลื่นรบกวนนั้นได้

- ส่วนสัญญาสัมปทาน #Ch3 ที่ค้างคาใจ ทำให้ไม่เป็นอิสระทางการเมือง เสนอให้ทุ่มประมูลทีวีดิจิตอล แล้วทิ้งสัญญาสัมปทานเดิมเหมือน3G(แบบไม่ฮั้ว)

- ข้อดีการทิ้งสัมปทานมาอยู่ใต้ระบบใบอนุญาตของ กสทช. คือเป็นอิสระจากอิทธิพลทางการเมืองมากขึ้น ข้อเสียคือ (ถ้า) กสทช.ใจดี/เกรงใจเอกชนเกินไป

- การเปิดประมูลทีวีดิจิตอลใหม่สด24ช่องโดยบอร์ด กสท. จะเป็นโอกาสสำคัญให้ทุกฝ่ายเข้าสู่การแข่งขันและทิ้งสัญญาสัมปทานเดิมได้ (ถ้าต้องการ

- จุดยืนส่วนตัว แม้ไม่ค่อยใจดีกับกลุ่มทุนสื่อเท่าไหร่ แต่ก็เชียร์เต็มที่ให้ทุนสื่อปลดแอกตัวเองจากระบบสัมปทานล้าหลัง แล้วแข่งขันในระบบใบอนุญาต

- หารือกับท่าน กสท. @Thawatchai_NBTC ว่าจะเสนอวาระประชุมกับท่านประธาน @DrNateeDigital จันทร์นี้ cc ท่านรองฯ

- จะเสนอวาระหารือ กสท.จันทร์นี้ แต่ถ้าท่านมีเรื่องร้องเรียนเป็นรายบุคคลเพิ่มเติม โทร1200 หรือร้องผ่านเว็บ http://1200.nbtc.go.th/ #Ch3


“เหนือเมฆ” พ่นพิษ “นก ฉัตรชัย” อาจปิ๋วผู้จัดช่อง 3 ด้าน “นก สินจัย” ขอโทษบอกพูดไม่ได้จริงๆ

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

       “นก สินจัย” ทวีตขอบคุณทุกกำลังใจ เผยซาบซึ้งใจที่ทุกคนทำให้รู้ว่าตนไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก เจ้าตัวน้ำท่วมปากบอกขอโทษที่ไม่สามารถพูดอะไรได้เลย หึ่งช่อง3 สั่งนักแสดงหุบปาก จับตางานนี้ “นก ฉัตรชัย” อาจปิ๋วผู้จัดช่อง 3
       
       ทำเอาช็อกวงการโทรทัศน์ หลังเมื่อคืนวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา ช่อง3 จัดการถอดละครเรื่อง “เหนือเมฆ 2 ตอน มือปราบจอมขมังเวทย์” ออกจากผังช่องกลางอากาศ ทั้งที่เดิมมีกำหนดจะออกอากาศตอนจบ ในวันอาทิตย์ที่ 6 ม.ค.ที่จะถึงนี้ ทำให้ละครเรื่องดังกล่าวได้ออกอากาศเพียงแค่ 9 ตอน จากทั้งหมด 12 ตอน และเป็นละครเรื่องแรกที่ไม่มีตอนจบ!! ท่ามกลางกระแสข่าวลือ ว่า โดนการเมืองบีบ เนื่องจากเนื้อหาของเรื่องบอกเล่าถึงเรื่องราวการคดโกง การแก่งแย่งชิงอำนาจของนักการเมืองนั้นมันไปจี้แทงใจดำใครเข้า จนเป็นเหตุให้ละครเรื่องเหนือเมฆ2 ต้องลาจอเร็วกว่าที่กำหนด สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนละคร ทำเอาช่อง3 โดนสังคมโจมตียับเยิน
       
       ความเคลื่อนไหวล่าสุด ทางด้านของ “นก สินจัย” ได้ให้สัมภาษณ์กับทางหนังสือพิมพ์คมชัดลึกสั้นๆ ถึงเรื่องนี้ว่า… “เราต้องทราบอยู่แล้วเป็นธรรมดา เพราะเราทำงานด้วยกัน ส่วนสาเหตุจะมาจากอะไรนั้น ขออนุญาตไม่มีคำพูดใดๆ ทั้งสิ้น และไม่สะดวกที่จะตอบเลย ถามว่ารู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้ ขออนุญาตไม่มีคำพูดใดๆ ทั้งสิ้น จริงๆ ต้องขอโทษด้วย เราไม่สะดวกที่จะพูดเลย เพราะเราคงไม่สามารถตอบคำถามอะไรในส่วนนี้ได้ ขออนุญาตไม่มีคำตอบอะไรแล้วกัน ต้องขอโทษด้วยจริงๆ”
       
       นอกจากนี้ หลังจากเมื่อวานที่ผ่านมา(4 ม.ค.) เจ้าตัวได้โพสต์ผ่านอินสตาแกรมของตนเอง โดยมีข้อความว่า...“เป็นกำลังใจให้ทีมงาน ละครเหนือเมฆ 2 คะ และเป็นที่แน่นอนแล้วว่า ละครเหนือเมฆ 2 จะจบในวันศุกร์นี้ “ฉันเชื่อและศรัทธาในความดี...อย่ากลัวที่จะเป็นคนดี อย่าอายที่จะทำดี” #นภา#เหนือเมฆ 2
       
       รวมถึงข้อความว่า...“ไม่สำคัญว่าเกิดอะไรขึ้น สำคัญที่คุณคิดอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น”..ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ..
       
       ล่าสุด นก สินจัย ยังได้ทวีตข้อความขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้ โดยบอกว่าซาบซึ้งใจที่ทุกคนทำให้รู้ว่าตนไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก “ขอบคุณนะคะ 2-3 วันมานี้ ทำให้ซาบซึ้งว่าเราไม่ได้อยู่ในโลกนี้เพียงลำพัง กราบสวยๆ ด้วยหัวใจจากทีมงาน นักแสดงและผู้จัดเหนือเมฆค่ะ”
       
       ทั้งนี้นอกจากจะมีแฟนละครให้กำลังใจอย่างท่วมท้นแล้ว เหล่าดาราด้วยกันเองต่างก็แสดงความห่วงใยและเป็นกำลังใจให้ทีมผู้สร้างรวม ถึงนักแสดงเรื่องนี้มากมายเช่นกัน อาทิ “พจน์ อานนท์” ที่โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า “เข้าใจทีมงานเหนือเมฆ2 เลย ไม่เป็นไรให้กำลังใจพี่นกพี่อุ๋ย ละครดีมีสาระดันถูกแบนไม่ให้ฉาย หรือเข้าถึงยุคฮิตเลอร์ซะแล้ว เฮ้อเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย” ด้าน “ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน” ให้กำลังใจว่า “คนดีซะอย่าง น้องแรงใจให้ค่ะพี่” ส่วน “โก๊ะตี๋ อารามบอย” โพสต์ข้อความว่า “ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจครับ” ขณะที่ “กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์” ก็โพสต์ว่า “เราคือคนทำงาน ให้กำลังใจกันชนะใจคนดูเป็นพอ” อีกหนุ่มที่แสดงความคิดเห็นถึงกรณีนี้ก็คือหนุ่ม “แทค ภรัณยู” โดยเจ้าตัวโพสต์ว่า “จะแบนทำไม กลัวอะไร”
       
       อย่างไรก็ตาม หลังจากได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์ไปยัง “นก ฉัตรชัย” ในฐานะผู้จัดละครเรื่องนี้ รวมไปถึงผู้กำกับของเรื่องอย่าง “อุ๋ย นนทรีย์” แต่ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้ทั้งคู่ มีเพียงความเคลื่อนไหวที่เจ้าตัวได้มาโพสต์ผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว โดยทางด้านของ “นก ฉัตรชัย” นั้นได้โพสต์รูปซีดีที่เขียนข้อความว่า “เหนือเมฆ2 ตอน 9” พร้อมข้อความสั้นๆ ว่า “ขอบคุณทุกกำลังใจครับ” เช่นเดียวกันกับ “อุ๋ย นนทรีย์” ที่โพสต์รูปละครเรื่องเหนือเมฆ2 พร้อมข้อความว่า “เหนือเมฆ 2 ตอน มือปราบจอมขมังเวทย์ : หลับให้สบายนะ” ส่วนผู้ประพันธ์เรื่องนี้อย่าง “คฑาหัสต์ บุษปะเกศ” ก็โพสต์ว่า “ขอบพระคุณทุกกำลังใจที่มีให้กันนะครับ”
       
       ในขณะเดียวกัน ก็มีข่าวลือสะพัดว่าทางผู้ใหญ่ในช่อง 3 สั่งไม่ให้นักแสดงในเรื่องให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ ด้านผู้บริหารช่อง 3 เองก็ทำเฉยไม่ยอมแถลงข่าว ทั้งที่การกระทำดังกล่าวเป็นการหักดิบไม่ให้เกียรติและไม่เห็นใจคนดูที่เป็น แฟนละครช่อง 3 ที่ติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น นอกจากนี้ยังมีกระแสเกี่ยวกับอนาคตของ “นก ฉัตรชัย” ออกมาด้วยว่า ผลกระทบจากครั้งนี้ อาจทำให้เจ้าตัวไม่ได้เป็นผู้จัดละครให้กับช่อง3 อีกต่อไปก็เป็นได้


เริ่มแล้วแบนช่อง 3 “เอาเหนือเมฆกูคืนมา” ซัด “สรยุทธ” ทำเฉยไม่เสนอข่าวนี้

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

      แบนช่อง 3 เริ่มแล้วขบวนการทวงคืน “เหนือเมฆ 2” ประชาชนตั้งกระทู้อินเตอร์เน็ตถล่มช่อง 3 แบนเหนือเมฆโดยไม่มีเหตุผล ไม่มีคำอธิบาย ล่าสุดมีการตั้งแฟนเพจ “เอาเหนือเมฆ 2 กูคืนมา” หาแนวร่วมทวงคืนเหนือเมฆและยกย่องผู้ผลิตละคร พร้อมแต่งเพลงเสียดสีประชดประชัน
       
       ลุกเป็นไฟเลยทีเดียวเมื่อจู่ช่อง 3 ก็ตัดสินใจแบนละคร “เหนือเมฆ 2” ชนิด หักดิบคนดู ไม่สนว่าใครจะติดตามจบกันแบบค้างเติ่งเลยทีเดียว นับเป็นครั้งแรกที่ละครที่ยกออกไปจากผังทั้งๆ ที่ยังฉายไม่จบ แล้วจับละคร “แรงปรารถนา” ลงจอแทน โดยให้เหตุผลว่า เหนือเมฆเป็นละครที่ไม่เหมาะสม ส่วนไม่เหมาะสมอย่างไรนั้น กลับไม่มีการชี้แจงคนดูทราบ
       
       ด้านผู้สื่อข่าวทุกสำนักก็พยายามหาคำตอบว่า เหตุผลที่ทำให้ ช่อง 3 ตัดสินใจแบนเหนือเมฆเองทั้งที่กองเซ็นเซอร์ยังไม่ง้างกรรไกรเลยด้วยซ้ำเกิด จากอะไร ใช่การเมืองบีบคั้นหรือไม่ แต่กลับไม่มีแถลงการณ์ใดๆ จากช่อง 3 ไม่มีการเปิดแถลงข่าวถึงเหตุผลดังกล่าว เรียกว่าเล่นบทขอมดำดินหนีกระแส ในขณะที่โฆษกรัฐบาลออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนสั่งแบน
       
       เมื่อช่อง 3 ไม่พูดแถมยังมีข่าวห้ามดาราที่เล่นละครเรื่องดังกล่าวให้สัมภาษณ์ ประชาชน แฟนคลับ ผู้ชมละครทั้งหลายที่จู่ๆ ก็ถูกหักคอไม่ให้ดูละครต่างหาคำตอบและทวงความยุติธรรมให้กับละครเหนือเมฆ ในโลกโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค เว็ปไซต์ต่างๆ ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ค อินสตราแกรมมีการตั้งกระทู้จวกช่อง 3 จนกลายเป็นกระแสร้อนแรง
       
       ล่าสุดก็มีการตั้งแฟนเพจ “เอาเหนือเมฆ 2 กูคืนมา” ขณะนี้มีคนเข้าไปกดไลท์แล้วเกือบ 2 หมื่นคน และแต่ละคนต่างระบายความในใจที่มีต่อละครเรื่องดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่จะยกย่องและให้กำลังใจทีมผู้ผลิตละคร มีการยกเอาคำพูดเด็ดๆ จากละครมาโพสต์
       
       "ฉันก็จะลุกขึ้นมาต่อสู้กับความอยุติธรรม ตราบใดที่ดอกเตอร์เมฆายังมีชีวิตอยู่ จะไม่มีวันยอมให้คนชั่วคนเลวขึ้นมาเป็นใหญ่"(เหนือเมฆ ตอนที่5)"
       
       "ท่อน้ำเลี้ยงของดอกเตอร์เมฆา คือศรัทธาของประชาชน ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อความสุขของประชาชน" (เหนือเมฆ ตอนที่7)
       
       "มีอำนาจ แต่ไม่รู้จักใช้อำนาจ ไม่เรียกว่าโง่ แล้วจะเรียกอะไร" (เหนือเมฆ ตอนที่ 7)
       
       “แนวคิดศรัทธาในการทำความดี จะถูกปลูกฝังจากรุ่นสู่รุ่น ค่านิยมของการทำดีเพื่อสังคมจะต้องคงอยู่ตลอดไป" (เหนือเมฆ ตอนที่ 20)
       
       "ผมสัญญาว่าจะสร้างค่านิยมใหม่ให้กับสังคมไทย เราจะต้องทำทุกอย่างบนความถูกต้อง เที่ยงตรง หมดยุคการเมืองต่างตอบแทนแล้ว"(เหนือเมฆ ตอนที่ 26)
       
       "ถ้ายังไม่เข้าใจความหมายของคำว่า คน ความดี ศีลธรรม และคุณธรรม อย่าเล่นการเมือง! เพราะมันจะทำให้สภาสกปรก ประเทศชาติล่มจม" (เหนือเมฆ#7)
       
       "ตัดถนน 8 เลนเข้าอุทยานแห่งชาติ ทำลายสิ่งแวดล้อมและสัตว์ป่า มีแต่มนุษย์สมองฝ่อกว่าสัตว์เท่านั้นที่คิดได้" (เหนิอเมฆ#7)
       
       "ที่จริงฉันก็เห็นด้วยว่าต้องมีดาวเทียมเพิ่ม แต่ไม่ใช่เวลานี้ ที่ปากท้องประชาชนกับการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญที่สุด"(เหนือเมฆ#7)
       
       นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีการโพสต์ภาพขึ้นมาประชดประชันรัฐบาลและช่อง 3 อาทิเช่น เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือเมฆยังมีรัฐบาล , นักโทษโผล่ช่อง 11 นายกบอกทำได้ไม่กระทบความมั่นคง เหนือเมฆถูกถอดกลางอากาศเพราะกระทบความมั่นคงรัฐบาล ฯลฯ และโพสต์ภาพที่มีโลโก้แบนช่อง 3
       
       เท่านั้นไม่พอยังมีการแปลงเพลงเกิดมาแค่รักกัน ของบิ๊กแอส โพสต์ขึ้น youtube โดยมีเนื้อหาตัดพ้อต่อว่าช่อง 3 ที่แบนละครดีๆ อย่างเหนือเมฆ ในขณะที่ละครแย่งผัวแย่งเมียกับปล่อยให้ออกอากาศ แม้แต่ละครแรงปรารถนาที่มาฉายแทนเหนือเมฆเปิดฉากมาก็ตบกันนัวซะแล้ว
       
       และที่โดนหางเลขไปอีกคนก็คือ “สรยุทธ สุทัศนจินดา” นักอ่านข่าวคนดังที่พึ่งจะโดนคดียักยอกเงินอสมท. 138 ล้าน ที่ไม่ยอมรายงานข่าวนี้ในรายการ “เรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์” แม้จะเป็นกระแสโด่งดังขึ้นหน้า 1 หนังสือพิมพ์ทุกฉบับ
       
       ช่อง 3 จะจัดการเรื่องนี้อย่างไร จะให้คำตอบกับคนดูอย่างไร จะเงียบทำเฉยปล่อยให้กระแสซาไป คงไม่มีใครง้างปากให้ผู้บริหารช่อง 3 ออกมาพูดได้หากเจ้าตัวไม่เต็มใจ การแบนละครเหนือเมฆ 2 อย่างไม่มีเหตุผล ไม่มีคำตอบให้กับประชาชน ให้กับแฟนๆ ของช่อง 3 อาจเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่ลุกลาม
       
       การถอดละครเหนือเมฆอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับสถานี แต่ยิ่งใหญ่ในใจคนดูเพราะการที่ถอดไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ถอดทั้งๆ ที่ละครไม่จบ ไม่ให้เหตุผลที่ชัดเจน มันไม่ใช่แค่ทำให้คนดูหงุดหงิดเสียอารมณ์ แต่นั่นมันหมายถึงการไม่ให้เกียรติ ไม่สนใจความรู้สึกของคนดูที่เป็นผู้สร้างเรตติ้งหล่อเลี้ยงให้สถานีอยู่ได้
       
       ไหนว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน ไหนว่าเป็นครอบครัวข่าว คนในครอบครัวเดียวกัน เขาทำแบบนี้เหรอ ?


ชาวเฟซบุ๊กตั้งเพจทวงคืนเหนือเมฆ2

จาก โพสต์ทูเดย์

ชาวเฟซบุ๊กตั้งเพจทวงคืนเหนือเมฆ2

ชาวเฟซบุ๊กวิจารณ์แซ่ดช่อง3ถอด "เหนือเมฆ2" ตั้งเพจเรียกร้องให้ออกอากาศตอนจบ "วราเทพ" ยันไม่มีใครสั่งระงับออกอากาศ-เนื้อหาไม่กระทบรัฐ

หลังจากที่สถานีโทรทัศน์ช่อง3 ได้ประกาศยุติการออกอากาศละครเรื่อง เหนือเมฆ2 ตอน มือปราบจอมขมังเวทย์ เมื่อวันที่ 4 ม.ค. โดยให้เหตุผลว่ามีเนื้อหาบางช่วงบางตอนไม่เหมาะสมกับการออกอากาศนั้น ปรากฎว่าเรื่องดังกล่าวได้กลายเป็นหัวข้อวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในโลก ออนไลน์ โดยส่วนใหญ่ต่างตั้งคำถามว่าถึงเหตุผลในการยุติการออกอากาศและเรียกร้องให้ ช่อง 3 ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าวอย่างละเอียด รวมทั้งเสนอให้นำเนื้อหาละครตอนจบที่ผลิตไว้แล้วไปโพสต์เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ ยูทูบเพื่อให้ผู้ติดตามได้รับชม

นอกจากนี้ยังมีการตั้งคำถามว่าการยุติการออกอากาศดังกล่าวถูกแทรกแซงจาก การเมืองจริงหรือไม่ รวมทั้งมีการนำเนื้อหาข่าวที่ฝ่ายรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยที่ชี้แจงว่าไม่มี ส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง

ด้านแฟนเพจบนเฟซบุ๊กของช่อง3 ได้มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นในโพสต์ประกาศยุติการออกอากาศเรื่องเหนือเมฆ กว่า 12,000 คน รวมทั้งยังมีสมาชิกเฟซบุ๊กเปิดแฟนเพจ "เอาเหนือเมฆ2 กูคืนมา" โดยเรียกร้องให้มีการออกอากาศละครตอนจบพร้อมเชิญชวนให้ชาวเฟซบุ๊กร่วมแชร์ และกดไลค์เพจดังกล่าวเพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้จัด ทีมงาน รวมทั้งนักแสดงละครเรื่องเหนือเมฆ

ขณะที่ น.ส.รสนา โตสิตระกูล สว. กทม. ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า นึกว่าข่าวลือเรื่องช่อง3จะให้จอมขมังเวทย์จบคืนนี้ แต่หนักกว่า คือหายไปเลย ช่อง3โดนไสยดำของจอมขมังเวทย์ตัวจริง ต้องให้ชี้แจงว่าละครเรื่องนี้เสียหายตรงไหน ทำลายสังคม หรือเป็นภัยต่อความมั่นคงของนักการเมือง จึงให้จบไปดื้อๆเช่นนี้

ดิฉันว่าเรื่องนี้เป็นละครสร้างสรรค์สังคม เพื่อให้คนศรัทธาในความดี และปลูกฝังให้คนเชื่อว่าการทำดีไม่มีวันดับสูญ เหมือนคำจารึกของท่านปรีดี พนมยงค์ ที่ห้องประชุมพูนศุข พนมยงค์ สถาบันปรีดีพนมยงค์ ที่ยกพุทธพจน์ที่ว่า "การกระทำที่ก่อสร้างไว้ดีแล้ว ย่อมไม่สูญหาย"

ละครเรื่องนี้ยังเน้นคุณค่าของความดีว่าจะส่งผลต่อผู้กระทำเสมอ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม และชาติจะอยู่ได้เพราะศรัทธาในการไม่ยอมแพ้ต่อความเลวของคนทุกคนในสังคม

สงสัยนักการเมืองจำพวกจอมขมังเวทย์ ไสยดำ ทนไม่ไหวจนต้องทำให้หายไป แบบเดียวกับการอุ้มฆ่า

นี่มันรุกรานไปถึงความบันเทิงของชาวบ้านกันขนาดนี้เลยนะ ไม่มากไปหน่อยหรือ ?ช่อง3 ต้องชี้แจง ว่ายุติเพราะอะไร? เพราะระคายเคืองผู้มีอำนาจ ? หรือผู้บริหารช่อง3 รีบเซนเซอร์ตัวเอง เพื่อเอาใจผู้มีอำนาจกันแน่?

ขนาดแค่ความบันเทิงยังขนาดนี้ แล้วในฐานะสื่อที่ต้องเสนอความจริงต่อสังคม คงเลิกหวังกันเลยใช่ไหม?เสนอได้แต่เรื่องมอมเมาสังคมที่จะไม่มีการเซนเซอร์ ใช่หรือไม่?

นี่เป็นการละเมิดสิทธิกันหรือเปล่า ละครที่สร้างความรุนแรง ประเภทตบ จูบ กลับปล่อยให้ออกมามอมเมาเยาวชนอย่างเสรี นี่มันอะไรกันสังคมประชาธิปไตยเป็นแบบนี้หรือ?

หรือต้องรอแก้รัฐธรรมนูญกันก่อนจึงจะมีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง!?!

ด้าน นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลบริษัท อสมท กล่าวว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลได้พยายามชี้แจงไปแล้วว่าไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง และจากการตรวจสอบไม่พบว่ารัฐบาลหรือคนในรัฐบาลสั่งการให้ยุติการแพร่ภาพออก อากาศของละครเรื่องเหนือเมฆ และรัฐบาลไม่มีนโยบายที่จะดำเนินการในลักษณะนั้น อีกทั้งสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ก็ได้ชี้แจงแล้วว่าสาเหตุที่ระงับการออกอากาศเนื่องจากมีเนื้อหาไม่เหมาะสม โดยไม่มีการเมืองเข้าไปแทรกแซง การกล่าวหารัฐบาลจึงเกิดจากความเข้าใจที่ผิดของประชาชน

"เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับความเห็นและความเชื่อของแต่ละบุคคลที่จะใช้วิจาร ญาณในการรับข้อมูล คงไม่สามารถห้ามความคิดได้ ผมยืนยันว่าเนื้อหาละครไม่ได้กระทบต่อรัฐบาล จึงไม่มีความจำเป็นต้องไประงับการออกอากาศ และเราก็ไม่ได้ไปติดตามหรือเฝ้าดูละครเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นพิเศษ ดังนั้นการพิจารณาความเหมาะสมจึงอยู่ที่ผู้รับผิดชอบหรือหน่วยงานต้นสังกัด จะเป็นผู้พิจารณา"นายวราเทพกล่าว

ณัฐิยา ศิรกรวิไล นักเขียนบทละครโทรทัศน์ เจ้าของผลงานชื่อดังหลายเรื่อง อาทิ เจ๊ดันฉันรักเธอ,เล่ห์ร้ายอุบายรัก,หนึ่งในทรวง,ก็ว่าจะไม่รัก,นางสาวไม่ จำกัดนามสกุล ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กระบุว่า  สิ่งที่เกิดขึ้นกับวงการละครในวันนี้..ทำให้นักเขียนบทละครโทรทัศน์ตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ได้เห็นถึงพลัง และ อิทธิพลอันมากมายของละครโทรทัศน์ที่มีผลต่อสังคม .. มันมากมายจนคิดไม่ถึงจริงๆ .. ขอขอบคุณทีมงาน "เหนือเมฆ" ที่ทำให้เราได้เห็นถึงพลังนี้ ในฐานะที่เป็นคนในแวดวงอาชีพเดียวกันขอเป็นกำลังใจให้ทีมงานทั้งเบื้องหน้า และเบื้องหลังทุกท่านค่ะ ! พวกคุณไม่โดดเดี่ยวนะคะ ^^ (ป.ล. สำหรับแฟนละครที่เข้ามาเม้นท์ ขอเป็นการให้กำลังใจทีมงานนะคะ พลังบวกน่าจะเป็นสิ่งที่ทีมงานทุกท่านต้องการในตอนนี้ เราต้องเชื่อเหมือน ผอ. นภา ..เชื่อในความดีค่ะ :)


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ช่อง3 เผยเหตุ สั่งถอด เหนือเมฆ2 มาตรา37

view