สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ผู้ส่งออกวิ่งล็อบบี้เปิดประมูลข้าว อ่านเกม บุญทรง หาเงินโปะจำนำ

จากประชาชาติธุรกิจ

10 ผู้ส่งออกชั้นนำข้าววิ่ง "ล็อบบี้" อุตลุด เที่ยวนี้ขอเอี่ยวซื้อข้าวสต๊อกรัฐบาลด้วยวิธีประมูลเป็นการทั่วไป ลอตละ 300,000-400,000 ตัน เชื่อเป็นข้อเสนอที่ "บุญทรง" ปฏิเสธไม่ได้ หลังโครงการรับจำนำขาดทุนมโหฬารจนหมุนเงินระบายข้าวคืน ธ.ก.ส.ไม่ทัน

ผลจากการขาดทุนโครงการรับจำนำข้าวเปลือก 3 ฤดูกาลติดต่อกัน (นาปี 2554/55-นาปรัง 2555-นาปี 2555/56 รอบที่ 1) มากกว่า 220,967 ล้านบาท ขณะที่การระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลออกไปได้ไม่ถึง 10 ล้านตัน จนกระทรวงพาณิชย์ไม่สามารถนำเงินมาใช้คืนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การ เกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อนำมาหมุนเวียนสำหรับใช้จำนำข้าวนาปรัง 2556 (รอบสอง) ได้อย่างเพียงพอ

ส่งผลให้รัฐบาลไม่มีทางเลือก จนต้องประกาศลดราคารับจำนำข้าวนาปรัง 2556 ลงมาทันทีเหลือตันละ 12,000 บาท (ข้าวเปลือกเจ้า) ตามมาด้วย "ม็อบ" ชาวนาจากหลายจังหวัดที่ออกมา "กดดัน" ขอให้รัฐบาลรับจำนำข้าวในราคาเท่าเดิม (ข้าวขาว 15,000 บาท-ข้าวหอมมะลิ 20,000 บาท) สร้างความวุ่นวายและกำลังลุกลามเป็นปัญหาทางการเมืองอยู่ในขณะนี้ทำ ให้รัฐบาลเริ่มที่จะตระหนักถึงความผิดพลาดในการระบายข้าวแบบ G to G ของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งในทางปฏิบัติกลับขายข้าวผ่าน "นายหน้า" ที่เป็นอดีต

ผู้ส่งออก ข้าวรายใหญ่เพียงคนเดียวที่ทำการควบคุมการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลอยู่ใน ปัจจุบัน ล่าสุดมีผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ประมาณ 10 รายได้รวมตัวกันยื่นข้อเสนอขอซื้อข้าวในสต๊อกรัฐบาลด้วยวิธีประมูลโดยไม่ ต้องซื้อผ่าน "นายหน้า" รายนั้นอีก

สำหรับความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ มีรายงานข่าวเข้ามาว่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมามีสมาชิกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยประมาณ 10 รายทำการ "นัด" รัฐมนตรีท่านหนึ่งที่ร้านอาหารย่านพระราม 9 เพื่อขอหารืออย่างไม่เป็นทางการเกี่ยวกับความชัดเจนในเรื่องการระบายข้าวใน สต๊อกรัฐบาล หากผู้ส่งออกข้าวต้องการซื้อข้าวในรอบนี้จะต้องทำอย่างไร ต้องไปซื้อกับใคร โดยแจ้งกับรัฐมนตรีท่านนั้นว่า ที่ผ่านมา

สมาคมผู้ ส่งออกข้าวไทยได้ยื่นเสนอซื้อข้าวไปที่กรมการค้าต่างประเทศหลายต่อหลายครั้ง "ก็ไม่ได้รับคำตอบ" ในทางกลับกันรัฐบาลมีแต่การขายข้าวแบบ G to G ที่กำลังบานปลายเป็นปัญหาทุจริตอยู่ในขณะนี้ ความเห็นของสมาชิกสมาคมผู้ส่งออกข้าวในวันนั้น สอดคล้องกับความเห็นของรัฐมนตรีท่านนั้นเช่นกัน ที่ไม่อยากปล่อยให้เรื่องการระบายข้าวแบบ G to G สร้างความเสียหายให้กับรัฐบาลไปมากกว่านี้ ดังนั้นจึงได้ขอให้สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยส่งเอกสารที่เคยยื่นเสนอซื้อข้าว กับกระทรวงพาณิชย์ไปก่อนหน้านี้ มาเป็นหลักฐานการพิจารณา

"ท่านก็ อยากเบรกเรื่องนี้ ขอให้เราส่งหลักฐานไปให้ เพราะอยากรู้ว่ายื่นไปให้ใคร ที่ไหน เมื่อไหร่ และทำไมกรมการค้าต่างประเทศถึงไม่ยอมตอบกลับมา อันนี้มันผิดวิสัย ทั้ง ๆ ที่ผู้ส่งออกข้าวซื้อเพื่อไปส่งออกต่อ ไม่ได้ขายในประเทศ ซึ่งอาจจะมาทำให้ราคาข้าวในประเทศลดลง ส่งผลทำให้มีข้าวสารค้างอยู่ในสต๊อกของรัฐบาลปริมาณมากกว่า 10 ล้านตัน ขณะที่ข้าวฤดูใหม่ (นาปรัง หรือข้าวรอบสองปี 2555/56) ที่กำลังออกสู่ตลาดอีกกว่า 10 ล้านตันจะรับผิดชอบอย่างไร" ผู้ส่งออกข้าวรายหนึ่งกล่าว

หลังจากการหารืออย่างไม่เป็นทางการกับ รัฐมนตรีท่านนั้นสิ้นสุดลงเพียงแค่วันเดียว นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ก็ออกมาเคลื่อนไหวด้วยการเรียกผู้แทนสมาคมผู้ ส่งออกข้าวไทยจำนวน 13 คนเข้าพบในวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อปรับแผนการระบายข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาลที่ยังมีความล่าช้า จากปริมาณข้าวที่รับจำนำข้าวเข้ามา ปรากฏมีข้าวเปลือกเข้าสู่โครงการรับจำนำ 40 ล้านตัน หรือสีแปรเป็นข้าวสารได้ 22-25 ล้านตัน แต่มีการระบายให้กับหน่วยงานภายในประเทศ 500,000-600,000 ตัน การบริจาค 600,000-700,000 ตัน และมีการส่งมอบให้กับรัฐบาลผู้ซื้อแบบ G to G ระหว่าง 6-7 ล้านตัน สามารถคืนเงินให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ปี 2555 ได้ประมาณ 40,000 ล้านบาท และในปีนี้จะคืนได้อีก 90,000 ล้านบาท

"ผมได้หารือถึงแนวทางการเปิดระบายข้าวในสต๊อกของรัฐบาลจน ได้ข้อยุติว่า กระทรวงพาณิชย์จะเปิดประมูลเป็นการทั่วไป โดยผู้ส่งออกขอให้มีการเปิดระบายข้าวอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกสัปดาห์ ซึ่งได้มอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศไปจัดทำรายละเอียดปริมาณ ชนิดข้าว และช่วงเวลาประมูลที่เหมาะสม หากได้ข้อสรุปก็จะเปิดการประมูลทันที โดยยึดราคาตลาดเป็นหลัก ขณะเดียวกันจะเชิญตัวแทนจากตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (AFET) เข้ามาหารือเพื่อเพิ่มช่องทางในการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐบาลด้วย ทั้งหมดนี้จะทำให้การส่งออกข้าวไทยเป็นไปตามเป้าหมายคือ 8-8.5 ล้านตัน" นายบุญทรงกล่าว

ด้านแหล่งข่าวจากผู้ส่งออกข้าวกล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ในการประชุมกับท่านบุญทรงวันนั้น สมาคมได้เรียนถามท่านว่า ถ้าต้องการซื้อข้าวจะเสนอซื้อกับใคร ท่านบุญทรงก็ชี้โบ้ยไปที่นายฑิฆัมพร

นาทวรทัต รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ซึ่งก็ "นั่งเงียบ" ไม่มีคำตอบ ทางสมาคมจึงขอให้กระทรวงพาณิชย์กำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขในเปิดประมูลข้าวสาร ในสต๊อกรัฐบาล (TOR) เป็นการทั่วไป โดยแบ่งระบายเป็นคราวละ 300,000-400,000 ตัน หรือเดือนละ 2 ครั้ง โดยเปิดให้ยื่นซองประมูลช่วงเช้า เปิดซองช่วงบ่ายของวันเดียวกัน อย่างที่เคยมีการปฏิบัติในอดีต

และ ขอให้กระทรวงพาณิชย์กำหนดเงื่อนไขการรับมอบข้าวสำหรับรายที่ประมูลชนะเกิน กว่า 50,000 ตันขึ้นไปให้ขนข้าวออกจากคลังเพื่อไปส่งออกภายใน 60 วัน หากไม่ทันตามกำหนดก็จะต้องรับผิดชอบค่าจัดเก็บที่เกินเวลา แต่ในการประชุมกับท่านบุญทรงวันนั้น "ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน เพียงแต่ท่านรับจะไปพิจารณา แต่ผมคาดว่า กรมการค้าต่างประเทศน่าจะมีคำตอบให้กับสมาคมภายใน 2 สัปดาห์ ว่าจะรับข้อเสนอที่สมาคมเสนอไปหรือไม่" แหล่งข่าวกล่าว

ขณะเดียวกัน สมาคมก็ขอให้กระทรวงพาณิชย์เข้ามาดูแลคุณภาพข้าวจากเดิมที่ให้ผู้ส่งออกตรวจ สอบคุณภาพคลังหลังจากทราบ TOR และให้เสนอราคาตามสภาพข้าวในคลังที่จะเสนอซื้อ แต่ขณะนี้ผู้ส่งออกทราบมาว่า "นายหน้า" ที่รับปรับปรุงคุณภาพข้าวส่งมอบ G to G สามารถเข้าไปเลือกซื้อข้าวที่มีคุณภาพดีในคลัง/โกดังออกไปก่อน จึงกังวลว่า จะเหลือเฉพาะข้าวที่มีสภาพแย่ ๆ เอามาเปิดประมูล ทำให้ผู้ส่งออกเสียเปรียบ ทั้งที่ต้องไปยื่นซื้อข้าวตามราคาตลาด

"ผมมองในแง่ดีว่า คุณบุญทรงไม่มีทางเลือกแล้วเพราะการขายข้าวแบบ G to G ที่ผ่านมา ในทางปฏิบัติขายผ่านผู้ส่งออกข้าวเพียงคนเดียว แน่นอนว่า ราคาที่ไปตกลงกันไว้จะต้องต่ำมากหรือรัฐบาลยอมขาดทุนเพื่อให้ผู้ส่งออกราย นั้นนำข้าวในสต๊อกรัฐบาลออกไปเร่ขายในนามข้าว G to G แน่นอนว่า เขาก็ต้องการทำกำไร แต่กลับผลักการขาดทุนไปให้โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล พอราคาข้าวในตลาดตกลงมาจนไม่มีคนซื้อหรือขายไม่ได้ตามเป้า การส่งเงินค่าข้าวคืนรัฐบาลก็สะดุดหรือไม่ยอมส่งให้ จึงเป็นที่มาว่า กี่ครั้ง ๆ คุณบุญทรงก็บอกว่า ขาย G to G ได้ 7-8 ล้านตัน แต่กลับคืนเงินค่าข้าวให้ ธ.ก.ส.ไม่เป็นไปตามแผน" แหล่งข่าวกล่าว

ล่า สุดผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" ได้สอบถามไปยัง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กรณีมีรัฐมนตรีเข้าไปหารือกับผู้ส่งออกข้าวเรื่องการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาล อย่างไม่เป็นทางการ โดยนายกิตติรัตน์กล่าวว่า ตนเองไม่เคยมีการเรียกผู้ส่งออกข้าวประชุมหารือแนวทางระบายข้าวแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องดังกล่าวควรจะไปถามจากนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ "ไม่มี ผมจะไปคุยได้ไง ก็ท่านบุญทรงเขาก็ดูแลอยู่นี่ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายนเขาก็ประชุมแล้วไม่ใช่เหรอ ไปถามจากเขาเลย" นายกิตติรัตน์กล่าว

ขณะ ที่นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุม ครม.ว่า นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้รายงานที่ประชุม ครม.ว่า ภายในสัปดาห์นี้ตนจะกลับไปจัดทำแนวทางเพื่อรองรับการปรับลดราคารับจำนำข้าว ที่เหลือตันละ 12,000 บาท ขณะที่ น.ส.

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังจัดหามาตรการช่วยเหลือชาวนาเพิ่มเติม อาทิ ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพิ่มวงเงินสินเชื่อก้อนใหม่ให้กับเกษตรกรในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าตลาด และมอบให้นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กลับไปรวบรวมข้อมูลแผนการลดต้นทุนการปลูกข้าวของเกษตรกร โดยจะยึดเอาแนวทาง 7 ข้อของกรมการข้าวเป็นหลัก ซึ่งมั่นใจว่า จะสามารถลดต้นทุนให้แก่ชาวนาได้ประมาณ 1,000-3,000 บาท/ไร่


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ผู้ส่งออก วิ่งล็อบบี้ เปิดประมูลข้าว อ่านเกม บุญทรง หาเงิน โปะจำนำ

view