จากประชาชาติธุรกิจ

จากผลสำรวจของ Regus Work : lifeBalance แสดงให้เห็นถึงดัชนีความสุขของคนทำงานในปัจจุบันว่า ความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว ถือเป็นสุดยอดความสำเร็จที่สุดของเจ้าของธุรกิจและคนรุ่นใหม่ๆ แต่อย่างไรก็ตามดัชนีความสุขนี้ได้ปรับตัวลดลงสี่จุดตั้งแต่ปีที่ผ่านมาแสดง ให้เห็นว่าคนทำงานต่างรู้สึกกดดันกับการทำงานมากขึ้นกว่าแต่ก่อน

โดยผลการศึกษานี้ได้ถูกตีพิมพ์ในอีก2ปีต่อมา โดย Regus ผู้ให้บริการออฟฟิศให้เช่าระดับโลก ซึ่งอ้างอิงจากมุมมองของกลุ่มตัวอย่างถึง 26,000 คน ในกว่า 90 ประเทศ

การค้นพบนี้ได้ชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยมีดัชนีความสุขในการทำงานสูงถึง 127 จุด ซึ่งสูงกว่าดัชนีความสุขมาตรฐานของทั่วโลกถึง 7 จุด โดย 67% ของผู้ตอบแบบสอบถาม มีความรู้สึกในเชิงบวกต่อสถานที่ทำงานเพิ่มมากขึ้นกว่าในปีที่แล้ว

ซึ่งอาจขัดกับสมมติฐานที่ว่า ในปัจจุบัน ประชากรยุคเบบี้บูมมักไม่มีความเชี่ยวชาญในการจัดสรรชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว ซึ่งต่างจากคนรุ่นใหม่ๆ ที่มักจะสนุกกับการทำงานมากกว่าคนจากยุคเบบี้บูม (คิดเป็นสัดส่วนได้ 76% เทียบกับ 64%) และมีความพึงพอใจกับระดับความสามารถของพวกเขา (คิดเป็นสัดส่วนได้ 81% เทียบกับ 69%)
 


สถิติที่พบ

• ประเทศไทยมีดัชนีความสุขของคนทำงานคิดเป็น 127 คะแนน จากผลสำรวจของรีจัส Work:life Balance Index 2013
• ค่าเฉลี่ยดัชนีความสุขของคนทำงานทั่วโลกอยู่ที่ 120 คะแนน
• 67% ของกลุ่มตัวอย่างในประเทศไทย รู้สึกมีความสุขกับการทำงานของพวกเขามากขึ้นกว่าในปี 2012
• 76% ของเจ้าของธุรกิจในประเทศไทย รู้สึกว่าประสิทธิผลจากการทำงานของตนเพิ่มขึ้นกว่าในปีที่แล้ว

จอห์น เฮนเดอสัน ผู้อำนวยการบริษัท รีจัส ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค กล่าวว่า "พนักงานที่มีความสุขในการทำงาน จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของพวกเขาเพิ่มมากขึ้นรวมถึงลดโอกาสในการลาออกให้น้อยลง ด้วยตลาดงานในปัจจุบันมีการพัฒนามากขึ้น ผู้ประกอบธุรกิจต่างตระหนักถึงความสำคัญของการว่าจ้างหรือรักษาพนักงานที่มีความสามารถ โดยต้องมุ่งเน้นการขยายนโยบายการทำงานให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น อาทิเช่น เสนอทางเลือกสำหรับสถานที่ในการทำงาน ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวได้เกิดขึ้นจริงแล้ว โดยจะเห็นได้จากเครือข่ายศูนย์ธุรกิจของรีจัสที่มีอยู่ในทุกภูมิภาคเพื่อรองรับการทำงานของผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่น

คริสตอฟโฮแดพผู้จัดการประจำประเทศบริษัท รีจัส ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า "คนทำงานรุ่นใหม่ๆ มักจะไม่มีความรู้สึกผูกพันหรือจงรักภักดีกับองค์กร/นายจ้างเหมือนเช่นในอดีต องค์กรจึงต้องมีการปรับตัว โดยให้พนักงานได้ทำงานในรูปแบบที่เหมาะสมกับพวกเขา แทนการปรับพวกเขาให้เข้ากับงานที่ทำ ซึ่งความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวเป็นประเด็นหลักที่คนทำงานให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ

ซึ่ง ผลวิจัยจากรีจัสก่อนหน้านี้ได้แสดงให้เห็นว่า72%ของกลุ่มตัวอย่างทั่วโลก เชื่อว่าการทำงานที่ยืดหยุ่นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิพลในการทำงาน ของพวกเขา

*GenerationYคือผู้ที่เกิดหลังปี ค.ศ. 1980, Generation X คือผู้ที่เกิดระหว่างปี ค.ศ. 1965-80 และ Baby Boomers คือผู้ที่เกิดระหว่างปี ค.ศ. 1945-1964

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน