ตั้งกก.สอบ"สุภา" แฉโกงจำนำข้าว

จาก โพสต์ทูเดย์

รมว.คลังสั่งปลัดตั้งกก.สอบข้อเท็จจริง "สุภา" แฉโกงจำนำข้าวในกมธ. ฯ ด้านสส.เพื่อไทย จี้ บอกความจริงทุจริตโครงการ

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ปลัดกระทรวงคลังได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่ นางสาวสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลังในฐานะประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวของ รัฐบาล ไปให้ข้อมูลโครงการรับจำนำข้าวในคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ วุฒิสภา กรณีระบุว่าโครงการรับจำนำข้าวเปลือกมีการทุจริตทุกขึ้นตอน ว่า ข้อเท็จจริงที่น.ส.สุภาให้กับคณะกรรมาธิการ เศรษฐกิจ วุฒิสภา กับการรายงานข่าวของสื่อมวลชนตรงกันหรือไม่

โดย ข่าวที่ออกมาสร้างความไม่สบายใจให้กับหน่วยงานที่ถูกอ้างอิง เสมือนเป็นการกล่าวหาในทางปฎิบัติ กระทรวงการคลังต้องตั้งกรรมการขึ้นมาเพื่อหาข้อเท็จจริง หากผลตอบสอบเป็นไปตามที่ น.ส.สุภา อ้างว่าไม่ได้พูดตามที่มีสื่อรายงานก็จะทำให้ น.ส.สุภาพ้นข้อกังวล

ทั้งนี้ จากกรณีดังกล่าว นายอารีพงศ์ ภู่ชะอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลังได้ลงนามแต่งตั้งนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง

ด้านนายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แถลงกรณีน.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง  ให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การพาณิชย์ และอุตสาหกรรม วุฒิสภา ระบุโครงการจำนำข้าวมีการโกงทุกขั้นตอนว่า รู้สึกสบายใจที่น.ส.สุภาออกมาปฎิเสธว่า ไม่ได้พูดว่าโครงการจำนำข้าวมีการโกงทุกขั้นตอน แค่บอกว่ามีความเสี่ยงและมีช่องโหว่จะเกิดการทุจริต ดังนั้นที่มีการกล่าวหาว่า รัฐบาลปิดปากน.ส.สุภาจึงไม่เป็นความจริง ที่ผ่านมาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญเรื่องการปราบทุจริต ล่าสุดเพิ่งนำครม.ประกาศเจตนารมณ์การปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดความโปร่งใส ป้องกันการทุจริตจึงอยากให้น.ส.สุภานำข้อมูลที่ตรงไปตรงมารายงานให้รัฐบาล ทราบในเรื่องการทุจริต

ด้านนายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เชื่อว่า การโจมตีโครงการจำนำข้าวทำเป็นขบวนการ เพราะหลังจากที่น.ส.สุภาพูดเรื่องการ โกงในโครงการจำนำข้าวแล้ว วันรุ่งขึ้นนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็นำมาขยายผลโจมตีในเฟซบุ๊ก โดยที่น.ส.สุภาไม่ยอมออกมาชี้แจง ต้องรอจนนายกรัฐมนตรีออกมาถามหาหลักฐานการทุจริต น.ส.สุภาจึงยอมออกมาพูดชี้แจง
   
ส่วนนายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่สบายใจคำพูดของน.ส.สุภาที่ระบุโครงการจำนำข้าวมีการทุจริต เพราะพรรคเพื่อไทยมีความตั้งใจทำงานกับข้าราชการ หากมีข้อมูลการทุจริตอะไร ก็ให้มาบอกกัน แต่อย่ามาดิสเครดิตรัฐบาล

กิตติรัตน์" ยันคลังไม่ได้ตั้งกรรมการสอบ "สุภา" ชี้แค่ให้หาเทปชี้แจง กมธ. มายืนยัน

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวยืนยันว่า ไม่ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบนางสาวสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานอนุกรรมการปิดบัญชีจำนำข้าว กรณีที่ไปชี้แจงคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์ และอุตสาหกรรม วุฒิสภา แล้วปรากฏเป็นข่าวออกมาว่า นางสาวสุภา บอกกับกรรมาธิการฯ ว่าโครงการจำนำข้าวโกงทุกขั้นตอน โดยคลังเพียงแต่ตั้งกรรมการเพื่อหาข้อมูล โดยเฉพาะเทป หรือบันทึกการประชุม นำมาประกอบกับที่สื่อรายงาน เพื่อจะได้เปรียบเทียบกันว่ามีตรงไหน ตรงหรือไม่ตรงกับที่รองปลัดพูดบ้าง

"ไม่ได้ตั้งกรรมการสอบรองปลัดสุภา เพียงแต่ให้มีกรรมการหาข้อมูลข้อเท็จจริง เพราะเท่าที่ปรากฏเป็นข่าวว่ารองปลัดท่านหนึ่ง คือ นางสาวสุภา ปิยะจิตติ ได้ไปร่วมประชุมกับ กมธ. ของวุฒิสภา แล้วก็มีสื่อมวลชนได้รายงานว่า สิ่งที่ท่านกล่าวเป็นอะไร แต่ว่าตัวท่านเองได้มาพูดกับเพื่อนร่วมงานหลายคน ว่าท่านไม่ได้กล่าวอย่างนั้น แแต่ถูกนำเสนอไปในทางที่แตกต่างกับที่ท่านกล่าว ขณะเดียวกันส่วนราชการที่เขาถูกอ้างอิงถึงในการนำเสนอข้อมูลผ่านสื่อมวลชน เขาก็มีความไม่สบายใจ เพราะเป็นเหมือนมีการกล่าวหา" นายกิตติรัตน์กล่าว

นายกิตติรัตน์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้นางสาวสุภาไม่ได้ตกเป็นผู้ถูกสอบสวนแต่อย่างใด ซึ่งหากผลการตรวจสอบข้อมูลออกมาตรงกับที่รองปลัดระบุว่า ไม่ได้กล่าวอย่างที่เป็นข่าว ก็จะช่วยให้นางสาวสุภาพ้นจากข้อกังวลของคนอื่น ๆ และเพื่อความสบายใจของนางสาวสุภาเอง รวมถึงเพื่อความถูกต้องของกระทรวงการคลังด้วย เพราะการจะกล่าวหรือให้ข้อมูลอะไรนั้น ข้าราชการระดับสูง ระดับปลัด อธิบดี หรือรองอธิบดี ควรจะอยู่บนรากฐานความจริง

"ถามว่ามีการสอบสวนรองปลัดหรือเปล่า ผมตอบว่าไม่มี มีแค่การหาข้อเท็จจริงว่าสิ่งที่รองปลัดกล่าวนั้นเป็นอย่างไร แล้วก็ไม่ได้มาจากคำสั่งของ รมว.คลังด้วย เพราะในส่วนนี้เป็นเรื่องที่ปลัดกระทรวงการคลังต้องดำเนินการเอง ผมก็ได้ทราบ จากการรายงานของปลัดว่า กำลังดูอยู่ว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร" นายกิตติรัตน์กล่าว

สั่งตั้ง คกก.สอบ “สุภา” ปูดเจ๊งจำนำข้าว “กิตติรัตน์” ชี้ข่าวที่ออกมาสร้างความไม่สบายใจ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

คลังรับไม่ได้ “สุภา” ปูดรัฐบาลเจ๊งจำนำข้าว สั่งตั้ง คกก.สอบ “กิตติรัตน์” ยอมรับข่าวที่ออกมาสร้างความไม่สบายใจให้แก่หน่วยงานที่ถูกอ้างอิง เสมือนเป็นการกล่าวหาในทางปฏิบัติ หากไม่ได้พูดตามที่มีสื่อรายงานก็จะทำให้ “สุภา” พ้นข้อกังวล ด้านเจ้าตัวยันไม่รู้สึกอะไร เพราะต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนเอง
       
       นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลัง โดยปลัดกระทรวงคลัง ได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ไปให้ข้อมูลโครงการรับจำนำข้าวในคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ (กมธ.) วุฒิสภา กรณีระบุว่าโครงการรับจำนำข้าวเปลือกมีการทุจริตทุกขั้นตอน โดยระบุว่า ข้อเท็จจริงที่ น.ส.สุภา ให้ต่อคณะกรรมาธิการ เศรษฐกิจ วุฒิสภา กับการรายงานข่าวของสื่อมวลชนตรงกันหรือไม่
       
       นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ข่าวที่ออกมาสร้างความไม่สบายใจให้แก่หน่วยงานที่ถูกอ้างอิง เสมือนเป็นการกล่าวหาในทางปฏิบัติ กระทรวงการคลัง ก็เลยตั้งกรรมการขึ้นมาเพื่อหาข้อเท็จจริง หากผลตอบสอบเป็นไปตามที่ น.ส.สุภา อ้างว่าไม่ได้พูดตามที่มีสื่อรายงานก็จะทำให้ น.ส.สุภา พ้นข้อกังวล
       
       โดยก่อนหน้านี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความไม่พอใจถึงการชี้แจงของ น.ส.สุภา จนเป็นที่มาของการตั้งกรรมการสอบวินัย
       
       รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า กรณีปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง ได้ลงนามแต่งตั้ง นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
       
       ด้าน น.ส.สุภา เปิดเผยกับสื่อว่า การถูกตั้งกรรมการสอบวินัยกรณีไปชี้แจง กมธ.เศรษฐกิจ วุฒิสภา โดยยืนยันว่า ตนเองไม่รู้สึกอะไร เนื่องจากได้ทำตามหน้าที่ ขณะที่ นายกิตติรัตน์ และนายอารีพงศ์ ก็ทำตามหน้าที่เช่นกัน เราเคารพซึ่งกันและกัน โดยยืนยันว่า การไปชี้แจงต่อ กมธ.ฯ ได้บอกไปว่า โครงการรับจำนำข้าวเปลือกมีความเสี่ยง และโอกาสที่จะเกิดการทุจริตในทุกขั้นตอน เพราะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึง 10 หน่วยงาน เช่น กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ เกษตรกร ดังนั้น จึงมีโอกาสที่จะเกิดการทุจริตได้ เช่น ขั้นตอนการขึ้นทะเบียนเกษตรกร การทำประชาคม เป็นต้น
       
       “มีกรรมาธิการคนหนึ่งถามว่า ขั้นตอนไหนมีการโกงมากที่สุด ซึ่งดิฉันบอกไปว่า ทุกขั้นตอนมีความเสี่ยงที่จะเกิดการทุจริตทั้งนั้น และได้ยกตัวอย่างการขึ้นทะเบียนเกษตรกรที่มีส่วนเกินออกมา รวมถึงตัวเลขสต๊อกข้าวสารส่วนเกินอีก 3 ล้านตัน และตัวเลขขาดทุน 2.2 แสนล้านบาท”
       
       น.ส.สุภา ยืนยันว่า สิ่งที่ตนเองได้ชี้แจง กมธ.ฯ ไปนั้น มีเอกสารรายงานที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกฯ จัดทำขึ้น และได้ส่งให้นายกฯ รับทราบไปตั้งแต่เดือน ต.ค.ที่ผ่านมา

ไพบูลย์” ซัดคลังสอบ “สุภา” ส่อกลั่นแกล้ง ขรก.จ่อชง กมธ.วุฒิฯ เรียก “โต้ง” แจง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

“ส.ว.ไพบูลย์” ซัดคลังตั้งกรรมการสอบรองปลัดฯ แฉข้อมูลโกงจำนำข้าว ส่อใช้อำนาจการเมืองกลั่นแกล้งข้าราชการ ยันมีกฎหมายคุ้มครอง จ่อชง กมธ.สอบโกงวุฒิฯ เรียก “กิตติรัตน์” แจงสัปดาห์หน้า
       
       วันนี้ (5 ก.ค.) ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา กล่าวว่า กรณีที่กระทรวงการคลังโดยปลัดกระทรวงคลังได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ไปให้ข้อมูลโครงการรับจำนำข้าวในคณะกรรมาธิการ ของวุฒิสภาว่าโครงการรับจำนำข้าวเปลือกมีการทุจริตทุกขั้นตอน ถือเป็นการใช้อำนาจทางการเมืองเพื่อกลั่นแกล้งและปิดปากข้าราชการที่ออกมา ให้ข้อมูล
       
       นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า กรณีการมาชี้แจงของ น.ส.สุภา ต่อกรรมาธิการฯ ถือเป็นเรื่องที่ทำได้และได้รับการคุ้มครองตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 62 ที่ระบุว่าบุคคลย่อมมีสิทธิร้องขอให้มีการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของของ หน่วยงานรัฐ และบุคคลดังกล่าวที่มาให้ข้อมูลโดยสุจริตแก่องค์กรตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ หรือหน่วยงานของรัฐเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐย่อมได้รับการคุ้มครอง ดังนั้น ประเด็นการตั้งกรรมการสอบตนจะนำไปหารือกับกรรมาธิการฯ ในสัปดาห์หน้า เพื่อเชิญนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบถามถึงเหตุผลและการตั้งกรรมการสอบ น.ส.สุภา

บุญยอด” ซัด รบ.ร้อนตัวสอบ “สุภา” ปิดปากแฉโกงจำนำข้าว ฉะ “โต้ง” ลุแก่อำนาจ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

โฆษก กมธ.กิจการสภา ตอก รมว.คลัง ไม่มีสิทธิเอาผิดรองปลัด ก.คลัง เหตุแฉจำนำข้าวส่อโกงให้ กมธ.ชี้ ไร้สิทธิรุกล้ำนิติบัญญัติทำหน้าที่ มิเช่นนั้น ขรก.จะไม่กล้าให้ข้อมูล ซัด รบ.ร้อนตัว ปลุกสังคมประณาม ใช้อำนาจปิดบังความจริง ไม่เป็น ปชต.ย้อน “สุภา” ถูกสอบ “กิตติรัตน์” ต้องโดนด้วย
       
       วันนี้ (5 ก.ค.) นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภา ผู้แทนราษฏร กล่าวถึงกรณีที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง นางสาวสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง และประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวตามนโยบายรัฐบาล หลังให้ข้อมูลกับกรรมาธิการการเศรษฐกิจของวุฒิสภาว่า โครงการรับจำนำข้าวเสี่ยงต่อการทุจริตในทุกขั้นตอนว่า นายกิตติรัตน์ ไม่สามารถเอาผิดกับข้าราชการที่ให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการในสภาได้ และกรรมาธิการควรให้ความคุ้มครองกับข้าราชการที่เข้าชี้แจงด้วย โดยต้องไม่ปล่อยให้ฝ่ายบริหารมารุกล้ำการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติในการ ตรวจสอบ ไม่เช่นนั้นต่อไปจะไม่มีข้าราชการคนใดให้ความร่วมมือกับกรรมาธิการอีก เพราะกลัวว่าจะถูกฝ่ายการเมืองไล่เบี้ยเอาผิด ซึ่งตนเห็นว่าเป็นความพยายามที่จะข่มขู่ให้ข้าราชการเกิดความหวาดกลัว ไม่กล้าให้ข้อมูลที่เป็นลบกับรัฐบาล ดังนั้นการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงนางสาวสุภา จึงเป็นการสะท้อนว่ารัฐบาลกำลังร้อนตัว และสังคมต้องร่วมกันประณามรัฐบาลชุดนี้ที่ปกปิดความจริง และใช้อำนาจปิดปากคนที่พูดความจริง เนื่องจากแสดงว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่เป็นประชาธิปไตย
       
       นายบุญยอด กล่าวต่อว่า หากมีการตั้งกรรมการสอบนางสาวสุภาจริง ตนคิดว่าต้องมีการตรวจสอบการใช้อำนาจของ รมว.คลัง ว่าเป็นไปโดยชอบหรือไม่ เพราะการบริหารในส่วนของข้าราชการประจำ ระดับรองปลัดกระทรวงอยู่ใต้การบังคับบัญชาของปลัดกระทรวง ไม่ใช่อำนาจของฝ่ายบริหาร

"สุภา" ขอเคลียร์ประเด็นร้อนจำนำข้าว "โกงทุกขั้นตอน"

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

"เราบอกแค่ว่ามีโอกาสเสี่ยงในระบบ"

   หลังปรากฏข่าว "สุภา ปิยะจิตติ" รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการจำนำข้าว ที่เข้าชี้แจงคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์ และอุตสาหกรรม วุฒิสภา ออกมาในโทนว่า "โกงทุกขั้นตอน" และข่าวว่า "นายกฯ ปู" ควันออกหู ท้าให้รองปลัดคลังเปิดหลักฐานให้ชัดเจน ล่าสุด "สุภา" ได้ขอโอกาสชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวเพื่อความเป็นธรรม

   โดย "สุภา" ยืนยันว่า การชี้แจงคราวนั้น เธอไม่ได้บอกว่า "โกงทุกขั้นตอน" ซึ่งข่าวที่ปรากฏนั้นมีความ "เกินจริง" ไปหน่อย เพราะไม่ได้พูดเช่นนั้น หากพูดจริงจะไม่ขอชี้แจง แต่ทั้งนี้ สิ่งที่เธอพูดหลังจากถูก กมธ. ตั้งคำถามว่า "รองปลัด คิดว่าขั้นตอนไหน โกงมากที่สุด" ก็คือ...

 "พี่บอกไปว่า คงตอบไม่ได้ แต่ในการทำงานของเรา เราก็วิเคราะห์พฤติกรรมของคน ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ขั้นตอนการขึ้นทะเบียน การรับจำนำ การเก็บรักษา และการขาย มันมีโอากาส และมีความเสี่ยงทำให้เกิดการทุจริตได้ ซึ่งพี่ก็ยกตัวอย่าง การขึ้นทะเบียนเกษตรกรที่มีลักษณะไม่ค่อยจะแม่นตรง เพราะเป็นข้อจำกัด กรมส่งเสริมวิชาการเกษตรเขาบอกว่า มีคนไม่พอ แต่จะบอกว่าโกงหรือไม่ หลักฐานยังไปไม่ถึง แต่วิเคราะห์จากกระบวนการว่า มีแนวโน้มเกิดทุจริตได้"

 "สุภา" บอกอีกว่า เมื่อเห็นว่ามีความเสี่ยงว่าจะเกิดการทุจริต ทางอนุกรรมการปิดบัญชีฯ จึงได้ทำเปเปอร์เสนอต่อนายกรัฐมนตรีไป ซึ่งยืนยันได้ว่า "ไม่มีการกล่าวหาใครทั้งสิ้น" เพราะเป็นข้อมูลที่ "วิเคราะห์ในเชิงกระบวนการ" ว่ามีความเสี่ยงตรงไหนบ้างในแต่ละขั้นตอน ทั้งนี้ ข้อเสนอดังกล่าวก็เพื่อให้นำไปสู่การปิดช่องว่างไม่ให้เกิดการทุจริตขึ้น โดยเมื่อฝ่ายนโยบายได้รับข้อเสนอแนะแล้ว ก็จะได้ไปหาทาง "ปิดความเสี่ยงในพื้นที่"

 "แต่ตรงไหนทุจริตมากที่สุด เราตอบไม่ได้" ประธานอนุกรรมการปิดบัญชีฯ ยืนยัน พร้อมกับยอมรับว่า ในแง่กระบวนการแล้ว ทั้ง 5 ขั้นตอน ตั้งแต่การขึ้นทะเบียนเกษตรกรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การออกใบประทวนโดยโรงสี การจ่ายเงินรับจำนำโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) การเก็บรักษา และ การขายของกระทรวงพาณิชย์

 ซึ่งทุกขั้นตอนโยงใยกัน ดังนั้นถ้าไม่ดำเนินการให้เป็นเรียลไทม์ ก็จะมีความเสี่ยง ดังนั้น ทางอนุกรรมการปิดบัญชีฯ จึงเสนอว่า ควรจะยอม "ลงทุนเพื่อปิดความเสี่ยง" ไม่ว่าจะทุ่มกำลังคน การติดตั้งกล้องซีซีทีวี และการมีศูนย์สำหรับมอนิเตอร์ เพราะจะ "คุ้ม" กว่า และความเสี่ยงทุจริตก็จะไม่มี

 "ปัญหาที่มี มันคือปัญหาของระบบ ไม่ใช่นาย ก. หรือนาย ข. เราบอกแค่ว่ามีโอกาสเสี่ยงในระบบ เป็นการติงในแง่ระบบ ไม่ได้กล่าวหาใคร ซึ่งพี่อยากขอโอกาสชี้แจงให้ถูกต้อง"

 ส่วนผลขาดทุนที่แท้จริง รวมถึงข้าวอีกเกือบ "3 ล้านตัน" ที่ต้องเคลียร์ให้ชัดเจนนั้น "สุภา" บอกว่าขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลทั้งหมด คาดว่าจะเรียบร้อยภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ แล้วหลังจากนั้นเธอจะดำเนินการ "ปิดบัญชี ณ วันที่ 31 พ.ค.2556" จึงจะได้ทราบว่า ผลขาดทุนจะออกมาเป็นอย่างไร

“ยรรยง” อัด “ปลาบู่” อย่าจุ้น ยันไม่ได้คุกคาม “สุภา” แค่เตือนให้ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

       “ยรรยง” อัด “ชวนนท์” อย่าจุ้น ปฏิเสธคุกคาม “สุภา” แค่เตือนให้ทำหน้าที่ของตนเอง เหตุ กขช.กำหนดหน้าที่ไว้ชัดเจน ไม่ใช่ให้เป็นคนชี้ทุจริต
       
       นายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่าตนพูดจาข่มขู่ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวที่ออกมาระบุว่า โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลมีการทุจริต ว่า ตนขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นการข่มขู่ หรือคุกคามตามที่ถูกกล่าวหา แต่แค่บอกว่าใครทำหน้าที่อะไรก็ควรทำตามหน้าที่ อย่าทำนอกเหนือจากหน้าที่
       
       ทั้งนี้ หน้าที่ของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ ซึ่งอยู่ภายใต้การแต่งตั้งของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) กำหนดไว้ชัดเจนแล้วว่าอำนาจหน้าที่คือการพิจารณาบริหารจัดการเงินกู้จนกว่า จะชำระเสร็จ และสรุปภาระหนี้สิน ได้แก่ เงินต้น ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกตามนโยบายรัฐบาล รวมทั้งกำหนดแนวทางการจัดหาเงินทุนเพื่อชำระหนี้คืนให้แก่ธนาคารเพื่อการ เกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส)
       
       “ที่ น.ส.สุภาตอบในคณะกรรมาธิการฯ และระบุว่าโครงการรับจำนำมีการทุจริตถือว่าทำเกินหน้าที่ ซึ่งหากการตรวจสอบสต๊อกของรัฐบาลที่ได้รับมอบหมาย และมีการรั่วไหลก็ควรมาบอกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหา ไม่ใช่ออกมาพูดในลักษณะนี้” นายยรรยงกล่าว
       
       สำหรับตัวเลขการปิดบัญชีขาดทุนโครงการรับจำนำข้าวที่ น.ส.สุภาจัดทำขึ้นมา รัฐบาลยังไม่ได้ยอมรับตัวเลขขาดทุนดังกล่าว โดยรัฐบาลได้มอบหมายให้นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและ รมช.เกษตรฯ เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งกำลังรวบรวมตัวเลขดังกล่าว และต้องรอให้ได้ผลการตรวจสอบสต๊อกข้าวรัฐบาลก่อน และต้องใช้ระยะเวลา เพราะระบบการจัดเก็บข้อมูลขององค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ไม่ได้เชื่อมข้อมูลกัน
       
       นายยรรงกล่าวว่า กรณีที่รัฐบาลอินโดนีเซียและรัฐบาลมาเลเซียไม่มั่นใจที่จะซื้อข้าวจากสต๊อก รัฐบาลไทย เนื่องจากมีเอกชนที่ได้รับมอบหมายให้ปรับปรุงข้าวนำข้าวเก่าไปผสมทำให้ถูกตี กลับ เรื่องนี้นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ จะนำคณะภาคเอกชนไทยเดินทางไปอินโดนีเซียและอีกหลายประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ซื้อตามแผนการระบายข้าว และมั่นใจว่าอินโดนีเซียจะยังซื้อข้าวไทยเหมือนเดิม

พท.รุมอัด'สุภา'ให้ข้อมูลทุจริตข้าวมั่ว

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ส.ส.เพื่อไทย รุมอัด"สุภา ปิยะจิตติ"ให้ข้อมูลทุจริตข้าวมั่ว จี้ให้เปิดเผยข้อเท็จจริง อย่าร่วมขบวนการดิสเครดิต

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แถลงที่รัฐสภาว่าไม่สบายใจกับกรณีที่น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ออกมาแก้ข้อมูลที่ได้เปิดเผยในคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การพาณิชย์ และอุตสาหกรรม วุฒิสภา ถึงโครงการจำนำข้าวทุกเมล็ดของรัฐบาลว่ามีการโกงทุกขั้นตอนว่า เป็นโครงการที่มีความเสี่ยงและมีช่องโหว่ของการทุจริต เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องการปราบปรามการทุจริต ดังนั้นตนขอเรียกร้องให้น.ส.สุภา ให้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมากับรัฐบาลในเรื่องดังกล่าวด้วย

ขณะที่ นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย แถลงเพิ่มเติมว่า เชื่อว่าการให้ข่าวว่าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลมีการทุจริตมีการทำในลักษณะของกระบวนการเพื่อโจมตีรัฐบาล เพราะในวันที่น.ส.สุภาออกมาให้ข่าวว่ามีการโกงจำนวนเงิน 2.6 แสนล้านบาท นายกรณ์ จาติกวนิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค เพื่อขยายผลโจมตีรัฐบาล โดยที่น.ส.สุภาไม่ยอมออกมาชี้แจง ต้องรอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ประกาศผ่านสื่อมวลชนถึงหลักฐานและข้อเท็จจริงในข้อมูลทุจริต น.ส.สุภาจึงยอมออกมาชี้แจง และปฏิเสธถึงข่าวการทุจริต

ส่วนนายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่สบายใจคำพูดของน.ส.สุภาที่ระบุโครงการจำนำข้าวมีการทุจริต เพราะพรรคเพื่อไทยมีความตั้งใจทำงานกับข้าราชการ หากมีข้อมูลการทุจริตอะไร ก็ให้มาบอกกัน แต่อย่ามาดิสเครดิตรัฐบาล

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน