สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

คลิปลับยุทธศักดิ์-แม้วเขย่ากองทัพ สะเทือนรัฐบาล

คลิปลับยุทธศักดิ์-แม้วเขย่ากองทัพ สะเทือนรัฐบาล

จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...ธนพล บางยี่ขัน

สั่นสะเทือนรัฐบาลครั้งใหญ่เมื่อปรากฏคลิปเสียงลึกลับแพร่กระจายว่อนอินเทอร์เน็ต โดยเนื้อหาเป็นบทสนทนาระหว่างบุคคลผู้มีเสียงคล้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และ บิ๊กอ๊อด พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม กำลังหารือถึงภารกิจลับปูทางกลับบ้าน และการแต่งตั้งโยกย้ายในกองทัพ

แม้ทาง “บิ๊กอ๊อด” จะออกมาปฏิเสธในทันทีว่าเสียงในคลิปดังกล่าวไม่ใช่ตัวเขาแน่นอน อีกทั้งในช่วงก่อนปรับ ครม. และหลังปรับ ครม. ไม่เคยโทรศัพท์หา พ.ต.ท.ทักษิณ และไม่เคยไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการส่วนตัว รวมถึงไม่เคยไปคุยในวงสนทนาที่มีบุคคลที่สาม แต่ไม่อาจคลี่คลายเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ลุกลามบานปลายมากขึ้นเรื่อยๆ

และไม่แปลกที่ “พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์” โฆษกพรรคเพื่อไทย จะออกมาเบนกระแสว่าเป็นเรื่อง “คลิปตัดต่อ” จากฝั่งผู้ไม่หวังดีและ ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ที่ต้องการหวังผลทางการเมือง สร้างความสับสนในบ้านเมือง เพื่อนำไปสู่ความขัดแย้ง เมื่อเนื้อหาในคลิปนั้น ถือเป็นระเบิดเวลาลูกโตที่หากปะทุขึ้นมาย่อมสั่นคลอนรัฐบาลให้พังพาบในเวลา อันรวดเร็ว

ระหว่างที่รอกระบวนการพิสูจน์ความจริง ถึงที่มาที่ไปของคลิปดังกล่าวว่าจะเป็นของจริง หรือตัดต่อ ซึ่งไม่รู้ว่าจะใช้เวลาอีกนานแค่ไหน และผลการพิสูจน์ที่ออกมาจะเป็นที่เชื่อมั่นในสายตาสาธารณะหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ผลในเวลานี้ย่อมสั่นคลอนรัฐบาลอย่างรุนแรง รวมไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพและรัฐบาลที่ย่อมไม่อาจสนิทใจได้เหมือน เดิมอีกต่อไป

อย่างน้อยๆ ย่อมทำให้ช่องว่างระหว่าง “กองทัพ” กับ “รัฐบาล” ที่กำลังจะรุกคืบขยับเข้ามาใกล้กันเรื่อยๆ จนกำลังจะประสานกลายเป็นเนื้อเดียวกัน มีอันต้องถ่างออกจากกันมากขึ้นเรื่อยๆ ความสนิทใจระหว่างกันและกันคงต้องลดน้อยถอยลงไปด้วย อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

ต้องยอมรับว่าแผลเก่าตั้งแต่รัฐประหารเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้สถานะของกองทัพกลายเป็นหอกข้างแคร่ที่รัฐบาลเพื่อไทยไม่อาจนิ่งนอนใจ นอกจากจะต้องคอยระมัดระวังตัวแล้ว ยังพยายามเข้าไปสลายขั้วอำนาจเก่าที่ฝังรากวางฐานไว้ในกองทัพอย่างเหนียว แน่นด้วยกฎระเบียบที่เป็นปราการป้องกันฝ่ายการเมืองเข้าไปล้วงลูก

นอกจากความพยายามจะเอาอกเอาใจกองทัพด้วยการไฟเขียวโครงการต่างๆ และวางตัว พล.อ.ยุทธศักดิ์ มาเป็นสะพานเชื่อมสัมพันธ์ ทำให้ภาพของกองทัพและรัฐบาลดูจะกลมเกลียวกันมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554

จนกระทั่ง นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขยับก้าวสำคัญด้วยการสร้างประวัติศาสตร์การเมืองหน้าใหม่ด้วยการไปนั่งควบ ตำแหน่ง รมว.กลาโหม ด้วยเหตุผลเรื่องของความเป็นเอกภาพ และความรวดเร็วในการแก้ไขปัญหาต่างๆโดยเฉพาะเรื่องปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ ชายแดนภาคใต้ พร้อมวางบิ๊กอ๊อดกลับมารับตำแหน่ง รมช.กลาโหม

ทว่าลึกๆ แล้วการขยับครั้งนี้ ถูกมองว่าเป็นการรุกคืบของฝ่ายการเมืองฝ่ายปราการ พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 เพิ่มเสียงในการแต่งตั้งโยกย้ายทหารชั้นนายพล ใน 7 เสือกองทัพ ทั้ง รมว.กลาโหม รมช.กลาโหม ผบ.ทหารสูงสุด ผบ.ทหารบก ผบ.ทหารเรือ ผบ.ทหารอากาศ และปลัดกระทรวงกลาโหม

ดังนั้น ผลจากคลิปนี้ย่อมต้องทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพ–รัฐบาล ต้องมาอยู่ในสถานะไม่ไว้วางใจกันมากยิ่งขึ้น เพราะเนื้อหาบางช่วงบางตอนในคลิปดูจะสอดรับกับความพยายามจากฝั่งเพื่อไทย ที่เคยจะปลดล็อกให้ฝ่ายการเมืองเข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดโผแต่งตั้งโยกย้าย

ปัจจัยนี้ย่อมเป็นแรงเสียดทานที่เพิ่มขึ้นให้การบริหารงานของรัฐบาลต่อ จากนี้เป็นไปด้วยความยากลำบากมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเดือนหน้าที่จะเปิดสมัยประชุมสภา และมีวาระร้อนๆ ทั้งเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งยังคาบเกี่ยวอยู่ในเนื้อหาว่าจะนิรโทษกรรมให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานจนนำไปสู่การเสียชีวิตกว่า 90 ศพหรือไม่ ซึ่งจุดนี้จะเป็นบทพิสูจน์ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพอีกเปลาะหนึ่งด้วย

ยังไม่รวมกับอีกประเด็นสำคัญเรื่องแผนปูทางพา พ.ต.ท.ทักษิณ ที่แม้ผู้ที่เกี่ยวข้องต่างออกมาปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นกับคลิปนี้ แต่ต้องยอมรับว่านี่เป็นจุดเปราะบางที่อาจกลายเป็นชนวนที่แนวต้านแนวค้าน ระบอบทักษิณหยิบยกกลับมาเปิดเกมรุกไล่บี้รัฐบาลต่อจากนี้

เสถียรภาพของรัฐบาลที่สั่นคลอนในเวลานี้จึงยิ่งจะเปราะบาง เมื่อต้องอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ความหวาดระแวงระหว่างกองทัพและรัฐบาล


“บิ๊กอ๊อด” ปัดตอบสื่อซักคลิปเสียงฉาว อ้างพูดแล้ว ไม่มีอะไรชี้แจง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ทัพสื่อเกาะติดกลาโหมหลังมีกระแสข่าว “ยุทธศักดิ์” จ่อแถลงคลิปเสียงโผล่ ขณะที่เจ้าตัวเข้ากระทรวง ปัดตอบนักข่าวรุมซัก อ้างพูดไปแล้ว ไม่มีอะไรชี้แจง

      วันนี้ (8 ก.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม บรรยากาศภายหลังจากที่มีกระแสข่าวว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม จะแถลงถึงกรณีคลิปเสียงคล้ายตนสนทนากับผู้ที่มีเสียงคล้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถึงการโยกย้ายทหาร ในเวลา 08.00 น.นั้น ล่าสุด พล.อ.ยุทธศักดิ์ได้เดินทางเข้ากระทรวงในเวลา 09.00 น. โดยไม่มีการแถลงข่าวแต่อย่างใด ขณะที่สื่อมวลชนที่มารอต่างพยายามที่จะขอสัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวแต่เจ้าตัว ปฏิเสธ โดยพูดเพียงสั้นๆ ว่า “พูดไปแล้ว ไม่มีอะไรชี้แจงแล้ว” ก่อนเดินขึ้นลิฟต์เข้าสู่ห้องทำงาน
       
       อย่างไรก็ตาม วานนี้ (7 ก.ค.) ได้มีรายงานอ้างว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์มีอาการเครียดต่อกระแสข่าวดังกล่าว ถึงกับพูดเปรยกับคนใกล้ชิดว่าอยากจะขอลาออกจากตำแหน่งเพราะไม่สบายใจ เนื่องจากตนเป็นผู้ใหญ่ในกองทัพ ได้รับความไว้วางใจจากนายทหารระดับ ผบ.เหล่าทัพ รวมถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จึงเกรงว่าอาจเกิดความไม่เข้าใจจนไม่สามารถทำงานต่อไปได้ ทั้งนี้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ได้โทรศัพท์ไปหารือกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็ได้รับการยับยั้งจากนายกฯ ให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ทำงานในตำแหน่งต่อไป เพราะหากไม่ได้เป็นจริงก็ไม่ต้องกลัว และเรื่องต่างๆ ก็ยังไม่ได้เกิดขึ้น ขอเป็นกำลังใจให้ช่วยกันทำงานเพื่อความมั่นคงของประเทศ อย่าได้กังวลหรือน้อยใจอะไร ส่วนที่มีข่าวว่าถูกนายทหารที่ไม่สมหวังในตำแหน่งพยายามปล่อยข่าวให้เสียหาย ก็อย่าไปใส่ใจ ขอให้ตั้งใจทำงานแล้วทุกอย่างจะเงียบไปเอง
       
       มีรายงานอ้างด้วยว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ยังได้โทรศัพท์ไปทำความเข้าใจกับ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประการ ผบ.ทหารสูงสุด และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.เป็นที่เรียบร้อยเพื่อไม่ได้เกิดความระแวงในการทำงานร่วมกัน ซึ่งทั้ง ผบ.ทหารสูงสุดและ ผบ.ทบ.ต่างเข้าใจดีถึงคลิปเสียงดังกล่าว โดยรับปากว่าจะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่ากังวลขอให้ต่างฝ่ายทำหน้าที่ของตน เองให้ดีที่สุด โดยตลอดทั้งวัน พล.อ.ยุทธศักดิ์ปิดโทรศัพท์มือถือเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ตอบคำถามสื่อมวลชน อย่างไรก็ตาม พล.อ.ยุทธศักดิ์ได้หารือกับนายทหารฝ่ายเสธ.เพื่อแถลงข่าวถึงข้อเท็จจริงต่อ สื่อมวลชนในวันนี้ (8 ก.ค.)
       
       ขณะที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวไอเอ็นเอ็นถึงกรณีดังกล่าวที่ระบุถูกปล่อยโดยฝีมือของ ผู้ที่อกหักจากการปรับ คณะรัฐมนตรี และคนในกระทรวงกลาโหมว่า ก็พูดกันไป ตนไม่ได้สนใจ และไม่ได้มองอะไรทั้งนั้น ให้ดูกันเอง รวมทั้งไม่อยากไปวิพากษ์วิจารณ์ ส่วนเนื้อหาคลิปเสียงก็ให้ไปฟังกันเองว่าใช่หรือไม่ เพราะไม่อยากจะพูดถึง ทั้งนี้ไม่อยากไปตอบโต้อะไร แต่อย่ามาด่าตนตรงๆ เท่านั้นเป็นพอ ส่วน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ก็ได้กล่าวสั้นๆ ว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียดในเรื่องนี้จริงๆ เพราะเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ


รบ.เผย “ปู” รับ “บิ๊กอ๊อด” ฮัลโหลแจงปัดไขก๊อก สั่งสอบคลิปฉาว ไม่เชื่อพวกแห้วปล่อยของ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ บอก “ยุทธศักดิ์” โทร.หาแล้ว ไม่ได้มาลาออก รมช.กห. พร้อมสั่งสอบคลิปเสียงฉาวแล้ว เชื่อไม่กระทบสัมพันธ์กองทัพ ไม่เชื่อคนแห้วเก้าอี้รัฐมนตรีปล่อยคลิป โอดไม่อยากให้ปล่อยข่าวแล้วต้องตามแก้ แนะเปิดพื้นที่ขายนโยบาย
       
       วันนี้ (8 ก.ค.) นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เขียนข้อความผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ @teeratr ระบุถึงกรณีคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นบุคคลภายในรัฐบาลว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินัวตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมบอกว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้โทรศัพท์มาหาตนแล้ว และพูดคุยกันปกติ โดยไม่มีเรื่องของการลาออกแต่อย่างใด
       
       ส่วนเรื่องของการตรวจสอบคลิปเสียงนั้น นายกรัฐมนตรีได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ตรวจสอบแล้ว ซึ่งมั่นใจว่าการเผยแพร่คลิปดังกล่าวจะไม่กระทบความสัมพันธ์กับกองทัพ เพราะทํางานกันด้วยดีมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ไม่เชื่อว่าการปล่อยคลิปดังกล่าวมาจากผู้ผิดหวังจากการปรับคณะ รัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีไม่อยากให้มีการปล่อยข่าวแล้วต้องตามแก้ในแต่ละวัน เพราะมีอีกหลายนโยบายที่ต้องผลักดันให้ประชาชน น่าจะมีเวทีให้ข่าวเหล่านั้นบ้าง


ผู้เชี่ยวชาญเสียงยันคลิปฉาวของจริง ชี้พูดคุยต่อเนื่องเป็นธรรมชาติ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ผู้เชี่ยวชาญด้านเสียง ยืนยันคลิปสนทนาจากแดนไกล เป็นการสนทนาของชายสองคนจริง ไม่ใช่การตัดต่อแน่นอน เพราะการพูดคุยเป็นเรื่องราวต่อเนื่องยาว 30 กว่านาที น้ำเสียงมีน้ำหนักเบาเน้นตามธรรมชาติของการคุยกัน เนื้อหาที่คุยมีความพิเศษเฉพาะยากที่คนอื่นจะล่วงรู้ข้อมูล ชี้หากตัดต่อต้องเหมือนหุ่นยนต์พูด ไม่เป็นธรรมชาติ
       
       จากกรณีที่คนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทั้งนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ออกมาตอบโต้เรื่องคลิปเสียงสนทนาระหว่างคนเสียงคล้าย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดีว่าเป็นคลิปตัดต่อนั้น ผู้ที่ทำงานด้านเสียงมานานกว่า 20 ปีได้วิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างคลิปจริงและตัดต่อ ยืนยันว่าคลิปเสียงที่ได้ยินเป็นการบันทึกการสนทนาของชาย 2 คนจริง โดยฟังจากสภาพแวดล้อมของเสียง องค์ประกอบต่างๆ ระยะใกล้-ไกลของผู้สนทนาทั้งสอง โดยการบันทึกนั้นอาจจะเป็นไปได้ว่าบันทึกด้วยเครื่องบันทึกเสียงที่อยู่ที่ โต๊ะสนทนา หรือมีการวางโทรศัพท์ไว้เพื่อให้ปลายทางบุคคลที่ 3 ได้ยินและเป็นผู้บันทึก
       
       ผู้เชี่ยวชาญด้านการบันทึกเสียงระบุอีกว่า คลิปเสียงนี้มิใช่การตัดต่อขึ้นมาใหม่อย่างแน่นอน เพราะเป็นลักษณะการพูดคุย และมีความยาวถึง 32 นาที ที่สำคัญมีการสนทนาเป็นเรื่องราวต่อเนื่อง น้ำเสียงมีหนัก เบา เน้นตามธรรมชาติของคนคุยกัน และเรื่องที่พูดคุยก็เป็นเรื่องที่มีความพิเศษเฉพาะที่คนอื่นยากจะรู้ข้อมูล เนื้อหาได้ลึกซึ้งเท่ากับชายสองคนนี้ และถ้าเป็นการตัดต่อเสียง ต่อให้ตัดต่อเก่งแค่ไหนก็จะต้องมีลักษณะเหมือนหุ่นยนต์ คือพูดเป็นคำไปไม่เป็นธรรมชาติ


“ปุระชัย” ยันคลิปฉาวเสียงใกล้เคียง “ยุทธศักดิ์” ชี้รัฐบาลเสื่อมสอบคนดีอย่าง “สุภา”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

“ปุระชัย” ระบุคำพูดและน้ำเสียงในคลิปฉาวใกล้เคียง “บิ๊กอ๊อด” เช่นเดียวกับเหตุการณ์ไทยปะทะพม่าสมัย “สุรยุทธ” ยุครัฐบาล “ทักษิณ” เป็นเรื่องลับสุดยอด มีไม่กี่คนที่รู้ หนึ่งในนั้นคือ “ยุทธศักดิ์” การันตี “สุภา” เป็นคนดี คนตรง ห่วงถูกรัฐบาลรังแกตั้ง กก.สอบ หลังเปิดตัวเลขขาดทุนจำนำข้าว ระบุรัฐบาลกำลังเข้าข่ายเสื่อม
            วันนี้ (8 ก.ค.) ที่รัฐสภา ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์สันติ กล่าวถึงกรณีคลิปเสียงว่า เนื้อหาบางส่วนเป็นเรื่องที่มีคนวงในเพียงไม่กี่คนที่รู้ และตนก็เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 11 ปีที่แล้ว ตอนที่ประเทศไทยมีเหตุปะทะทางชายแดนกับประเทศพม่า โดยคำพูดบางประโยคพูดกันแต่เฉพาะวงเล็กๆ ใน ครม.ฝ่ายความมั่นคงในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งตนในฐานะ รมว.มหาดไทยในขณะนั้นก็อยู่ในวงเดียวกันด้วย
       
       ร.ต.อ.ปุระชัยกล่าวว่า คนจะพูดแบบนั้นได้ต้องรู้ลึก หลายเรื่องไม่ใช่เกิดเฉพาะปัจจุบัน มันถอยหลังกลับไปนับสิบปี ตั้งแต่สมัย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ยังเป็น ผบ.ทบ. ถ้าคนพูดไม่รู้เรื่องเหล่านี้จะเอาอะไรมาพูดได้ อย่างเรื่องที่ พล.อ.สุรยุทธ์ไปชี้แจงนั้น ขณะนั้น พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯ แล้วเรียกเฉพาะกระทรวงความมั่นคงเข้ามาฟัง ซึ่งประกอบด้วยนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รมว.กระทรวงการต่างประเทศ ตนในฐานะ รมว.มหาดไทย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รมว.กลาโหม และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ เป็น รมช.กลาโหมเท่านั้น
       
       “ขณะนั้นถ้าผมจำไม่ผิดคือปี 45 ก็มีคำถามนายกฯ (พ.ต.ท.ทักษิณ) เป็นคนถามว่า “พี่ ยิง (ประเทศเพื่อนบ้าน) ไปกี่นัด” ไม่ใช่ปืนกล ปืนใหญ่ครับ คำตอบที่ผมได้ยินมากับหูคือ 3,000 นัด นี่คือประเด็นหนึ่งที่มันลึกมาก และในเหตุการณ์นั้นไม่มีใครนั่งอยู่ มันผ่านมา 10 ปีแล้วน่าจะจบแล้ว ไม่มีการพูดกันที่อื่น ลับสุดยอดเฉพาะที่เรียกเข้ามา ครม.ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ที่ได้ยินก็มีเฉพาะกลุ่มเล็กๆ ที่นั่งฟังอยู่ด้วยกันนี้ และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมมาพูดถึง และเหตุการณ์มันผ่านมากระทั่ง ผบ.ทบ.ท่านนั้นกลายเป็นนายกฯ กลายเป็นองคมนตรีไปแล้ว เรากับพม่าก็สงบเลิกแล้วต่อกันไปแล้ว 11 ปีมาแล้ว” ร.ต.อ.ปุระชัยกล่าว
       
       อดีต รมว.มหาดไทยสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยกล่าวอีกว่า ถามว่าคลิปนี้จริงหรือไม่ จากสำนวนการพูด ตนก็เคยทำงานร่วมกับ พล.อ.ยุทธศักดิ์มาในช่วงรัฐบาลไทยรักไทย ตนว่าสำนวนท่าน แต่สำนวนกับเรื่องจริงมันเป็นเรื่องเดียวกันหรือไม่ตนไม่ทราบ คนเราจะรู้ต่อเมื่อเป็นเพื่อนสนิทหรือเพื่อนร่วมงานว่าสำนวนนี้ใช่หรือไม่
       
       “แต่เมื่อท่านออกมาปฏิเสธ ผมก็ไม่ยืนยันว่าใช่หรือไม่ใช่ แต่บอกได้ว่าใกล้เคียง (หัวเราะ)” ร.ต.อ.ปุระชัยกล่าว
       
       ร.ต.อ.ปุระชัยยังกล่าวถึงกรณีที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ตามที่ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกรณีที่ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ให้ข้อมูลตัวเลขจำนวนเงินขาดทุนในโครงการรับจำนำข้าวต่อคณะกรรมาธิการฯว่า ตนรู้สึกไม่สบายใจ เพราะตนรู้จัก น.ส.สุภาในหลายสถานะ ไม่ว่าจะเป็นเคยทำงานร่วมกันที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และเป็นลูกศิษย์ของตนที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า ซึ่ง น.ส.สุภา ก็มาชี้แจงตามหน้าที่ไม่ได้เป็นเรื่องส่วนตัว และเป็นการให้ข้อมูลอย่างสุจริต เพราะฉะนั้นสังคมไทยต้องปกป้องข้าราชการที่ดี
       
       ทั้งนี้ ที่ตนรู้จัก น.ส.สุภามานานจึงรู้ว่าเป็นคนตรง และเป็นคนดี แต่สังคมไทยไม่ค่อยชอบคนตรงเสียเท่าไหร่ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นนี้จะทำให้ข้าราชการไม่กล้าที่จะทำความดี ทั้งๆ ที่ข้าราชการประจำควรที่จะมีความจงรักภักดีต่อชาติและผลประโยชน์ของประเทศ
       
       ร.ต.อ.ปุระชัยกล่าวว่า ที่ตนพูดนั้นไม่ได้มีเจตนาทางการเมือง แต่อยากจะให้กำลังใจ น.ส.สุภา ในฐานะครูกับลูกศิษย์เท่านั้น ตอนนี้ตนก็หวังว่าคงจะไม่ไปไกลถึงขนาดตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบวินัย เพราะท่าทีของรัฐบาลจะก้าวร้าวและรุนแรงเกินไป และเป็นท่าทีที่เป็นลบต่อข้าราชการประจำ จากนี้ไปเราก็ต้องรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ขณะนี้ตนไม่เห็นด้วยกับการตั้งกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่ควรจะไปถึงการตรวจสอบทางวินัย เพราะสิ่งที่มาให้ข้อมูลเป็นการมาโดยหน้าที่ไม่ได้มาโดยพลการ ขณะนี้รัฐบาลกำลังเข้าข่ายความเสื่อม
       
       “ประเทศของเรากำลังต้องการพรรคการเมืองที่ไม่ได้หวังเพียงแค่แบ่ง เค้กทางการเมืองเท่านั้น แต่ตอนนี้พรรคการเมืองด้อยคุณภาพ พรรคการเมืองเป็นเพียงบริษัทส่วนตัวแทนที่จะเป็นองค์กรที่จะพาประเทศไปสู่ ความรุ่งเรือง อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าใครทำอะไรไว้ เช่น การเอาเงินของชาติไปใช้เป็นเงินส่วนตัว กฎแห่งกรรมมันมี”


สารพัดเสียงตอบรับคลิปหลุดคนแดนไกล

จาก โพสต์ทูเดย์

สารพัดเสียงตอบรับคลิปหลุดคนแดนไกล

สารพัดเสียงหลังจากมีคลิปเสียงสนทนาลับของคนแดนไกล 4 ตอนที่ถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์ยูทูป


“ป๋าเปรม” เฉยๆ คลิปเสียงฉาว ไม่อยากพูดมาก แต่ชี้ถ้าของจริงก็ให้สังคมตัดสินเอง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

“เด็กป๋า” เผยประธานองคมนตรี ยังไม่ได้ฟังคลิปเสียงฉาว ระบุเฉยๆ ไม่กังวล ยันไม่มีหน้าที่แต่งตั้งใคร บอกยังไม่รู้เสียงจริงตัวจริงหรือไม่ รับละเอียดอ่อนไม่อยากพูดมาก แต่ถ้าของจริงก็ให้สังคมตัดสิน
         วันนี้ (8 ก.ค.) แหล่งข่าวใกล้ชิด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เปิดเผยว่า กรณีที่มีการเผยแพร่คลิปเสียงการสนทนาคล้ายเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พูดคุยเกี่ยวกับการนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศ โดยมีการระบุว่าจะไม่มีการแก้แค้น พล.อ.เปรมนั้น พล.อ.เปรมยังไม่ได้ฟังคลิปเสียงดังกล่าว แต่รับทราบจากการอ่านหนังสือพิมพ์ ซึ่งท่านรู้เท่าที่สื่อมวลชนรู้ เมื่อ พล.อ.เปรมทราบเรื่องท่านก็รู้สึกเฉยๆ ไม่ได้แสดงอาการวิตกกังวลอะไร เนื่องจาก พล.อ.เปรมไม่มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจอะไรอยู่แล้ว และท่านไม่มีหน้าที่แต่งตั้งใครด้วย เพราะอำนาจหน้าที่ในการตัดสินใจ และบริหารประเทศเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำประเทศ ซึ่งขณะนี้คลิปเสียงดังกล่าวยังไม่ปรากฏชัดเจนว่าเป็นคลิปเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ และพล.อ.ยุทธศักดิ์จริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงไม่อยากพูดมาก เพราะเกรงว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ แต่ถ้าคลิปเสียงดังกล่าวเป็นเสียงของทั้ง 2 ท่านจริงก็อยากให้สังคมตัดสินเอง ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีผลกระทบอะไรต่อ พล.อ.เปรมอยู่แล้ว


“สมเจตน์” บี้ “อ๊อด” กล้าทำกล้ารับ ไร้เกียรติดึงกองทัพล้างผิด ชี้ “แม้ว” ถูกขี้ข้าหลอก

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

“ส.ว.สมเจตน์” แจงคลิปเสียงฉาวมัด “ยุทธศักดิ์” ร้องรุ่นพี่พิสูจน์ ทหารกล้าทำกล้ารับ จริงสมควรออก เหตุกระทบเกียรติกองทัพ วงศ์ตระกูลและตัวเองที่รวมหัว นช.เพื่อ “ชินวัตร” เหล่าทัพไม่ควรศรัทธา รับรู้แผนดึงทหารร่วม พ.ร.ก.ล้างผิดก่อนปิดสภา ล็อกไม่ให้ต้านแลกตบรางวัล ชี้ ปชช.ยังนิ่งพร้อมวางมือ เย้ย “ทักษิณ” กลัวทหาร เจอขี้ข้าหาผลประโยชน์จากการกลับไทย ซัดโชว์ธาตุแท้ไม่จริงใจพม่า
       
       วันนี้ (8 ก.ค.) พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปเสียง พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีการถกเถียงกันว่าคลิปเสียงดังกล่าวเป็นของจริงหรือมีการตัดต่อหรือไม่ ว่า ในการพูดคุยนั้นจะเห็นว่าบุคคลที่ 1 มีความเกี่ยวข้องกับทางกองทัพอย่างชัดเจน และระบุว่าอายุ 76 ปี อีกทั้งยังมีตัวละครที่เชื่อมโยงอย่างคนชื่อ “แอ๊ว” ที่ว่าสุขภาพไม่ดี ทั้งนี้บุคคลที่ 1 ยังเคยเป็นลูกน้องของบุคคลที่ 2 เพราะตลอดการสนทนาเรียกว่าเจ้านายทุกคำ โดยบุคคลที่ 2 เรียกบุคคลที่ 1 ว่าพี่ ซึ่งต้องมีอายุมากกว่า ซึ่งทั้งหมดนี้ตรงกับคุณสมบัติของ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ขณะที่บุคคลที่ 2 มีความเชื่อมโยงนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้หญิงอีกด้วย เมื่อถอดรหัสแล้วก็ค่อนข้างชัดเจนว่าใครคุยกับใครตามข่าวที่ปรากฏ
       
       พล.อ.สมเจตน์กล่าวต่อว่า โดยส่วนตัวในฐานะรุ่นน้องเห็นว่าในความเป็นจริง พล.อ.ยุทธศักดิ์เหมาะสมและเป็นตัวเลือกที่ดีกับการทำหน้าที่ดูแลกองทัพใน ตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ผู้ที่รู้ดีที่สุดก็เป็นตัว พล.อ.ยุทธศักดิ์เท่านั้นที่รู้ จึงอยากจะเรียกร้องให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ออกมาพิสูจน์ความจริงว่าเป็นบทสนทนาจริงหรือมีการตัดต่อ และเป็นเสียงของตัวเองจริงหรือไม่ เพื่อธำรงไว้ในศักดิ์ศรีเกียรติภูมิของกองทัพ เพราะคนที่มีแนวคิดเช่นนี้ไม่สมควรจะอยู่ในฐานะที่มอบนโยบายให้แก่กองทัพต่อ ไป
       
       “ชาติชายทหารกล้าทำต้องกล้ารับ ถ้าเป็นเสียงของ พล.อ.ยุทธศักดิ์จริงก็ไม่สมควรอยู่ ต้องลาออกไป เพราะกระทบต่อเกียรติและศักดิ์ศรีของกองทัพ รวมไปถึงวงศ์ตระกูลและลูกหลานของ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ที่เป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่เองด้วย” พล.อ.สมเจตน์ระบุ
       
       พล.อ.สมเจตน์กล่าวอีกว่า เรื่องนี้เป็นจริงจะเสื่อมเสียเกียรติของ พล.อ.ยุทธศักดิ์อย่างมาก เพราะเป็นถึงพลเอก และอดีตปลัดกระทรวงกลาโหม กลับไปสมรู้ร่วมคิดกับผู้ที่มีมลทินเป็นนักโทษหลบหนีคดีในการออกกฎหมายเพื่อ ประโยชน์ของคนคนเดียว หรือตระกูลเดียว แถมยังยกย่องเป็นดังราชสีห์ ส่วนตัวเป็นหนูน้อยที่คอยช่วยเหลือ ถือเป็นการดูถูกตัวเอง ซึ่งรุ่นน้องอย่างผู้นำเหล่าทัพและทหารในกองทัพต้องไม่ไว้วางใจ และไม่สมควรศรัทธาบุคคลเช่นนี้ต่อไป ตนเชื่อว่าบรรดาผู้นำเหล่าทัพจะมีวุฒิภาวะพอในการตัดสินคนที่มีพฤติกรรมไม่ ชอบเช่นนี้ หลังจากเรื่องนี้ต้องมีความหวาดระแวงเพราะคนคนนี้ไม่หวังดีกับกองทัพ ทั้งนี้ จากเนื้อหาในคลิปยังแสดงให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังเข็ดและเกรงกลัวกับท่าทีของกองทัพ เพราะเป็นเพียงสถาบันเดียวที่จะสามารถโค่น พ.ต.ท.ทักษิณลงจากอำนาจได้
       
       สำหรับความพยายามออกกฎหมายนิรโทษกรรมที่กล่าวถึงในคลิปเสียงนั้น พล.อ.สมเจตน์กล่าวว่า แนวคิดการออกกฎหมายนิรโทษกรรมโดยดึงกองทัพเข้ามามีส่วนร่วมนั้นเป็นแนวคิด ที่ตนได้ยินมาหลายเดือนตั้งแต่ก่อนปิดสมัยประชุมสภา ซึ่งตรงกับเนื้อหาการสนทนาในคลิปดังกล่าวที่หนึ่งในคู่สนทนาแสดงความชัดเจน ว่าต้องการกลับประเทศ โดยมีการวางแผนหลอกล่อให้กองทัพเข้ามามีส่วนร่วมในการออกกฎหมายในรูปแบบพระ ราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ที่ผ่านสภากลาโหม ก่อนจะปรับเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ในชั้นสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) สอดคล้องกับการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้ามาเป็น รมว.กลาโหมอีกตำแหน่ง ก็เพื่อคุมผู้นำเหล่าทัพ และให้มีการหารือนอกรอบเพื่อลดเสียงค้าน ก่อนร่างกฎหมายและออกเป็น พ.ร.ก.ในที่สุด ถือเป็นขบวนการหลอกและปิดบังประชาชน รวมทั้งมีการอ่อยเหยื่อผู้นำเหล่าทัพ โดยเฉพาะผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ) และผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ที่จะเกษียณในปี 2557 ที่ว่าจะมีการเตรียมตำแหน่งหน้าที่หรือผลประโยชน์อื่นๆให้หลังเกษียณราชการ
       
       “ถามว่าทำไมต้องนำเรื่องนี้มาเกี่ยวกับกองทัพ ทั้งที่การออกกฎหมายไม่ได้เกี่ยวข้องกับกองทัพเลย แต่ฝ่ายคุณทักษิณคิดว่าจะใช้วิธีนี้ล็อกไม่ให้กองทัพ หรือฝ่ายความมั่นคงแสดงความไม่เห็นด้วย ก็เพื่อลดแรงเสียดทานในเป้าหมายของตัวเอง” พล.อ.สมเจตน์ กล่าว
       
       พล.อ.สมเจตน์กล่าวยอมรับด้วยว่า การออกพระราชกำหนดถือเป็นอำนาจของรัฐบาลที่สามารถทำได้โดยที่ไม่ต้อง ผ่านกระบวนการของรัฐสภา เพียงแต่เมื่อกฎหมายได้รับพระปรมาภิไธยแล้วก็นำเข้าที่ประชุมรัฐสภาเพื่อให้ รับทราบเท่านั้น ขณะที่ประชาชนก็จะถูกปิดหูปิดตาเพียงแค่รัฐบาลเสนอเป็นวาระจรที่ประชุมคณะ รัฐมนตรี (ครม.) เท่านั้น หากเกิดขึ้นจริงตนคงรับไม่ได้ และต้องดูท่าทีของประชาชนด้วยว่ายอมรับได้หรือไม่ หากประชาชนยังนิ่งเฉย ตนก็คงหมดหวังและจะขอประกาศเลิกเล่นการเมือง เพราะถือว่าสิ่งที่คิดและเคลื่อนไหวมาทั้งหมดถือว่าคิดผิด
       
       พล.อ.สมเจตน์กล่าวอีกว่า จุดอ่อนที่สำคัญของ พ.ต.ท.ทักษิณ คือ แสดงความต้องการที่จะกลับประเทศไทยอย่างมาก จึงตกเป็นเหยื่อของบรรดาผู้ที่ต้องการผลประโยชน์หรือตำแหน่งจาก พ.ต.ท.ทักษิณ อย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน, นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย หรือนายขวัญชัย สาราคำ หรือขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร ที่ประกาศกันว่าจะพา พ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้าน โดยการผลักดันร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง หรือนิรโทษกรรม ก็แค่หลอกล่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะต้องการผลประโยชน์ทั้งนั้น ทั้งๆ ที่ไม่มีใครอยากให้อดีตนายกฯ ได้กลับมาจริง เนื่องจากคนเหล่านี้จะหมดคุณค่าทันทีเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาได้ แต่ที่ออกมาเคลื่อนไหวก็เพราะรู้จุดอ่อนข้อนี้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ
       
       “ไม่มีใครห้ามคุณทักษิณให้กลับเมืองไทย คุณทักษิณกลับมาได้ตลอดเวลา เพียงแต่กลับมาแล้ว ให้มารับโทษตามที่กระบวนการยุติธรรมได้มีคำวินิจฉัยไว้เท่านั้น แต่เมื่อไม่ยอมกลับก็ตกเป็นเหยื่อของบรรดาผู้ที่จ้องจะเอาผลประโยชน์” ส.ว.สรรหากล่าว
       
       นอกจากนี้ ในประเด็นเกี่ยวกับผลประโยชน์ประเทศพม่านั้น พล.อ.สมเจตน์มองว่า ถือเป็นเรื่องร้ายแรง อาจจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เมื่อมีการระบุถึงกลุ่มผลประโยชน์ในประเทศพม่า ทั้งในส่วนของ พล.อ.มิน อ่อง ไหล่ ผบ.สส.สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า หรือนายเน วิน ตัน เจ้าของบ่อหยก ซึ่งมีอิทธิพลทางด้านเศรษฐกิจ เพราะคนในคลิปพูดชัดเจนว่าต้องใช้ 2 คนนี้มาเป็นพวก จะทำให้การแสวงหาผลประโยชน์ในประเทศพม่าทำได้ง่าย ถือเป็นเจตนาไม่บริสุทธิ์ต่อประเทศเพื่อนบ้าน


ประสงค์” ฟันธงคลิปเสียงของจริง ซัด “ทักษิณ” จ้องฮุบกองทัพ-บังอาจดึงสถาบัน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

อดีตเลขาฯ สมช.มั่นใจคลิปเสียง “แม้ว-บิ๊กอ๊อด” ของจริงล้านเปอร์เซ็นต์ ชี้เป็นเสียงที่คุ้นหู เชื่อเจ้าตัวจ้องกุมกองทัพเบ็ดเสร็จปี 57 อัดกล้าดีริคิดนั่งที่ปรึกษาทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ บังอาจดึงสถาบันมาเอี่ยว อยากถามที่โกงไปยังไม่พออีกเหรอ ไม่เชื่อปล่อยคลิปเอง บอกรู้สันดานดีชอบเอาดีเข้าตัว เอาชั่วใส่คนอื่น
              วันนี้ (8 ก.ค.) น.ต.ประสงค์ สุ่นสิริ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงคลิปเสียง ว่า เท่าที่ได้ฟังคลิปเสียงแล้วเชื่อมั่นล้านเปอร์เซ็นต์ว่า เป็นเสียงการสนทนาระหว่าง พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะคลิปเสียงเป็นการพูดคุยตอบโต้อย่างเป็นธรรมชาติและต่อเนื่อง ไม่มีขาดช่วงหรือสะดุด อีกทั้งยังจำเสียงทั้งสองคนได้แม่น และประเด็นการพูดคุยไปถึงยาไวอะกร้า หรือถั่งเช่านั้น ยิ่งมั่นใจว่าคลิปนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นเอง
       
       น.ต.ประสงค์ กล่าวต่อว่า ฟังการสนทนาครั้งนี้เป็นที่ชัดเจนว่าทั้งสองคนมีเจตนาที่เข้าไปควบคุมกองทัพ อย่างเบ็ดเสร็จ เพื่อส่งคนเข้าไปมีอำนาจสั่งการในกองทัพ มีเจตนาที่จะดึงขั้วอำนาจในกองทัพเป็นของรัฐบาลตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป อีกทั้งเนื้อหาการสนทนายังพาดพิงผู้นำทั้ง 3 เหล่าทัพ และผู้บัญชาการทหารสูงสุด จนได้รับความเสื่อมเสีย ถือเป็นการสร้างความวุ่นวายให้กองทัพอย่างมาก
       
       “เขา (พ.ต.ท.ทักษิณ) ยังบังอาจเสนอตัวเป็นที่ปรึกษาสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ไม่ให้เกิดความหวาดระแวงว่าเขาจะมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ถามว่ายังไม่พออีกหรือที่โกงไป ยังจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของท่านอีกหรือ ทั้งยังกล้าดีพูดถึงป๋า (พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี) โดยไม่รู้สึกยำเกรง ดึงให้ป๋ามายินดียินร้ายด้วย โดยไม่สมควร” น.ต.ประสงค์ กล่าว
       
       น.ต.ประสงค์ กล่าวด้วยว่า ไม่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเป็นผู้ปล่อยคลิปเอง เพราะรู้นิสัย พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอย่างดีว่าไม่มีทางที่จะทำเรื่องที่ส่งผลเสีย หรือผลกระทบมาถึงตัวเอง เพราะเป็นคนชอบเอาดีเข้าตัว เอาชั่วใส่ผู้อื่นตลอดเวลา ถ้าถามว่าใครเป็นผู้ปล่อยคงไม่สามารถตอบได้ เชื่อว่าคงเป็นเรื่องกรรมจัดสรรไว้ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำกรรมชั่วมาหนัก กรรมก็ต้องปรากฏตัวออกมาให้เห็นเข้าสักวัน
       
       เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ เป็นผู้บันทึกเสียงส่งให้ พล.อ.เปรม แต่คลิปกลับหลุดออกมา น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ไม่เชื่อว่า พล.อ.เปรม จะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามหลังคลิปปรากฏออกมา อยากให้กองทัพทบทวนว่าใครมีเจตนาต่อกองทัพอย่างไร ส่วนตัวในฐานะอดีตทหารคนหนึ่งรู้สึกได้ว่าทหารถูกนักการเมืองไม่ดีคิดใช้กอง ทัพเพื่อหาประโยชน์ใส่ตัว ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ เชื่อว่าหลังจากนี้ความเชื่อถือและไว้วางใจที่กองทัพมีให้ฝ่ายการเมืองคงจะ ถอยห่างลงไปทุกที


นายกฯคุยบิ๊กอ๊อดปมคลิปเสียงแล้วย้ำไม่มีเรื่องลาออก

จาก โพสต์ทูเดย์

ยิ่งลักษณ์เผยคุย "ยุทธศักดิ์" ปมคลิปเสียงสนทนาแล้ว ระบุไม่มีการพูดถึงเรื่องลาออก พร้อมเตรียมให้หน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบคลิป 

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีคลิปเสียงสนทนาที่คล้ายกับเสียง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พูดคุยกับพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหมว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ ได้โทรศัพท์มาคุยแล้ว ซึ่งเรื่องดังกล่าวต้องขอตรวจสอบก่อน และพล.อ.ยุทธศักดิ์ ก็ไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรมากมาย ซึ่งต้องรอให้พล.อ.ยุทธศักดิ์ ทราบรายละเอียดก่อน อย่างไรก็ตาม จากที่ได้คุยกัน ไม่มีการพูดคุยเรื่องการลาออกจากตำแหน่งรมช.กลาโหม แต่อย่างใด

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวอีกว่า จะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นผู้ตรวจสอบคลิปเสียงดังกล่าวก่อน และว่าไปตามขั้นตอน กรณีกระแสข่าวที่พล.อ.ยุทธศักดิ์ จะลาออกก็ยังไม่มีการคุยกัน และเรื่องนี้ต้องรอการตรวจสอบก่อนอีกครั้ง ทั้งนี้พล.อ.ยุทธศักดิ์ เองก็ยังไม่ทราบรายละเอียด

ส่วนเรื่องดังกล่าวจะทำให้การทำงานระหว่างรัฐบาลกับกองทัพเป็นอุปสรรค หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนเชื่อมั่น เพราะทำงานร่วมกับกองทัพมาเกือบ 2 ปีแล้ว ซึ่งเห็นอยู่แล้วว่ารัฐบาลมีความตั้งใจ และให้ความสำคัญในงานด้านความมั่นคง 2 ปีที่ผ่านมาคงเห็นแล้วว่าทั้งรัฐบาล และกองทัพต่างก็ให้เกียรติซึ่งกันและกัน เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา

เมื่อถามว่าคลิปดังกล่าวเป็นไปได้หรือไม่ว่ามาจากคนที่อกหักจากการปรับ ครม.ครั้งล่าสุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ทราบค่ะ จึงไม่ขอคอมเม้นต์ ต้องรอให้มีความชัดเจนในรายละเอียดก่อน

เมื่อถามว่านายกฯ กังวลต่อปัญหที่เกิดขึ้นในขณะนี้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวอีกว่า ตนกังวลในประเด็นที่ว่าวันนี้เราน่าจะใช้เวที พูดคุยกันในเรื่องของนโยบายหรือสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน มากกว่าการเอาประเด็นต่างๆ ที่เป็นข่าวลือแล้วมาแก้ข่าวกัน อย่างไรก็ตามเชื่อว่าประชาชนอยากจะฟัง ในเรื่องของประโยชน์ของประชาชนหรือเรื่องของนโยบายต่างๆ ซึ่งรัฐบาลเองมีหลายมุมหลายมิติ ทั้งยังไม่มีโอกาสได้ให้ข้อมูลแก่ประชาชน ให้รับทราบเพราะถูกประเด็นทางการเมืองกลบ ทั้งนี้ผู้ที่รับฟังก็อยากให้ฟังจากทุกฝ่าย และมีการพิจารณาอย่างเต็มที่

เมื่อถามว่าคลิปเสียงดังกล่าวเป็นเสียงของพ.ต.ท.ทักษิณ จริงหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามก่อนเดินออกจากวงสัมภาษณ์ และเดินทางกลับทำเนียบรัฐบาล


ปุระชัยชี้บทสนทนาคลิปเสียงเป็นเรื่องจริง

จาก โพสต์ทูเดย์

"ปุระ ชัย"ระบุบทสนทนาในคลิปเสียงฉาวเรื่องไทย-พม่าสมัยรัฐบาลทักษิณเป็นเหตุการณ์ จริงรู้กันไม่กี่คน มาร์คชี้หากจะปฏิเสธก็ควรชี้แจงให้ชัด

ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์สันติ   กล่าวถึงกรณีคลิปเสียงการสนทนาคล้ายกับพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ส่วนตัวได้ติดตามอ่านจากข่าวที่มีการนำเสนอแต่ไม่สามารถตอบได้ว่าคลิปเสียง ดังกล่าวเป็นเสียงจริงของพล.อ.ยุทธศักดิ์และพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่

อย่างไรก็ตาม เนื้อหาการสนทนาที่ได้พูดถึงเหตุการณ์ปะทะกับพม่านั้นเป็นเหตุการณ์ที่มี อยู่จริง โดยในสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยได้มีการประชุมคณะรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงซึ่ง ส่วนตัวในฐานะรมว.มหาดไทยและพล.อ.ยุทธศักดิ์ รมช.กลาโหมในเวลานั้นก็ได้เข้าร่วมประชุมด้วยเพื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ที่ เกิดขึ้น   

"การประชุมครั้งนั้นลับสุดยอดเฉพาะที่เรียกเข้ามาครม. ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง  ที่ได้ยินก็มีเฉพาะกลุ่มเล็ก ๆ ที่นั่งฟังอยู่ด้วยกันนี้  และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมมาพูดถึง  และเหตุการณ์มันผ่านมากระทั่ง ผบ.ทบ.ท่านนั้นกลายเป็นนายก ฯ กลายเป็นองคมนตรีไปแล้ว"ร.ต.อ.ปุระชัยกล่าว

ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า  กรณีคลิปเสียงสนทนาคล้ายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ซึ่งยังไม่มีการพิสูจน์ว่าตัดต่อหรือไม่  แต่เนื้อหาเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่ต้องสงสัยว่าเป็นเจ้าของเสียง เพราะฉะนั้นจึงคิดเป็นอื่นได้ยาก ถ้าจะปฏิเสธกันก็ต้องอธิบายว่า ตกลงใช่เสียงหรือไม่ใช่ ถ้าใช่แล้วบอกตัดต่อ ของจริงพูดว่าอะไร ตัดต่อแปลว่าเอาบางส่วนออกไปใช่มั้ย ไปเอาตรงนั้นมาเชื่อมตรงนี้ แต่สิ่งที่พูดนี้ของจริงหรือเปล่า เพราะบางประโยคมันไม่ได้ตัดต่อความจริงถ้าจะพิสูจน์ก็ได้สมัยตนเองยังเอา นิติวิทยาศาสตร์มาดูคลื่นเสียงกันเลยครับว่า มีการตัดต่อมั้ย ก็พิสูจน์กันได้

"เนื้อหาที่พูดถ้ามีจริง จะแสดงให้เห็นการจะใช้อำนาจทางการเมือง ตอบสนองโจทย์ของตัวเอง โจทย์ของตัวเองก็มีทั้งเรื่องการพ้นผิดจากกฎหมาย จากเรื่องธุรกิจ แล้วก็พยายามที่จะเข้ามายึดครองกลไกต่างๆ แม้กระทั่งทางด้านความมั่นคง และกองทัพ แล้วก็มีการพูดถึง ผมคิดว่ามีการพูดถึงองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไม่เหมาะสม ถ้ามีคนที่พูดจากันอย่างนี้จริง ก็แสดงให้เห็นว่า ยังมีคนพยายามที่จะเดินหน้า ใช้อำนาจต่างๆ ในทางที่ผิด แล้วก็จะไปสร้างเงื่อนไข ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองต่อไป"นายอภิสิทธิ์กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นากรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลก็ไม่ควรจะนิ่งนอนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี่ แหละครับ ต้องค้นหาความจริงออกมาก่อนว่ เป็นคลิปเสียงจริงๆ หรือเปล่า และยืนยันกับประชาชน  ที่กังวลกันว่ากำลังจะมีเรื่องไม่ถูกไม่ต้องทั้งหลายเกิดขึ้น หากไม่มีก็ให้ออกมายืนยัน ว่าไม่มีกระบวนการตามคลิปเสียงที่ว่า จะไม่มีการเสนอกฎหมายที่ลับลวงพรางว่าเป็น พ.ร.บ. แล้วจะกลายเป็น พรก. เกี่ยวกับการพาพ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้าน จะไม่มีการพยายามเข้าไปแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายในกองทัพ อันนี้ก็เป็นหน้าที่นายกฯ ที่จะต้องมาชี้แจงให้ประชาชนเกิดความมั่นใจว่า ว่าไม่มีเรื่องราวทั้งหลายที่ปรากฎอยู่ในคลิป


เพื่อไทยอ้างผู้เชี่ยวชาญยันคลิปเสียงตัดต่อ

จาก โพสต์ทูเดย์

เพื่อไทย อ้างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบคลิปเสียงเเล้วเป็นการตัดต่อ เผยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งสอบหาต้นตอปล่อยคลิปชี้เข้าข่ายผิดพ.ร.บ. คอมพ์

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้ตรวจสอบคลิปลับที่อ้างว่าเป็นการสนทนาระหว่างพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมกับทีมงานเเละผู้เชี่ยวชาญแล้วพบว่า เป็นคลิปที่จัดทำขึ้นมา มีการตัดต่อทำขึ้นเพื่อหวังผลทางการเมือง โดยขณะนี้กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กำลังเร่งสืบสวนหาคนปล่อยคลิปดังกล่าว เพราะอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และกฎหมายหมิ่นประมาท

"เรื่องนี้ กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา เพราะไม่ทันไรก็มีขบวนการรับลูกกันต่อเนื่อง ผู้กองปูเค็ม หรือ ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หน้ากากขาวตัวพ่อ เดินทางไปที่กระทรวงกลาโหมในวันที่ 8 ก.ค. 56 กดดัน พล.อ.ยุทธศักดิ์ทันที ตัวละครเริ่มถอดหน้ากากให้เห็นกันแล้ว" นายพร้อมพงศ์กล่าว

นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า ขอเรียกร้อง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ สส.ปชป.และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อย่าโหนกระแสไปทุกเรื่อง ดิสเครดิตรัฐบาลทุกประเด็น อีกทั้งในอดีตเคยมีคลิปเกิดขึ้นหลายกรณี เช่น คลิปสั่งสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 ที่ปรากฏคนเสียงคล้ายนายอภิสิทธิ์ คลิปของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรณีนี้เหล่านี้ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ ดังนั้นพรรคปชป.อย่าเพิ่งรีบฉวยโอกาสตีกิน ถ้าพิสูจน์แล้วมันไม่จริง คนออกมากล่าวหาก็ต้องรับผิดชอบด้วย

“อยากให้พี่น้องประชาชนได้เข้าใจว่าคลิปที่ออกมามีความมุ่งหมายทางการ เมือง และคนที่ทำก็หวังล้มรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ทั้งที่คนทั้งประเทศอยากให้บรรยากาศบ้านเมือง ไปสู่ความปรองดอง ความสมานฉันท์ และให้รัฐบาลแก้ปัญหาของประชาชน เรื่องปากท้อง เรื่องเศรษฐกิจ รวมถึงการพัฒนาประเทศมากกว่า” นายพร้อมพงศ์กล่าว


ปชป.แนะส่งคลิปให้ผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์

จาก โพสต์ทูเดย์

ชวนนท์แนะรัฐบาลส่งคลิปสนทนาเสียงคล้ายทักษิณกับยุทธศักดิ์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่ารัฐบาลควรส่งคลิปสนทนาคล้ายเสียงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหมให้หน่วยงานเชี่ยวชาญตรวจสอบ เพราะการออกมาปฎิเสธของคนในรัฐบาล หรือพรรคเพื่อไทย หรือแม้แต่ทางเจ้าตัวเองนั้นไม่สามารถพิสูจน์หรือหักล้างได้

อีกทั้ง ประชาชนที่ได้ฟังคลิปดังกล่าว และมองอย่างใจเป็นธรรม เชื่อว่าประชาชนเกือบทั้งหมด คงเชื่อว่าคลิปนี้เป็นของจริง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาที่ต่อเนื่อง ไม่มีลักษณะการตัดต่อ หรือกระโดด รวมทั้งประเด็นการพูดคุยต่างๆก็สอดคล้องกับสถานการณ์บ้านเมือง เชื่อว่าถ้าจะมีคนตัดต่อคงไม่สามารถทำได้เนียนขนาดนี้

เนื้อหาใน คลิปสะท้อนความคิดของรัฐบาล คือกรณีเรื่องของการโยกย้ายแต่งตั้งนายทหารระดับสูง บุคคลที่อยู่ในคลิปมีความพยายามต้องการที่จะคืบคลานเข้าไปยึดอำนาจในกองทัพ ที่ถือว่ายังเป็นหน่วยงานที่แข็งแกร่ง และต่อต้านระบอบทักษิณมาตลอด 

นอกจากนี้  กรณีที่ระบุว่าจะยืมมือสภากลาโหม ในการออกกฎหมายพิเศษ ซึ่งคงปฎิเสธไมได้ว่าคือกฎหมายนิรโทษกรรม หรือกฎหมายล้างผิด  โดยการยืมมือสภากลาโหมเพื่อจะส่งกฏหมายดังกล่าวเข้าไปในสภาความมั่นคงแห่ง ชาติ ก่อนที่จะส่งให้คณะรัฐมนตรีลักไก่ออกเป็นพ.ร.ก. คือการแสดงให้เห็นว่าสุดท้ายแล้ว ฝ่ายการเมือง พยายามมัดมือชกผู้นำเหล่าทัพ และหน่วยงานความมั่นคงให้เหมือนกับว่าเห็นด้วยกับการออกกฎหมายล้างผิด ซึ่งคนไทยหลายคนคิดไม่ถึงว่า เขาจะใช้แผนใหม่ที่เดินเกมลึกขนาดนี้ 

การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ เข้ามาควบตำแหน่ง รมว.กลาโหม เป็นอย่างที่ฝ่ายค้านพูดไว้ไม่มีผิดว่า ต้องการเพิ่มมือฝ่ายการเมืองในสภากลาโหม แต่ที่คิดไม่ถึงก็คือ เดิมคิดว่า จะเพิ่มมือในสภากลาโหม เพราะอยากโยกย้ายนายทหารระดับสูงอย่างเดียว แต่ไม่คืดว่าจะยืมมือสภากลาโหมผ่านกฎหมายล้างผิดด้วย เป็นเทคนิคใหม่ที่ หลายใครหลายคนคงตามไม่ทัน และน.ส.ยิงลักษณ์คงปฎิเสธเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะตั้งแต่เข้ามาเป็น รมว.กลาโหม ก็ไม่เห็นจะพูดจาเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับความมั่นคง

สุดท้ายที่ไม่สบายใจก็คือ บุคคลทั้ง 2 อ้างตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน ซึ่งเรื่องนี้คิดว่า ใครจะนั่งตำแหน่งใด ไม่ใช่เรื่องของการพิสูจน์ความจงรักภักดี การพิสูจน์กระทำได้ทุกเวลา ไม่ใช่ต้องเข้าไปดำรงตำแหน่งที่เกี่ยวกับสภาบันถึงจะจงรักภักดี แต่ผลงานที่ผ่านมาในอดีตพิสูจน์ว่า บุคคลคนหนึ่งนั้น มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหกากษัตริย์มากน้อยเพียงใด  โดยคิดว่าเรื่องงนี้ประชาชน ข้าราชการในกองทัพ คงไม่สบายใจที่มีการพาดพิงหรือเอ่ยถึงสถาบันในลักษณะนี้ และสุดท้ายประชาชนส่วนใหญ่ยังคงมั่นใจในทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะไม่โอนอ่อนผ่อนตามกลายเป็นเครื่องมือของนักการเมืองนำมาใช้เป็นเครื่อง มือต่อรองให้กับคนทุจริตคอร์รัปชั่นและคนโกงบ้านเมือง.


คลิป'ทักษิณ-ยุทธศักดิ์'เสียหายปท.ตรงไหน

"จารุพงศ์" ย้อนถามคลิปเสียงคล้าย "ทักษิณ-ยุทธศักดิ์" มีตรงไหนที่เสียหายต่อประเทศ

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีปรากฏคลิปเสียงคล้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกลาโหม ว่าได้อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ แต่ยังไม่ได้ฟังคลิปดังกล่าว จึงยังตอบไม่ได้ว่าจริงหรือเท็จ แต่เท่าที่อ่านดูแล้ว ในข้อความที่ปรากฏต้องย้อนกลับไปถามสื่อมวลชนว่ามีจุดไหนที่เสียหายบ้าง สมมติว่าบทสนทนาเหล่านี้ถ้าเกิดขึ้นจริง มีตรงไหนบ้างที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ จากที่อ่าน มีความเห็นว่า ไม่มีอะไรเสียหายต่อบ้านเมือง

ส่วนใครจะเอาไปตีความให้เป็นเรื่องผิด ก็แล้วแต่คนๆนั้น เพราะว่าแค่หายใจเบาๆก็ยังผิดแล้ว ตนคิดว่าคงไม่ส่งผลกระทบต่อรัฐบาล เพราะว่าไม่เสียหายอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในคลิปเสียงดังกล่าวมีการพูดถึงการวางแผน พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้าน อาจจะทำให้เกิดกระแสต่อต้านหรือไม่ นายจารุพงศ์ กล่าวว่า อาจมีคนไม่อยากให้กลับ ก็ต้องมีการต่อต้านบ้าง แต่ว่าคนที่อยู่ต่างแดนมาเป็นมาเป็นเวลา 6 ปีและเป็นคนไทย ธรรมชาติของมนุษย์ ลองคุณเป็นเขา จะเป็นอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าวิธีการกลับมาคือการออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรม ใช่หรือไม่ นายจารุพงศ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ รู้แต่ว่าในข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยากกลับบ้าน

เมื่อถามว่า ในคลิปเสียงมีการพูดถึงผู้นำเหล่าทัพ จะเป็นการมองว่าแทรกแซงกองทัพหรือไม่ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า เวลาหนังสือพิมพ์ลงข่าวผู้นำเหล่าทัพเป็นการแทรกแซงหรือไม่ แล้วคนสามัญธรรมดา จะคนสามัญธรรมดาจะพูดบ้างได้ไหม อย่างไรก็ตาม ไม่น่าจะเกิดผลกระทบอะไรต่อนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ควบตำแหน่ง รมว.กลาโหมด้วย เพราะเท่าที่อ่านแล้วน่าจะเป็นเรื่องที่ดี ไม่ทำให้ใครเสียหาย

ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ออกมาเปิดเผยว่ามีแก๊งไอติมอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ถ้าหมายความถึงทีมเลขาธิการนายกรัฐมนตรีและคณะทำงานนั้น รัฐมนตรีทุกคน ก็มีแก๊งไอติมเช่นเดียวกัน เพราะเป็นบุคคลที่ช่วยทำงานให้กับผู้บริหารประเทศ มีใครไม่มีบ้าง ถ้าไม่มีคงผิดปกติ เมื่อถามว่า มีกระแสข่าว ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไม่พอใจนายสุรนันท์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี คอยให้ข้อมูลนายกฯที่มีผลต่อการปรับคณะรัฐมนตรี หรือการแต่งตั้งโยกย้าย นายจารุพงศ์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่านายกฯมีวิจารณญาณ ก็เช่นเดียวกับตนที่มีหลายคนวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย แต่ที่สุดแล้วตนต้องรับผิดชอบ เพราะเป็นผู้ลงนาม นายกฯก็เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น การจะทำอะไรไม่ใช่ทำคนเดียว ต้องฟังทุกฝ่ายทุกคน จึงไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่ที่สุดแล้วต้องตัดสินใจบนฐานข้อมูลตัวเองและเหตุผลที่มาจากหลายๆทาง ถ้าเป็นไอติมก็คงหลายแท่ง


'เหวง'เชื่อคลิปเสียงปลอมจี้สตช.ตรวจสอบ

เหวง" เชื่อคลิปเสียงสนทนาคล้ายเสียง "ยุทธศักดิ์-ทักษิณ" เป็นของปลอม จี้สตช.ตรวจสอบ

น.พ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยและ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณีที่มีคลิปเสียงสนทนาคล้ายกับเสียงของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม โดยเนื้อหาบางช่วง จะมีการเจรจากับพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ว่า ส่วนตัว สงสัยว่า คลิปดังกล่าวเป็นของจริงหรือไม่ เพราะตัวละครมีแค่ 2 ตัว จะหลุดมาได้อย่างไร จึงไม่เชื่อว่าทั้ง 2 คนจะเป็นคนปล่อย คลิปดังกล่าวไม่น่าจะเป็นของจริงเพราะเสียงอู้อี้มาก น่าจะมีการตัดต่อ ซึ่งตนขอเรียกร้องให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้มาผู้ตรวจสอบ ว่า เป็นฝีมือใคร เนื่องจากมีการมาอัพลงในยูทูป น่าจะตรวจสอบหาต้นตอได้ไม่ยาก

"ไม่เชื่อว่าเป็นคลิปจริง มีการตัดต่อเพราะทุกวันนี้เทคโนโลยีสูงมาก และไม่มีเหตุผลใดที่การสนทนาจะเป็นเช่นนั้น อยากฝากไปถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ว่าอยากให้มีมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น ในการที่จะให้ใครเข้าพบ อยากให้ระมัดระวังตัว เคร่งครัดให้มากขึ้น" นพ.เหวง กล่าว

เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะชี้แจงทำความเข้าใจกับ นปช.หรือไม่ นพ.เหวง กล่าวว่า เนื้อความที่สนทนายังรับฟังไม่ได้ว่า เป็นจุดประสงค์ของคู่สนทนา จึงไม่จำเป็นต้องนำไปหารือใน นปช. หรือชี้แจง เพราะตรงนี้ก็คล้ายกับกรณีคลิปเสียงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่สั่งสลายการชุมนุมเสื้อแดง เมื่อปี 53 ซึ่งตอนนั้นนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้น ก็ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ไม่ทราบว่าผลการตรวจสอบเป็นอย่างไร จึงขอเรียกร้องให้นายชัย และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ออกมาเปิดเผยผลการสอบสวนคลิปเสียงของนายอภิสิทธิ์

ส่วนการนิรโทษกรรมนั้น ทางนปช. ยืนยันว่าต้องการออกเป็น พ.ร.ก.มากกว่า พ.ร.บ.ฉบับนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เพราะหากออกเป็น พ.ร.บ.จะมีอุปสรรคมาก เพราะเชื่อว่า ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ และส.ว.สรรหา จะตีรวนในที่ประชุม และอาจยื่นเรื่องนี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ แต่ตนก็ไม่ได้คัดค้านที่จะออกเป็นพ.ร.บ. ซึ่งหากออกเป็น พ.ร.ก.นิรโทษกรรม จะมีผลบังคับใช้ทันที ซึ่งตรงนี้ทั้ง เสื้อแดง และเสื้อเหลืองจะปลอดจากคดีไปเลย ยกเว้นแกนนำ


เพื่อไทยเชื่อคลิปลับทำ'ทักษิณ'กลับบ้านยาก

ส.ส.เพื่อไทยมั่นใจคลิปลับ "ทักษิณ-ยุทธศักดิ์" ถูกตัดต่อ เชื่อทำนายใหญ่กลับบ้านช้าไปอีก 2-3 ปี

นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มั่นใจว่าคลิปการสนทนาที่อ้างว่าเป็นเสียงของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม นั้นเป็นการตัดต่อจากฝ่ายที่ไม่หวังดี เพื่อต้องการให้เกิดความแตกแยกในบ้านเมือง เพราะสมัยนี้เทคโนโลยีพัฒนาไปมาก สามารถตัดหรือเลียนเสียงได้เหมือนมาก

ทั้งนี้ อยากให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ไปตรวจสอบหาตัวคนปล่อยคลิปดังกล่าว ซึ่งสามารถตรวจสอบหาตัวผู้ที่นำมาโพสลงในยูทูปได้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าคลิปการสนทนาดังกล่าวมีผลทำให้พ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้านได้ยากขึ้น เพราะเป็นการจุดกระแสให้มีคนหมั่นไส้พ.ต.ท.ทักษิณมากขึ้น อาจจะต้องกลับบ้านช้าไปอีก 2 - 3 ปี ซึ่งคงเป็นหลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเสร็จแล้วค่อยมาว่ากันเรื่องพ.ร.บ.ปรองดอง ต้องรอดูสถานการณ์บ้านเมืองในช่วงนั้นประกอบด้วย

ด้านนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คลิปดังกล่าวเป็นการตัดต่อจากกลุ่มที่ต้องการทำลายรัฐบาล ใช้การเลียนเสียงคน 2 คนมาเสริมแต่งเนื้อหาเพื่อให้ทหารกับรัฐบาลประจันหน้ากัน โดยสื่อให้เห็นว่าพ.ต.ท.ทักษิณแทรกแซงกองทัพ ให้กองทัพระแวงรัฐบาล และไม่ต้องการให้พ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้าน ถือเป็นหนึ่งในการเดินเกมล้มรัฐบาลที่เป็นความร่วมมือจากหลายฝ่าย ทั้งฝ่ายค้าน กลุ่มตรงข้ามรัฐบาล และองค์กรอิสระ ที่ต่างคนต่างเดินตามแผนของตัวเอง แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือล้มรัฐบาล วันนี้กระบวนการประชาธิปไตยจึงต้องเตรียมพร้อมสู้กับอำนาจนอกระบบที่จะมาล้มรัฐบาล


'ประสาร'ตีความ4ประเด็น 'ทักษิณ'กลับบ้าน

"40สว." ชี้เป้าหมายคือการนำ"ทักษิณ"กลับบ้านอย่างไร้ความผิด ตีความได้ 4 ประเด็น ย้ำเป็นการย่ำยีกองทัพ

นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีคลิปเสียงการสนทนาคล้ายเสียงของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมพูดคุยเกี่ยวกับการนำตัวพ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศ ว่า เป็นสิ่งที่ทำให้เห็นถึงการลุแก่อำนาจ ด้วยวิธีการหลอกล่อ แบบลับลวงพรางเพื่อเข้ามาคุมการโยกย้าย แต่งตั้งนายทหารแบบเบ็ดเสร็จ โดยหากคลิปเสียงดังกล่าวเป็นจริงสามารถตีความได้ว่า 1. คู่สนทนาหลอกลวงกองทัพไทยทั้ง 3 เหล่าทัพ เนื่องจากที่ผ่านมาประกาศว่าจะไม่นำการเมืองเข้าไปแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้าย 2. คู่สนทนนาต้องการดึงสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้เป็นเครื่องมืออำพรางข้อกังขาในความจงรักภักดีของตนเอง 3. คู่สนทนาต้องการพาอดีตนายกฯกลับบ้าน และ 4. ต้องการบัญชาการข้ามประเทศและเข้าไปแทรกแซงประเทศพม่า เกี่ยวกับเรื่องโครงการทวาย

"คลิปการสนทนานี้แปลว่าเป็นความปรารถนาเร่งด่วนสำคัญสุดของคู่สนทนาที่ต้องการกลับบ้านเร็ว โดยไร้ความผิดใดๆ ด้วยทฤษฎีสมคบคิดกับชายคนที่หนึ่งที่พร้อมจะรับใช้อย่างสุดซอย ในสมการแห่งการสนทนาทั้งหมดเพียงเพื่อประโยชน์ของคู่สนทนา ดังนั้นเหล่าแม่ทัพที่ดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยา ว่าพร้อมจะพลีชีพ เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะยอมให้กับการย่ำยีกองทัพอย่างดูหมิ่นหรือไม่" นายประสาร กล่าว


Exclusive : บทสนทนาจากแดนไกล ฉบับเต็ม (ฟังคลิปเสียง)

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000082476

      แฉคลิปเสียงคนแดนไกล สั่งคนใกล้ชิด มุบมิบดัน กม.นิรโทษกรรมเป็น พ.ร.ก.พาตัวเองกลับบ้านโดยเร็ว เย้ยพวกต่อต้านมีนิดเดียว เอาทหารอยู่ทุกอย่างจบ เผลอสบถ “ไม่มีนักเรียนนายร้อยที่ไหน แม่..งไม่จงรักภักดี” วางแผนเสนอ “ป๋า” ตั้งเป็นทื่ปรึกษาสำนักทรัพย์สินฯ หลังกลับเข้าประเทศ สร้างภาพเป็นคนของในวัง เล่นลิ้นไม่อยากเป็นองคมนตรี เพราะเป็นคนชอบเบี้ยว เหิมชักใยถึงกองทัพเพื่อนบ้าน เอา ผบ.สส.พม่าเป็นพวก บีบรัฐบาลหม่องในโครงการทวาย
       
       ลึกสุดใจกับบทสนทนาของ “ชายสองคน” จากแดนไกล เมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา โดยเนื้อหาครอบคลุมเกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นไปของบ้านเมือง และการเมืองไทย ณ เวลานี้ ทีมงานเว็บไซต์ ASTVผู้จัดการ จึงขอนำเสนอ บทสนทนา “ลับสุดๆ” ชิ้นนี้ดังนี้

      ตอนที่ 1

      ชายคนที่ 1- ...สร้างสถานการณ์ขึ้น เมื่อวานก็ทหารตายไปคน บาดเจ็บสาหัสพันเอกนะ ไอ้พันเอกนี่เป็นลูกพี่ ทส.ผม มันโดน มันเป็นหน่วยสันติสุข มันไปเป็นหน่วยจิตวิทยานะครับ ไปดูเรื่องการสร้างสันติสุขในพื้นที่ มันก็ไม่คิดว่าจะโดน โดน 6 คนเลย เมื่อวาน โดนระเบิดครับ มันเอาระเบิดฝังไปในใต้ท่อ แต่ผมว่ามันไม่มี มันทำได้นะตอนนี้ เพราะว่าในความรู้สึกของผม ผมว่าเราเป็นต่ออยู่ ฝ่ายเรายังเป็นต่ออยู่ ไอ้ฝ่ายค้านนี่ หรือฝ่ายที่ต่อต้านมันไม่มี
       
       ชายคนที่ 2 - ดูดีเชียว เท่าไหร่พี่ปีนี้
       
       ชายคนที่ 1- 76 ละครับ
       
       ชายคนที่ 2 - เออ...ดูดี ดูเป็นคนไม่แก่นะ ปกติคนอายุ 70 กว่า มันจะเริ่มดูอมโรค แต่พี่ดูดีเชียว เออดีๆ
       
       ชายคนที่ 1- พวกภาคใต้เขาบอกแหมเดิน ผมก็บอกไอ้ตู่มึงเดินช้าๆ หน่อยสิ อายุน้อยกว่าตั้ง 20 ปี ยังกับวิ่งไป เดินรอหน่อย เวลาไปตรวจนะครับ นายกฯ ท่านบอกว่า ให้ผมไปด้วยทุกครั้ง แล้วให้รายงานทุกเรื่อง ผบ.ทบ.สั่งอะไรให้รายงานหมด
       
       ชายคนที่ 2 - นายกฯ เขาแฮปปี้กับพี่นะ คือสมมติว่า เกิดว่าพี่ต้องไปทำงานให้นายกฯ โดยที่นายกฯ เขาไม่ได้ขอร่วม เรื่องของเรื่อง อยากให้พี่มีอะไรจะพูดกับเขา โดยตรงเป็นหลัก คือถ้าพูดกับเขาเรียบร้อยแล้วอะไรแล้ว การพูดคุยต้องเป็นอย่างนั้น แต่ไม่ใช่คนภายนอกรู้ก่อน แล้วเขาไม่รู้อะไรอย่างนี้ เขาจะกลัวเขาเป็นคนที่ Sensitive เรื่องนี้
       
       ชายคนที่ 1- ก็พูดกันเมื่อวันพฤหัสฯ ที่แล้ว นายกฯ บอกผม ต่อไปปูรู้ก่อน แล้วค่อยบอกคนอื่น ผมก็บอกมีตั้งหลายเรื่อง ผมบอกว่าตอนนี้ผมไม่บอก ต้องขออนุญาตต้องคุยกับนายกฯ ก่อน
       
       ชายคนที่ 2 – มันเป็นเรื่องของลีดเดอร์ชิป (Leadership) เพราะเขาโดนว่า โดนพูดเยอะ
       
       ชายคนที่ 1- ไอ้ ผบ.สูงสุด ตอนแรกก็พูดกับท่านนายกฯ ไม่ค่อยรู้เรื่อง ตอนนี้ก็เรียบร้อยละครับ มันก็มาพูดกับนายกฯ เมื่อวันพฤหัสฯ ตรงๆ ว่าเมื่อก่อนนี้ผมยังมีอะไรเกี่ยงงอนอยู่บ้าง แต่เดี๋ยวนี้
       
       ชายคนที่ 2 - (เสียงเบา) ใช่ๆ โทษที โทร.จิกใหญ่เลย คืออย่างนี้วันที่เกี่ยวกับเรื่องประเทศไทย คือผมกลัวมันจะไปโจมตีเรื่องมาเก๊าก่อนที่เราจะประกาศอะไร กลัวมันจะ พอดีมันมีขาใหญ่สำคัญลงไปหลายตังค์ช่วงนี้ ช่วยงานมาเป็นร้อยล้าน ช่วยงานที่มาเก๊า มันต้องย้ายมาที่นี้ ดีๆ ช่วยจัดการให้เลย ... ไม่มีเซอร์ไพรส์ เดี๋ยวๆ ผมให้จัดการ แต่ว่าเป็นอิทธิพรแน่นอน ...ไม่ไปฮะ ช่วงนี้เดินทาง ไม่มีเวลาเลย เดี๋ยวมาคราวหน้า ผมจะมา อาทิตย์หน้าผมจะมา ผมจะกลับวันที่ 24 และวันที่ 1 ผมคิดว่า
       
       ชายคนที่ 1- ผบ.สูงสุดก็สารภาพตรงๆ กับนายกฯ ว่ายังมีอะไรบางอย่างที่ยังค้างใจอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ผมสนับสนุนหมดทุกเรื่อง ผมก็ชื่นใจ พา ผบ.สูงสุดมาพบกับนายกฯ ได้เรื่องนี้ด้วย
       
       ชายคนที่ 2 - มันหูเบานะ ติดฟังเรื่องแม่ บ้าอะไร บ้าบอ
       
       ชายคนที่ 1- ครับตอนนี้ก็เริ่มเข้าใจอะไรต่างๆ ผมก็พูดกับมันตรงๆ
       
       ชายคนที่ 2 - มีนักเรียนนายร้อยที่ไหน แม่งไม่จงรักภักดี ใช่มั้ย
       
       ชายคนที่ 1– ขอบคุณครับ ... ไม่มีฮะ ปฏิญาณทุกเช้าทุกเย็น
       
       ชายคนที่ 2 - ปรากฏว่า ไอ้เจ๊กแม่งจงรักภักดีมากกว่านักเรียนนายร้อยอีก (ไม่มีหรอก) ไอ้เจ๊กลิ้มอะ จงรักภักดีกว่านายร้อยอีก
       
       ชายคนที่ 1- โธ่! เดี๋ยวนี้มันเข้าไม่ได้แล้วครับ เขาเริ่มรู้มันแล้ว เขารู้หมดละๆ ผมอยากให้นายกฯ เวลาไปต่างประเทศในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาทำอย่างสมัยที่ ท่านนายกฯ ทักษิณไปนอก เอามันไปด้วยซักคน 2 คน สมัยนั้นที่ท่านเอาไป ยังทำกับข้าวให้มันกิน กลับมามันคุย โอ้ย! วันนี้นายกฯ ทำกับข้าวเลี้ยงพวกเราอร่อยจังเลย มันก็คุย มันพูดมัน Happy มัน สมัยไอ้บิ๊ก ไอ้ช้างอะไรพวกนี้นะครับ ไอ้เกาะ สมัยนั้นเอาพวก ผบ.เหล่าทัพไปด้วย ไอ้ ... พอสมัยนี้ บางทีทิ้งมันไว้ บางทีผมว่าเอาไปด้วยดีกว่า เหมือนสมัยที่ท่านเอาไป ตอนนายกฯ ไปมาเลเซียเอาไอ้ ผบ.ทบ.ไปด้วย มันก็ Happy มันบอกพี่ คอยกระซิบนายกฯ ตลอด อะไรควรอะไรไม่ควรเรื่องความมั่นคง ผมก็เดินกระซิบนายกฯ ตลอด ผมว่ามันดี แต่นายกฯ นี่ ได้ทั้งใจ ได้ทั้งความจริงใจ ได้ทั้งความเชื่อถือของ ผบ.เหล่าทัพ ตอนนี้มากเลย
       
       ชายคนที่ 2 - เขาตรงๆ เขาก็เหมือนผม นิสัยเดียวกัน มีอะไรพูดตรงๆ ความเป็นผู้หญิงมีแต่ความซอฟต์
       
       ชายคนที่ 1- ท่าน คือ เพราะความเป็นผู้หญิงมันทำให้เบาลง
       
       ชายคนที่ 2 - มัน soft ลง
       
       ชายคนที่ 1- ของท่านแรงหน่อย บางทีไม่พอใจว่าตรงๆ
       
       ชายคนที่ 2 - เรามันนักเรียนนายร้อย นิสัยมันเหมือนทหารนะ มีอะไรตรงไปตรงมา ห่วยก็ว่าเลย
       
       ชายคนที่ 1- เหมือนไอ้สมัยสุรยุทธ์มัน ที่ท่านด่าในห้องประชุมวันนั้น
       
       ชายคนที่ 2 - เออ สุรยุทธ์มันถึงแค้นนะ เออ ด่าตรงๆ
       
       ชายคนที่ 1- แล้วพี่จิ๋วเงียบเลย โอ๊ย วันนั้นนะ ท่านพูดแรง แต่มันก็ทำแรง มันทำเกินเหตุนะครับ
       
       ชายคนที่ 2 - มันทำเกินไป จู่ๆ บุกเอาทหารไปยิงพม่า แล้วมาเบิกเงินหลวง เท่ากับรัฐบาลรู้เรื่องสิวะ
       
       ชายคนที่ 1 - ขนกำลังไปเสร็จ เอากำลังกลับมาไม่ได้ แล้วมาขอเงินท่านอีกพันกว่าล้าน บ้าจริงๆ
       
       ชายคนที่ 2 - มันเกินไป
       
       ชายคนที่ 1- ตอนนั้นผมยังไปกระซิบท่านว่า ไม่ให้ เสร็จแล้วท่านบอกว่า ผมให้ไปแล้ว
       
       ชายคนที่ 2 - บิ๊กจิ๋วบอก ให้มันเถอะๆ ไม่งั้น มันไม่มีกำลังพล มันทำงานไม่ได้
       
       ชายคนที่ 1- ให้มันรู้สึกซะบ้าง
       
       ชายคนที่ 2 - ผมก็ดึงอยู่ตั้งนาน ถึงได้โกรธผมไง เรารู้ทันมั่ง แล้วพี่อ่า! มีอะไร พี่ก็ต้องรายงานให้รู้ก่อน มีอะไรก็ต้องปรึกษาผม
       
       ชายคนที่ 1- ครับ ผมสัญญาฮะ
       
       ชายคนที่ 2 - อย่าปรึกษา ปรึกษานายกฯ กับ ผบ.เหล่าทัพได้ คนภายนอกไม่ต้องเกี่ยว แล้วก็ เห็นพี่เห็นบอกจะเอา ถ้ากฎหมายโอเคแล้ว พี่จะเอาเข้าผ่านสภากลาโหมด้วยหรือ
       
       ชายคนที่ 1- ผมจะเอาเข้าสภากลาโหมเพื่อหารือให้ ผบ.เหล่าทัพทุกเหล่าทัพมีความคิดอันเดียวกันเลย ถ้าไม่งั้นถ้าไม่เข้า เดี๋ยวคนนั้นพูดทีคนนี้พูดที วิธีเดียวก็คือขออนุญาตเอาเรื่องนี้เข้าสภากลาโหมเพื่อหารือให้เกิดเป็นความ คิดอันเดียวกัน
       
       ชายคนที่ 2 - เอาเข้าสิ เอาเข้าสภาความมั่นคงฯ ส่งให้รัฐบาล จบ ลัดขั้นตอนเลย
       
       ชายคนที่ 1- จบเลย ครับ เอาเข้าได้ ก่อนที่จะเข้าก็ต้องหารือกับเหล่าทัพแต่ละคนก่อน เฮ้ย! ลื้ออ่านนะ มีอะไรที่จะแก้ไข มีอะไรที่จะพูด พูดกันนอกการประชุมเสียก่อน
       
       ชายคนที่ 2 - เราเสนอเป็น พ.ร.บ. ไม่มีใครรู้ แต่พอถึงสภาความมั่นคงฯ ปุ๊บเนี่ย เราก็ เพื่อความไม่วุ่นวายเสนอเป็น พ.ร.ก.
       
       ชายคนที่ 1- เพราะว่า ไอ้วาระนี้ ถ้าผมได้อยู่นะครับ ได้ทำ ผมจะไม่เอาเข้าวาระ แต่เป็นวาระที่ จรเข้าไปเลย บอกว่า ขอเสนอวาระสำคัญ
       
       ชายคนที่ 2 - ในสภากลาโหมนี่ ก็ใช้วิธีว่า เอ้ย! สภาความมั่นคง ก็ใช้วิธีเข้าไปเสร็จปุ๊บ เนี่ย หน้าตาเป็น พ.ร.บ. และก็ในสภากลาโหมก็ไม่ต้องออกข่าว แต่บอกให้รู้ว่า ถ้าเพื่อความรวดเร็ว และไม่วุ่นวาย น่าจะเป็น พ.ร.ก. อะไรอย่างนี้ พูดไว้ บันทึกไว้ พอไปถึงสภาความมั่นคงปั๊บ พอเข้าไป บอกว่าเสนอเป็น พ.ร.บ. หน้าตาเป็น พ.ร.บ. นะ แล้วสภาความมั่นคงก็บอกว่า ขอให้รัฐบาลเสนอออกเป็น พ.ร.ก. มันจะได้มีอะไรรองรับ
       
       ชายคนที่ 1- มันทำอะไรไม่ได้หรอกครับ ไอ้ฝ่ายต่อต้านวันนี้นะ
       
       ชายคนที่ 2 - นิดเดียวเอง เพียงแต่ว่าสำคัญคือ ทหารไม่เอาด้วยก็จบ
       
       ชายคนที่ 1- ทหารไม่เอาด้วยจบ แต่ต้องเอาทหารก่อน ผมถึงบอกต้องเอาทหารก่อน
       
       ตอนที่ 2

      ชายคนที่ 2 – แล้วนี่ การแต่งตั้งโยกย้ายทหารเที่ยวนี้ ก็ต้องดูว่าอย่างไร ก็ คือเราก็ไม่อยากคาน ไม่อยากคาน เพียงแต่ว่าอย่าให้เขาไปทำพวกเดียวกันเองเสียขวัญในกองทัพเท่านั้นเอง
       
       ชายคนที่ 1 - ผมว่า ผมจะคุยทั้ง ผบ.สูงสุด และ ผบ.ทบ. บอกว่า เฮ้ย คุยกับนายกฯ ก่อน คุยนอกรอบก่อน จะเอาอย่างนี้นะ ไม่เอาอย่างนี้นะ แล้วพอทุกอย่างตกลงกันได้ ค่อยประชุมสภากลาโหม แป๊บเดียวจบเลย อย่าไป อย่าไปต่างคนต่างถือกันไว้ แล้วไปประชุมกัน อย่างที่ เดี๋ยวผมก็ด่าไอ้โอ๋ ไอ้โอ๋มันทำไป แล้วไอ้พวกนั้นก็ เฮ้ยอย่างนี้ไม่ได้ เพราะมันต้องมีตัวทำให้
       
       ชายคนที่ 2 - ไอ้โอ๋นี่มันเผด็จการไปนิดนึง
       
       ชายคนที่ 1 - ครับ มันแรงไป
       
       ชายคนที่ 2 - มันถือเป็นรุ่นใกล้กัน รุ่นใกล้กันพอไปทำอะไรแรง มันยุ่ง
       
       ชายคนที่ 1 - ครับมันรุ่น 10 รุ่น 12 ต้องคุยส่วนตัวก่อน
       
       ชายคนที่ 2 - อย่างพี่เองนะ พี่มีไรต้องคุยกันก่อน ต้องให้นายกฯ เขารู้ตลอด ไม่งั้นทำไรไม่พูด นี่ทำอะไรก็ไม่พูด ไม่รู้เรื่องกันพอดี
       
       ชายคนที่ 1 - ผม ผมเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่ใจผมนี่หวังดีตลอดเลยนะครับ ใจผมนี้ทำ
       
       ชายคนที่ 2 - มันเป็นหน้าที่พี่นะ พี่เอาผมออกมา พี่ต้องเอาผมกลับ (หัวเราะ)
       
       ชายคนที่ 1 – ผมบอก ... โอ้โห! ตอนท่านพูดกับผม ผมบอก โอ้โห นี่หนูช่วยราชสีห์แล้วนะ ผมดีใจนะ ดีใจจังได้ช่วยราชสีห์สักครั้งหนึ่ง
       
       ชายคนที่ 2 - เอาออกไป ต้องเอากลับมาให้ได้
       
       ชายคนที่ 1 - ต้องเอากลับมา แหม เป็นครั้งสุดท้ายแล้วครับ ครั้งสุดท้ายในชีวิต ในประวัติ เป็นประวัติชีวิตเลย เพราะว่าหลังจากนี้ไปก็ ไม่เป็นไรต่อละ พอละ แต่ต้องทำให้ได้สักที มันเป็นความภูมิใจนะครับ ของชีวิตของคนเรา
       
       ชายคนที่ 2 - เดี๋ยวเจอผมเร็วขึ้น ก็กลับเร็วได้ เครื่องมันออกกี่ทุ่ม หรือตั้งใจจะ shopping ต่อ
       
       ชายคนที่ 1 - ผมเปลี่ยนเครื่องไม่ได้แล้วครับ พอท่านบอก 5 โมงผมก็ Confirm มาเลย
       
       ชายคนที่ 2 - เครื่องบินว่างมันไปได้ตลอด น่าจะว่าง วันนี้วันจันทร์ มีไฟลต์ทุ่มหนึ่ง
       
       ชายคนที่ 1 - ไปทุ่มนึงครับ ใช่ฮะ ใช่ฮะ ก็เรื่องทุกอย่างก็โอเค แล้วเรื่องของพม่า ผมบอกกับนายกฯ ไปแล้วนะครับบอกว่า ใช้ ผบ.สูงสุดให้เป็นประโยชน์ให้มากที่สุดเลย เพราะไอ้มินอ่องลาย ซึ่งเป็น ผบ.สูงสุดของพม่า มันเป็นมือหนึ่งของท่านประธานาธิบดีเต็งเส่งเลย แล้วเต็งเส่งให้ความเกรงใจมากที่สุด และทีนี้ไอ้ ผบ.สูงสุดเขากับ ผบ.สูงสุดไทยนี่ มันมาเป็นเคาน์เตอร์พาร์ตกัน ผลัดกันกินข้าวคนละเดือน คนละเดือน เพราะฉะนั้นถ้าจะบีบอะไรเรื่องทวาย นายกฯ เรียก ผบ.สูงสุดมาใช้ได้อีกงานหนึ่ง เป็นงานต่างประเทศ
       
       ชายคนที่ 2 - ผมก็ไปสงกรานต์กับมัน
       
       ชายคนที่ 1 - ผมไม่ทราบ ไม่้งั้นผมจะไป ไปเจอ
       
       ชายคนที่ 2 – ผมไปสงกรานต์กับไอ้เนี่ย ผบ.สูงสุดน่ะ
       
       ชายคนที่ 1 – อ๋อ! ไอ้อ่องมินลายนี่นะฮะ โอ้โฮ มันชั้นหนึ่งเลย มันบอกผมนะ เฮ้ยไอ้รัฐมนตรีกลาโหมเนี่ย มันตั้งนะ มันเป็น ผบ.สูงสุด แต่ตั้งรัฐมนตรีนะ มันบอกเลย มันบอก และรัฐมนตรีอีกหลายคนมันเป็นคนตั้ง ไอ้นี่้ต้องเอาไว้ ไอ้นี่ต้องเอาไว้นะ แหม่
       
       ชายคนที่ 2 - พวกผมทั้งนั้นแหละ มันยกที่ให้ผมแปลงนึง ใจกลางเมืองย่างกุ้ง
       
       ชายคนที่ 1 - ไอ้นี่ต้องเอาไว้นะครับ ถ้าได้ พม่านี่เสร็จเราหมดเลย ต้องเอาให้ได้ มันเจอกับผม ผมบอกว่า ต่อไปนี้ทูตพม่าพูดไทยให้เป็นนะ ทูตทหาร มันบอกต่อไปนี้ส่งทูตทหารมาเรียนก่อนแล้วค่อยมาเป็น ไอ้อองมินหล่าย และไอ้รัฐมนตรีกีฬากับโฮเต็ลอีกคนหนึ่ง ไอ้นี่ก็มหาศาลเหมือนกันนะ ผมจะเรียกให้มาพบท่าน มันสร้างทำเนียบรัฐบาลให้ประธานาธิบดี มันสร้างรัฐสภาให้ ขณะนี้มันกำลังสร้าง Sport Complex ให้ มันรวยมหาศาลเลย เจ้าของบ่อหยก
       
       ชายคนที่ 2 - เหรอ
       
       ชายคนที่ 1 - ครับ มันบอกผมบอก เจเนอรัลๆ จะพูดอะไรกับประธานาธิบดีมัน ไม่ต้องไปวิ่งหาคนโน้นคนนี้นะ บอกมัน มันยิงตรงเลย เพราะทุกอย่างอยู่ที่มันไง มันก็เล่าให้ฟัง เพราะงั้นเราได้ 2 คนนี้นะ ทางเศรษฐกิจคนนึง ทหาร โอ้โห! ท่านฮะ เอาไว้ เอาไว้ต่อไปหลังท่านนายกฯ ไปพม่า ผมไปรอรับฮะ
       
       ชายคนที่ 2 – เอ่อ! พี่แอ๊วเป็นไง
       
       ชายคนที่ 1 – ไอ้แอ๊วมันไม่ค่อยสบายฮะ เพราะว่าที่มันผ่าตัดสมองนะครับ ที่มันเส้นเลือดจะแตกคราวที่แล้ว ทีนี้มันหายแล้ว มันคลิปไว้ แต่มันก็ยัง effect มันก็ความจำ และขาเนี่ย ไอ้เส้นประสาทมันทำให้ขา เดินขาอ่อนไปหน่อย เดินขาลากไปหน่อย แต่มันก็
       
       ชายคนที่ 2 - ... ร่างกายแข็งแรงดี
       
       ชายคนที่ 1 - คนละเรื่องเลย บอกไอ้ห่า ลื้อนี่ขยันทำงานอยู่คนเดียว เบื่อไม่เป็นเลยว่ะ มันบอกอย่างนี้ ไม่เหมือนมัน นั่งเล่นไพ่กับเพื่อนๆ มันน่ะ ไอ้เด็จน่ะ
       
       ชายคนที่ 2 - กินเหล้า
       
       ชายคนที่ 1 - ตอนนี้เลิกแล้วครับ เหล้าเลิกแล้วครับ บุหรี่เลิกหมดเลยครับ แต่ยังไม่เลิกเล่นรัมมีกับ อะไรนะ ไอ้เด็จครับ
       
       ชายคนที่ 2 - ยังเล่นอยู่
       
       ชายคนที่ 1 - ยังมีเล่นอยู่ฮะ กับไอ้พญาไม้น่ะ เล่นกัน 3 วัน 3 คืนไม่เลิก ไอ้ 2 คนเนี่ย นั่งหัวชนกันไม่เลิก เพื่อนมัน เพื่อนสนิทมัน แต่มันก็ยังดูแลนิคมอุตสาหกรรมมันอยู่นะครับ
       
       ชายคนที่ 2 - นวนคร
       
       ชายคนที่ 1 - ครับ นวนครครับ ดูแลนวนครอยู่ ท่านนายกฯ ท่านไปเยี่ยมนะครับ มันก็ดีใจใหญ่ ท่านนายกฯ ท่านไปเยี่ยม
       
       ชายคนที่ 2 - แล้วตอนนี้มีเมียใหม่แล้วมั้ง
       
       ชายคนที่ 1 - ไม่มีครับ ไม่มีเมียใหม่ ไม่ไหวละมั้ง ... แต่มันมีเลขาฯ คนนึงไปไหนไปด้วย ไปไหนไปด้วย ไอ้เราก็ไม่รู้มีอะไรหรือเปล่านะครับ แต่มีเลขาฯ ดูแลมันอยู่คนนึงเป็นผู้หญิง
       
       ชายคนที่ 2 - แล้วพี่นี่ยังใช้งานได้ดีอยู่
       
       ชายคนที่ 1 – ตอนนี้ต้องกิน
       
       ชายคนที่ 2 - ไวอะกร้า
       
       ชายคนที่ 1 - (หัวเราะ) กินถั่งเช่าครับ หลังท่านบอกผมก็เลยกินถั่งเช่าครับ วันละตัวฮะ ก็ยังพอจะมีความแข็งแรงอยู่ครับ
       
       ตอนที่ 3

      ชายคนที่ 1 - ผมยังมีอะไรกราบเรียนท่านอีกหลายอย่างนะ งานมันกำลังเดินดีนะครับ กองทัพเรือก็เขาไม่มีอะไรตอนนี้ เขาจะเกษียณอีก 2 เดือน เขาก็ไม่มีอะไร
       
       ชายคนที่ 2 - มองใครล่ะ
       
       ชายคนที่ 1 - ผมยังไม่ได้มองใครเลย ผมจะไปกล้ามองอะไรครับ ท่านนายกฯ ครับ
       
       ชายคนที่ 2 - ไม่ใช่ ในแง่ของพี่ว่าใครจะขึ้น
       
       ชายคนที่ 1 - เขาก็พยายามจะ
       
       ชายคนที่ 2 - มันมี มันมีรอง
       
       ชายคนที่ 1 - มีรองครับ
       
       ชายคนที่ 2 - รอง กับมีอมรเทพ ซึ่งเป็น
       
       ชายคนที่ 1 – อมรเทพครับ ใช่ครับ ผู้ช่วยครับ
       
       ชายคนที่ 2 - ประธานที่ปรึกษา
       
       ชายคนที่ 1 - ประธานที่ปรึกษาครับ อมรเทพ
       
       ชายคนที่ 2 - มันก็มี เสธ.อีกคนหนึ่ง แต่ผู้ช่วยไม่ได้เรื่อง
       
       ชายคนที่ 1 - เอาคนที่พูดง่ายหน่อย
       
       ชายคนที่ 2 – ผมว่าอมรเทพ มันเตรียมน้ำมาก่อน มันมีระบบ แต่อมรเทพนี่ ไอ้หรุ่มมันอาจจะไม่แฮปปี้เท่าไหร่ เพราะมันแข่งกัน
       
       ชายคนที่ 1 - เพราะมันแข่งกัน
       
       ชายคนที่ 2 - แต่ว่าอมรเทพมันเรียนเก่งนะ สอบได้ที่ 1 ตลอด
       
       ชายคนที่ 1 - มันเป็นคนดีด้วยครับ อมรเทพ ตรงไปตรงมา แต่ต้องรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ต้องคุยกันเหมือนกันครับ
       
       ชายคนที่ 2 – เมียมัน เมียมันเป็นไอ้เนี่ย ... พี่สาว หรือน้องสาวพรทิวา ผมรู้จักพ่อมัน รู้จักมานาน
       
       ชายคนที่ 1 – อ้อ! เหรอครับ
       
       ชายคนที่ 2 - พ่อเมียมันก็ไอ้เม้งไง ไอ้เม้งอาบอบนวดน่ะ
       
       ชายคนที่ 1 – อ้าว! เหรอครับ ที่มาทำอาบอบนวดใหญ่
       
       ชายคนที่ 2 - ใช่ ไอ้! อะไรของมัน โพไซดอน
       
       ชายคนที่ 1 - โพไซดอน ใช่ครับ
       
       ชายคนที่ 2 – ไอ้เม้ง เนี่ยมัน เมื่อก่อน ตอนเป็นพ่อตาผมคุมฝ่ายอบายมุข นครบาล ไอ้นี่มันตลอด เจอกัน ตรุษจีนมันไปไหว้พ่อตาผมเหมือนกัน ก็เลยจำมันได้ ตอนผมกลับมาอยู่พญาไท ก็เลยรู้จักพ่อมัน เมียมันก็เลยพามาหาผม อมรเทพคุณสมบัติมันดี
       
       ชายคนที่ 1 – อมรเทพก็ดี ทหารอากาศเรียบร้อยไหมครับ ประจิน ไอ้ประจินนี่้เมื่อก่อนเป็นมือของไอ้ชลิตเขา แต่ดีแล้วที่เราได้ประจิน แล้วเราใช้ประจินไปบีบไอ้ชลิตข้างบนอีกที ซึ่งมันเป็นไอ้องคมนตรีนะครับ ไอ้ชลิตถึงแม้ว่ามันจะพลอยฟ้าพลอยฝนไปทำปฏิวัติคราวนั้นนะครับ แต่มันก็ยังพึ่งไอ้ประจินอยู่ เพราะฉะนั้นเราคุมประจินไว้ เพื่อให้ชลิตเนี่ยมันอ่อน ยอมลงมา
       
       ชายคนที่ 2 - ก็ ปีหน้าก็เกษียณหมด 57
       
       ชายคนที่ 1 - พอ 57 ก็เนี่ย
       
       ชายคนที่ 2 - เกลี้ยงทุกเหล่า
       
       ชายคนที่ 1 - ตั้งเอาเองเลย ไม่ต้องนั่นเลย
       
       ชายคนที่ 2 - เลือกเอาเองสบายๆ
       
       ชายคนที่ 1 - ผมก็บอกมันนะครับ ผบ.สูงสุด กับ ผบ.ทบ. ผมเพิ่งบอก เฮ้ยปี 57 นี่นะ อย่างอั๊วเลิกทำงานนะ อั๊วคิดว่าอั๊วทำงานเสร็จแล้ว เอาเจ้านายอั๊วกลับแล้ว คราวนี้ต้องตาลื้อบ้างสิ เพราะฉะนั้นลื้อต้องแสดงฝีมือให้ท่านเห็น ตั้งแต่วันนี้ลื้อต้องแสดงฝีมือให้ท่านเห็น แล้วพอปี 57 เอ็งจะได้มีงานทำต่อ ไม่ต้องอยู่แก่เหมือนคนอื่นเขา เพราะมันว่าผมไม่แก่ ผมบอกจะได้ทำงานอย่างนี้ต่อ มันก็แฮปปี้นะครับ มันไม่ได้บอกว่าโนเลย มันก็ เออๆ มันก็เริ่มมองเห็นว่า หลังจากเกษียณไปแล้ว มันอาจจะมีอนาคต สำคัญ
       
       ชายคนที่ 2 - ไว้ใจ ไว้ใจไอ้ตู่มาก
       
       ชายคนที่ 1 – ไอ้ตู่ เขาให้ความจริงใจนะครับ จริงใจมากเลย ตอนแรกกับผมมันก็ระวังมากเลย แต่หลังจาก XXXX เรียกมันไป แล้วเรียกผมไปให้รักกันนะครับ ให้ทำงานด้วยกัน ทุกอย่างมันก็เลยเรียบร้อยหมด ... วันที่ 16 นี้ ผบ.สูงสุดจะเลี้ยงนายกฯ ครับ ที่ บก.กองทัพไทย และก็จะเชิญ ผบ. รอง เสธ.ทุกเหล่าทัพมาร่วมรับประทานข้าว คุยกันเป็นส่วนตัวกับนายกฯ ด้วย
       
       ชายคนที่ 2 - เออดี
       
       ชายคนที่ 1 - แล้วผมก็บอกว่า ให้มันเป็นตัวอย่างที่ดี และต่อไปนี้เดือนนึงก็ให้กองทัพเนี่ย หมุนเลี้ยงฮะ เชิญนายกฯ ไป เพื่อความใกล้ชิดกันนะครับ ยืนยันนะครับผมจะไม่ ...ใกล้ชิดกับนายกฯ มากกว่านี้อีกหน่อยแล้ว
       
       ชายคนที่ 2 - เอ้อ
       
       ชายคนที่ 1 - ผมก็นึก บางอย่างผมก็นึกว่าท่านนายกฯ รู้แล้ว ผมก็เห็นคนเข้าไปชี้แจง ผมก็บอกเคยบอกพูดกับท่านเมื่อวันก่อนบอก เดี๋ยวผมกลับมาแล้วผมจะขออนุญาตเขียนรายงาน นายกฯ บอกไม่ต้องเขียนหรอกค่ะ โทรศัพท์บอกเลย
       
       ชายคนที่ 2 - ใช่ๆ อย่างนั้นแหละ นายกฯ เขาเอาง่ายๆ เลย แต่ว่าอย่างไรให้เขาตื่นตัว ให้เขารู้เรื่อง
       
       ชายคนที่ 1 – ครับ ... แต่ถ้า ตอนคุยกับป๋า ผมก็จะบอกว่า ท่านป๋าเนี่ยผมมองนะฮะ เพราะกลัวท่านจะกลับมาเล่นการเมืองเต็มที่ ผมก็จะพูดเรื่องว่า
       
       ชายคนที่ 2 – ป๋าบอกมาเลย ผมไม่ได้ไปติดใจ ไม่ได้คิดจะไปแก้แค้นใคร และไม่ได้จะแก้แค้นทางการเมือง และจริงๆ แล้วอยากจะจบชีวิตแบบสบายๆ ไม่ใช่ว่ามีปัญหาแบบนี้ มันจบไม่ลงนะ ให้มันจบลงดีกว่า จบลงคือให้ตัวผมไม่เล่นการเมืองเลย
       
       ชายคนที่ 1 - ผมจะบอกป๋าบอกว่า ไอ้งานเรื่องเศรษฐกิจ งานเรื่องกีฬา เรื่องการศึกษาอะไรต่างๆ ที่มันยังล้าหลังอยู่เนี่ย ถ้าได้ท่านนายกฯ ทักษิณมาจับแป๊บเดียว มันไปโลดเลย
       
       ชายคนที่ 2 - ให้ผมช่วย เป็นอีกแรงให้ดีกว่า ถ้าสมมุติ ถ้าให้ผมต้องมา คือผมเองไม่ได้ติดใจอะไรเลยนะ
       
       ชายคนที่ 1 - เพราะคุยกับ ผบ.แล้วครับ ผบ.บอกต้องยืนยันนะ ต้องมีหลักฐานยืนยันนะ
       
       ชายคนที่ 2 - ว่า
       
       ชายคนที่ 1 - ว่าเมื่อท่านกลับมาแล้ว ท่านจะเอาอะไรมายืนยัน ผมก็บอก ยืนยันว่า จะไม่ คล้ายๆ อย่างที่ท่านพูดเมื่อกี๊ จะไม่แก้แค้นท่านนะ ท่านกลัวครับ
       
       ชายคนที่ 2 - โอย... นี่ นี่ เอาอย่างงี้สิ บอกอย่างงี้สิ วิธีอยากดองผมง่ายนิดเดียว ตั้งผมไปเป็นที่ปรึกษาทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ซึ่งไม่เป็นองคมนตรี ไม่เป็นอะไรทั้งสิ้น แต่ว่าถ้าถูกหนีบเอาไว้ตรงนั้นน่ะ ให้ Active ทางการเมืองยาก ถ้าถูกหนีบไว้ตรงนั้นน่ะ
       
       ชายคนที่ 1 - ผมพูดอย่างนี้นะฮะ
       
       ชายคนที่ 2 - เออ...จะใช้ผม ไม่ใช้ผมไม่เป็นไร แต่หนีบไว้ตรงนั้น ให้ทางการเมืองดิ้นยาก ทำให้ต้องไม่กล้าไปไหน ท่านจะปรึกษาก็ได้ ไม่ปรึกษาก็ได้ แต่ว่าถ้าที่ปรึกษาทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เหมือนน้องๆ สายวังเลยนะ มันก็เหมือนทำตัวเป็นคนของเจ้านาย ทำตัวเป็นอย่างอื่นไม่ได้ มันต้องหนีบเลย ล็อกเลย ผมไม่ขอเป็นองคมนตรีอยู่แล้ว เพราะว่าเราชอบเบี้ยว (หัวเราะ)
       
       ชายคนที่ 1 - ผมก็จะบอก เนี่ย ป๋าก็เอามาไว้ตรงนี้ ถ้าท่านถามผม เพราะว่า ผบ.มันถามผม ถามผมเหมือนกันบอกว่า พี่อ๊อดจะต้องยืนยันนะ มีอะไรยืนยัน
       
       ชายคนที่ 2 - สมมุตินะ เอาอย่างนี้ดีกว่าพี่ พอเรื่องจบปุ๊บเนี่ย พอผมกลับบ้าน ก็ประกาศตั้งตรงนี้ไปเลย มันเท่ากับว่าพอประกาศมาปุ๊บนี่ กลายเป็นคนของ เท่ากับในวังเอาไปหนีบไว้แล้ว จบ! ไม่ต้องทำอย่างอื่น แค่เป็นที่ปรึกษาทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ มันก็เหมือนโดนหนีบไว้ทางอ้อม เป็นตำแหน่งที่ตั้งขึ้นมากี่ตำแหน่งก็ได้ เงินเดือนไม่ต้องมีก็ได้อยู่แล้ว
       
       ชายคนที่ 1 - ดีครับ อย่างนี้ดีมากเลย ผมก็คิดไม่ออก เดี๋ยวจะได้ใช้หลักฐานนี้
       
       ชายคนที่ 2 - ผมก็ทำปฏิบัติตัวลำบากแล้ว ต้องเคร่งครัดแล้ว ให้เป็นคนของเจ้านายแล้ว
       
       (เสียงเครื่องบิน)
       
       ชายคนที่ 1 - ก็ ยังไงก็สำเร็จครับ ผมไปดูหมอดูมาแล้ว ว่า สำเร็จไหม เขาบอกสำเร็จ แต่เหนื่อยหน่อยนะ อาจจะยาก ต้องอดทน ต้องสู้ อาจารย์เพชรนะครับ หลวงพ่อเพชร อาจารย์ของต่วนเขาด้วย เป็นหมอทางใน ผมบอกว่า ผมถามข้อเดียวว่าผมจะทำงานสำคัญในชีวิตสักครั้ง ครั้งสุดท้าย ท่านถามทำอะไร ผมบอกว่านี่ ผมจะเอาเจ้านายผม นายกรัฐมนตรีทักษิณกลับ ท่านบอกเหนื่อยนะ ยากด้วย อดทนไหวเหรอ แล้วบอกท่านถ้าไหวหล่ะ ถ้าไหวก็สำเร็จ อ้า! … อย่างนี้ผมมีกำลังใจหน่อย
       
       ชายคนที่ 2 - โอเคพี่ กลับบ้าน ขอบคุณพี่มากนะ ถ้ายังไงใกล้ชิดนายกฯ มีอะไรโทรศัพท์คุยได้ ไม่ต้องเขียนรายงาน ไม่ต้องรอมอบรายงาน เรียบร้อย พี่จะกลับเที่ยวทุ่มหนึ่งก็ได้เลย
       
       ชายคนที่ 1 - ครับ เดี๋ยวดู ครับ ครับ


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : คลิปลับ ยุทธศักดิ์-แม้ว เขย่ากองทัพ สะเทือนรัฐบาล

view