ธีระชัย” แฉเล่ห์ขายข้าว “จีทูจี” จ่ายเช็ค 8 หมื่น อิ่มหมีพีมันถ้วนหน้า แนะ “ยรรยง” กระชากหน้ากากไอ้โม่ง
จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
“ธีระชัย” โพสต์ “เฟซบุ๊ก” แฉรัฐขายข้าว “จีทูจี” จ่ายเช็ค 8 หมื่น เล่นเกมพลิกแพลงดูแล้วไม่แยบยล เอื้อการทุจริต เชื่อเป็นการหาวิธีที่จะขายให้แก่พรรคพวกเพื่อนฝูงในราคาต่ำ โดยหลีกเลี่ยงการเปิดประมูล เพื่อให้คนซื้อได้กำไรพิเศษ อิ่มหมีพีมันกันไปทั่วหน้า พร้อมแนะ “ยรรยง” ต้องกล้าปิดช่องโหว่ และเฉียบขาด สั่งเลิกขายข้าวหน้าโกดัง กังขา ขรก.พาณิชย์ปกปิดข้อมูล
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ThirachaiPhuvanatnaranubala โดยระบุว่า เรื่องการขายข้าวแบบ G to G มีการจ่ายเงินเพียงครั้งละ 80,000 บาท ท่านผู้อ่านหลายคนคงจะงง เมื่อได้รับฟังข้อมูลที่กรรมการ ป.ป.ช. ให้ข่าวว่า การขายข้าวแบบ G to G ที่ผ่านมา ปรากฏว่า มีการจ่ายเงินเพียงครั้งละ 80,000 บาท
ตามระเบียบราชการของกระทรวงการคลัง การขายของที่เป็นของรัฐนั้นปกติจะต้องใช้วิธีประมูล คือ กำหนดให้ผู้ที่สนใจซื้อต้องแข่งราคากัน เพื่อให้รัฐได้ราคาขายที่สูงที่สุด
แต่กรณีที่รัฐบาลขายข้าวให้แก่รัฐบาลต่างชาตินั้น เขายกเว้นให้ไม่ต้องประมูล เพราะเป็นการที่รัฐบาลไทยขายตรง
จึงมักจะมีเหตุจูงใจ หากรัฐมนตรีพาณิชย์รายใดไม่ตรงไปตรงมา ก็จะพยายามหาวิธีแอบอ้างว่ามีการขายข้าวแบบ G to G ให้แก่รัฐบาลต่างชาติ แต่ที่จริงเป็นการขายให้แก่คนไทย
พูดง่ายๆ ก็คือ หาวิธีที่จะขายข้าวให้แก่พรรคพวกเพื่อนฝูงในราคาต่ำ โดยหลีกเลี่ยงการเปิดประมูล เพื่อให้คนซื้อได้กำไรพิเศษอิ่มหมีพีมันกันไปทั่ว
ในอดีตที่ผ่านมา การขายข้าวแบบ G to G นั้น ผู้แทนรัฐบาลไทยจะเดินทางไปต่างประเทศเพื่อเจรจา และเมื่อตกลงกันได้ หน่วยงานของรัฐบาลจึงจะส่งข้าวลงเรือ และรัฐบาลต่างชาติก็จะโอนเงินมาชำระ
การชำระเงินแต่ละครั้งจึงเป็นจำนวนหลายร้อยล้านบาท
ในครั้งนี้ การขายข้าวที่อ้างว่าเป็นแบบ G to G นั้น ดูเหมือนว่ามีคนที่อ้างว่าเป็นตัวแทนของรัฐบาลต่างชาติมารอซื้ออยู่ข้างหน้า โกดัง เขานั่งรออยู่ในประเทศไทยนี่เอง จึงได้มีการจ่ายเงินเพียงครั้งละ 80,000 บาทเกิดขึ้น
หากเรื่องเป็นเช่นนี้ นับว่าการขายข้าวที่อ้างว่าเป็นแบบ G to G ครั้งนี้ มีการพลิกแพลงให้พิสดารไปมากกว่าเดิม อย่างที่ไม่แยบยลอะไรเลย
หากเรื่องเป็นเช่นนี้ ทำไปทำมาก็คือ มีการทำให้รูปแบบ ดูเสมือนเป็นขายข้าวแบบ G to G แต่โดยเนื้อหาข้อเท็จจริงก็เป็นการขายในประเทศเท่านั้น แต่เลี่ยงไม่มีการประมูล
การกระทำเช่นนี้ หากเป็นจริงก็คือ ทำให้ประเทศเสียหาย และเข้าข่ายทุจริต
เรื่องนี้ได้มีการร้องเรียน ป.ป.ช. แล้ว ขณะนี้กำลังมีการตรวจสอบ แต่ที่ผ่านมา ใช้เวลานาน ป.ป.ช. บอกว่าเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ยึกยักไม่ค่อยให้ข้อมูล
คุณสุภา ก็เคยบ่นว่า ในการประชุมอนุกรรมการฯ ปรากฏว่า ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ไม่ยอมให้ข้อมูลเกี่ยวกับการขายข้าวแบบ G to G เช่นกัน
เนื่องจากขณะนี้ คุณยรรยง ซึ่งเป็นอดีตปลัดกระทรวง ได้เข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยแล้ว ท่านเป็นผู้ที่มีความรู้ และเนื่องจากการตรวจสอบของ ป.ป.ช. ไม่รู้จะใช้เวลานานอีกเพียงใด
เพื่อปิดช่องโหว่ตรงนี้ ผมเรียกร้องให้คุณยรรยง ควรพิจารณาแก้ไขระเบียบไปก่อน โดยห้ามการขายข้าวแบบ G to G มิให้เกิดขึ้นหน้าโกดัง
ผมขอเอาใจช่วยครับ ให้ท่านปิดช่องทางทุจริตในขั้นตอนการขายให้ได้ประสิทธิผลจริงจัง เพื่อจะเป็นผลงานที่เป็นประโยชน์แก่บ้านเมือง ฝากไว้แก่ชนรุ่นหลัง
อดีตขุนคลังซัดขายข้าวจีทูจี8หมื่นเอื้อทุจริต
จาก โพสต์ทูเดย์
"ธีระชัย" โพสต์ เฟซบุ๊ก แฉขายข้าว จีทูจี จ่ายเช็ค 8 หมื่น พลิกแพลงไม่แยบยล เอื้อทุจริต แนะ ยรรยง ปิดช่องโหว่ เลิกขายข้าวหน้าโกดัง
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ThirachaiPhuvanatnaranubala ว่า เรื่องการขายข้าวแบบ G to G มีการจ่ายเงินเพียงครั้งละ 80,000 บาท ท่านผู้อ่านหลายคนคงจะงง เมื่อได้รับฟังข้อมูล ที่กรรมการ ปปช ให้ข่าวว่า การขายข้าวแบบ G to G ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีการจ่ายเงินเพียงครั้งละ 80,000 บาท
ตามระเบียบราชการของกระทรวงการคลัง การขายของที่เป็นของรัฐนั้น ปกติจะต้องใช้วิธีประมูล คือกำหนดให้ผู้ที่สนใจซื้อ ต้องแข่งราคากัน เพื่อให้รัฐได้ราคาขายที่สูงที่สุด
แต่กรณีที่รัฐบาลขายข้าวให้แก่รัฐบาลต่างชาตินั้น เขายกเว้นให้ ไม่ต้องประมูล เพราะเป็นการที่รัฐบาลไทยขายตรง
จึงมักจะมีเหตุจูงใจ หากรัฐมนตรีพาณิชย์รายใด ไม่ตรงไปตรงมา ก็จะพยายามหาวิธี แอบอ้างว่ามีการขายข้าวแบบ G to G ให้แก่รัฐบาลต่างชาติ แต่ที่จริงเป็นการขายให้แก่คนไทย
พูดง่ายๆ ก็คือหาวิธีที่จะขายข้าว ให้แก่พรรคพวกเพื่อนฝูง ในราคาต่ำ โดยหลีกเลี่ยงการเปิดประมูล เพื่อให้คนซื้อได้กำไรพิเศษ อิ่มหมีพีมันกันไปทั่ว
ในอดีตที่ผ่านมา การขายข้าวแบบ G to G นั้น ผู้แทนรัฐบาลไทย จะเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อเจรจา และเมื่อตกลงกันได้ หน่วยงานของรัฐบาล จึงจะส่งข้าวลงเรือ และรัฐบาลต่างชาติก็จะโอนเงินมาชำระ
การชำระเงินแต่ละครั้ง จึงเป็นจำนวนหลายร้อยล้านบาท
ในครั้งนี้ การขายข้าว ที่อ้างว่าเป็นแบบ G to G นั้น ดูเหมือนว่า มีคนที่อ้างว่าเป็นตัวแทนของรัฐบาลต่างชาติ มารอซื้ออยู่ข้างหน้าโกดัง เขานั่งรออยู่ในประเทศไทยนี้เอง จึงได้มีการจ่ายเงินเพียงครั้งละ 80,000 บาทเกิดขึ้น
หากเรื่องเป็นเช่นนี้ นับว่าการขายข้าว ที่อ้างว่าเป็นแบบ G to G ครั้งนี้ มีการพลิกแพลงให้พิสดารไปมากกว่าเดิม อย่างที่ไม่แยบยลอะไรเลย
หากเรื่องเป็นเช่นนี้ ทำไปทำมา ก็คือมีการทำให้รูปแบบ ดูเสมือนเป็นขายข้าวแบบ G to G แต่โดยเนื้อหาข้อเท็จจริง ก็เป็นการขายในประเทศเท่านั้น แต่เลี่ยงไม่มีการประมูล
การกระทำเช่นนี้ หากเป็นจริง ก็คือทำให้ประเทศเสียหาย และเข้าข่ายทุจริต
เรื่องนี้ได้มีการร้องเรียน ปปช. แล้ว ขณะนี้กำลังมีการตรวจสอบ แต่ที่ผ่านมาใช้เวลานาน ปปช. บอกว่าเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ยึกยัก ไม่ค่อยให้ข้อมูล
คุณสุภาก็เคยบ่น ว่าในการประชุมอนุกรรมการฯ ปรากฎว่าข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ ไม่ยอมให้ข้อมูลเกี่ยวกับการขายข้าวแบบ G to G เช่นกัน
เนื่องจากขณะนี้ คุณยรรยง ซึ่งเป็นอดีตปลัดกระทรวง ได้เข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยแล้ว ท่านเป็นผู้ที่มีความรู้ และเนื่องจากการตรวจสอบของ ปปช. ไม่รู้จะใช้เวลานานอีกเพียงใด
เพื่อปิดช่องโหว่ตรงนี้ ผมเรียกร้องให้คุณยรรยง ควรพิจารณาแก้ไขระเบียบไปก่อน โดยห้ามการขายข้าวแบบ G to G มิให้เกิดขึ้นหน้าโกดัง
ผมขอเอาใจช่วยครับ ให้ท่านปิดช่องทางทุจริต ในขั้นตอนการขาย ให้ได้ประสิทธิผลจริงจัง เพื่อจะเป็นผลงานที่เป็นประโยชน์แก่บ้านเมือง ฝากไว้แก่ชนรุ่นหลัง
ธีระชัย'หนุน'ยรรยง'จัดการขายข้าวจีทูจี
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ธีระชัย"จับผิดขายข้าวจีทูจี จ่ายเงินเพียงครั้งละ 80,000บาท หนุน"ยรรยง"เร่งจัดการ หลัง"สุภา"บ่นก.พาณิชย์ไม่ให้ข้อมูล
ในวันนี้นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรมว.คลังรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คส่วนตัววันนี้ใจความว่า "ทำไมขายข้าวแบบ G to G มีการจ่ายเงินเพียงครั้งละ 80,000 บาท
ท่านผู้อ่านหลายคนคงจะงง เมื่อได้รับฟังข้อมูล ที่กรรมการ ปปช ให้ข่าวว่า การขายข้าวแบบ G to G ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีการจ่ายเงินเพียงครั้งละ 80,000 บาท ตามระเบียบราชการของกระทรวงการคลัง การขายของที่เป็นของรัฐนั้น ปกติจะต้องใช้วิธีประมูล คือกำหนดให้ผู้ที่สนใจซื้อ ต้องแข่งราคากัน เพื่อให้รัฐได้ราคาขายที่สูงที่สุด
แต่กรณีที่รัฐบาลขายข้าวให้แก่รัฐบาลต่างชาตินั้น เขายกเว้นให้ ไม่ต้องประมูล เพราะเป็นการที่รัฐบาลไทยขายตรง
จึงมักจะมีเหตุจูงใจ หากรัฐมนตรีพาณิชย์รายใด ไม่ตรงไปตรงมา ก็จะพยายามหาวิธี แอบอ้างว่ามีการขายข้าวแบบ G to G ให้แก่รัฐบาลต่างชาติ แต่ที่จริงเป็นการขายให้แก่คนไทย
พูดง่ายๆ ก็คือหาวิธีที่จะขายข้าว ให้แก่พรรคพวกเพื่อนฝูง ในราคาต่ำ โดยหลีกเลี่ยงการเปิดประมูล เพื่อให้คนซื้อได้กำไรพิเศษ อิ่มหมีพีมันกันไปทั่ว
ในอดีตที่ผ่านมา การขายข้าวแบบ G to G นั้น ผู้แทนรัฐบาลไทย จะเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อเจรจา และเมื่อตกลงกันได้ หน่วยงานของรัฐบาล จึงจะส่งข้าวลงเรือ และรัฐบาลต่างชาติก็จะโอนเงินมาชำระ
การชำระเงินแต่ละครั้ง จึงเป็นจำนวนหลายร้อยล้านบาท
ในครั้งนี้ การขายข้าว ที่อ้างว่าเป็นแบบ G to G นั้น ดูเหมือนว่า มีคนที่อ้างว่าเป็นตัวแทนของรัฐบาลต่างชาติ มารอซื้ออยู่ข้างหน้าโกดัง เขานั่งรออยู่ในประเทศไทยนี้เอง จึงได้มีการจ่ายเงินเพียงครั้งละ 80,000 บาทเกิดขึ้น
หากเรื่องเป็นเช่นนี้ นับว่าการขายข้าว ที่อ้างว่าเป็นแบบ G to G ครั้งนี้ มีการพลิกแพลงให้พิสดารไปมากกว่าเดิม อย่างที่ไม่แยบยลอะไรเลย
หากเรื่องเป็นเช่นนี้ ทำไปทำมา ก็คือมีการทำให้รูปแบบ ดูเสมือนเป็นขายข้าวแบบ G to G แต่โดยเนื้อหาข้อเท็จจริง ก็เป็นการขายในประเทศเท่านั้น แต่เลี่ยงไม่มีการประมูล
การกระทำเช่นนี้ หากเป็นจริง ก็คือทำให้ประเทศเสียหาย และเข้าข่ายทุจริต
เรื่องนี้ได้มีการร้องเรียน ปปช. แล้ว ขณะนี้กำลังมีการตรวจสอบ แต่ที่ผ่านมาใช้เวลานาน ปปช. บอกว่าเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ยึกยัก ไม่ค่อยให้ข้อมูล
คุณสุภาก็เคยบ่น ว่าในการประชุมอนุกรรมการฯ ปรากฎว่าข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ ไม่ยอมให้ข้อมูลเกี่ยวกับการขายข้าวแบบ G to G เช่นกัน
เนื่องจากขณะนี้ คุณยรรยง ซึ่งเป็นอดีตปลัดกระทรวง ได้เข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยแล้ว ท่านเป็นผู้ที่มีความรู้ และเนื่องจากการตรวจสอบของ ปปช. ไม่รู้จะใช้เวลานานอีกเพียงใด
เพื่อปิดช่องโหว่ตรงนี้ ผมเรียกร้องให้คุณยรรยง ควรพิจารณาแก้ไขระเบียบไปก่อน โดยห้ามการขายข้าวแบบ G to G มิให้เกิดขึ้นหน้าโกดัง
ผมขอเอาใจช่วยครับ ให้ท่านปิดช่องทางทุจริต ในขั้นตอนการขาย ให้ได้ประสิทธิผลจริงจัง เพื่อจะเป็นผลงานที่เป็นประโยชน์แก่บ้านเมือง ฝากไว้แก่ชนรุ่นหลัง" EK218573849TH
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน