สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ลดภาษี แบรนด์เนม เพิ่มค่านิยมฟุ้งเฟ้อ

จากประชาชาติธุรกิจ

ทําเอา "ขาช็อป" ดีใจเก้อไปชั่วข้ามคืน เพราะเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลังออกมาจุดประเด็นว่า จะมีมาตรการลดภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ อาทิ น้ำหอม กระเป๋า เสื้อผ้า นาฬิกา เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการจับจ่ายใช้สอย เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จากเก็บภาษีนำเข้าสินค้าแบรนด์เนมอยู่ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ให้เหลือเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น!!




แต่ยังไม่ทันไร ผู้ช่วยขุนคลัง อย่าง เบญจา หลุยเจริญ รมช.คลัง ได้ออกมาโต้กระแสทันทีว่า "ยังไม่มีนโยบายลดภาษีตามที่ปลัดคลังให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด"

ย้ำ!! "ยังไม่มีนโยบายลดภาษี" ฟันธง!! คอนเฟิร์ม!!

ทำเอา "เหวอ" ไปตามๆ กัน

กระนั้น ก็มีหลายคนออกมาแสดงความคิดเห็น ที่เห็นด้วยก็ว่าจะได้ใช้สินค้าในฝันที่ก่อนหน้านี้เอื้อมไม่ถึง ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว ส่วนไม่เห็นด้วยก็ว่า จะกระทบกับสินค้าแบรนด์ไทยหรือเปล่า บางคนก็เห็นจะไปกระตุ้นค่านิยมให้คนไทยฟุ้งเฟ้อมากขึ้น

"ลูกค้า" ระดับไฮเอนด์ ที่เป็นขาช็อปตัวจริง!! ก็มีความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้เช่นกัน

เริ่มที่ "ณัฐ" ณัฐพล จุฬางกูร ทายาทเจ้าของบริษัทในเครือซัมมิท ผลิตชิ้นส่วนยางอะไหล่รถ และนักธุรกิจที่ดิน อสังหาริมทรัพย์รวมดูแลกว่า 9 บริษัท แสดงความคิดเห็นว่า เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการลดภาษี เพราะเป็นการส่งเสริมการขายภายในประเทศให้เพิ่มขึ้น พร้อมกับเป็นแรงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวที่บินตรงมาจากทั่วโลกมาเที่ยวแถมช็อปปิ้งได้อีก

"โดยส่วนตัวคิดว่าลูกค้าที่ใช้ของแบรนด์เนมทั้งหลายต่างมีแบรนด์ในใจกันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องราคาคงไม่เป็นปัญหา อีกทั้งเป็นคนช็อปของในไทย ไม่บินไปซื้อเมืองนอกให้เสียเวลา เพราะซื้อไทยได้เห็นสินค้าจริงๆ อีกทั้งยังเป็นลูกค้าวีไอพี จะได้สิทธิพิเศษหลายอย่าง ทั้งบัตรสะสมแต้ม ส่วนลด และการบริการที่รู้ใจคนไทยด้วยกัน หากยิ่งลดภาษีลงก็จะทำให้ลูกค้าได้ประโยชน์มากขึ้น"

เมื่อถามว่า ของแบรนด์เนมอะไรที่ใช้ประจำ หนุ่มณัฐบอกว่า เขาเป็นผู้ชายเพราะฉะนั้นจะมีแบรนด์ประจำไม่มาก และเป็นคนชอบใส่นาฬิกาข้อมือ เพื่อให้เข้าชุดกับเสื้อผ้าเวลาออกงานสังคม เพราะตนเองเป็นนักธุรกิจต้องพบปะผู้ใหญ่ เข้าสังคมคุยงานกับลูกค้า การเอาใจใส่เสื้อผ้าและเครื่องประดับถือเป็นการลงทุน

"นานๆ ผมจะซื้อของแบรนด์เนมที เพราะใน 1 เดือน จะแบ่งรายได้เป็น 4 ส่วน หนึ่งในนั้นเอาไว้ซื้อของเป็นรางวัลให้กับตนเอง อย่างนาฬิกาข้อมือที่ซื้อแพงที่สุด 8 หลัก เพราะฉะนั้นหากเราต้องการซื้อของราคานี้ ต้องดูทั้งตัวแบรนด์ รายละเอียด โอกาสในการใช้ ความชอบก่อนตัดสินใจซื้ออยู่แล้ว เรื่องราคาจึงไม่ใช่ปัญหา"

ฟาก "ขวัญ" สู่ขวัญ บูลกุล พิธีกรและนักแสดง ภรรยา โชค บูลกุล เจ้าของฟาร์มโชคชัย ให้ความเห็นว่า หากเป็นเรื่องจริง ก่อนจะดีใจหรือตื่นเต้นคงต้องมองอีกมุมว่าใครได้ใครเสียกับนโยบายนี้หรือไม่ หากลดภาษีแบรนด์เนมลง แบรนด์ไทยจะเกิดปัญหาหรือไม่ ยกตัวอย่าง กระเป๋า 1 ใบ เป็นแบรนด์เนมและแบรนด์ไทยอย่างละใบ ราคาเท่าๆ กัน คนจะเลือกซื้อแบรนด์ไหน

"คนซื้อของแบรนด์เนม ส่วนใหญ่ซื้อเพราะชื่นชอบตัวแบรนด์ ตัวสินค้า ประทับใจอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้นเรื่องราคาน่าจะไม่ใช่ปัจจัยหลัก เพราะกลุ่มลูกค้าแบรนด์เนมเป็นกลุ่มเฉพาะ เรื่องที่จะทำให้คนฟุ่มเฟือยขึ้น ก็อาจจะมีบ้าง แต่มันไม่ผิดหรอก หากนั่นเป็นรางวัลของความเหนื่อยจากการทำงาน"

สู่ขวัญยังบอกอีกว่า แบรนด์เนมที่ซื้อบ่อยๆ คือแบรนด์กระเป๋าและรองเท้า โดยซื้อมาใช้จริงๆ ไม่ได้เอามาเก็บ ไม่ได้ตามเทรนด์แฟชั่นมากนัก เน้นความเป็นตัวเอง

"ปัจจุบันต้องยอมรับว่าที่คนหันไปใช้ของแบรนด์เนม เพราะเรื่องของคุณภาพ แม้ราคาแพงแต่คุ้ม ส่วนเรื่องราคาโดยส่วนตัวมองว่าก่อนจะดำเนินนโยบายนี้ควรแสดงความรับผิดชอบกับผลกระทบที่ตามมาด้วย ไม่ใช่ออกนโยบายมาและไม่ทำอะไรต่อ อย่าลืมว่าการเติบโตของแบรนด์แฟชั่นไทยที่กำลังแข่งขันกับแบรนด์นานาชาติอยู่ ต้องมีรัฐเกื้อหนุนด้วย"

ทั้งหมดเป็นนานาทรรศนะที่นโยบายยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง แต่ถ้าหากนโยบายนี้เกิดขึ้นจริง เจ้าของไอเดียคงต้องคิดให้รอบด้านว่า "ผลดี" กับ "ผลเสีย" อย่างไรคุ้มกว่ากัน!



ที่มา : นสพ.มติชน


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ลดภาษี แบรนด์เนม เพิ่มค่านิยม ฟุ้งเฟ้อ

view