สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ปากคำ วรชัย ต้นร่างสุดซอย ล้างคดีทักษิณ ล็อกเป้าเชือด อภิสิทธิ์-สุเทพ

ปากคำ "วรชัย" ต้นร่างสุดซอย ล้างคดีทักษิณ ล็อกเป้าเชือด "อภิสิทธิ์-สุเทพ

จากประชาชาติธุรกิจ

เมื่อวาระนิรโทษกรรมกลายเป็นชนวนเรียกแขกการเมืองถล่ม รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะในร่างกฎหมายนิรโทษกรรมแบบ "สุดซอย" เหมารวมคืนความเป็นธรรมให้ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้สั่งการสลายการชุมนุมปี 2553 อย่างอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และสุเทพ เทือกสุบรรณ 2 แกนนำพรรคประชาธิปัตย์

"แขกการเมือง" จึงไม่ได้มีเฉพาะฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลที่ต่อต้านการล้างผิดให้ "พ.ต.ท.ทักษิณ" หากมี "แนวร่วม" เสื้อแดงที่ต้องการหาผู้รับผิดชอบจากเหตุการณ์ปี"53 ได้ตั้งคำถามกับพรรคเพื่อไทย ในฐานะที่กดปุ่มผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอยว่า กำลังหักหลังมวลชนหรือไม่

"ประชาชาติธุรกิจ" จึงบันทึกปากคำ "วรชัย เหมะ" ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ผู้เป็นต้นเรื่อง-ต้นร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ถามจุดยืนของเขาและของพรรคเพื่อไทยที่แท้จริงเป็นอย่างไร

- ในฐานะคนต้นร่าง มองสาระสำคัญที่ถูกเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร

ในการเสนอพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ฉบับนี้ เรามีหลักการให้มีการนิรโทษกรรมผู้กระทำผิดจากการชุมนุมทางการเมือง และเกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมือง ซึ่งมาตรา 3 ที่มีการแก้ไขของกรรมาธิการเสียงข้างมากที่บอกว่าฉบับสุดซอยนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นวันนี้ มีการแก้ไขหลายส่วน โดยวรรคหนึ่งที่บอกว่าให้นิรโทษกรรมบรรดาการกระทำทั้งใดทั้งปวงทั้งหลายที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมือง และเกี่ยวเนื่องกับคดีที่มาจากการยึดอำนาจ ถ้าถามว่าขัดหลักการและเหตุผลเดิมหรือไม่ ผมเห็นว่าไม่ขัดหลักการและเหตุผล เนื่องจากการชุมนุมทางการเมืองนำไปสู่การยึดอำนาจ และผลพวงจากการยึดอำนาจคือการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เพื่อเข้ามาจัดการขบวนการของคนที่ถูกยึดอำนาจคตส.เป็นตัวแทนการใช้อำนาจของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เขาก็ใช้อำนาจเต็มที่ เพื่อให้สอดรับกับเหตุผลที่ว่ามีการทุจริตคอร์รัปชั่น ไม่จงรักภักดี นั่นคือการสร้างความชอบธรรมให้กับการยึดอำนาจ และผลที่สุด คตส.ก็เริ่มต้นขบวนการที่สร้างให้คนที่ถูกยึดอำนาจเป็นผู้ร้ายในทันที โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกตั้งข้อหาสารพัด นี่คือประเด็นที่ไม่ได้รับความยุติธรรม นี่ไม่ใช่กระบวนการยุติธรรมปกติ ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้ง นำไปสู่การที่คนหลายสีเสื้อออกมาสู้กัน ทะเลาะกัน กระทั่งมีการชุมนุมขับไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์

ฉะนั้นเราจะเห็นว่าต้นเหตุของความขัดแย้งคือการยึดอำนาจ ฉะนั้นท่านทักษิณก็เป็นคนหนึ่งที่ถูกกระทำ ถูกใส่ร้ายป้ายสีจากคณะยึดอำนาจ ประเด็นนี้ผมเห็นว่าต้องคืนความยุติธรรมให้ท่าน ต้องจัดการอย่างรีบด่วน เพราะท่านถูกกระทำมานานแล้ว

- คืนความเป็นธรรมให้คุณทักษิณ คือต้องล้มคดีความทั้งหมด

หมายความว่า คดีไหนที่ไม่ได้รับความยุติธรรม ถามว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้จะใช้ไปถึงตรงนั้นได้หรือไม่ ถ้ากรรมาธิการจะแก้ไขก็ถือว่าไม่ขัดหลักการและเหตุผล ก็นิรโทษกรรมจุดนั้นได้ เพราะผลพวงจากการยึดอำนาจที่นำไปสู่คดีของท่านทักษิณต้องยอมรับว่าไม่ยุติธรรม ทุกคนก็เห็นอยู่ ทำไมเขาไม่ฟ้องร้องในกระบวนการยุติธรรมปกติ นี่คือประเด็นของมาตรา 3 วรรคหนึ่งโดยเฉพาะ

สำหรับวรรคสอง มีการแก้ไขเนื้อหาที่ต่างจากประเด็นของท่านทักษิณอย่างสิ้นเชิง ท่านทักษิณถูกกระทำจากอำนาจเผด็จการ ขณะที่ประชาชนใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ ออกมาบอกรัฐบาลอภิสิทธิ์สมัยนั้นว่าการตั้งรัฐบาลในค่ายทหารเป็นการปล้นอำนาจจากประชาชน ต้องยุบสภา เมื่อพวกเขาไม่ยอม พวกเราก็ออกมาต่อสู้เต็มที่ กระทั่งนำไปสู่การสูญเสีย ถูกสลายการชุมนุม ถูกผลพวงพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ฉุกเฉิน ทำตามคำสั่งผู้สั่งการให้ใช้กระสุนจริง

เมื่อการตายมีจริง การฆ่ามีจริง เหตุการณ์เป็นเช่นนั้น พี่น้องประชาชนถูกฆ่าตาย ใครเป็นคนสั่ง เขาก็ต้องรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นนายสุเทพ (เทือกสุบรรณ) หรือนายอภิสิทธิ์ (เวชชาชีวะ) ก็ต้องรับผิดชอบ ต้องขึ้นศาล อยู่ในกระบวนการยุติธรรม นี่คือประเด็นที่แตกต่างจากท่านทักษิณ



แต่พวกเรารวมถึงแกนนำก็ยืนยันว่า ไม่ต้องนิรโทษกรรมให้พวกเราที่เป็นแกนนำรวมทั้งผมด้วย และเราก็ขอว่าต้องไม่นิรโทษกรรมให้ผู้สั่งฆ่าประชาชน ในวรรคสองเรายังยืนยันหลักการเดิมว่า เราต้องการให้ผู้สั่งฆ่าถูกดำเนินคดี แกนนำทุกสีเสื้อก็ต้องถูกดำเนินคดี

- ในเมื่อกรรมาธิการต้องการล้างผิดทั้งหมดแบบเหมาเข่ง แล้วจะดำเนินการเอาผิดคนสั่งฆ่าอย่างไร

เสียงข้างมากว่าอย่างนั้น แต่ผมก็สงวนคำแปรไว้ ส่วนมาตรา 3 ที่มีการแก้ไขตอนนี้ยืนยันว่าไม่มีใครสั่งการ เป็นเรื่องของความเห็นในกรรมาธิการ ยังไม่ได้เป็นการลงมติในสภา

ผมยังคิดว่าในการยกมือโหวตให้ในสภา ผมก็จะอภิปรายตามที่สงวนไว้ ถ้า ส.ส.เขาเห็นด้วย เขาก็ต้องยกมือโหวตให้กรรมาธิการเสียงข้างน้อย ตอนนี้เขาแค่แก้ไข ผลที่สุดเมื่อเข้าสู่สภาก็ไปว่ากันใหม่

- แต่ทั้งเสียงข้างน้อยและข้างมากในกรรมาธิการก็มีที่มาจากพรรคเพื่อไทย ถึงไม่เป็นทิศทางเดียวกัน

คือเรื่องนี้ผมว่า (เงียบ) ต้องยอมรับการตัดสินใจของกรรมาธิการ ทุกคนมาจากประชาชน ทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงเหมือนกัน เราจะไม่วิพากษ์วิจารณ์คนอื่น ผมจะไม่พูดว่าใครคิดอย่างไร แต่เรื่องที่เกิดขึ้นยังไม่ใช่มติพรรคเพื่อไทย แต่เป็นความเห็นส่วนตัวของกรรมาธิการ เมื่อออกมาอย่างนี้ ประชาชนเขาออกมาเคลื่อนไหวอย่างไรก็ต้องดูกระแสตรงนี้ ผมว่ากรรมาธิการแปรญัตติเสียงข้างมากอย่างนี้แล้วก็ต้องไปโหวตกันในสภา และไปว่ากันในที่ประชุมพรรคว่า ส.ส.ส่วนใหญ่จะเอาอย่างไร

- แม้จะถูกกระทำจากการยึดอำนาจ แต่หลายข้อมูลก็ระบุว่าคุณทักษิณเป็นผู้สั่งการคนเสื้อแดงให้ออกมาชุมนุม


(สวนทันที) ไม่ อย่างท่านทักษิณถ้ามีคดีบอกว่าท่านเป็นผู้ก่อการร้าย เป็นผู้สั่งการก็ว่าไป แต่วันนี้อัยการก็สั่งไม่ฟ้องแล้วนี่ ศาลยกฟ้องหมดแล้ว

- ทำไมหลักการและเหตุผลของการนิรโทษกรรมต้องแยกคุณทักษิณออกจากกรณีคุณอภิสิทธิ์และคุณสุเทพ


คนละเรื่องเลย ผู้กระทำกับผู้ถูกกระทำ ท่านทักษิณเป็นรัฐบาลจากประชาชน เป็นผู้ถูกกระทำจากคณะยึดอำนาจ และใช้องค์กรอิสระมาจัดการกับท่านมันไม่ยุติธรรมสำหรับท่าน แต่ประเด็นของนายอภิสิทธิ์กับนายสุเทพมันกระทำกับประชาชน เขาเป็นผู้กระทำกับประชาชน เขาต้องถูกดำเนินคดี

- แต่คำอธิบายของพรรคเพื่อไทยบอกว่า ถ้าละเว้นชื่อคุณอภิสิทธิ์กับคุณสุเทพอาจทำให้กฎหมายขัดมาตรา 30

ผมว่านี่มันเรื่องเฉพาะ ไม่ใช่เรื่องทั่วไป การออกกฎหมายทั่วไปต้องไม่ยกเว้น แต่นี่คดีเฉพาะที่เกี่ยวเนื่องกับคดีที่เกี่ยวเนื่องทางการเมือง ในเมื่อแกนนำทุกคนบอกว่าไม่ต้องนิรโทษกรรม และประชาธิปัตย์ก็บอกอย่างนั้น แล้วเราจะไปนิรโทษกรรมทำไม ส่วนมาตรา 30 ผมมองว่าใช้ได้เฉพาะการออกกฎหมายโดยทั่วไป เรื่องนี้มันเหตุการณ์ผิดปกติ ถือว่าเป็นกฎหมายพิเศษ

- ในฐานะแกนนำจะอธิบายเนื้อหาการนิรโทษกรรมที่ถูกแก้ไขกับคนเสื้อแดงอย่างไร

ประเด็นนี้ผมก็อธิบายตามหลักความเป็นจริงว่า ผมก็ไม่เห็นด้วย และยังเห็นด้วยกับคนเสื้อแดงที่ไม่ควรนิรโทษกรรมให้กับนายอภิสิทธิ์กับนายสุเทพ แค่ประเด็นนี้ประเด็นเดียวเองที่พวกเขาไม่ยอมรับ แต่สำหรับประเด็นท่านทักษิณ พี่น้องเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เสื้อแดงรู้มานานแล้วว่าท่านทักษิณไม่ได้รับความยุติธรรม เขาก็ยินดีที่ต้องคืนความยุติธรรมให้ท่าน

- แต่กระบวนการนิรโทษกรรมก็มีอันเป็นไปทุกครั้งที่มีชื่อคุณทักษิณปรากฏ


ก็นี่ไง ตั้งแต่ยื่นเข้าวาระแรกเขาก็ค้านแล้ว ความขัดแย้งมันมีอยู่อย่างนี้ คนที่ไม่เอาทักษิณเขาก็ไม่เอา แต่คนที่เอาทักษิณยังมีมากกว่า ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ ชนะตั้งร้อยกว่าเสียง นั่นคือคนที่เอาท่านทักษิณ และเอาท่านทักษิณมาเป็นรัฐบาล ไม่เอาทักษิณก็เป็นฝ่ายค้าน ลองคิดดูเสียงข้างมากทั้งประเทศเขาจะเอาใครมาว่ากัน

- การนิรโทษกรรมคุณทักษิณเคยเกิดขึ้นตอนเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแล้วก็มีแรงต้านจนไปต่อไม่ได้

มันก็มีแรงต้าน วันนี้ประชาชนเขาต้องการทำมาหากิน ต้องการความสงบ ไม่ต้องการขัดแย้ง ต้องการให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า ถ้าทำให้สงบได้ก็ควรจะทำ ผมว่าปี 2558 ก็เป็นประชาคมอาเซียนแล้ว ประเทศไหนมีความขัดแย้งสูงก็เสียโอกาสในการพัฒนาประเทศ

ถ้าเคารพหลักประชาธิปไตย เคารพหลักรัฐสภาก็ต้องฟังเสียงประชาชน หลักประชาธิปไตยเครื่องมือคือการเลือกตั้ง ต้องเคารพในหลักการอันนี้ รัฐบาลมาจากการเลือกตั้งก็ต้องเคารพ ประชาชนเขามอบให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเพื่อต้องการนิรโทษกรรม ผมไปหาเสียงบอกว่าต้องการให้ท่านทักษิณกลับบ้าน และเอาคนฆ่าประชาชนติดคุก เราก็พูดชัดเจน ประชาชนก็เลือกเรามาทำหน้าที่อย่างนี้

- กังวลว่าความขัดแย้งจะซ้ำรอยเดิมหรือไม่

ผมว่าสถานการณ์ไม่เหมือนกัน วันนั้นประชาชนยังไม่เข้าใจ แต่วันนี้พวกเขาคงเข้าใจระดับหนึ่ง รัฐบาลบริหารประเทศมีผลงาน ต้องการให้ประเทศสงบ วันนี้คนที่ต้องการให้นิรโทษกรรม ต้องการให้ปรองดอง เสียงพวกนี้มีมากกว่า จะเห็นว่าพอกฎหมายฉบับนี้เข้าสภา ประชาธิปัตย์ประกาศเอาคนมาแสนคน แล้วก็ได้แค่สองพันคน วันนี้ก็เหมือนกัน ชุมนุมที่อุรุพงษ์ก็มีแค่พันกว่าคน เราก็ต้องดูว่าประเทศมวลชนเขาต้องการความสงบ ต้องการทำมาหากิน แล้วอภัยกันได้ก็ลดความขัดแย้งกันไป

- ประเมินแล้วว่าแรงต้านวันนี้มันลดลง

คนเขาคิดว่าต้องการทำมาหากินนะครับแล้วเสื้อแดงผมก็ยืนยันตามนั้น จะให้นิรโทษกรรมคนฆ่าเขาก็ไม่ยอม มันไม่ได้

- แต่คนเสื้อแดงบางส่วนเชื่อว่าถ้ามีชื่อคนทักษิณ กระบวนการนิรโทษกรรมจะทำไม่สำเร็จ

มันเป็นแค่ความรู้สึกของคนบางกลุ่มแค่นั้นเอง แต่ประเด็นหลักที่คนเสื้อแดงไม่ต้องการก็คือ ไม่พอใจที่นิรโทษกรรมให้นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ เพราะลูกหลานที่ร่วมขบวนการต่อสู้เขาถูกฆ่าตาย

- มีการประกาศว่า ถ้ามีชื่อทักษิณคนเสื้อแดงอาจจะแยกตัวออกไปร่วมประท้วง

ก็คนเสื้อแดงมีความเห็นอยู่หลายส่วน อย่างคุณสมบัติ (บุญงามอนงค์) ก็คิดไปอย่างนั้น แต่ส่วนที่รักคุณทักษิณก็มีเยอะ และส่วนที่เกลียดนายอภิสิทธิ์ก็มีเยอะ ถ้าเราเอาอย่างนี้คือไม่นิรโทษกรรมให้ผู้สั่งฆ่าและแกนนำ แต่วรรคหนึ่งคืนความยุติธรรมให้คุณทักษิณ ผมว่ามันไปได้ นี่คือนิรโทษกรรมครึ่งเข่ง

- กังวลหรือไม่ว่าถ้านิรโทษกรรมแบบนี้จะทำให้กลุ่มเสื้อแดงแยกออกจากกัน

ผมว่าประเด็นนี้ยังไม่จบ ต้องรอจนสภาผ่านวาระ 2 และ 3 ตอนนั้นเราจะฟันธงได้ว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้จะเอาอย่างไร ต้องรอก่อน แต่ผมไม่กังวลนะ ผมคิดว่ากรรมาธิการและ ส.ส.ต้องฟังเสียงประชาชน

- สุดท้ายถ้ามีการแก้ไขตามกรรมาธิการเสียงข้างมาก ท่านเองจะถือว่าถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองหรือไม่

ผมก็ยืนยันตามร่างเดิมผมไม่ยกมือให้อยู่แล้ว และผมคิดว่า ส.ส.เสื้อแดงก็ยืนยันตามนี้

- เชื่อว่าเสียงส่วนใหญ่ของคนเสื้อแดงยังต้องการนิรโทษกรรมให้คุณทักษิณ แต่คุณอภิสิทธิ์และคุณสุเทพไม่ควรได้เพราะเขาสั่งฆ่าประชาชน

ใช่ และแกนนำทุกคนทุกสีเสื้อก็ไม่ควรได้ เสียงส่วนใหญ่ในคนเสื้อแดงเขามองอย่างนั้น

- ยืนยันว่าตัวเราไม่ได้เป็นสะพานเพื่อช่วยคุณทักษิณ


ไม่ใช่ ไม่ใช่ แล้วท่านทักษิณบอกแล้วว่า ส.ส.โหวตได้ตามเอกสิทธิ์ของตน ไม่ได้โหวตตามมติพรรค


จดหมายปู่พิชัย ถึงหลาน วรชัย เหมะ หยุดเดินหน้าสุดซอย

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

หมายเหตุ - นาย พิชัย รัตตกุล อดีตประธานรัฐสภา และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เขียนจดหมายถึง นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย หลังคณะกรรมาธิการวิสามัญ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ได้แก้ไขหลักการให้ครอบคลุมกว้างไกลออกไปที่เรียกกันว่าฉบับ "เหมาเข่ง" โดยเฉพาะในมาตรา 3 และมาตรา 4

ผม เขียนจดหมายฉบับนี้ถึงท่านด้วยความรู้สึกเช่นเดียวกับพี่น้องประชาชนคนไทย ทั้งปวงที่กำลังอยู่ในภาวะเศร้าโศกกับการสิ้นพระชนม์ของเจ้าพระคุณสมเด็จพระ สังฆราช ในขณะเดียวกันสถานการณ์ทางการเมืองในบ้านเราก็เพิ่มความทุกข์ ความห่วงใยในเหตุการณ์ที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรง ในเรื่องของร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งเสนอโดย คุณวรชัย เหมะ และต่อมาคณะกรรมาธิการวิสามัญ ได้แก้ไขหลักการให้ครอบคลุมกว้างไกลออกไปที่เรียกกันว่าฉบับเหมาเข่ง โดยเฉพาะใน มาตรา 3 และมาตรา 4 

ซึ่ง ผมเชื่อว่าถ้าหากดำเนินการตามร่างคณะกรรมาธิการเสียงข้างมากก็จะมีเรื่องราว ที่จะนำไปสู่ความสับสนหลากประเด็น เช่น ในมุมมองของหลักนิติรัฐก็มีข้อถกเถียงน่าคิดอยู่ 3 แนวคิดด้วยกัน อันได้แก่

1.ร่าง ที่คณะกรรมาธิการเสียงข้างมากจะนำเสนอในสภา วาระ 2 และ 3 ไม่กี่วันข้างหน้านี้นั้นเป็นการพิจารณาร่างที่ขัดแย้งกับหลักการของ พ.ร.บ.ฉบับนี้ที่ได้รับอนุมัติในวาระที่ 1 อย่างจริงจังหรือไม่ ซึ่งในที่สุดก็จะต้องนำไปสู่การตีความในศาลรัฐธรรมนูญอีกยาว 

2.เรื่อง ราวบางเรื่องได้ไปไกลจนถึงขั้นตุลาการแล้วและคดีที่ฝ่ายตุลาการได้ตัดสิน ความไปแล้วนั้น ถือเป็นอำนาจตุลาการที่สมบูรณ์แล้ว แต่หากยังไม่มีการรับโทษ จะเหมาะสมหรือไม่ ที่อำนาจนิติบัญญัติจะไปก้าวล่วงต่อคำพิพากษา ซึ่งถ้าหากว่าได้มีการรับโทษไปแล้วเป็นบางส่วนฝ่ายนิติบัญญัติจะออกกฎหมาย ล้างผิดก็น่าจะมีความเหมาะสมกว่า

3.จาก เหตุการณ์ความเสียหายนั้น ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ประกอบด้วย ญาติ พี่ น้อง ซึ่งผู้เสียหายมีสิทธิในการเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ทำละเมิด หากมีกฎหมายฉบับ "เหมาเข่ง" นี้ จะทำให้ผู้เสียหายเสียสิทธิการเรียกร้องทั้งในคดีแพ่งและอาญาด้วยหรือไม่ 

อีก ทั้งถ้าเรามองดูทางด้านหลักของรัฐศาสตร์ ก็อาจจะเกิดกรณีถกเถียงกันอีกหลายประเด็นเช่นกัน อันได้แก่ 1.เรื่องการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อผู้ถูกกล่าวหาในหลายๆกรณี ยังไม่สามารถบรรลุถึงแก่นแท้ของความจริงได้ว่าใคร ทำอะไร มิชอบมาพากลอย่างไรในอดีต ซึ่งหากได้ข้อเท็จจริงแล้ว เมื่อรับผิดและรับผิดชอบ

กัน แล้วได้อานิสงส์จากการล้างโทษก็เป็นแนวทางที่เหมาะสมกว่า หาไม่แล้วอาจจะเป็นชนวนของความขัดแย้งและกล่าวโทษกันอย่างเลื่อนลอยต่อไปไม่ จบสิ้น ต่อไปในวันข้างหน้า

2.นักการ เมืองเองที่จะได้อานิสงส์ของกฎหมายฉบับนี้นั้นเหมาะสมหรือไม่กับสถานการณ์ อันเป็นห้วงที่จะช่วยให้ประชาชนพ้นผิดพร้อมๆ กันไปหรือ

ผม เข้าใจดีในความรู้สึกของหลายท่าน ที่ว่าร่างเดิมของคุณวรชัย เหมะ อาจมีจุดอ่อน เพราะมีผลในการเลือกปฏิบัติต่อคนบางกลุ่ม แต่ผมคิดว่าให้ดีก็น่าจะมีทางออกได้ไม่ยากลำบากนัก อยากให้ ส.ส.เก่งๆ รุ่นน้องในพรรคเพื่อไทยได้คิดให้รอบคอบถึงผลได้ผลเสียที่ตกแก่ประเทศและ ประชาชนโดยส่วนรวม ดังเช่นการพิจารณาใช้แนวทางที่ คุณชวลิต วิชยสุทธิ์ เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเสนอน่าสนใจ

การ ต่อต้านหรือชุมนุมที่ไม่อยู่ในความสงบและสันติอันมีสาเหตุมาจากเรื่องนี้ของ กลุ่มต่างๆ นั้น เป็นเรื่องที่ผมไม่ขอยุ่งเกี่ยวและไม่ขอรับทราบว่าใครเป็นใคร เท่าที่พูดมานี้ก็พูดด้วยความที่ไม่อยากให้เกิดการเผชิญหน้าขัดแย้งกันอย่าง รุนแรง จนบ้านเมืองพังพินาศไปต่อหน้าต่อตา ผมอยากขอร้องให้ ส.ส.รุ่นน้อง ในพรรคเพื่อไทย ได้หยุดพิจารณาคิดให้รอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจยกมือสนับสนุนหรือยกมือคัดค้าน โดยให้คำนึงถึงผลได้ผลเสียที่จะตกแก่ประเทศและประชาชนโดยส่วนรวมเป็นลำดับ แรก

หาก ทำได้เท่ากับว่าท่านได้เป็นผู้ที่สร้างบุญคุณต่อประเทศชาติและลูกหลานของเรา ให้สังคมทุเลาความขัดแย้งลงได้ และก็เป็นบุญของประเทศและพี่น้องประชาชนใหญ่หลวงที่ประชาชนจะแซ่ซ้อง สรรเสริญท่านอย่างจริงใจตลอดไป


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ปากคำ วรชัย ต้นร่างสุดซอย ล้างคดีทักษิณ ล็อกเป้าเชือด อภิสิทธิ์-สุเทพ

view