สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

จุดยืนทางการเมือง-เรื่องอ่อนไหวอาชีพคนดัง

จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...กองบรรณาธิการ

ด้วยลีลาวาจาเผ็ดร้อนบนเวทีชุมนุมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน ทำให้สาวเปรี้ยวหน้าหวานจากช่องหลายสี แตงโม–ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ได้รับความสนใจอย่างยิ่ง ไม่นานจากนั้นมีข่าวว่าเธอจะถูก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ฟ้องคดีหมิ่นประมาท ก่อนที่ทนายส่วนตัวของอดีตนายกรัฐมนตรีจะออกมาให้ข่าวภายหลังว่า เปลี่ยนใจไม่ฟ้อง เพราะเห็นว่าพูดไปเพราะสถานการณ์และขาดวุฒิภาวะ แตงโม ยังสร้างความฮือฮาอีกครั้ง ด้วยการโพสต์รูปและข้อความแสดงความคิดและจุดยืนทางการเมืองต่อ ซึ่งทำให้เกิดคำถามว่า ... เธอไม่เกรงกลัวอันตรายหรือผลกระทบอื่นๆ ในชีวิตและงานหรือ...?

เมื่อนักข่าวโทรศัพท์เพื่อสอบถามความคิดเห็นเรื่องนี้ แตงโม บอกว่า ของดพูดเรื่องนี้เพราะ “อยากเงียบชั่วคราว...” ขณะที่ผู้บริหารจากต้นสังกัดของแตงโมก็เปิดไฟว่า เรื่องนี้เป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลของนักแสดง และจุดยืนของดาราสาวต่อเรื่องนี้น่าจะชัดเจนอยู่ในบางประโยคที่เธอเคยเขียนในอินสตาแกรม @babymelony

“ถ้าการโพสต์ครั้งนี้มีผลกระทบต่องานและเพื่อนบางคนก็ยอมจะสละคนเหล่านั้นทิ้ง #ขอร่วมงานและมีเพื่อนที่กล้าแสดงตนว่ารักในหลวงรักประชาชนอย่างชัดเจน #ที่สำคัญต้องรู้จักแยกแยะระหว่างความคิดเห็นส่วนตัวกับมิตรภาพรวมถึงศักยภาพในการทำงานให้ออกค่ะ”

ส่วนแฟนหนุ่มของแตงโม คือ โตโน่ เดอะสตาร์ หรือ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ที่ขึ้นเวทีราชดำเนินด้วยกัน ก็โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรม mootono29 อย่างดุเดือด

“ผมมาในฐานะคนไทยคนนึง ผมไม่ได้อยู่พรรคไหนทั้งนั้น ไม่ได้อยู่สีไหนทั้งนั้น หลายคนห้ามผม และไม่อยากให้ผมขึ้น เพราะเป็นห่วง กลัวผมเสียผลประโยชน์ทางหน้าที่การงาน ผมก็ห่วงครับ แต่...มันมีสิ่งนึง ที่สู้กับความรู้สึกของตัวผมเองมาโดยตลอดว่า...ถ้าเราพากันถามหาวันที่ประเทศชาติจะสดใส พ่อแม่พี่น้องทุกคน อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข มีนายก มีพรรคการเมืองที่เข้ามาเสียสละ และอุ้มชูประเทศชาติ และส่วนรวมอย่างแท้จริง แต่ตัวเราเอง ยังนึกถึงแต่สิ่งที่ตัวเราจะต้องได้หรือจะต้องเสีย เมื่อไหร่กัน ที่บ้านเราจะมีวันนั้น :) วันนึงถ้าเราตายไป เราจะรู้สึกกับตัวเองยังไง

ผมมาแค่อยากจะบอกว่า ชีวิตของเราเอง หน้าที่การงาน ชื่อเสียงเงินทอง ความสุขสบายของครอบครัว เป็นสิ่งสำคัญที่ลูกผู้ชาย ต้องรับผิดชอบ แต่!!! หน้าที่ของความเป็นคนไทย ที่ต้องทำเพื่อส่วนรวม โดยไม่เกรงกลัวอำนาจอะไรทั้งนั้น เป็นสิ่งที่สำคัญกว่า แม้ว่า ต้องแลกด้วยชีวิตของตนเอง :)”

อีกหนึ่งดาวเด่นจากแวดวงบันเทิงที่ไปร่วมม็อบต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และแสดงจุดยืนการเมืองผ่านสื่ออย่างแรงสุดๆ คือ หมอก้อง–ร.ท.สรวิชญ์ สุบุญ นักแสดงในสังกัดช่อง 3 ซึ่งยืนยันว่าไม่เกรงผลกระทบซึ่งจะตามมา

“วันนี้ผมกล้าทำทุกอย่าง เพราะความหวาดกลัวของผมมันตายไปหมดแล้ว ไม่มีใครไม่กลัวหรอกครับ ผมเป็นทั้งทหาร เป็นทั้งนักแสดง ผมโดนทั้งสองด้านนะ แต่ผมไม่กลัวแล้ว เพราะผมมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นประธานอยู่เหนือหัว เป็นที่ยึดมั่น ผมสู้เพื่อท่าน ณ วันนี้ ผมไม่สามารถทิ้งทุกคนที่นี่ไปได้ แต่ละคนมาด้วยใจที่เทิดทูนชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ผมจะกลัวได้ไง ในเมื่อพวกเขาไม่กลัว ถามว่าผมกลัวตายไหม ตอนนี้ผมโดนคุกคามจากเวทีเสื้อแดง บอกให้หมายหัวมันไว้เลย ในม็อบนี้ก็มีพวกที่แฝงมา ผมเดินๆ อยู่เข้ามาประชิดตัวเลย ถามผมว่ามึงมาทำไม เจอแบบนี้มันน่ากลัวป่ะ แต่ความหวาดกลัวมันตายไปแล้ว เอาสิ มึงทำกูเลย ฆ่ากูให้ตายก็ได้นะ แต่ถ้าผมตายผมขอให้คนลุกขึ้นมาสู้เพิ่มขึ้นอีกเป็นสิบเท่า ให้เห็นว่าประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดินจริงๆ

ผมไม่สนเรื่องไม่มีงาน ผมโชคดีกว่านักแสดงหลายคน ผมไม่มีงานแสดงก็ได้ ผมเป็นหมอ ไม่มีใครเอาวิชาชีพนี้ไปจากตัวผมได้ ณ วันนี้ผมไม่มีงาน ผมเชื่อว่าผมก็ไม่อดตาย แม้ผมจะมีรายได้น้อยลงมากเท่าไหร่ก็ตาม ผมยังมีเพื่อนบ้าน มีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ที่คงพอเจียดข้าวให้ผม ผู้ใหญ่ในช่องไม่ว่า แค่เตือนเรื่องระวังตัวนะ เตือนด้วยความเป็นห่วง ผู้ใหญ่ในช่องรู้ว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล เป็นสิ่งที่เราแสดงความเห็นได้ ทุกวันนี้ผมเลิกงานกลับบ้านทำธุระเสร็จเมื่อไหร่ก็มา สี่ทุ่มก็มา เที่ยงคืนก็มา วันไหนมีงานเช้าผมก็กลับเร็ว ไปทำหน้าที่ข้าราชการ นักแสดง พอตอนกลางคืนผมมาทำหน้าที่ประชาชน ยังไงผมก็ต้องมา ผมคิดว่าเราอยู่เฉยๆ ให้คนอื่นออกมาไม่ได้ ทุกคนต้องออกมาสิ อย่างน้อยถ้าวันนี้ผมเป็นอะไรไป ผมก็ยังได้รู้สึกว่าผมได้ทำแล้ว”

แม้จะไม่เห็นปรากฏตัวที่ม็อบ แต่ ออดี้ธนะยศ จิวานนท์ ศิลปินเพลงร็อกและนักธุรกิจเจ้าของรีสอร์ทก็ได้โพสต์รูปสุดหวือหวาเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทางการเมืองบนอินสตาแกรมที่ถูกนำไปแชร์กันอย่างแพร่หลาย ตามมาด้วยฟีดแบ็กที่ประชิดตัว

“ปกติแล้วผมจะไม่ข้องแวะทางการเมือง แต่ด้วยความที่ผมโตต่างประเทศ ที่นั่นคนมักจะแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งผมมองว่าภาพที่เขาทำก็เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงการไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ความหมายที่สื่อในภาพนั้น ผมรู้สึกว่าไม่เหลืออะไรแล้ว ผมจึงสู้ตัวเปล่า แล้วก็ไม่คิดว่าจะเป็นภาพที่ดูน่าเกลียดอะไร ซึ่งภาพนั้นผมโพสต์ลงแค่ครั้งเดียวแล้วจบ ผมก็แสดงออกไปแล้วก็ปล่อยความคิดแล้ว

ไม่น่าเชื่อว่าภาพนั้นจะถูกโพสต์ต่อในโซเชียลมีเดียอย่างแพร่กระจาย ผมเองก็มารู้ทีหลังจากที่เพื่อนส่งมาให้ดู ฟีดแบ็กหลังจากรูปนี้ถูกแพร่กระจายออกไป ก็มีโทรศัพท์ขู่มาที่บ้าน ที่รีสอร์ท รวมทั้งข้อความข่มขู่ แต่ผมมองว่าไม่ได้รุนแรงอะไร เลยไม่ได้เก็บมาคิด ไม่ได้ตอบโต้กลับ

ผมเองก็โพสต์ในอินสตาแกรมแสดงทัศนคติต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแค่นั่น ไม่ได้ไปเข้าร่วมชุมนุม ซึ่งผมอยากให้การเมืองครั้งนี้เหมือนการเชียร์บอล ที่ระหว่างเกมการแข่งเราอยู่คนละฝ่าย ซึ่งอาจทำให้เพื่อนหลายคนเลิกคบ แต่หลังจากจบเหตุการณ์หรือจบการแข่งขัน มิตรภาพจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม”

อดีตนางเอกยอดนิยม จินตหรา สุขพัฒน์ (แหม่ม) บอกว่า เธอไปร่วมม็อบเพราะต้องการทราบความจริง ซึ่งไม่น่าจะเป็นเรื่องผิดและมีผลกระทบใดๆ กับชีวิต “ที่จริงแล้วไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ เพราะเราไม่ได้อยู่ฝ่ายไหนหรือสีไหนทั้งสิ้น แต่หลังจากชุมนุนวันนั้น ทำให้มีคนเข้าใจผิดว่าเป็นเสื้อเหลืง เป็นประชาธิปัตย์ บวกกับมีกระแสดาราเข้าร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก ก็ถูกกล่าวหาว่าดารานักแสดงถูกชักนำ ถูกซื้อตัวเข้าร่วมม็อบ อยากให้มองว่าดาราก็คือประชาชนคนหนึ่ง ไม่ได้ถูกชี้นำหรือชักจูงซื้อตัวเข้ามา

เราไปฟังเฉยๆ ในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่เข้าร่วมชุมนุม เพราะเราต้องการไปฟังข้อมูล ถ้าเราอยู่บ้านเฉยๆ เราก็จะไม่รู้ไม่เห็นความจริงที่เกิดขึ้น สุดท้ายขอยืนยันว่าแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยเข้าร่วมม็อบในลักษณะนี้เลย ที่ออกมาก็เพราะไม่อยากให้รัฐบาลใช้อำนาจในทางที่ผิด และยืนยันว่าแหม่มอยู่ข้างในหลวงเสมอ”

หยวน ดราก้อนไฟว์ หรือ นิธิชัย ยศอมรสุนทร ก็แรงไม่แพ้ใครเมื่ออยู่บนเวที “มีการกล่าวว่าจะมีการเช็กบิลดารา นักร้อง ที่มาเวทีประชาชนถนนราชดำเนิน ขอบอกเลยว่าไม่กลัว ดาราเขาออกมาทั้งประเทศแล้ว”

โปรดิวเซอร์ นักดนตรี และคอมเมนเตเตอร์รายการเดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาวอย่าง เพชร มาร์ อยากให้การแสดงออกทางความคิดเห็นเป็นสิทธิที่ทำได้ทุกคน “ไม่อยากให้แบ่งแยกว่าเป็นดารา นักแสดง นักดนตรี นักกีฬา หรือสถานะอาชีพใดๆ เลย แต่ทุกคนคือคนไทยเหมือนกัน มีสิทธิออกมาแสดงความคิดเห็น เมื่อเจอเรื่องที่ไม่ถูกต้อง

ถ้ามีโอกาสได้ขึ้นไปพูดบนเวที จะบอกให้ทุกคนรู้ว่าที่มีกระแสข่าวว่าดารานักร้อง คนดัง ถูกจ้างมาร่วมชุมนุมนั้น ไม่เป็นความจริง จะสาบานต่อหน้าประชาชนทุกคนในที่ชุมนุมเลยว่า ที่ผมมาครั้งนี้ ผมมาด้วยใจ”

นักร้องหนุ่มสุดเซอร์แห่งวงอพาร์ตเมนต์คุณป้า ตุลย์ ไวฑูรเกียรติ ผู้ขึ้นไปร่ายบทกวีสุดอินดี้ที่ม็อบ บอกว่า “คนดังก็เป็นคนปกติเช่นเดียวกับคนสาขาอาชีพอื่น เพียงแต่การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองในที่แจ้ง ย่อมได้รับการจับตามองเป็นธรรมดา

การเมืองมันเป็นเรื่องของการเชือดเฉือนทางวาทะ ไม่มีหรอกแบล็กลิสต์ เช่นเดียวกันกับศาลประชาชน คืออะไร ไม่มีหรอก พูดเอาสนุกสนาน เอามันปาก เป็นการเชือดเฉือนฝั่งตรงข้ามที่คิดต่างมากกว่า

ถามว่ายังจะไปม็อบต่อไหม ก็คงไป แต่ผมไม่อยากให้ม็อบเป็นอะไรที่ไร้กระบวนท่า ฟรีสไตล์ แกนนำควรมีเป้าหมายที่ชัดเจน เมื่อถึงเป้าหรือไม่ถึงเป้าที่วางไว้ แกนนำควรออกมาแถลงให้ชัดเจนว่าจะเอาอย่างไรต่อ ตอนแรกเริ่มจากคัดค้านกฎหมายนิรโทษ ตอนนี้มันเกินกว่านั้นแล้ว”

นักแสดงหนุ่ม เต๊ะศตวรรษ เศรษฐกร ยอมรับว่า เขาไปร่วมชุมนุมบ่อย วันเว้นวัน วันไหนว่างก็จะไป ซึ่งการไปร่วมชุมนุมครั้งนี้ ไม่ได้ไปเพราะฝักใฝ่ฝ่ายใด แต่ไปในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ.ดังกล่าว

“การไปร่วมชุมนุมหรือขึ้นเวทีปราศรัยของผม ไม่อิงกับพรรคการเมืองเลยครับ ฉะนั้นตัดเรื่องนี้ไปได้เลยครับ ถ้ารัฐบาลไหนทำแบบนี้ ผมก็ต้องออกมาคัดค้าน เพราะมันส่งผลกระทบต่อตัวผม ต่อให้คุณเป็นศิลปิน นักร้อง ดารา แม่บ้าน ยาม ชาวนา ผมว่าทุกคนมีสิทธิเท่ากัน แล้วก็ต้องทำในกรอบ ทำในกติกา ผมแค่เม็ดทรายเล็กๆ ครับ แค่หนึ่งเสียงครับ หนึ่งเสียงที่คิดว่าอะไรไม่เหมาะไม่ควร ก็ต้องทำเท่าที่ทำได้”

เมื่อถามถึงผลกระทบว่ารู้สึกหวั่นไหวว่างานหรือเงินจะหดหายไป เพราะการแสดงจุดยืนทางการเมืองไหม ศตวรรษ บอกสั้นๆ ว่า “ผมหวั่นอย่างเดียวครับ หวั่นว่าจะไม่มีประเทศอยู่”


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : จุดยืนทางการเมือง เรื่องอ่อนไหว อาชีพคนดัง

view