สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ระทึกกู้2ล้านล้าน-แก้ม-190โมฆะ

จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...ทีมข่าวการเมือง

พฤติกรรมอันมิชอบและขัดต่อหลักนิติธรรมตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย โดยเฉพาะประเด็นการใช้เสียงข้างมากข่มเหงเสียงข้างน้อย การตัดสิทธิผู้อภิปราย และผู้เสนอคำแปรญัตติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ในลักษณะ “รวบรัด-ปิดปาก-มัดมือชก”

กลายมาเป็นบรรทัดฐานและได้ถางทางไปสู่การพิจารณาคดีที่มีพฤติการณ์คล้ายคลึง

ผลพวงจากคำวินิจฉัยดังกล่าว สร้างแรงกระเพื่อมไปยังการยื่นตีความการแก้ไขรัฐธรรมนูญ “มาตรา 190” และการผลักดัน “พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท” โดยสส.พรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่ม 40 สว.

การแก้ไข รธน.มาตรา 190 และ ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ได้ผ่านการพิจารณาของรัฐสภาไปแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบที่มีการส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ

สำหรับสาระสำคัญในคำร้องแก้ร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ที่ วิรัตน์ กัลยาศิริ สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตามมาตรา 68 นั้น ระบุชัด

“การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมรัฐสภา เนื่องจากประธานรัฐสภาได้ปิดไม่ให้ สส.อภิปราย และพิจารณาลงมติในขณะที่องค์ประชุมไม่ครบ ซึ่งขัดต่อหลักการที่ถูกต้อง”

เบื้องต้น ศาลมีมติ 6 ต่อ 3 รับคำร้องไว้พิจารณา ด้วยเห็นว่าคำร้องดังกล่าวมีมูล โดยศาลให้เหตุผลว่าเป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 วรรคหนึ่ง

เข้าอีหรอบเดียวกัน

ส่วนคำร้องร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ซึ่ง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ สส. ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา

มีการแนบ “หลักฐาน” ประกอบคำร้องเป็นภาพเคลื่อนไหว (คลิป) สส.พรรคเพื่อไทย กดบัตรแสดงตนและลงคะแนนแทน สส.อื่น ซึ่งถือเป็นการตรากฎหมายที่ไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ

โดยศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยพฤติกรรมเดียวกันนี้|ไว้ในการวินิจฉัยประเด็น “ที่มาของ สว.” เมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่าการใช้อำนาจของสมาชิกรัฐสภา ลงคะแนนได้ครั้งละ 1 เสียงเท่านั้น ทำให้การลงคะแนนผิดไปจึงไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีหลักฐานเป็นภาพ|วีดิทัศน์ถึง 3 ตอนที่แสดงให้เห็นว่าเป็นการลงคะแนนแทนผู้อื่น จึงเห็นได้ว่าเป็นการกระทำที่ผิดปกติวิสัย และเป็นเรื่องที่แจ้งชัดว่ามีสมาชิกรัฐสภาหลายรายไม่ได้มาลงออกเสียงแต่ให้คนอื่นออกเสียงแทน

“การดำเนินการดังกล่าวถือเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญที่ต้องปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต และขัดต่อหลักการซื่อสัตย์สุจริตตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา จึงเป็นการออกเสียงที่ทุจริตไม่เป็นเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ไม่อาจถือเป็นมติที่ชอบโดยรัฐธรรมนูญ”

สำหรับสาระสำคัญของคำร้องที่มีต่อร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ประกอบด้วย 1.ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญมาตรา 169 โดยมาตรา 169 ระบุว่า ให้การจ่ายเงินแผ่นดินจะกระทำได้เฉพาะที่ได้อนุญาตไว้ในกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย กฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ กฎหมายเกี่ยวด้วยการโอนงบประมาณ และกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง เว้นแต่ในกรณีจำเป็นเร่งด้วยคณะรัฐมนตรีจะจ่ายไปก่อนก็ได้ แต่ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายบัญญัติ

นั่นหมายความว่า มาตรา 169 การจ่ายเงินแผ่นดินจะกระทำได้ก็เฉพาะที่อนุญาตไว้ในกฎหมาย 4 ประเภทข้างต้นเท่านั้น แต่ พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท กลับกำหนดให้สามารถจ่ายเงินแผ่นดินโดยอำนาจของ พ.ร.บ.ฉบับนี้ ได้โดยตรง

2.ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญมารา 66 และ 67 ว่าด้วยสิทธิชุมชน โดยคำร้องระบุว่า แผนงานที่กำหนดไว้ในบัญชีท้ายร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการดำเนินโครงการที่สร้างผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

3.ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญมาตรา 57 เนื่องจากมาตรา 57 รับรองสิทธิของบุคคลในการได้รับข้อมูล คำชี้แจง และเหตุผลจากหน่วยงานราชการหน่วยงานรัฐ แต่ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท กลับกำหนดโครงการไว้อย่างกว้างๆ โดยไม่มีการระบุรายละเอียดในการดำเนินการที่ชัดเจนอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงข้อมูล คำชี้แจงและเหตุผลจากรัฐ และไม่สามารถแสดงความคิดเห็นต่อโครงการได้

4.ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญมาตรา 3 ที่กำหนดไว้ว่าการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล รวมทั้งองค์กรตามรัฐธรรมนูญและหน่วยงานของรัฐ ต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม

ด้าน กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ระบุว่า ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ได้ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนอีกเล็กน้อยที่จะทำให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ อย่างไรก็ดีแม้ว่ารัฐบาลจะมั่นใจว่าการออกกฎหมายถูกต้องตามขั้นตอน ทั้งในส่วนของ สส.และ สว. ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว แต่ก็ต้องรอดูศาลรัฐธรรมนูญเช่นกัน อาจจะล่าช้าและกระทบต่อแผนการลงทุนบ้าง แต่ก็ไม่เป็นไร


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ระทึก กู้2ล้านล้าน แก้ม 190โมฆะ

view