สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ปชป.โชว์หลักฐานมัด รัฐบาลปู จ้างเอกชนล็อบบี้มะกันตั้งฐานทัพในไทย

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์


เอกสาร ที่ระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศของไทย โดยนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีฯ ได้ว่าจ้างบริษัท Davenport Mckesson Corporation เพื่อทำการล็อบบี้ให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เห็นชอบการเข้ามาตั้งฐานทัพอากาศนาวี(Naval Air Defense Base)ในไทย (จากเว็บไซต์กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ http://www.fara.gov/docs/6199-Exhibit-AB-20131122-1.pdf)

โฆษก ปชป. งัดหลักฐานมัด “รัฐบาลปู” จ้างบริษัทเอกชนล็อบบี้สหรัฐฯ ให้มาตั้งฐานทัพเรือในไทย ชี้นอกจากจะกระทำการขัดรัฐธรรมนูญแล้ว ยังใช้อำนาจที่มีอยู่เอาอธิปไตยของไทยไปเร่ให้ต่างชาติอย่างน่าละอาย และยังจะชักศึกเข้าบ้านอีก เตรียมให้ฝ่ายกฎหมายพรรคดำเนินการ “องอาจ” เฉ่งรัฐบาลไม่จริงใจ แค่ปาหี่ปฏิรูปประเทศ
       
       นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีกระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกมาแถลงปฏิเสธข่าวที่ระบุว่า รัฐบาลไทยได้ว่าจ้างบริษัท ดาเวนพอร์ต แมคเคสสัน ให้ล็อบบี้สมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐฯ เพื่อให้สร้างฐานทัพเรือของสหรัฐฯ และศูนย์การจำหน่ายสินค้าในประเทศไทยว่า ตนได้หลักฐานมาจากเว็บไซต์กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ที่ได้เผยแพร่เอกสารของบริษัทดังกล่าว ที่ระบุยืนยันว่า บริษัท แมคเคสสัน ได้รับการว่าจ้างจากไทย เป็นเงินเบื้องต้น 2 หมื่นเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยราว 6 แสนบาท ให้ทำหน้าที่วิ่งล็อบบี้ ในสภาสูงของสหรัฐฯ เพื่อขอให้ดำเนินการสร้างฐานทัพเรือ
       
       ทั้งนี้ เอกสาระบุอ้างว่า ประเทศไทยต้องการให้สหรัฐฯ เข้ามาสร้างฐานทัพเรือเพื่อสร้างสันติภาพในภูมิภาคอาเซียน และทะเลจีนใต้ ซึ่งไม่ว่าเรื่องนี้จะจริงหรือไม่ ก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะถ้าจริง เท่ากับรัฐบาลไทยดำเนินการลับหลัง มุบมิบ เอาอธิปไตยของชาติไปเร่ให้ต่างชาติมาตั้งฐานทัพในไทย ซึ่งผิด และขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 190 เพราะเรื่องใหญ่เช่นนี้ ต้องเอาเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา การจะยกอธิปไตยส่วนหนึ่งเพื่อใช้ตั้งฐานทัพเรือสหรัฐฯ จะทำให้ไทยเกิดปัญหาเรื่องความสัมพันธ์จีน และสหรัฐฯ แน่นอน เพราะทั้ง 2 ชาติมหาอำนาจกำลังแผ่ขยายอิทธิพลในแถบทะเลจีนใต้ และส่งผลต่อดุลยภาพ และสันติภาพของภูมิภาคนี้
       
       โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ถ้ากรณีนี้ไม่เป็นความจริง จากเหตุที่บริษัทดังกล่าวแอบอ้างหรือไม่มีตัวตนจริง ประเทศไทยในฐานะผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบต่อการกระทำนี้ โดยนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ จะต้องทำหนังสือประท้วงทางการสหรัฐฯ และกระทรวงยุติธรรม สหรัฐฯ เพื่อให้ยุติการเผยแพร่ข่าวสารเท็จนี้ และต้องแจ้งความเอาผิดต่อบริษัทดังกล่าว ที่ทำให้ประเทศไทยเสียหาย ที่สำคัญสุ่มเสี่ยงต่อดุลยภาพ และสันติภาพของภูมิภาคทะเลจีนใต้ ที่อ้างชื่อไทยเป็นตัวเชื่อม พร้อมกันนั้น ต้องออกหนังสือเชิญเอกอัครราชทูตของกลุ่มอาเซียน ประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงจีน และสหรัฐฯ มารับฟังชี้แจง
       
       แต่หากกรณีนี้เป็นเรื่องจริง พรรคได้ให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการต่อรัฐบาลนี้ กระทรวง และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพราะผิด ม.190 ชัดเจน และขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี และนายสุรพงษ์ ยุติการทัวร์แอ่วเหนือ กลับมาทำหน้าที่รักษาการ ทำหน้าที่รักษาประโยชน์ของชาติ ดีกว่านั่งในตำแหน่ง โดยไร้ประโยชน์
       
       นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ อดีตประธาน ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลมอบหมายให้ นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ดำเนินการจัดเวทีปฏิรูปเพื่อหาทางออกให้ประเทศ ซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (15 ธ.ค.) ว่า หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ยังยืนกรานที่จะยึดแนวทางของรัฐบาลเพียงอย่างเดียว หลังจากรัฐบาลนี้ลุอำนาจที่จะออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ล้างผิดคนโกง จนเป็นที่มาของการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมือง ปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง แม้นายกฯ จะยุบสภา เพื่อต้องการฟอกตัว ฟอกเท็จ จากสิ่งทำเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง เพราะเชื่อมั่นว่าจะหวนกลับสู่อำนาจได้อีกครั้ง โดยใช้กลไกในระบอบประชาธิปไตย ผ่านการเลือกตั้ง ก็เป็นเพียงการซื้อเวลาที่รอการระเบิดจริง
       
       นายองอาจ กล่าวว่า การที่นายกฯ ระบุว่าจะเอาอะไรก็เอา ขอให้บอกมา พร้อมเปิดเวทีหาทางออก ในวันที่ 15 ธ.ค. แต่ตัวเองกลับไม่แสดงความจริงใจเข้าร่วม ก็เป็นพฤติกรรมที่ชี้ชัดว่า ใส่ใจแค่การรับฟัง แต่ไม่ได้นำไปปฏิบัติในทิศทางที่ปฏิบัติได้จริง จึงเป็นเพียงการสร้างภาพผ่านสื่อฯ ที่ไม่มีความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหา ไม่จ้องปฏิรูปบ้านเมือง แต่เดินหน้าสู่การเลือกตั้งเท่านั้น ทั้งที่องค์กรภาคธุรกิจ ภาคเอกชน คณาจารย์ในวงการศึกษา ผู้รู้ และประชาชนเจ้าของประเทศ ต่างต้องการให้มีการปฏิรูปประเทศก่อน
       
       ดังนั้น การจัดเวทีของรัฐบาล วันที่ 15 ธ.ค.นี้ จึงเป็นเพียงการปาหี่รอบใหม่ หลังจากที่จัดปาหี่มารอบหนึ่งแล้ว ในคณะกรรมการที่มี นายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นประธานสภาปฏิรูป ที่วันนี้กลายเป็นเพียงคลื่นกระทบฝั่ง โดยไร้บทสรุปใดๆ ทั้งหมดจึงเป็นเหตุผลที่พรรคประชาธิปัตย์ ไม่เข้าร่วม เพราะไม่ต้องการเป็นตรายางประทับความชอบธรรมให้รัฐบาลเท่านั้น
       
       นายองอาจ ยืนยันว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า เราได้เสนอแนวทางการปฏิรูปมาอย่างต่อเนื่อง และปัจจุบันยังเสนออยู่ แต่ในทางตรงข้ามรัฐบาลพยายามสร้างภาพในการปฏิรูป ทั้งๆ ที่อันที่จริงมีโอกาส ทำได้มากกว่าภาคส่วนอื่น แต่รัฐบาลกลับไม่เอาจริงเอาจัง ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา วันนี้ รัฐบาลกลับจะมาพูดเรื่องปฏิรูป จึงทำให้ประชาชนแสดงออกถึงความไม่เชื่อใจที่จะเข้าร่วมกับรัฐบาล


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ปชป. โชว์หลักฐานมัด รัฐบาลปู จ้างเอกชน ล็อบบี้มะกัน ตั้งฐานทัพในไทย

view