สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

แนวโน้มราคาทองคำปี 2557 ลงจนต่ำสุด แล้วจะเริ่มฟื้นตัว

จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์ สถานีลงทุน

โดย ธนรัชต์ พสวงศ์ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด


ในปี 2556 ทองคำเริ่มเป็นขาลงและให้ผลตอบแทนติดลบ 28% หลังจากที่ราคาทองคำเป็นสินทรัพย์เดียวที่เป็นขาขึ้นและให้ผลตอบแทนเป็นบวกติดต่อกันยาวนานถึง 12 ปี โดยให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 17% ส่วนราคาทองแท่งในประเทศปี 2556 ให้ผลตอบแทนติดลบ 22% เนื่องจากค่าเงินบาทปี 2556 ที่อ่อนค่าลง 7% สาเหตุจากเงินจากต่างประเทศที่ไหลออกจากตลาดหุ้น การขาดดุลบัญชีเดินสะพัด และปัญหาการเมืองในประเทศ



ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องและลงไปต่ำสุดที่ 1,180 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน เนื่องจากข่าวนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐที่จะถอนมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เป็นปัจจัยหลักที่กดดันต่อราคาทองคำ หลังจากที่ก่อนหน้านั้นเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนราคาทองคำ

โดยประธานธนาคารกลางสหรัฐเริ่มส่งสัญญาณเป็นครั้งแรกที่จะถอนมาตรการ QE ในการแถลงต่อสภาคองเกรสเดือนพฤษภาคม ตามมาด้วยการแถลงหลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐในเดือนมิถุนายนที่เปิดเผยว่า อาจพิจารณาเริ่มลดปริมาณวงเงินในการซื้อสินทรัพย์ในช่วงปลายปี 2556 ทำให้มีแรงเทขายทองคำออกมาอย่างหนักในช่วงไตรมาส 2 ซึ่งการประชุมธนาคารกลางสหรัฐครั้งสุดท้ายของปีในเดือนธันวาคมได้มีมติลดปริมาณวงเงินในการซื้อสินทรัพย์ลง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน จาก 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน เหลือ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน

ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีแนวโน้มแข็งแกร่งขึ้น วิกฤตหนี้ในยุโรปที่คลี่คลายลงทำให้เงินไหลเข้าตลาดหุ้นและเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ส่งผลให้ความต้องการทองคำเพื่อการลงทุนลดลงถึง 50% ขณะที่กองทุนอีทีเอฟทองคำเป็นตัวสะท้อนความต้องการทองคำจากนักลงทุนสถาบัน ส่วนความต้องการทองแท่งสะท้อนถึงความต้องการทองคำจากนักลงทุนรายย่อยทั่วไปแล้วในปี 2556 ความต้องการทองคำของทั้ง 2 กลุ่มสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง

ขณะที่กองทุนอีทีเอฟทองคำมีการขายทองคำอย่างหนักกว่า 800 ตัน ซึ่งกองทุน SPDR Gold Trust ขายออกมาราว 550 ตัน หรือ 40% สวนทางกับความต้องการทองแท่งที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งถึง 36% ในช่วง 9 เดือนของปี 2556 แต่คิดเป็นปริมาณ 333 ตัน แรงซื้อทองแท่งไม่ได้มากเพียงพอต้านทานแรงเทขายอย่างหนักจากกองทุนอีทีเอฟทองคำได้

สำหรับราคาทองคำเปิดตลาดปีใหม่ปี 2557 ค่อนข้างสดใสโดยปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ว่ายังเป็นแรงซื้อทองแท่งในแถบเอเชียที่แข็งแกร่งก่อนเทศกาลตรุษจีนในช่วงปลายเดือนมกราคม เพื่อเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองและเป็นของขวัญเตรียมไว้ให้ในเทศกาลตรุษจีน หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวลงมามากและค่อนข้างถูก รวมทั้งเริ่มมีการโยกย้ายเงินทุนไปลงทุนในทองคำมากขึ้นและเริ่มมีแรงเทขายในตลาดหุ้น หลังจากปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นค่อนข้างมาก โดยดัชนีนิกเคอิปรับตัวขึ้นโดดเด่นที่สุดโดยให้ผลตอบแทนสูงถึง 52% นอกจากนี้กองทุนสินค้าโภคภัณฑ์ได้มีการถ่วงน้ำหนักมายังทองคำมากขึ้นด้วย

ส่วนประเด็นที่ธนาคารกลางสหรัฐจะเริ่มมีการปรับลดวงเงินมาตรการ QE ในเดือนมกราคมเป็นประเด็นที่กดดันต่อราคาทองคำ แต่คาดการณ์ว่าราคาทองคำตอบรับในประเด็นดังกล่าวไปพอสมควร ซึ่งการประชุมธนาคารกลางสหรัฐในปีนี้มีทั้งหมด 8 ครั้ง คาดการณ์ว่าจะมีการทยอยปรับลดวงเงินมาตรการ QE และจะถอนมาตรการ QE ทั้งหมดในช่วงปลายปีนี้

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐยังมีผลให้ราคาทองคำผันผวนได้ ในปีนี้จึงคาดว่าจะยังเห็นแรงเทขายกองทุนอีทีเอฟทองคำอย่างต่อเนื่อง แต่คงมีปริมาณที่ลดลงกว่าปี 2556 หลังจากกองทุนของโซรอสได้ขายกองทุน SPDR Gold Trust หมดเกลี้ยงตั้งแต่ไตรมาส 2 ปีที่แล้ว ส่วนกองทุนของพอลสันที่ถือหุ้นรายใหญ่สุดในกองทุน SPDR ยังไม่ได้เริ่มกลับเข้าซื้อ เนื่องจากยังมองว่าอัตราเงินเฟ้อยังไม่เพิ่มขึ้น

แนวโน้มราคาทองคำในปี 2557 คาดยังเป็นขาลงและลงไปต่ำสุดภายในไตรมาส 2ดังนั้นน่าจะเป็นโอกาสของนักลงทุนที่ได้ซื้อทองคำราคาถูกในปีนี้ หลังจากนั้นคาดว่าราคาทองคำจะเริ่มฟื้นตัวและเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway กรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำปีนี้น่าจะอยู่ในช่วง 1,100-1,400 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : แนวโน้มราคาทองคำ ปี 2557 ลงจนต่ำสุด เริ่มฟื้นตัว

view