สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ตะลึง! พบคลังแสงในตึกร้าง ถ.บรรทัดทอง-ผบช.สพฐ.ตร.ยันอาวุธปืนที่พบเป็นปืนบีบีกัน

ตะลึง! พบคลังแสงในตึกร้าง ถ.บรรทัดทอง-ผบช.สพฐ.ตร.ยันอาวุธปืนที่พบเป็นปืนบีบีกัน

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

ตะลึง! พบคลังแสงในตึกร้าง ถ.บรรทัดทอง ภายหลังคนร้ายลอบปาระเบิดใส่ผู้ชุมนุม กปปส.ที่บริเวณ ถ.บรรทัดทอง ด้าน ผบช.สพฐ.ตร.ยันอาวุธปืนที่พบเป็นปืนบีบีกัน ชี้รู้แล้วเจ้าของเป็นใคร รอเรียกมาสอบ เผยอาคารดังกล่าว จุฬาฯไว้ให้ รปภ.พักขณะทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ให้เช่าเดิม
      วันนี้ (17 ม.ค.) หลังเกิดเหตุการณ์คนร้ายลอบปาระเบิดสังหาร ใส่กลุ่มผู้ชุมนม กปปส.ที่กำลังเคลื่อนขบวนไปรอรับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ที่บริเวณถนนบรรทัดทอง เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 36 รายนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นอาคารร้างใน บริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะเขวี้ยงระเบิดมาจากอาคารหลังดังกล่าว ซึ่งภายหลังเข้าตรวจค้นได้พบอาวุธปืนและอาวุธต่างๆ จำนวนมาก แต่ไม่พบผู้ต้องสงสัย หรือคนร้ายที่ก่อเหตุอยู่ในบริเวณดังกล่าวแต่อย่างใด
       
       ต่อมาเวลา 18.10 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ศอ.รส.กล่าวถึงเหตุการณ์คนร้ายปาระเบิดใส่ขบวนของกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ที่ถนนบรรทัดทอง ว่า ล่าสุดกลุ่มผู้ชุมนุมยินยอมให้ตำรวจเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว โดยมี พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (ผบช.สพฐ.ตร.) พล.ต.ต.วัลลภ ประทุมเมือง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 (ผบก.น.6) เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง เข้าไปร่วมตรวจสอบ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าอาวุธปืนที่พบทั้งหมดเป็นเพียงสิ่งเทียมอาวุธปืน หรือ บีบีกัน ซึ่งหลังเมื่อตำรวจไปถึงพบว่ามีการเคลื่อนย้ายพยานหลักฐานลงมาด้านล่าง ขณะเดียวกัน พบว่าผู้ชุมนุมไปหยิบจับพยานหลักฐาน แต่เจ้าหน้าที่ พฐ.มีกระบวนการในการตรวจสอบได้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้สั่งการให้มีการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีอย่างโปร่งใส และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
       
       ส่วนที่มีการระบุว่าตำรวจปล่อยปละละเลยไม่ดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ ชุมนุมนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ในการเคลื่อนขบวนของกลุ่มผู้ชุมนุมแต่ละครั้ง ตำรวจจะมีการวางแผนการรักษาความปลอดภัย รวมทั้งอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ซึ่งตำรวจจะมีระยะห่างในการติดตาม แต่ปรากฏว่าการเคลื่อนขบวนในช่วงเช้าที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการเปลี่ยนเส้นทางกะทันหัน โดยไม่ได้มีการประสานงานกับตำรวจ ประกอบกับเส้นทางดังกล่าวไม่มีการวางกำลังไว้เพราะไม่ใช่พื้นที่ชุมนุม และมีสถานที่สำคัญตั้งอยู่ จึงอยากขอร้องไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมให้ประสานงานกับตำรวจก่อนที่จะมีการ เคลื่อนขบวน เพื่อที่ตำรวจจะสามารถวางแผนในการรักษาความปลอดภัย รวมทั้งอำนวยความสะดวกด้านการจราจร
       
       พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้นำเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ แต่พบว่ามีมวลชนที่ยังคงมีอารมณ์ จึงถูกผลักดันไม่ให้เข้าพื้นที่ ตนจึงได้นำคณะไปรอที่ สน.ปทุมวัน ระหว่างนั้น นายเชน เทือกสุบรรณ ได้ขึ้นไปนำของกลางที่พบในห้องลงมาแถลงข่าว โดยมี พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรือ EOD ร่วมสังเกตการณ์ก่อนที่มีการส่งมอบพยานหลักฐานทั้งหมดให้กับพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ระหว่างนั้นให้ตรวจสอบพยานหลักฐานที่พบทั้งหมด พานท้ายปืน 4 อัน ประกับรองปืน 3 อัน ลำกล้อง 3 ชิ้น ด้ามจับ 3 ชิ้น แม็กกาซีน 2 อัน ขาตั้งยิง 2 ขา กล่องส่องยิง 1 อัน โดยทั้งหมดเป็นสิ่งเทียมอาวุธปืน หรือปืนบีบีกัน แต่ชิ้นส่วนสำคัญ คือ ชุดลั่นไกหายไปทำให้ใช้ยิงไม่ได้ แต่แม้ว่ามีชุดลั่นไกก็ใช้ยิงได้ เพียงกระสุนปืนบีบีกันเท่านั้น ใช้กับกระสุนจริงไม่ได้ นอกจากนี้ยังพบมีด 4 ด้าม แยกเป็นดาบยาว 2 ด้าม มีดเดินป่า 1 ด้าม และสิ่ว 1 ด้าม ขณะเดียวกันยังพบวิทยุสื่อสื่อสาร 3 เครื่อง
       
       ผบช.สพฐ.ตร.กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่าห้องดังกล่าวเป็นที่พักของ รปภ.ซึ่งทางจุฬาลงกรณ์จ้างมาดูแลพื้นที่ในช่วงระหว่างที่มีการไล่ที่ ซึ่งขณะนี้ทราบแล้วว่าเป็นใคร อยู่ระหว่างติดตามตัวของตำรวจ สน.ปทุมวัน


พบอาวุธอื้อในตึกร้าง ถ.บรรทัดทอง

เจ้าหน้าที่ทหารเข้าตรวจสอบอาคารร้าง 3 ชั้น ย่านบรรทัดทอง พบอาวุธเพียบ-วิทยุสื่อสาร หมวกแก๊ปสีแดง เขียน "หน่วยปฏิบัติการณ์จู่โจม"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเหตุคนร้ายขว้างระเบิดเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. จนทำให้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 28 ราย เหตุเกิดบริเวณ ถ.บรรทัดทอง แยกเจริญผล นั้น ล่าสุดกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร ได้เข้าทำการตรวจสอบอาคารร้าง 3 ชั้น โดยพบว่า ภายในห้องในตึกดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบอาวุธจำนวนหนึ่งในถุง มีหลายกระบอก หมวกแก็ปสีแดงเขียนว่าหน่วยปฏิบัติการจู่โจม

ป้าย police มีมีดหลายเล่ม มีอุปกรณ์ในการดำรงชีพ เสื้อผ้า อุปกรร์ของใช้ในห้องน้ำ ผ้าเช็ดตัว ไม้แขวนเสื้อ มีไฟฟ้า น้ำประปาใช้ได้ ซึ่งก่อนหน้าที่มีการพบวิทยุสื่อสาร (ว.) 4 ตัว คาดว่าจะเป็นชายอาศัยอยู่หลายคน หลายวัน


“อดุลย์” ชี้ระเบิดลูกเกลี้ยงบึมบรรทัดทองสั่งตรวจสอบ

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม

ผบ.ตร.สั่งตรวจสอบกรณีคนร้ายลอบปาระเบิดใส่ผู้ชุมนุม กปปส.ที่ถนนบรรทัดทอง ด้าน “จรัมพร” เผยกระเดื่องระเบิดที่อ้างพบในที่เกิดเหตุ คาด RGD-5 จากจีน - เอฟ 1 ของรัสเซีย รอตรวจพิสูจน์อักษรบนกระเดื่องให้แน่ชัด
         วันนี้ (17 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุระเบิดขบวนของ กปปส.บริเวณถนนบรรทัดทอง ว่า ขณะนี้รับรายงานเบื้องต้นจากพล.ต.ต.วัลลภ ปทุมเมือง ผบก.น.6 ว่า เบื้องต้นพบว่าเป็นระเบิดลูกเกลี้ยง โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าชนิดระเบิดที่แน่ชัด เบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บ 28 คน
       
       ส่วนกรณีตรวจสอบพบอาวุธปืน อุปกรณ์หลายชนิดในอาคารร้างใกล้จุดเกิดเหตุนั้น ผบ.ตร.กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารอยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยตำรวจยังไม่สามารถเข้าร่วมตรวจสอบได้ในพื้นที่ได้ในตอนนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ยอมรับว่าห่วงว่าสถานการณ์การชุมนุมที่พยายาม ยกระดับสู่ความรุนแรงขึ้น ได้กำชับฝ่ายสืบสวนให้ช่วยดูแลมือที่ 3 ที่จะมาสร้างสถานการณ์ ซึ่งที่ผ่านมาจับตามาตลอด และเพิ่มความเข้มป้องกันตั้งด่านตรวจค้นมากขึ้น
       
       เมื่อถามว่า ในระยะนี้มีการใช้อาวุธหนักก่อเหตุ มีการประเมินหรือไม่ว่ากลุ่มใดที่มีศักยภาพทำได้เช่นนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
       
       เมื่อถามว่าเป็นฝีมือของกลุ่มคนมีสีหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ขอตรวจสอบก่อน
       
       ด้าน พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา (สบ10) กล่าวว่า ดูจากภาพกระเดื่องที่อ้างว่าพบในที่เกิดเหตุ สันนิษฐานเบื้องต้นเป็นระเบิดชนิดขว้าง เอฟ 1 ของประเทศรัสเซีย หรืออาจเป็นระเบิด อาร์จีดี 5 ของประเทศจีน ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องตรวจสอบที่กระเดื่อง ดูอักษรที่เขียนว่าเป็นภาษาใด ตรวจดูอย่างละเอียดอีกครั้งจึงจะชี้ชัดได้ ทั้งนี้หากเป็นระเบิดตามที่สันนิษฐานจะมีรัศมีทำลายล้างประมาณ 15 เมตร


ผบ.ตร.แจงนายกฯเหตุบึ้มม็อบเดินนอกเส้นทาง

"ผบ.ตร."รายงานเหตุบึ้มขบวนสุเทพให้นายกฯทราบ ระบุกปปส.เดินนอกเส้นทางที่แจ้งตำรวจไว้ ลั่นทำคดีเต็มที่ ปัดเป็นฝีมือตำรวจ

ที่สำนักปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ได้เดินทางเข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โดยกล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า มารายงานเหตุระเบิดที่บริเวณถนนบรรทัดทอง ระหว่างที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาฯกปปส. นำมวลชนเคลื่อนขบวนผ่าน

ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์ภายหลังรายงานเหตุระเบิดกับนายกฯซึ่งใช้เวลารายงานเพียง 10 นาทีว่า จุดที่มีการระเบิดเป็นลักษณะคล้ายลูกเกลี้ยงและเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ และจุดที่เดินผ่านถนนบรรทัดทองอยู่นอกแผนที่กปปส.แจ้งเส้นทางไว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปดูแลได้ จุดที่สองคือสถานที่ที่มีการพบอาวุธได้รับรายงานจากทหารแต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้เช่นกัน ขอให้ประชาชนเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปพิสูจน์ทราบ และยืนยันว่าจะทำคดีนี้อย่างเต็มที่ขอให้ประชาชนเชื่อมั่น โดยนายกรัฐมนตรีได้ย้ำเรื่องการดูแลเกี่ยวกับคดี ให้ทำอย่างเต็มที่

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่เหตุการณ์จะบานปลาย ผบ.ตร. กล่าวว่า ขอดูเหตุการณ์ก่อน ยืนยันว่าตำรวจไม่เกี่ยวข้องแน่นอน เพราะเจ้าหน้าที่ต้องทำหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชนเพื่อให้ปลอดภัยและต้องบังคับใช้กฎหมาย สิ่งที่ตนห่วงใยมากที่สุดคือมักมีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์อยู่เสมอ ที่มาก่อเหตุจึงต้องมีมาตรการตั้งจุดตรวจค้นอาวุธ และเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้นในช่วงหลังนี้ ที่มีการพบอาวุธ ระเบิด ปืน

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่เกิดขึ้นแสดงว่าเป็นฝีมือกลุ่มมือที่สามใช่หรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ต้องขอใช้เวลาพิสูจน์ เบื้องต้นมอบหมายให้พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบ.ชน.) และพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. ไปตรวจสอบ ส่วนที่กลุ่มกปปส.นำโดยนายชุมพล จุมใส แกนนำกปปส. ประกาศจะยึดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)ให้ได้ในวันพรุ่งนี้(18ม.ค.)นั้น เมื่อเป็นพื้นที่ของรัฐก็ต้องดูแล ยอมรับว่าเหตุการณ์หลังจากนี้ก็น่าเป็นห่วง

เมื่อถามว่าห่วงหรือไม่ว่าเหตุการณ์ในวันนี้จะเชื่อมโยงกับวันกองทัพไทยในวันที่ 18 ม.ค. ซึ่งผบ.ตร.ปฏิเสธที่จะตอบคำถามและกลับขึ้นไปยังห้องประชุมบนอาคารสำนักปลัดกระทรวงกลาโหมอีกครั้ง


พฐ.ตรวจบึ้มที่ ถ.บรรทัดทอง พบกระเดื่องระเบิดชนิด RGD -5 ผลิตในจีน อานุภาพทำลายรัศมี 6 เมตร

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม

      เกิดเหตุคนร้ายลอบปาระเบิดใส่ผู้ชุนุมที่ถนนบรรทัดทอง ก่อนหลบหนี เบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บ 36 ราย กู้ภัยเร่งนำส่ง รพ. ด้าน พฐ.พร้อมทหารเข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ พบสลักระเบิด คาดเป็นระเบิดสังหารชนิดเขวี้ยง RGD - 5 ที่ผลิตในประเทศจีน ชี้เป็นชนิดเดียวกับกรณี สน.บางนา รวบแก๊งพกระเบิดได้เมื่อหลายวันก่อนกำลังเร่งตรวจสอบว่าเชื่อมโยงกันหรือไม่
         วันนี้ (17 ม.ค.) เมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายว่าได้เกิดเหตุคนร้ายลอบปาระเบิดที่บริเวณถนนบรรทัดทอง ใส่ผู้ชุมนุม ส่งผลให้เบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บแล้ว 20 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งนำส่งโรงพยาบาล
       
       รายงานข่าวแจ้งว่า ขบวน กปปส.ที่นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ถูกคนลอบโยนวัตถุคล้ายระเบิดใส่บริเวณถนนบรรทัดทอง มีผู้บาดเจ็บหลายราย
       
       เวลา 13.00 น. มีเสียงดังคล้ายระเบิด ขณะขบวนนายสุเทพ นำมวลชนเวทีสวนลุมเคลื่อนผ่านซอยจุฬา 12
       
       เวลา 13.11 น. กปปส.ถูกลอบทำร้ายด้วยระเบิด บริเวณถนนบรรทัดทอง ช่วงนาทีนั้นพบมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 คน แต่ไม่สาหัสมากถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ขณะเดียวกัน มวลชนกลุ่ม กปปส.เห็นคนโยนระเบิดอยู่บนตึก ถ.บรรทัดทอง
       
       เวลา 13.16 น. หนึ่งในกลุ่มผู้บาดเจ็บประมาณ 6-7 คน บาดเจ็บจากคนร้ายปาระเบิดใส่ก่อนถึงแยกเจริญผล
       
       ล่าสุด เมื่อเวลา 13.30 น. ศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร รายงานว่า เหตุระเบิดที่ถนนบรรทัดทอง ระหว่างที่หัวขบวนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.มาตั้งแถวรอขบวนของนายสุเทพ ขณะนี้มีผู้บาดเจ็บรวม 20 ราย นำส่ง รพ.รามาธิบดี 9 ราย, รพ.หัวเฉียว 8 ราย, รพ.กลาง 2 ราย และ รพ.จุฬาลงกรณ์ 1 ราย
       
       ต่อมาเวลา 14.15 น. ศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร รายงานว่ามีผู้บาดเจ็บเบื้องต้นเพิ่มเป็น 28 ราย โดยรักษาที่ รพ.รามาธิบดี 15 ราย, รพ.หัวเฉียว 8 ราย, รพ.กลาง 3 ราย และ รพ.จุฬาลงกรณ์ 2 ราย
       
       ต่อมาเวลา 15.00 น.เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (สพฐ.) แลหน่วยทหาร ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ พบกระเดื่อง ระเบิดแสวงเครื่อง ชนิด RGD.5 ซึ่งผลิตในประเทศจีน และสามารถหาซื้อได้ตามแนวตะเข็บชายแดน และสะเก็ดระเบิดจำนวนมาก โดยระเบิด RGD-5 ที่ผลิตในประเทศจีนมีอานุภาพทำลายในรัศมี 6 เมตร แตกต่างจากระเบิด RGD-5 ที่ผลิตในรัสเซีย ที่จะมีอานุภาพทำลายล้างในรัศมี 30 เมตร
       
       นอกจากนี้รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าระเบิด RGD - 5 เป็นระเบิดชนิดเดียวกับที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางนา สามารถจับกุมแก๊งพกระเบิดได้เมื่อหลายวันก่อน ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างระหว่างตรวจสอบว่าเชื่อมโยงกับกลุ่มดังกล่าวหรือไม่
       
       ล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานรายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด บริเวณถนนบรรทัดทอง มีทั้งหมด 36 ราย ดังต่อไปนี้
       
       รายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บที่รักษาพยาบาลอยู่ที่ รพ.รามาธิบดี จำนวน 12 ราย
       
       1.นายยะฤทธิ์ ทุ่งสว่าง
       2.นายสมพงษ์ แก้วยศ
       3.น.ส.อมรรัตน์ วงศ์ฤทธิ์
       4.นายเดชา สิงห์ศักดิ์ตระกูล
       5.นายสมศักดิ์ สินนิธิส
       6.นายสานิตย์ สะโตน
       7.นายประโชติ ศิริวัฒน์
       8.นายนพดล สายสุวรรณ
       9.นายสุริยา ศรีทองพันธ์
       10.นางบุญช่วย ช่วยสกุล
       11.นายประคอง ชูจันทร์
       12.นายณัฐพงษ์ ชุมเขียว
       
       รายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บที่รักษาพยาบาลอยู่รพ.หัวเฉียว จำนวน 12 ราย
       
       1.นางสุภชา หาญวงศ์จิรวัฒน์
       2.ด.ญ.อนัญพร หาญวงศ์จิรวัฒน์
       3.นางลาวัณย์ ภูมิไชยา
       4.นายสกฤษดิ์พงษ์ แซ่เลี้ยว
       5.นายพูลศักดิ์ แซ่เลี้ยว
       6.นายพูลศักดิ์ นิยะกิจ
       7.นายอภิเชษฐ์ คงสรรพ
       8.นายวิสุทธิ์ ก้อนแก้ว
       9.นายพฤทธิ์ เวทย์สุภาสุข
       10.นิวัติ สุวรรณกำเนิด
       11.นายจตุพร พรหมมาศ
       12.น.ส.เสน่หา แย้มอิ่ม
       
       รายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บที่รักษาพยาบาล รพ.กลาง จำนวน 3 ราย
       
       1.นางวราภรณ์ ศรีสวัสดิ์
       2.นางอัญชลี งามขำ
       3.น.ส.ดวงพร เสนาช่วย
       
       รายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บที่รักษาพยาบาล รพ.จุฬา จำนวน 9 ราย
       
       1.น.ส.วงลดา แสะฮะหมัด
       2.นายจิตรัตน์ ทองช่วย
       3.นายเสนอ มหาอุดม
       4.นายดำ สุขเกิด
       5.นายพิบูลย์ ผอมจีน
       6.นายสุริยา โพนดวงกรณ์
       7.นายอนุพงศ์ ชัชวาล
       8.นายประเสริฐ ศิริเขต
       9.นายสายันต์ แสนอวน


หุ้นไทยขวัญผวา หลัง กปปส.โดนปาประทัดยักษ์ ฟากโบรกฯแนะ ถือเงินสด 70% ของพอร์ต

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

นายยศพณ แสงนิล รองผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันที่ 17 ม.ค. ดัชนีมีทิศทางค่อนข้างผันผวน โดยการซื้อขายในช่วงบ่ายปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากมีข่าวว่ากลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็น ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ถูกคนลอบโยนประทัดยักษ์ใส่ บริเวณถนนบรรทัดทอง จนทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย

ทั้งนี้ สัปดาห์หน้า (20-24 ม.ค.) ประเมินว่า ตลาดหุ้นน่าจะแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,250 จุด แนวต้าน 1,300 จุด กลยุทธ์การลงทุน แนะนำถือเงินสด 70% ของพอร์ต หรือหากต้องการซื้อหุ้น ควรเลือกกลุ่มส่งออก ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า


บช.น.ชี้ระเบิดถนนบรรทัดทองตำรวจโดนโห่ไล่-อุ้มโกตี๋ไม่เกี่ยวเหตุปะทะแจ้งวัฒนะ

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม

รอง ผบช.น.แถลงกรณีเหตุระเบิดที่ ถ.บรรทัดทอง ตำรวจไม่สามารถเข้าทำงานตรวจสอบในที่เกิดเหตุไดัสะดวก เนื่องจากถูกกลุ่มผู้ชุมนุมตะโกนโห่ขับไล่ วอนให้ความร่วมมือตำรวจ พร้อมแถลงยืนยันโกตี๋ไม่เกี่ยวเหตุการณ์ปะทะที่ ถ.แจ้งวัฒนะ โยนเป็นเหตุเด็กแว้นป่วนปาประทัดยักษ์ใส่ การ์ด กปปส.ก่อนแยกย้ายไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
       
       เมื่อเวลา 16.45 น.วันนี้ (17 ม.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) แถลงกรณีเหตุระเบิด ที่ถนนบรรทัดทอง
       
       พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า กรณีเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.ที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิดที่ ถนนบรรทัดทอง ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ซึ่งนำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กำลังเดินขบวนมาที่บริเวณถนนบรรทัดทอง มุ่งหน้าแยกเจริญผล ได้เกิดเสียงระเบิดขึ้นที่บริเวณรถเครื่องเสียงนำขบวนผู้ชุมนุมดังกล่าว ใกล้แยกเจริญผล ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ภายหลังเกิดเหตุจนถึงขณะนี้ พล.ต.ต.วัลลภ ประทุมเมือง ผบก.น.6 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่ได้ เนื่องจากการ์ดของกลุ่มผู้ชุมนุมตะโกนไล่ และไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ยินยอมให้เพียงแต่เจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปเท่านั้น
       
       พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวต่อว่า จากกรณีดังกล่าวเส้นทางในการเดินขบวน กลุ่ม กปปส.ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นั้น ได้กำหนดไว้ว่า จะเดินในเส้นทาง เริ่มจาก สวนลุมพินี-สีลม-เจริญกรุง-สี่พระยา-แยกสามย่าน-ถนนพญาไท-เวที กปปส.ปทุมวัน แต่ปรากฏว่า เมื่อถึงเวลาเคลื่อนขบวนจริง ได้เปลี่ยนมาใช้เส้นทาง เริ่มจาก สวนลุมพินี-ถนนพระราม 4-ถนนสุรวงศ์-ถนนนเรศ-ถนนสี่พระยา-ถนนมหานคร-ถนนพระรามสี่-ถนนบรรทัดทอง-แยก เจริญผล-ถนนพระรามที่ 1 เพื่อเข้าสู่เวทีปทุมวัน
       
       จึงเป็นข้อสังเกตว่า มีความผิดปกติ และผิดวิสัยที่กลุ่ม กปปส.ได้กระทำมาโดยตลอด ซึ่งจากกรณีดังกล่าว จึงไม่สามารถที่จะให้รายละเอียดของเหตุการณ์ทั้งหมดได้ในขณะนี้ ดังนั้นจึงขอความร่วมมือให้ผู้ชุมนุมและการ์ดกลุ่ม กปปส.ได้อำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย
       
       พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ศูนย์ราชการที่ได้มีเหตุ มีรถตู้ จำนวน 1 คันและรถ จยย. จำนวน 5 คัน ได้ขับขี่ผ่านมาที่บริเวณแนวกั้นของกลุ่ม กปปส.ที่บริเวณ ซอยแจ้งวัฒนะ 14 ถนนแจ้งวัฒนะ และรถจักรยานยนต์ ได้เร่งเครื่องจนเกิดเสียงดัง กลุ่มการ์ด กปปส.จึงได้โยนประทัดยักษ์ ใส่กลุ่มรถจักรยานยนต์ดังกล่าว และทั้งสองฝ่ายได้แยกย้ายกันไป โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยไม่ใช่ กรณีของนายโกตี๋ และกลุ่มเสื้อแดง เข้ามาก่อกวน แต่อย่างใด ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบและยืนยันทราบว่า นายโกตี๋ ได้อยู่ที่จังหวัดปทุมธานี ไม่ได้เข้ามาในกรุงเทพมหานคร


ตร-สงสัยทำไมสุเทพเปลี่ยนเส้นทางก่อนบึ้ม

จาก โพสต์ทูเดย์

ตำรวจสงสัยทำไมสุเทพเปลี่ยนเส้นทางก่อนเกิดเหตุลระเบิด ป้องโกตี๋ไม่ได้พาแดงป่วนแจ้งวัฒนะ

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น.ในฐานะ โฆษก บช.น. แถลงถึงสถานการณ์การชุมนุมวันที่  17 ม.ค. ดังนี้ 1.กรณีเกิดเหตุระเบิดที่ถนนบรรทัดทอง เมื่อเวลา 13.00 น.ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ซึ่งนำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กำลังเดินขบวนมาที่บริเวณถนนบรรทัดทองมุ่งหน้าแยกเจริญผล ได้เกิดเสียงระเบิดขึ้นที่บริเวณรถเครื่องเสียงนำขบวนผู้ชุมนุมดังกล่าวใกล้แยกเจริญผล ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

“ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่ได้ เนื่องจากการ์ดของกลุ่มผู้ชุมนุมตะโกนไล่และไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ แต่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปเท่านั้น ซึ่งจากกรณีดังกล่าว เส้นทางในการเดินขบวน กลุ่ม กปปส.นั้น ได้กำหนดไว้เดิม ว่าจะเดินในเส้นทาง เริ่มจาก สวนลุมพินี – สีลม –เจริญกรุง – สี่พระยา – แยกสามย่าน – ถนนพญาไท –เวที กปปส.ปทุมวัน แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลาเคลื่อนขบวนจริงได้เปลี่ยนเส้นทาง จึงเป็นข้อสังเกตว่ามีความผิดปกติ และ ผิดวิสัยที่กลุ่ม กปปส.ได้กระทำมาโดยตลอด” โฆษก บช.น.กล่าว

พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถที่จะให้รายละเอียดของเหตุการณ์ทั้งหมดได้ในขณะนี้ ดังนั้นจึงขอความร่วมมือให้ผู้ชุมนุมและการ์ดกลุ่ม กปปส.ได้อำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย

ส่วนเหตุการณ์ที่ 2. กรณีที่ศูนย์ราชการได้มีเหตุรถตู้และรถจักรยานยนต์ จำนวน 5 คัน ได้ขับขี่ผ่านมาที่บริเวณ แนวกั้นของกลุ่ม กปปส. ที่บริเวณ ซอยแจ้งวัฒนะ 14 ถนนแจ้งวัฒนะ และรถจักรยานยนต์ ได้เร่งเครื่องจนเกิดเสียงดัง กลุ่มการ์ด กปปส.จึงได้โยนประทัดยักษ์ ใส่กลุ่มรถจักรยานยนต์ดังกล่าว และทั้งสองฝ่าย ได้แยกย้ายกันไป โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ไม่ใช่ กรณีของนายโกตี๋ และกลุ่มเสื้อแดง เข้ามาก่อกวน แต่อย่างใด ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบและยืนยันทราบว่า นายโกตี๋ได้อยู่ที่จังหวัดปทุมธานีไม่ได้เข้ามาในกรุงเทพมหานครแต่อย่างใด


กราดยิงวัดอ้อน้อยของหลวงปู่พุทธอิสระ

จาก โพสต์ทูเดย์

คนร้ายกราดเอ็ม 16 ยิงถล่มวัดอ้อน้อยของหลวงปู่พุทธะอิสระไร้บาดเจ็บ

วันที่ 17 ม.ค.เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนขับรถยนต์กระบะ แค๊ป สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน จากตัวอ.กำแพงแสน มุ่งหน้าเข้าเมืองนครปฐม เมื่อมาถึงบริเวณหน้าซุ้มประตูวัดอ้อน้อย ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกันก็ได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงกราดเข้ามากว่า 20 นัด ก่อนที่จะเร่งเครื่องหลบหนีไปทางตัวเมืองนครปฐม ขณะที่นายสมนึก อยู่ญาติมาก นายเยาว์ ทองดอนเหมือน นายกฤษดา  นิยมทอง และนายฐิติศักดิ์ ทองแท่งใหญ่ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย นั่งเฝ้าจุดหน้าประตูวัดอยู่ แต่ก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
 
ด้านพระเกรียงไกร ซึ่งเป็นพระลูกวัดอ้อน้อย ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.ไชยวัฒน์ ทองคงหาญ พนักงานสอบสวน สภ.กำแพงแสน เพื่อแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามคนร้ายดังกล่าวมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน หลังรับแจ้ง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ก่อนประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 นครปฐม และเดินทางไปตรวจยังบริเวณที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพ.ต.อ.สมบัติ อ่อนสมบูรณ์ ผกก., พ.ต.ท.เด่นชัย อินทรจักร รองผกก.ป.
 
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนจำนวนหนึ่งได้เดินทางไปที่เกิดเหตุพบรั้วสแตนเลสหน้าวัดและต้นไม้มีร่องรอยถูกกระสุนปืน จำนวน 14 รู นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนเอ็ม 16 ตกอยู่เกลื่อนพื้น จำนวน 12 ปลอก จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะดำเนินการต่อไป
 
นายกฤษดา  นิยมทอง ผู้ที่มาเฝ้าดูแลความปลอดภัยบริเวณหน้าวัด กล่าวว่า ขณะที่เขาและเพื่อนๆรวม 4 คน กำลังตรวจตราบริเวณในรั้วหน้าวัดอยู่นั้น ก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงปืนรัวเข้ามาหลายนัด ต่างคนต่างกระโดดหลบเข้าด้านใน และเมื่อมองออกไปก็เห็นรถยนต์ปิคอัพ แค๊ป สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ที่วิ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เร่งเครื่องหนีไปทางตัวเมืองนครปฐมอย่างรวดเร็ว


เปิดใจผู้บาดเจ็บเหตุบึมบรรทัดทอง จวกคนทำโหดเหี้ยม  

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

       ผู้บาดเจ็บจากเหตุบึมบรรทัดทอง จวกคนขว้างระเบิดโหดเหี้ยม เพราะรู้ทั้งรู้ว่ามีคนมาชุมนุมเป็นพันเป็นหมื่นแต่ยังทำ เผยนาทีระทึกเห็นผู้หญิงล้มลงต่อหน้า จึงรีบเข้าไปช่วย แต่สุดท้ายถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่หัวไหล่และต้นขาเช่นกัน

      วันนี้ (17 ม.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น.ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี   นายยะฤทธิ์ ทุ่งสว่าง อายุ 46 ปี ผู้ชุมนุม กปปส.จาก จ.นครศรีธรรมราช ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้ารับการรักษาจากเหตุการณ์ลอบปาระเบิดใส่ผู้ชุมนุม กปปส.บริเวณถนนบรรทัดทอง ว่า เหตุการณ์ขณะนั้นเกิดขึ้นช่วงหลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ ตอนนั้นหัวขบวนเริ่มเดินนำออกไปก่อน ส่วนท้ายขบวนยังไม่ทันขยับก็เกิดเหตุปาระเบิดเข้ามา ซึ่งไม่ทราบเช่นกันว่าระเบิดนั้นมาจากทิศทางไหน แต่ตนเห็นน้องผู้หญิงที่อยู่บริเวณด้านหน้าตนล้มลงไป ก็เลยไปช่วย ส่วนตัวเองก็ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดเข้าที่หัวไหล่ และต้นขา จึงถูกนำตัวส่งมายังโรงพยาบาล ซึ่งแพทย์ได้ทำการรักษาเรียบร้อยแล้ว โดยสะเก็ดระเบิดนั้นยังฝังอยู่ในร่างกาย แพทย์ไม่ได้ทำการผ่าตัดออก เนื่องจากสะเก็ดระเบิดชิ้นเล็กมาก หากผ่าตัดจะเป็นอันตรายมากกว่า  
       
       “ ผมเป็นคนปุถุชนธรรมดา พฤติกรรมการขว้างระเบิดใส่ผู้ชุมนุมที่มีคนเป็นพันเป็นหมื่นเช่นนี้ ถือเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมมาก รู้สึกเสียใจมากกับการกระทำแบบนี้ ” นายยะฤทธิ์ กล่าว


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ตะลึง พบคลังแสง ตึกร้าง ถ.บรรทัดทอง ผบช.สพฐ. ตร.ยัน อาวุธปืนที่พบ ปืนบีบีกัน

view