จาก โพสต์ทูเดย์

"อภิสิทธิ์" อัดสื่อถูกล็อบบี้ ไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พาดพิงพอแจงก็ไม่ลงให้ สั่งรวบรวมเครือข่ายคนเขียน ซัด รัฐบาลประกาศ พรก.ฉุกเฉิน สร้างความได้เปรียบเสียเปรียบในช่วงเลือกตั้ง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีสื่อต่างชาติถูกล็อบบี้ว่า มีสูตรสำเร็จของการเขียนและเขียนถึงพรรคประชาธิปัตย์ในทางลบหลายครั้ง แม้พรรคประชาธิปัตย์จะทำหนังสือชี้แจงไป แต่ก็ไม่ลงให้ มีสื่อบางเครือที่เห็นได้ชัดว่าได้รับอิทธิพลจากการล็อบบี้ ตนกำลังให้คนรวบรวมว่าคนเขียนที่อยู่ในข่ายพวกนี้มีใครบ้าง  ดูเหมือนว่ามีสูตรสำเร็จของการเขียนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้รับเสียงอย่างมากจากภาคเหนือ ภาคอีสานซึ่งเป็นเรื่องจริง แต่เขียนต่อเสมอว่า ทำให้คนที่ออกไปต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณไม่พอใจ เพราะต้องการรักษาสถานภาพทางเศรษฐกิจ สังคมของตัวเอง และจะใช้คำว่าบุคคลที่เป็นผู้สนับสนุน หรือจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วก็จะพูดถึงบางทีก็จะใช้คำว่า ชนชั้นนำ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นแนวที่บริษัทล็อบบี้ยิสต์ใช้ในการเขียน พ.ต.ท.ทักษิณเป็นสัญลักษณ์ของประชาธิปไตย เป็นสัญลักษณ์ในนามของคนจน ไม่ลองไปถามมวลมหาประชาชนที่เขานั่งอยู่ตรงปทุมวัน ราชประสงค์ อโศก สวนลุม แจ้งวัฒนะ ห้าแยกลาดพร้าว และอนุสาวรีย์ชัยฯ บ้างว่าที่เขามาค้าน พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณช่วยคนจนมีหรือไม่ เหตุที่คนมาคัดค้าน เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณเอารัดเอาเปรียบ และพยายามจะหลอกลวงคนจน ด้วยการทำโครงการซึ่งเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคพวกตัวเอง มากกว่าแก้ปัญหาให้กับประชาชน

"สื่อในเครือเหล่านี้ พอถูกล็อบบี้ ก็ไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริง  วิธีเขียนเหมือนกันหมด อ้างว่าชีวิตความเป็นอยู่ของคนจนนั้นดีขึ้น แต่ไม่ดูภาพรวมว่าสภาพการเป็นหนี้สินของประชาชนเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณมาเป็นรัฐบาล" นายอภิสิทธิ์กล่าว และว่า สื่อเหล่านี้ไม่ค่อยสัมภาษณ์พรรคประชาธิปัตย์หรือสัมภาษณ์แล้วไม่ลง เมื่อเขียนพาดพิงถึงพรรคประชาธิปัตย์ พอพรรคฯ ทำหนังสือชี้แจงไปไม่ลงให้ ค่อนข้างแปลกสำหรับมาตรฐานของสื่อ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการประกาศ พรก.ฉุกเฉินด้วยว่า ขณะนี้หลายฝ่ายออกมาท้วงติง ในแง่มุมเศรษฐกิจ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ข้าราชการและภาคธุรกิจออกมาพูดชัดเจน เป็นสิ่งที่รัฐบาลปฏิเสธยากว่าเมื่อตัดสินใจดำเนินการอย่างนี้ผลกระทบที่ตามมาทางด้านเศรษฐกิจนั้นก็จะทำให้การบริหารเศรษฐกิจ และการแก้ปัญหายากยิ่งขึ้น ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยคณะกรรมการนโยบายการเงินก็ไม่ลดดอกเบี้ย แสดงว่าตอนนี้ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจจะซ้ำเติมสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันภาคสื่อสารมวลชนก็แสดงความกังวลในแง่มุมที่ว่าจะมีการพยายาม คือความมุ่งหมายของการประกาศครั้งนี้ มามุ่งหมายในแง่ของการที่จะจำกัดสิทธิ เสรีภาพของสื่อมวลชนหรือไม่ เป็นอีกประเด็นที่ถือว่าน่าเป็นห่วง ที่แสดงความกังวลอย่างชัดเจนจากองค์กรวิชาชีพสื่อ และในระหว่างการเลือกตั้ง การใช้อำนาจพิเศษอย่างนี้จะเป็นการสร้างความได้เปรียบ เสียเปรียบ ในทางการเมือง ในการเลือกตั้งหรือไม่  และแม้ว่านายกฯ จะออกข้อกำหนดตามมาตรา 11 หรือ 12 ของ พรก. ซึ่งเป็นการออกข้อกำหนดยืนยันอำนาจของเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปทำการต่างๆ จะออกในวันจันทร์ แล้วอย่างนี้จะเป็นภาวะฉุกเฉินได้อย่างไร ถือเป็นเรื่องแปลก

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในมุมของการเลือกตั้ง เขาก็มีข้อสงสัย เพราะเลขาธิการ กกต. บอกว่าโดยหลักการแล้ว พรก.ห้ามชุมนุม แต่หาเสียงได้ ถ้าเกิดพรรคเพื่อไทยจะไปพูดว่าตัวเองดีอย่างไร พูดได้ แต่ถ้าใครทำกิจกรรมทางการเมืองแล้วบอกว่าพรรคเพื่อไทยทำความเสียหายให้กับบ้านเมืองอย่างไรนั้นทำไม่ได้ แล้วอย่างนี้จะถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่สุจริต เที่ยงธรรมหรือไม่

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับบทบาทของกองทัพก็เห็นว่าบ่งบอกว่าอยากจะเห็นการแก้ปัญหาด้วยวิธีอื่นมากกว่า ข้อสังเกตจากการตั้งกรรมการ ศรส.ที่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ ใช้คำว่าผู้แทนของผู้บัญชาการทั้งหลาย แทนที่จะเป็นผู้แทนหน่วยงาน ทำให้มีการแสดงความคิดเห็นออกมา ขณะนี้ที่ถูกจับตากันมากก็คือว่า อย่างกรณีของหน่วยของทหารเรือ ซึ่งก่อนหน้านี้เหมือนกับตำรวจไปกล่าวหาเขา เขาก็เลยต้องปกป้องตัวเอง ต้องลุยหาความจริงออกมาว่าสรุปสุดท้ายคนที่มาป่วนเมือง สร้างความรุนแรงคืออะไร เขาก็ทำงานตรงไปตรงมา ส่วนผู้บัญชาการทหารบกกพูดชัดเจนว่าไม่แน่ใจว่าสิ่งที่รัฐบาลทำอยู่ จะแก้ปัญหาได้หรือไม่ และก็ยืนยันว่าทหารก็ไม่ทิ้งประเทศ ไม่ทิ้งประชาชน ถ้าแก้ด้วยวิธีแบบรัฐบาลไม่ได้ ก็จะต้องเป็นบทบาทที่ทหารจะต้องเข้ามาทางใดทางหนึ่งในการแก้ปัญหา

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มีปัญหาที่อยากจะเรียกร้องตำรวจ ซึ่งเป็นผู้ที่จะต้องทำหน้าที่หลัก แต่เสียดายว่าไปทำให้เกิดภาพลักษณ์กลายเป็นเครื่องมือทางการเมือง จนทำให้การทำหน้าที่ของตำรวจมีปัญหา และจะทำอย่างไรที่จะกอบกู้ตรงนี้กลับมา ตำรวจต้องพิสูจน์ตัวเอง ส่วนทหาร ถ้าตำรวจทำหน้าที่ได้ ก็คงไม่จำเป็นต้องเข้ามา

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน