สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

พายุเศรษฐกิจ ภาระบนบ่า เกมเขย่าเก้าอี้ คุณชายอุ๋ย

จากประชาชาติธุรกิจ

ไม่ใช่เป็นเพราะ "หม่อมอุ๋ย" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เป็น "เสนาบดี" สืบเชื้อสายจากราชนิกุล "เทวกุล" หรือเพราะเป็น "ขุนพลเศรษฐกิจ" ข้างกายรัฐบาลหลายยุค-หลายสมัย ทว่ากลับเป็นเพราะ "เผือกร้อน" ในมือ ตาม "สัญญาประชาคม" ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี-หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงไว้ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยเฉพาะ "นโยบายเศรษฐกิจ" ซึ่งเปรียบเป็น "โจทย์หิน"
ที่ต้องเผชิญต่างหาก ที่ทำให้ "หม่อมอุ๋ย" ถูกจับจ้อง "ผมเป็นคนตัดสินใจทั้งสิ้น

ใครจะว่า ใครจะเสนอ ใครจะพูดกับใคร เดี๋ยวดูกันต่อไป ถ้าเขาทำงานไม่ดีก็ปรับใหม่ได้หมด รัฐบาลปรับได้ไม่รู้กี่ครั้ง

ใคร ไม่ดีก็ออกไป ใครทำทุจริตก็ติดคุกไป ก็มีแค่นั้น จะกลัวอะไร" เป็นประกาศิตของพล.อ.ประยุทธ์ที่ลั่นวาจาไว้โรดแมป "ยกเครื่องเศรษฐกิจ"

หลังจากนี้ถูกวางไว้ 3 ระยะ ได้แก่ ระยะเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการทันที ระยะต่อไปที่ต้องแก้ไขปัญหาพื้นฐานที่ค้างคาอยู่ และระยะยาวที่ต้องวางรากฐานเพื่อความเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง

โจทย์ เศรษฐกิจในห้วงเวลา 1 ปีหลังจากนี้ อาทิ การกระตุ้นการลงทุนด้วยการเร่งพิจารณาโครงการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งนักลงทุนยื่นขออนุมัติส่งเสริมการลงทุนไว้แล้วให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว และเร่งรัดโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานประเภทที่มีผลตอบแทนดี เช่น โครงการขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานคร

นอกจากนี้ยังต้องปลดชนวน "ระเบิดเวลา" ช่วยเหลือเกษตรกรในการลด ต้นทุน-ช่วยเหลือปัจจัยการผลิตอย่างทั่วถึง ตลอดจนการใช้กลไกตลาดดูแลราคาสินค้าเกษตรตกต่ำให้สูงขึ้นตามสมควร รวมทั้งการ "คลายเงื่อน-แก้ปม" ปัญหาโครงสร้างพลังงานราคาเชื้อเพลิงประเภทต่าง ๆ

อย่างไรก็ดี นโยบายที่ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าจะสามารถผลักดันให้สำเร็จ-บันทึกไว้เป็นผล งาน "รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์" แน่นอนก็คือการปรับปรุงโครงสร้างภาษีเป็นอัตราก้าวหน้า-ลดความเหลื่อมล้ำ ระหว่างคนจนกับคนรวย เช่น ภาษีมรดก ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แต่ต้องให้มีผลกระทบต่อผู้มีรายได้น้อยให้น้อยที่สุด ไม่เช่นนั้นจะเป็น "ดาบสองคม" ย้อนกลับมาฟาดฟันรัฐบาลเสียเอง

นอกจากนี้ยัง "ตั้งเป้า" ยกเลิกการยกเว้นภาษีประเภทที่เอื้อประโยชน์เฉพาะคนรวย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้นอีกด้วย สำหรับนโยบายระยะยาวเพื่อการวางรากฐานให้กับประเทศในด้านคมนาคมขนส่งทั้งทาง บก ทางน้ำ และทางอากาศ อาทิ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งและคมนาคม

อย่างไรก็ตาม เพียงแค่ พล.อ.ประยุทธ์เริ่ม "ออกสตาร์ต" เหล่าบรรดา "แนวรบ"- "แนว (เคย) ร่วม" ต่างออกมาสบประมาทนโยบายของรัฐบาลกันพัลวัน ไม่ว่าจากพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคเพื่อไทย เพราะหากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ทำผลงานเข้าตา ก็จะได้รับความนิยมล้นพ้นจนลงจากหลังเสือได้อย่างสง่างาม พร้อมกับดักคอว่าอย่าสร้างโอกาสสืบทอดอำนาจ

อย่าง ที่ "นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ" รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ บอกว่า "เมื่อดูนโยบายแล้ว คิดว่ายังกว้างไป เพราะเวลา 1 ปี ยากที่จะประสบความสำเร็จ มีการมองยุทธศาสตร์เรื่องการคมนาคม นิคมอุตสาหกรรม 10 ปี ก็ไม่รู้จะทำได้หรือไม่ และถ้าคิดอยากอยู่ยาวหรือสืบทอดอำนาจ ถือว่าการทำรัฐประหารครั้งนี้ไม่สำเร็จ จะเป็นเหมือนปี"49"

ด้าน พลพรรคแนวรบเพื่อไทย "สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล" อดีตรองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ ปรามาสมอตโต้ของรัฐบาล "ทำทันที ทำจริง สัมฤทธิผลปี"58" ว่า "เขียนครอบคลุมดี แต่ปัญหาคือจะทำได้จริงหรือไม่ โดยเฉพาะนโยบายการต่างประเทศ อาจทำได้แค่เฉพาะในอาเซียน แต่ทวีปยุโรป อเมริกา เขาคงไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลที่ยึดอำนาจ ทางที่ดีที่สุดคือต้องยืนยันอย่างเข้มแข็ง ชัดเจนว่าจะคืนอำนาจให้ประชาชน กลับสู่การเป็นประชาธิปไตยเมื่อไหร่ ถ้ายังกำกวมก็ลำบาก"

เมื่อ "ม.ร.ว.ปรีดิยาธร" รับเก้าอี้รองนายกฯ ดูแลภาพรวมเศรษฐกิจให้กับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ โดยดึงมือเศรษฐกิจมาช่วยกันถือหางเสือกำกับทิศทางการเงินการคลังให้รัฐนาวา พล.อ.ประยุทธ์ ผ่านพ้นคลื่นลมเศรษฐกิจเมืองในประเทศ และต่างประเทศในช่วงหนึ่งปีนับจากนี้ และไม่เพียงคลื่นลมเศรษฐกิจ หากยังต้องฝ่าพายุการเมืองที่เริ่มก่อตัวเพื่อท้าทาย รัฐนาวานายพลลำนี้ หากเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้องชาวบ้าน ชาวไร่ ชาวนา เป็นเครื่องชี้ชะตาของรัฐบาล ภาระหนักจากนี้ไปจะอยู่ที่ "ม.ร.ว.ปรีดิยาธร" ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เพียงแค่ยังไม่เริ่มทำงานก็เจอวิจารณ์ หากพลาดพลั้งอาจเจอแผนเสี้ยม เกมเลื่อยขาจากนักการเมืองหนักกว่านี้


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : พายุเศรษฐกิจ ภาระบนบ่า เกมเขย่าเก้าอี้ คุณชายอุ๋ย

view