จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
เอพี/เอเอฟพี - โรงพยาบาลใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงโด่งดังของสิงคโปร์ ออกคำแถลงขอโทษในวันนี้ (6 ต.ค.) ภายหลังคนไข้โรคไตที่กำลังรักษาตัวในโรงพยาบาลแห่งนี้รวม 22 คน ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดซี โดยเสียชีวิตไป 4 คน ทั้งนี้สาเหตุน่าจะมาจากความบกพร่องในการให้ยาทางเส้นเลือด
คำแถลงของโรงพยาบาลกลางสิงคโปร์ (Singapore General Hospital หรือ SGH) ซึ่งเป็นโรงพยาบาลรัฐที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศเกาะแห่งนี้ แสดงการขออภัย “อย่างไม่มีข้อแม้ใดๆ” สำหรับความโศกเศร้า ความเจ็บปวด และความทุกข์ระทมที่เกิดขึ้นกับคนไข้และครอบครัว สืบเนื่องจากโศกนาฏกรรมที่น่าตื่นตะลึงและเกิดขึ้นน้อยครั้งมาก ในประเทศซึ่งมีความภาคภูมิใจต่อระบบการดูแลรักษาสุขภาพอันมีประสิทธิภาพและ คุณภาพสูงเยี่ยมประเทศนี้
โรงพยาบาลแห่งนี้ ซึ่ง ลี กวนยู อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ก่อตั้งสิงคโปร์ ได้มารักษาตัวอยู่ในหน่วยอภิบาลผู้ป่วยขั้นวิกฤต (ไอซียู) ตลอดช่วงวันท้ายๆ ของชีวิต ก่อนจะถึงแก่อสัญกรรมไปเมื่อต้นปีนี้ ระบุในคำแถลงว่า คนไข้โรคไต 22 คนซึ่งเข้ารักษาเมื่อช่วงระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายนปีนี้ ได้รับการตรวจวินิจฉัยว่าติดเชื้อตับอักเสบซี การติดเชื้อดังกล่าวเป็นที่ทราบกันชัดเจนหลังจากคณะแพทย์เฝ้าติดตามกลุ่มคน ไข้ที่มีความผิดปกติรวม 7 รายอยู่เป็นเวลา 4 สัปดาห์
ในจำนวนผู้ติดเชื้อเหล่านี้ มี 4 คนเสียชีวิต “และขณะที่คนไข้ซึ่งเสียชีวิตเหล่านี้ต่างเจ็บป่วยหนักด้วยอาการร้ายแรง อื่นๆ อยู่แล้ว แต่เราก็ไม่สามารถปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ว่า การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี ก็เป็นปัจจัยที่ร่วมส่งผลประการหนึ่งด้วยเช่นกัน” คำแถลงบอก
ไวรัสตับอักเสบซี เป็นสาเหตุทำให้เกิดมะเร็งตับเรื้อรัง และการติดเชื้อมักเกิดขึ้นจากการสัมผัสในเวลาให้ยาเข้าเส้นเลือด, มีการใช้เครื่องมืออุปกรณ์ที่ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างไม่ถูกต้อง และในเวลามีการถ่ายเลือด
โรงพยาบาลกลางแห่งสิงคโปร์บอกว่า จากการไต่สวนขั้นต้นบ่งชี้ว่า ต้นตอของการติดเชื้อคราวนี้อาจจะมาจากอุปกรณ์ในการฉีดยาเข้าเส้นเลือด และนับตั้งแต่นั้นมาทางโรงพยาบาลก็ได้เพิ่มมาตรการระมัดระวังเป็นพิเศษ
หลังจากช่วงระยะเวลาที่ระบุข้างต้นแล้ว ไม่พบว่ามีการติดเชื้อตับอักเสบซีอีก แต่โรงพยาบาลยังคงติดต่อกับคนไข้ 411 คนซึ่งเข้ารักษาตัวอยู่ในหอผู้ป่วยต่างๆ ที่เกิดการติดเชื้อในช่วงตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายนปีนี้ เพื่อทำการตรวจสอบให้ชัดเจน
คำแถลงของโรงพยาบาลระบุว่า ยังมีผู้เสียชีวิตอีก 3 คนซึ่งตรวจสอบแล้วไม่พบว่าเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ และมีอีก 1 รายซึ่งเสียชีวิตเร็วๆ นี้ที่ยังคงอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้การตรวจสอบทุกๆ รายกระทำโดยคณะกรรมการที่กระทรวงสาธารณสุขแต่งตั้งขึ้นมา และมีนักวิทยาตับอาวุโสจากภายนอกผู้หนึ่งเป็นประธาน
“ความปลอดภัยของคนไข้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถผ่อนผันต่อรองกันได้” อัง ชองลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโรงพยาบาลแห่งนี้กล่าวในคำแถลง “สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนไข้ของเราคือความรับผิดชอบของเราเสมอมา เราจะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการตรวจสอบทบทวนกระบวนการต่างๆ ของเรา และทดสอบต้นตอของการติดเชื้อที่อาจเป็นไปได้ทุกๆ อย่าง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นอีก”
ทางด้านรัฐมนตรีสาธารณสุข กัน คิมยง แถลงแสดงความหวังว่า คณะกรรมการอีกชุดหนึ่งซึ่งเพิ่งจัดตั้งขึ้น เพื่อทำการตรวจสอบทบทวนกรณีการเสียชีวิตเหล่านี้ จะให้ความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นว่า ผลการสอบสวนภายในของทางโรงพยาบาลนั้นได้มีการตรวจสอบทบทวนอย่างเป็นกลางและ อย่างเข้มงวดจริงจังแล้ว โดยที่คณะกรรมการชุดหลังนี้จะจัดทำรายงานออกมาภายในเวลา 2 เดือน
ระบบการรักษาพยาบาลของสิงคโปร์นั้น ได้รับการจัดระดับว่าเยี่ยมยอดที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย ขณะที่โรงพยาบาลต่างๆ ของภาครัฐก็ได้รับเงินทุนสนับสนุนอย่างเพียงพอ โดยที่มีคนไข้จากทั่วโลกบินมาที่สิงคโปร์เพื่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล กลางสิงคโปร์ และโรงพยาบาลอื่นๆ เป็นจำนวนมาก
ตามตัวเลขของคณะกรรมการการท่องเที่ยวสิงคโปร์ คนไข้ชาวต่างประเทศใช้จ่ายเงินรวมประมาณ 832 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 584 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 21,216 ล้านบาท) ในการรักษาตัวที่ประเทศนี้ เมื่อปี 2013
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน
