สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

วัฒนธรรมการเมือง ปัญหาใหญ่ของสังคม

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในระหว่างเป็นประธานพิธี ในเปิดทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร วานนี้ (22 ส.ค.) โดยย้ำอีกครั้ง “อยากให้เกิดความยุติธรรมและความสงบสุขของทุกคน“ และ ” วันนี้จึงต้องทำให้ถูกต้องเร็ว อย่าให้มีปัญหาในวันหน้า และมองปัญหาที่เหลืออยู่จัดการโครงการทุกอย่าง ให้อยู่ภายในงบประมาณปี 2560 และแผนยุทธศาสตร์ชาติให้ได้”

ในช่วงที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่านายกรัฐมนตรีออกอาการหงุดหงิดทุกครั้ง ที่พูดถึงการวิพากษ์วิจารณ์การเมือง ซึ่งก็เช่นเดียวกับครั้งนี้ “ผมพูดทุกเรื่อง แต่คนสนใจเพียงเรื่องนายกฯคนนอก รัฐธรรมนูญ บ้ารึเปล่า" และ ย้ำอีกว่า "ผมเป็นผู้ใหญ่ และเป็นทหารเลยขี้โมโหไปหน่อย แต่ผมไม่ใช่นักการเมืองอย่าหวังว่าผมจะพูดเพราะ พูดเพราะแล้วโกหกผมไม่ทำ" โดยคำกล่าวเช่นเดียวกันนี้เราเคยได้ยินมาหลายครั้งหลายหน เพราะนายกรัฐมนตรีมองว่ามีเรื่องอื่นน่าพูดน่าวิจารณ์มากกว่าเรื่องการเมือง

นายกรัฐมนตรียังขอร้อง “ให้สื่อมวลชนลดการนำเสนอข่าวในเชิงความขัดแย้ง ไม่ใช่ด่ากันไปมา แล้วกลับมาด่านายกฯ“ และ ”ไม่ต้องตอบคำถามที่ซ้ำแล้วซ้ำอีก“ โดยย้ำว่ายังอยู่ตามโรดแมพที่วางไว้ว่าจะมีการเลือกตั้งปีหน้า และเห็นว่าสื่อ ”ถามกันว่าวันนี้ตกลงอย่างไรดี จะมีการสืบทอดอำนาจหรือไม่ ถามกันอยู่แค่นี้ ทะเลาะกันอยู่แค่นี้ ที่เหลือจะเป็นจะตายเยอะแยะไปหมด” ซึ่งเป็นท่าทีของนายกรัฐมนตรีต่อการตั้งคำถามและประเด็นความสนใจของสื่อมวลชน

พล.อ.ประยุทธ์ยังบอกอีกว่า “ขนาดปัญหาผักตบชวายังต้องสั่งการเอง ถ้าทุกคนเห็นผักตบแล้วเก็บกันคนละต้นปัญหานี้คงหมดไปนานแล้ว” ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการเป็นนายกรัฐมนตรีของไทยนั้นจะต้องดูแลตั้งแต่เรื่องเล็กๆน้อยน้อยไปจนถึงเรื่อง และเป็นเช่นนี้มานาน จนกลายเป็นวัฒนธรรมการเมืองไทย และในเมื่อทุกเรื่องต้องวิ่งมาให้นายกรัฐมนตรี ทำให้นายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเป้าหมายในแทบทุกเรื่อง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเรื่องราวมากมายก็ต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปได้มาก

แต่ตัวอย่างที่นายกรัฐมนตรีหยิบยกที่น่าสนใจ คือ “ขณะที่บนถนนก็ต้องประชาสัมพันธ์ ให้คนไม่ทิ้งขยะทิ้งขยะ เราต้องช่วยกันคนละไม้ละมือ เรากำลังมีคนเข้ามาเที่ยว 30 ล้านคน เพื่อการท่องเที่ยวด้วย มีอยู่ครั้งหนึ่งผมเห็นถุงอยู่ 2-3 ถุง และเฝ้าดูว่าจะมีใครเก็บหรือไม่ ปรากฏว่ามีแต่คนเดินผ่าน ส่วนฝรั่งก็ถ่ายรูป คนไทยภูมิใจที่สร้างขยะได้ ส่วนฝรั่งภูมิใจที่ถ่ายรูปขยะได้ ต่างคนต่างภูมิใจ คนไทยต้องคิดใหม่ อย่าคิดแต่ว่าในรถและบ้านตัวเองต้องสะอาด แต่ข้างนอกช่างมัน”

อันที่จริง อาการหงุดหงิดและวิพากษ์วิจารณ์สื่อมวลชน รวมทั้งตัวอย่างการเก็บขยะ ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ที่ได้ยินจากผู้นำประเทศ และอดีตนายกรัฐมนตรีหลายคนก็เคยพูดถึงคนไทยเช่นเดียวกันนี้ แต่การหยิบยกที่ตรงกันระหว่างนายกรัฐมนตรีต่างยุคต่างสมัยกัน ได้สะท้อนให้เห็นว่าผู้นำประเทศมองลงมาข้างล่างแล้วเผชิญกับอะไร ซึ่งหากฟังคำนายกรัฐมนตรีก็อาจสรุปโดยรวมได้ว่าปัญหาอยู่ที่ลักษณะของคนไทยที่มีการพูดถึงกันมานาน หรืออาจเรียกว่าเป็นลักษณะของวัฒนธรรมไทยอย่างหนึ่งนั่นเอง

ดังนั้นหากดูแผนการปฏิรูปใหญ่ของรัฐบาลในหลายเรื่อง ที่พยายามทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายด้านของสังคมไทย แต่องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้การปฏิรูปสำเร็จลงได้คือคนไทยด้วยกันเอง ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะเป็นเช่นนั้น แต่หากคนที่เป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งอดีตและปัจจุบัน รู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับปัญหาเดียวกันมาโดยตลอด ก็สะท้อนให้เห็นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่แก้ไขได้ยาก และเราเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยน แต่จะก้าวไกลถึง “ประเทศไทย4.0” หรือไม่นั้น ยังเป็นปริศนาอย่างยิ่ง


สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : วัฒนธรรมการเมือง ปัญหาใหญ่ของสังคม

view