สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ชิดชัย ย้อนวันปฏิวัติ ทักษิณ อำนาจอันตราย...ใช้ ม.44 ถาวรไม่ได้

จากประชาชาติธุรกิจ

สัมภาษณ์

10 ปีก่อน "พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์" ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ในค่ำคืนรัฐประหาร 19 กันยา 2549 

เป็นแกนนำคนสำคัญในกองบัญชาการต้านปฏิวัติ ถือคำสั่ง "ปลด" กำชะตาชีวิต พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีต ผบ.ทบ. 

แต่เมื่อปฏิบัติการต้านรัฐประหารล้มเหลว ถูก "พล.อ.สนธิ" ชิงตัดหน้ายึดอำนาจ "พล.ต.อ.ชิดชัย" จึงถูกทหารพร้อมปืนเอ็ม 16 ควบคุมตัว เช่นนักการเมืองคนอื่นในเครือข่าย "ทักษิณ ชินวัตร" 

"ประชาชาติธุรกิจ" สนทนากับ "พล.ต.อ.ชิดชัย" ในวันที่เขาถอยห่างจากการเมือง ห่างจากวงจร "ทักษิณ" เป็นนายพลในแม่น้ำ 5 สาย 1 ในสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ 

อ่านปากคำคนที่เคยหล่นจากอำนาจอีกครั้ง 

- 10 ปี หลังรัฐประหาร 2549 ชีวิตเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง 


ดีมากเลย ผมอยู่มานาน ผ่านมาทั้งเป็นตำรวจ ข้าราชการพลเรือน ดำรงตำแหน่งทางการเมือง รวมทั้งนักธุรกิจ ค่อนข้างเห็นอะไร เข้าใจพอสมควร เพราะหลังจากที่เราพ้นทุกอย่าง ในทางการเมืองเราก็ค่อยถอยออกมา ไปทำธุรกิจ เอาการเมืองไปยุ่งไม่ได้

- ชีวิตพลิกผันอย่างไรหลังพ้นการเมือง 

ผมสบายนะ ไม่ได้พลิกผัน เพราะผมอยู่กับพื้นดินตลอด ไม่ได้มีความคิดฝัน 

วิถีชีวิตของผมก็เหมือนเดิม ยังใช้ร้านตัดผมร้านเดิมที่ตัดมา 20 30 ปีในตลาด เพียงแต่ให้ทิปมากขึ้น (หัวเราะ) 



- 10 ปีที่ผ่านมาไม่มีบาดแผลต้องเยียวยา

ด้านส่วนตัวไม่มี เป็นกำไรชีวิต จากสมัยเด็ก ๆ ที่เราเห็นจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ยึดอำนาจ เปลี่ยนแปลงการปกครอง สมัยนั้นเรายังเป็นนักเรียนมัธยม พอผมไปช่วยราชการการเมืองตอน พล.ต.อ.ประจวบ สุนทรางกูร เป็นรองนายกฯ ได้เรียนรู้เยอะ ช่วงนั้น พล.อ.เปรมเป็นนายกฯ แล้วท่าน พล.อ.สุรยุทธ์ (จุลานนท์ องคมนตรี) ก็เป็น พ.อ.พิเศษ อยู่กับ พล.อ.เปรม ส่วนผมช่วยรองประจวบดูเรื่องงานเอกสาร และดูการข่าว มีประสบการณ์การเมืองมากพอสมควร ผมสนใจการเมืองแต่ไม่ใช่ว่าจะลงทำงานการเมือง

- บทเรียนส่วนตัวที่ได้จากการรัฐประหาร 19 กันยาคืออะไร

ความจริง สัจธรรม คือการแสวงหาดิ้นรนเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจเป็นเรื่องของมนุษย์ เป็นเรื่องรุ่นแล้วรุ่นเล่า ยิ่งในสังคมไทยจะเห็นได้ว่าทหารสลับกับพลเรือนขึ้นมามีอำนาจตลอดจนมาถึงปัจจุบัน และก็คงไปเรื่อย ๆ ตามปัจจัยที่จะเกิด ยากที่จะคาดเดา และขึ้นอยู่กับประชาชนเจ้าของประเทศด้วย ไม่ใช่ว่าขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะรักษาอำนาจได้ไม่ได้ ถ้าประชาชนไม่ยอม ไม่ว่าใครที่มาใช้อำนาจไม่ถูกต้องก็โดนทั้งนั้น

- แต่การรัฐประหาร 2549 ท่านก็เป็นแกนนำต่อต้านการใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้อง

ถูกต้อง เราเป็นรัฐบาลที่เข้ามาโดยถูกต้อง เราจึงเป็นฝ่ายต้องรักษาอำนาจไว้ให้ถูกต้อง 

- ตอนนั้นกองกำลังต้านปฏิวัติมีท่านอยู่ด้วย 


มีครับ แต่กองบัญชาการที่เป็นภาพอยู่บนดิน แต่ภาพอยู่ใต้ดินมันมีอีกเยอะ

- ใต้ดินฝ่ายเดียวกับรัฐบาลหรือฝ่ายตรงข้าม

ทั้งสองฝ่าย มันมีเหตุผลที่มีการ work กันอยู่ ซึ่งประชาชนก็มองอยู่ที่ผิว ๆ เป็นหลัก

- เมื่อกองบัญชาการต้านปฏิวัติสู้ไม่ไหวแต่ยังพยายามสู้ เวลานั้นติดอะไร 

ไม่ถึงกับนั่งสมาธิ แต่ผมนิ่ง (เน้นเสียง) อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เรานิ่งดีที่สุด เราต้องยอมรับว่าความเป็นคนไทยมีดีและเสีย แต่หลายอย่างเป็นอุปสรรคในการที่จะเดินต่อ ในวันที่เราโดนกับดักไม่ใช่ใครทำ เราทำกันเอง

- 19 กันยา รัฐบาลมีส่วนทำตัวเองบ้างไหม

อำนาจมันอันตราย ถ้าเผื่อผู้ใดไปหลงไปติดมัน ใช้อำนาจโดยไม่ชอบ ไม่ว่าใครก็โดนทั้งนั้นไม่ว่าฝ่ายไหน 

- รัฐประหาร 2549 กับ 2557 ลักษณะการใช้อำนาจต่างกันอย่างไร 

ช่วงหลังผมไม่ได้สนใจเท่าไหร่ เพราะผมไปทำธุรกิจก็ต้องระมัดระวังตัว ขณะเดียวกันก็โดนลูกหลงบ่อย ๆ แต่ก็เป็นเรื่องปกติ เพราะเขาก็ต้องคิดว่าเราเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ แต่เราก็มั่นใจตัวเราดี 

- ท่านก็เป็นหนึ่งในแม่น้ำ 5 สาย ทำไมถึงยังโดนลูกหลง


ที่เข้ามาเป็น สปท.เพราะบังเอิญมีกลุ่มตำรวจเสนอชื่อผมให้เป็น สปท. ผมก็บอกว่า เฮ้ย..เขาไม่เอาผมหรอก แต่ที่สุดแล้วว่าก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาเลือกผม

- ไม่ได้มีความสนิทสนมกับคนใน คสช.


ไม่มีใน คสช.ไม่มีรุ่นผม รุ่นผมถอยห่างมา ท่านนายกฯ ประยุทธ์ก็รุ่นห่างกัน ก็พอรู้จัก แต่ไม่ได้คุยกันบ่อย ผมเจอท่านแค่ครั้งสองครั้ง ไม่เคยสนทนากัน 

- การเข้าเป็น สปท.เท่ากับอยู่ตรงข้ามกับคุณทักษิณหรือเปล่า


ไม่หรอก ผมถือว่าผมทำอะไรที่เป็นตัวของตัวเอง การเป็น สปท.เราเคยอภิปรายว่า เราถือว่ามาทำให้กับประชาชน ซึ่งเขาให้เราปฏิรูป เราต้องกล้าใช้ความคิดของเราอย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัวอะไร 

- ตอนนี้เครือข่ายคุณทักษิณถูกทยอยเช็กบิลทั้งคดีแพ่ง และอาญา ท่านมีคดีหรือไม่

ไม่มี เพียงแต่ว่า คนพยายามใส่ข้อความไม่เป็นจริง ผมระมัดระวังตัว ผมถือเรื่องความสุจริตเป็นเครื่องกำบังอยู่แล้ว แต่สมัย คมช.ผมถูกตรวจสอบเรื่องทรัพย์สินละเอียดมากทั้งผมและคนใกล้ชิดผม แต่ผมระวังตัว ทำอะไรก็เก็บเอกสารไว้หมด 

- มองปรากฏการณ์ยุครัฐบาลคุณทักษิณ ทยอยติดคุกอย่างไร 

ผมมองดูว่า ทุกคนมีชะตากรรมเป็นของตัวเอง รวมทั้งตัวผมด้วย ทำไม 19 กันยา ผมถูกทหาร 15-20 คน ใช้ปืนเอ็ม 16 คุมตัวผมขึ้นรถ เรายังบอกว่า เฮ้ย..ปืนจะลั่นไหม ตอนนั้นเฉย ๆ ถือว่าเราได้ทำหน้าที่ เหมือนที่วันนี้ผมเป็น สปท. ทำเพื่อประชาชนเป็นหลัก ไม่ได้หวังว่าจะเป็นอะไร หรือผมไปทำงานบริษัทไหนผมก็ต้องไปทำให้เขาเต็มที่ 

- แต่ทหารยุคนั้นก็ทำท่านอย่างเต็มที่ 

เราถือว่าเป็นบทบาทของเขา ชีวิตเหมือนกับการแสดงจริง อย่าไปคิดมาก ทุกคนมีชะตากรรมของตัวเอง เชื่อว่าทุกคนทำให้ตัวเองดีที่สุดแล้ว ก่อนจะพูดจะคิดทำอะไรก็ต้องรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองทำ โดนมากโดนน้อยก็ขึ้นอยู่แต่ละเหตุการณ์

- สถานะความสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างไรในขณะนี้

ตอนนี้ เขาก็ยังงง ๆ ว่าผมอยู่ตรงไหนกันแน่ ผมอธิบายว่าผมอยู่กับความถูกต้อง พูดมานานว่าสีไหนไม่เคยกลัว กลัวแต่ศรีธนญชัย แสดงว่าทุกสีมีทั้งดีและไม่ดี สรุปแล้วอย่างน้อยที่สุดทุกคนมีพรรคพวก ทำอะไรก็ตาม ไม่ว่าเล่นพรรคเล่นพวกต้องเล่นอย่างมีคุณธรรม 

อยากให้ยึดถือคำสอนของพระพุทธเจ้าให้มาก ๆ เคยเดินจงกลม ผมเห็นเรื่องโลกธรรม 8 ชัดเจน เป็นเรื่องจริงในโลกชีวิตมีทั้งทุกข์และสุข มีทั้งลาภและเสื่อมลาภ มียศและเสื่อมยศ จะมองเห็นเรื่องอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ความไม่มีตัวตน ของพวกนี้ชัดเจน 

- ไม่ได้รู้สึกถึงความเป็นทุกข์ตอนที่พ้นจากตำแหน่งเมื่อ 10 ปีก่อน 

ผมไม่ทุกข์อยู่แล้ว เพราะรู้ว่าผมอยู่กับสิ่งเหล่านี้อยู่แล้ว 

- 10 ปีที่ผ่านมาเจอคุณทักษิณบ้างหรือไม่

ก็ยอมรับว่าในช่วงพรรคพลังประชาชนกับพรรคเพื่อไทย ผมได้มีโอกาสทำงานอยู่เยอะพอสมควร ผมถือหลักในเรื่อง เราต้องเป็นมิตรเราก็ต้องตอบแทน พอมาถึงจุดหนึ่งถ้าเผื่อเขายังตกทุกข์แล้วทิ้งไปเลยมันก็ไม่ใช่ แต่พอไปทำธุรกิจก็ถอนออกมา

- คุณทักษิณเข้าใจการถอยออกมาของท่านหรือไม่

เข้าใจหรือไม่เข้าใจ ตอนนี้เราต้องเป็นตัวของตัวเองแล้ว ชีวิตเราเป็นตัวตนของเรา เราต้องยึดมั่นความเป็นตัวของตัวเองสูงที่สุด ตัดสินใจแล้วก็ต้องเชื่อมั่นในตัวเอง

- คนที่ออกจากคุณทักษิณก็จะกลายเป็นศัตรูทางการเมืองหรือเป็นคู่ขัดแย้ง ท่านเป็นอย่างนั้นไหม


ไม่หรอก ถ้าเราดำรงชีวิตมาอย่างนี้ตลอดทุกคนจะเข้าใจ เหมือนหลายคนเขาเจอผมบอกว่า เอ๊ะ..วิธีการทำงาน กับวิธีพูดของผมต่างกัน ดังนั้น ความเป็นตัวของตัวเองจะช่วยได้ ถ้าเรามั่นใจว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดีและถูกต้องเราก็เดินในสิ่งนี้ 

- นักการเมืองบางคนที่ออกจากคุณทักษิณบอกว่า รูปของคุณทักษิณยังไม่กล้าสบตา ท่านหวั่นเกรงแบบนั้นไหม

ไม่หวั่นเกรง ผมเฉย ๆ เรากล้าเผชิญความเป็นจริง แม้กระทั่งคนที่ยึดอำนาจเรา ท่าน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เจอหน้ากันก็คุยกัน จับมือกันไม่เห็นมีปัญหา มันก็เป็นอย่างนี้ เราเข้าใจ 

- แล้วคุณทักษิณเข้าใจท่านไหม

นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เราต้องเป็นตัวของตัวเอง เป็นหลักปฏิบัติสูงสุด

- ถ้าย้อนเวลากลับไป 10 ปีก่อน ถ้าจะต้องโทษใครสักคนที่ทำให้เกิดรัฐประหารจะโทษใคร

ไม่ล่ะ ผมไม่อยากไประบุใคร ไม่เป็นประโยชน์ แต่ให้ทุกคนไปสำรวจตัวเองว่าใช้อำนาจถูกต้องไหม แน่นอนทุกคนปฏิเสธหมด ผมในฐานะคนไทยก็อยากให้ประเทศเดินหน้าได้ เราต้องเดินอีกไกล 

สเต็ปแรก คนไทยจะเปลี่ยนไหม หลังจากรัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้ว ไม่มีดาบคม ๆ มาตรา 44 คนไทยจะมีวินัยมากขึ้นเหมือนไม่มีมาตรา 44 ไหม เพราะมาตรา 44 ใช้กันได้ชั่วคราว แต่ใช้ถาวรไม่ได้ เหมือนครอบครัวจะไปใช้กฎเหล็กกับลูกไม่ได้ พัฒนาไปยาวแล้ว เพียงแต่จะปรับในสิ่งไม่ดี หาสิ่งไม่ดีมาขจัดกันเองได้อย่างไร 

- จาก 19 กันยา สังคมไทยมีความขัดแย้งสูง ช่วงเปลี่ยนผ่านจากนี้จะฝ่าวิกฤตได้ไหม

ช่วงนี้เหมือนกับ Tie Out เพื่อจัดระบบระเบียบกันเอง เพื่อความอยู่ร่วมกันอย่างสันติ คสช.ถึงขอเวลา 5 ปี ดีกว่าเราไม่ลอง เพราะอย่างน้อยที่สุด ผมมองดูว่าถ้าเผื่อใครก็ตามในสังคมไทยขัดพระราชดำรัส รัชกาลที่ 7 ที่สละอำนาจให้แก่ราษฎร มีอันเป็นไปทั้งนั้น 

- คสช.บอกว่าขณะนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน คิดว่าเปลี่ยนผ่านจากอะไรไปสู่อะไร

เปลี่ยนผ่านที่ผมเข้าใจคือ ต้องเปลี่ยนไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในบทปฏิรูปเขียนไว้ชัดเจน 1.เพื่อให้ประเทศชาติสงบสุข ร่มเย็น ประชาชนมีความสมัครสมานสามัคคี 2.ทำให้สังคมอยู่กันอย่างสุขสงบ 3.ให้ประชาชนพึ่งพาตนเองได้ มีกิน มีใช้ จะมองตั้งแต่ระดับประเทศ สังคม มาสู่ประชาชน 

- ถ้าหากพูดถึง 19 กันยา สิ่งที่อยากจะบันทึกที่สุดของตัวเองคืออะไร

(นิ่งคิด) สิ่งที่ผมคิดมากที่สุด ความยั่งยืนของประชาธิปไตยที่ดีที่สุดสำหรับคนไทย แล้วคนไทยจะยอมรับด้วยกัน บางคนก็บอกว่าอยากได้ประชาธิปไตยแบบของอังกฤษ แต่พื้นฐานนิสัยต่างกันเยอะ เขาไม่ต้องเข็นอะไรมาก แต่ของเรายังมีระบบเจ้าขุนมูลนายอยู่ในตัวเยอะมาก อย่างไรก็ตาม ประชาธิปไตยเราเดินมา 80 กว่าปี แต่สิ่งที่จะเป็นประโยชน์สำหรับประชาชน คือ ต้องมีวินัย และรู้จักสิทธิหน้าที่ตัวเองสำคัญที่สุด 

มีหลายอย่างในสังคมไทยไม่ก่อให้เกิดความเป็นประชาธิปไตยเช่น เราชอบพึ่งพาคนอื่นไม่ชอบพึ่งพาตัวเอง มันก็เกิดระบบอุปถัมภ์มากขึ้น ดังนั้น การเป็นประชาธิปไตยคือ อย่าไปไว้วางใจกันเต็มร้อย ต้องมีการกลั่นกรองกัน อย่าไปยอมให้ผ่านกันง่าย ๆ และต้องมีการตรวจสอบซึ่งกันและกัน เพื่อสร้างระบบให้เข้มแข็ง ต้องกำหนดกติกาที่แฟร์ อย่าไปเชื่อในพิธีกรรมมากเกินไป เช่น การเลือกตั้ง พอชนะแล้วถือว่าได้สิทธิแล้วอาไปอ้างประชาชน ประชาธิปไตยไม่ใช่แค่การเลือกตั้ง เพราะได้อำนาจมาแล้วแต่เป็นเพียงอำนาจเพื่อมาจัดสรรประโยชน์ในชาติไปยังหมู่เหล่าต่าง ๆ อย่างเป็นธรรมที่สุด ที่ตรงกับพระราชหัตถเลขารัชกาลที่ 7

สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ชิดชัย ย้อนวันปฏิวัติ ทักษิณ อำนาจอันตราย  ม.44

view