สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ศุภชัย ศิษย์เอกธรรมกาย อ่วมคดีฉ้อโกง 1.1 หมื่นล้าน ไม่เอี่ยวคดีฟอกเงิน

ศุภชัย” ศิษย์เอกธรรมกาย อ่วมคดีฉ้อโกง 1.1 หมื่นล้าน ไม่เอี่ยวคดีฟอกเงิน

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

“ศุภชัย” ศิษย์เอกธรรมกาย อ่วมคดีฉ้อโกง 1.1 หมื่นล้าน ไม่เอี่ยวคดีฟอกเงิน

        MGR Online - ศาลเลื่อนตรวจหลักฐานคดี “ศุภชัย ศรีศุภอักษร” อดีต ปธ.สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น กับพวก 11 คน ฉ้อโกงเงินกว่า 1.1 หมื่นล้าน ไป 1 พ.ค.นี้ เนื่องจากเอกสารสำนวนคดียังไม่เรียบร้อย ยันคดีนี้ไม่เกี่ยวกับคดีฟอกเงิน
       
       


       
       วันนี้ (20 ก.พ.) ที่ห้องพิจารณาคดี 909 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานคดีหมายเลขดำที่ อ.3339/2559 ที่อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น, นายมณฑล กันล้อม อดีตประธานสหกรณ์ฯ, นายลภัส โสมคำ อดีตกรรมการ, นางทองพิณ กันล้อม อดีตกรรมการ, นายณัฐวัฒน์ ปิยพัชร์เมธี อดีตผู้จัดการสหกรณ์, นายอารีย์ แย้มบุญยิ่ง ผู้จัดการสหกรณ์, น.ส.ศรัณยา มานหมัด อดีตรองผู้จัดการสหกรณ์, น.ส.วาริศา เอกชัยจินดาวัฒน์ อดีตกรรมการสหกรณ์, นางจันทร์ฉาย ขันธะหัตถ์ รองผู้จัดการสหกรณ์, นายธนากร น่าบัณฑิต อดีตเจ้าหน้าที่สหกรณ์, นายกฤษฎา มีบุญมาก อดีตเจ้าหน้าที่สหกรณ์ เป็นจำเลยที่ 1-11 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 และ 343 กรณี ระหว่างเดือนมกราคม 2551 - ธันวาคม 2555 ร่วมกันทำสัญญากู้ยืมเงินระหว่างสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นกับสมาชิกสมทบ ซึ่งเป็นนิติบุคคลหรือคณะบุคคลที่ไม่ได้ถือหุ้นในสหกรณ์ จำนวน 28 ราย รวมเงินสัญญากู้ยืม 11,858,440,000 บาท โดยมิได้มีการกู้ยืมเงินกันจริง และร่วมกันทำบันทึกรายการทางการเงินอันเป็นเท็จ โดยโจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมาย และขอให้จำเลยทั้งหมดร่วมกันคืนเงินให้ผู้เสียหาย รวม 2,254 รายด้วย ซึ่งคดีนี้อัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2559 และนัดตรวจหลักฐาน คดีหมายเลขดำที่ อ.3734/2559 ที่อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้องนางวันเพ็ญ ยอดดี อดีตผู้จัดการฝ่ายการเงิน ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 และ 343 ซึ่งอัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2559 จากพฤติการณ์เดียวกันที่นายศุภชัย อดีตประธานสหกรณ์ฯ กับพวกรวม 11 รายถูกกล่าวหา
       
       โดยวันนี้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวนายศุภชัย จำเลยที่ 1 มาจากเรือนจำบางขวาง, นางทองพิน กันล้อม อดีตกรรมการสหกรณ์ฯ จำเลยที่ 4 และ น.ส.ศรัณยา มานหมัด อดีตรองผู้จัดการสหกรณ์ฯ จำเลยที่ 7 มาจากทัณฑสถานหญิงกลาง สำหรับจำเลยอื่นที่เหลือได้รับการประกันตัวเดินทางมาศาลเช่นกัน
       
       เมื่อถึงเวลานัดอัยการโจทก์แถลงว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้อัยการได้ส่งสำนวนที่มีความสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาบางรายที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมกระทำผิดในคดีนี้กลับไปให้พนักงานสอบสวบคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อพิจารณาว่าจะมีความเห็นแย้งกับอัยการหรือไม่ ดังนั้น ในวันนี้จึงไม่สามารถยื่นเอกสารที่เกี่ยวกับสำนวนคดีเพื่อประกอบการตรวจหลักฐานได้ จึงจะขอเลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานออกไปก่อน
       
       ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้เลื่อนไปตรวจพยานหลักฐานอีกครั้งในวันที่ 1 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น. ส่วนที่อัยการขอรวมสำนวนคดีนายศุภชัยกับพวก และนางวันเพ็ญ พิจารณาเป็นสำนวนเดียวกันนั้น ศาลอนุญาตให้รวมคดีทั้งสองสำนวนเข้าด้วยกัน โดยให้ยึดสำนวนคดีที่ อ.3339 /2559 เป็นสำนวนคดีหลัก
       
       ภายหลังนายวันชัย บุนนาค ทนายความนายศุภชัย จำเลยที่ 1 กล่าวถึงกรณีสหกรณ์ฯ ในฐานะผู้เสียหาย ได้ยื่นคำร้องขอถอนอุทธรณ์ คดีที่อัยการยื่นฟ้องนายศุภชัยในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ คดีหมายเลขดำที่ อ.1739/2558 ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกนายศุภชัย 14 ปี 24 เดือน เนื่องจากนายศุภชัยได้นำเงินมาชดใช้เป็นค่าเสียหายให้กับสหกรณ์ฯ ว่า ในวันที่ 21 มี.ค.นี้ ศาลอาญาได้นัดพร้อมคู่ความรวมทั้งผู้แทนสหกรณ์ฯ ผู้เสียหาย เพื่อสอบถามถึงรายละเอียดดังกล่าว เพื่อจะเสนอให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาต่อไป ว่าจะมีคำสั่งอย่างไร โดยการเสนอชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 34,752,150 บาท โดยเป็นเงินที่รวมกับดอกเบี้ยของเงินต้นความเสียหายทั้งหมด 27 ล้านบาทดังกล่าวนั้นก็เป็นประสงค์ของนายศุภชัย ที่เมื่อมีเงินแล้วก็พร้อมจะคืนให้กับสหกรณ์เพื่อเยียวยาสมาชิก ซึ่งความผิดยักยอกทรัพย์นี้ก็เป็นความผิดอันยอมความกันได้ หากผู้เสียหายไม่ติดใจ อย่างไรก็ดี หากศาลอุทธรณ์อนุญาตถอนอุทธรณ์ได้ แต่นายศุภชัย ยังไม่ได้รับการปล่อยตัวเนื่องจากยังถูกคุมขังคดีอื่น
       
       โดยยืนยันว่าเหตุที่ดำเนินการดังกล่าวจะไม่มีผลต่อคดีอาญาอื่น รวมถึงคดีฟอกเงินที่นายศุภชัยถูกยื่นฟ้องและยังถูกพนักงานสอบสวนคดีพิเศษทำสำนวนคดี ซึ่งคดีฟอกเงินที่ถูกกล่าวหามีประมาณ 9 สำนวน ที่ดีเอสไอส่งให้อัยการพิจารณา 3 สำนวน โดยอัยการได้ยื่นฟ้องมาแล้ว 1 สำนวน
       
       ด้านนายชาติพงษ์ จีระพันธุ รองอธิบดีอัยการคดีพิเศษ เปิดเผยด้วยว่า วันนี้ในการตรวจพยานหลักฐานคดีที่นายศุภชัยกับพวกร่วมกันฉ้อโกงฯ นั้น อัยการก็ได้ขอศาลอนุญาตให้รวมสำนวนพิจารณาคดีเดียวกับที่อัยการยื่นฟ้อง นายศุภชัย, น.ส.ศรัณยา และนางทองพิน (คดีหมายเลขดำที่ ฟย.47/2559) ความผิดฐานฟอกเงินด้วยเนื่องจากพฤติการณ์สืบเนื่องกัน เพื่อความสะดวกในการสืบพยานหลักฐานด้วย 


ศาลสั่งรวม 2 สำนวน "ศุภชัย" คดีฉ้อโกงคลองจั่น 1.1 หมื่นล้าน อัยการขอเลื่อนตรวจหลักฐาน

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ห้องพิจารณาคดี 909 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน คดีหมายเลขดำ อ.3339/2559 ที่อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น นายมณฑล กันล้อม อดีตประธานสหกรณ์ฯ นายลภัส โสมคำ อดีตกรรมการ นางทองพิณ กันล้อม อดีตกรรมการ นายณัฐวัฒน์ ปิยพัชร์เมธี อดีตผู้จัดการสหกรณ์ นายอารีย์ แย้มบุญยิ่ง ผู้จัดการสหกรณ์ นางสาวศรัณยา มานหมัด อดีตรองผู้จัดการสหกรณ์ นางสาววาริศา เอกชัยจินดาวัฒน์ อดีตกรรมการสหกรณ์ นางจันทร์ฉาย ขันธะหัตถ์ รองผู้จัดการสหกรณ์ นายธนากร น่าบัณฑิต อดีตเจ้าหน้าที่สหกรณ์ และนายกฤษฎา มีบุญมาก อดีตเจ้าหน้าที่สหกรณ์ เป็นจำเลยที่ 1-11 ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน กรณี ระหว่างเดือนมกราคม 2551 – ธันวาคม 2555 จำเลยร่วมกันทำสัญญากู้ยืมเงินระหว่างสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่นกับสมาชิกสมทบ ซึ่งเป็นนิติบุคคลหรือคณะบุคคลที่ไม่ได้ถือหุ้นในสหกรณ์ จำนวน 28 ราย รวมเงินสัญญากู้ยืม 11,858,440,000 บาท โดยมิได้กู้ยืมเงินกันจริง และร่วมกันทำบันทึกรายการทางการเงินอันเป็นเท็จ โดยโจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมาย และขอให้จำเลยทั้งหมดร่วมกันคืนเงินให้ผู้เสียหาย รวม 2,254 รายด้วย คดีนี้อัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2559

อีกคดีนัดตรวจหลักฐาน คดีหมายเลขดำ อ.3734/2559 ที่อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นางวันเพ็ญ ยอดดี อดีตผู้จัดการฝ่ายการเงิน ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 และ 343 โดยอัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2559 จากพฤติการณ์เดียวกันที่นายศุภชัย อดีตประธานสหกรณ์ฯ กับพวกรวม 11 รายถูกกล่าวหา

โดยวันนี้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัว นายศุภชัย จำเลยที่ 1 มาจากเรือนจำบางขวาง นางทองพิน กันล้อม อดีตกรรมการสหกรณ์ฯ จำเลยที่ 4 และ น.ส.ศรัณยา มานหมัด อดีตรองผู้จัดการสหกรณ์ฯ จำเลยที่ 7 มาจากทัณฑสถานหญิงกลาง สำหรับจำเลยอื่นที่เหลือได้รับการประกันตัวเดินทางมาศาลเช่นกัน

เมื่อถึงเวลานัดอัยการโจทก์แถลงว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้อัยการส่งสำนวนที่มีความเห๋ยสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาบางรายที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมกระทำผิดในคดีนี้กลับไปให้พนักงานสอบสวบคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อพิจารณาว่าจะมีความเห็นแย้งกับอัยการหรือไม่ ดังนั้นในวันนี้จึงไม่สามารถยื่นเอกสารที่เกี่ยวกับสำนวนคดีเพื่อประกอบการตรวจหลักฐานได้ จึงขอเลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานออกไปก่อน

ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้เลื่อนไปตรวจพยานหลักฐานอีกครั้ง วันที่ 1 พฤษภาคม เวลา 09.00 น. ส่วนที่อัยการขอรวมสำนวนคดีนายศุภชัยกับพวกและนางวันเพ็ญพิจารณาเป็นสำนวนเดียวกันนั้น ศาลอนุญาตให้รวมคดีทั้งสองสำนวนเข้าด้วยกัน โดยให้ยึดสำนวนคดี อ.3339 /2559 เป็นสำนวนคดีหลัก

ภายหลัง นายวันชัย บุนนาค ทนายความนายศุภชัย จำเลยที่ 1 กล่าวถึงกรณีสหกรณ์ฯ ในฐานะผู้เสียหาย ยื่นคำร้องขอถอนอุทธรณ์ คดีที่อัยการยื่นฟ้องนายศุภชัย ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ คดีหมายเลขดำ อ.1739/2558 ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก นายศุภชัย 16 ปี เนื่องจากนายศุภชัยนำเงินมาชดใช้เป็นค่าเสียหายให้กับสหกรณ์ฯ ว่า ในวันที่ 21 มีนาคมนี้ ศาลอาญานัดพร้อมคู่ความรวมทั้งผู้แทนสหกรณ์ฯ ผู้เสียหาย เพื่อสอบถามถึงรายละเอียดดังกล่าว เพื่อจะเสนอให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาต่อไป ว่าจะมีคำสั่งอย่างไร โดยการเสนอชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 34,752,150 บาท โดยเป็นเงินที่รวมกับดอกเบี้ยของเงินต้นความเสียหายทั้งหมด 27 ล้านบาทดังกล่าวนั้นก็เป็นประสงค์ของนายศุภชัย ที่เมื่อมีเงินแล้วก็พร้อมจะคืนให้กับสหกรณ์เพื่อเยียวยาสมาชิก โดยความผิดยักยอกทรัพย์เป็นความผิดอันยอมความกันได้ หากผู้เสียหายไม่ติดใจ อย่างไรก็ดีหากศาลอุทธรณ์อนุญาตถอนอุทธรณ์ได้ แต่นายศุภชัย ยังไม่ได้รับการปล่อยตัวเนื่องจากยังถูกคุมขังคดีอื่น โดยยืนยันว่าเหตุที่ดำเนินการดังกล่าว จะไม่มีผลต่อคดีอาญาอื่น รวมถึงคดีฟอกเงินที่นายศุภชัยถูกยื่นฟ้องและยังถูกพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ทำสำนวนคดี ซึ่งคดีฟอกเงินที่ถูกกล่าวหามีประมาณ 9 สำนวน ที่ดีเอสไอส่งให้อัยการพิจารณา 3 สำนวน โดยอัยการยื่นฟ้องมาแล้ว 1 สำนวน

ด้านนายชาติพงษ์ จีระพันธ์ รองอธิบดีอัยการคดีพิเศษ เปิดเผยว่า วันนี้ในการตรวจพยานหลักฐานคดีที่นายศุภชัยกับพวกร่วมกันฉ้อโกงฯ นั้น อัยการขอศาลอนุญาตให้รวมสำนวนพิจารณาคดีเดียวกับที่อัยการยื่นฟ้อง นายศุภชัย, น.ส.ศรัณยา และนางทองพิน (คดีหมายเลขดำ ฟย.47/2559)ความผิดฐานฟอกเงินด้วย เนื่องจากพฤติการณ์สืบเนื่องกัน เพื่อความสะดวกในการสืบพยานหลักฐานด้วย




ที่มา : มติชนออนไลน์


สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ศุภชัย ศิษย์เอกธรรมกาย อ่วม คดีฉ้อโกง 1.1 หมื่นล้าน เอี่ยวคดีฟอกเงิน

view