สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

คิดจะเปลี่ยนโลก ต้องเปลี่ยนตัวเองก่อน

จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์ Smart SMEs โดย ไตรรงค์ บุตรากาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าเอสเอ็มอีทีเอ็มบี

ทุกวันนี้โลกการค้าขายเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง สมรภูมิการแข่งขันทางธุรกิจในปัจจุบัน มิได้แข่งขันกันหาทำเลดี ๆ เปิดหน้าร้าน แต่แข่งกันสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ และใช้วิธีการต่าง ๆ นานาดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาเยี่ยมชม และจ่ายเงินเพื่อสั่งซื้อสินค้า แม้ไม่เคยเห็นหรือสัมผัสจับต้องสินค้าตัวจริงมาก่อนก็ตาม

ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการ TARAD.Com และนายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย ในงานสัมมนาเพื่อ SMEs ซึ่งก็ได้แชร์ข้อมูลตัวเลขที่น่าสนใจว่า เมื่อปี 2559 ที่ผ่านมา โซเชียลคอมเมิร์ซในประเทศไทยเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 270,000 ล้านบาท จากตลาดอีคอมเมิร์ซทั้งหมด 2.5 ล้านล้านบาท โดยช่องทางหลักที่เอสเอ็มอีนิยมใช้ซื้อขายกันเป็นประจำ คือ Facebook, Line และ Instagram

เมื่อเทรนด์โลกเปลี่ยนไปในทิศทางนี้ เอสเอ็มอีต้องไม่ตกขบวนที่จะปรับตัวตาม ไม่ว่าจะเป็นอีคอมเมิร์ซก็ดี หรือโซเชียลคอมเมิร์ซก็ดี ล้วนมีศักยภาพมหาศาล เพราะการค้าออนไลน์ใช้เงินทุนไม่มาก ทั้งยังสามารถเลือกใช้เงินให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องหว่านแหให้สิ้นเปลือง เพียงแค่เปิดใจ และใช้เป็น มิเช่นนั้นคุณอาจจะถูกโลกลืมทิ้งไว้ข้างหลัง เพราะลูกค้ากว่า 40 ล้านคนบนโลกออนไลน์ ค้นหาคุณไม่เจอ

"Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself"
 ลีโอ ตอลสตอย กล่าวไว้ว่า คนมากมายอยากจะเปลี่ยนแปลงโลก แต่มีคนเพียงน้อยนิดที่คิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เอสเอ็มอีหลายคนอยากรวย อยากมีเงินเป็นล้าน อยากจะขยายนั่น พัฒนานี่ แต่เอสเอ็มอีหลายรายปิดกั้นตัวเอง เพราะคำว่ากลัวเทคโนโลยี และไม่พยายามเข้าใจความเป็นไปของโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

การจะเปลี่ยนตัวเองได้ คงต้องเริ่มต้นจากการเปลี่ยนวิธีการคิด รวมถึงการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์เสียก่อน เอสเอ็มอีรายใดก้าวสู่ตลาดออนไลน์เร็วกว่าย่อมจะได้เปรียบ อย่างไรก็ดี อย่าหลงไปกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เคล็ดลับความสำเร็จของการค้าออนไลน์ คือ Customer First มิใช่ Digital First ต้องทำความเข้าใจพฤติกรรมของคนหรือลูกค้ายุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย เช่น ทุกวันนี้ลูกค้ามักค้นหาข้อมูลสินค้าจาก Google ก่อน รวมทั้งอ่านรีวิวสินค้า เพื่อที่จะตัดสินใจซื้อได้อย่างถูกต้อง ดังนั้น เอสเอ็มอีจึงไม่ควรทำการค้าบนพื้นฐานของการทึกทัก คิดเอง เออเอง แต่จำเป็นต้องหาความรู้เกี่ยวกับลูกค้าประกอบด้วย โดยอาจเริ่มต้นจากการคุยกับลูกค้ามากขึ้น ก็จะเข้าใจมุมมองและพฤติกรรมของลูกค้ามากขึ้น

การค้าขายออนไลน์นั้นต้องคำนึงถึงแพลตฟอร์มด้วย โดยต้องนำสินค้าเข้าไปอยู่ในช่องทางการขายที่เหมาะสม เช่น สินค้าแฟชั่นเหมาะกับโซเชียลมีเดีย สินค้ากลุ่มโรงงานเหมาะกับตลาดมาร์เก็ตเพลซ ทั้งนี้ ไม่ควรจำกัดอยู่เพียงช่องทางใดช่องทางหนึ่ง แต่ควรลองเปิดตนเองกับหลาย ๆ ช่องทาง แล้วหมั่นตรวจสอบผลตอบรับตลอดเวลา เช่น จำนวนคนที่เข้ามาเยี่ยมชม พฤติกรรมของผู้เข้าชม คอนเทนต์ที่คนชอบ-ไม่ชอบ เพื่อจะได้ปรับแผนการตลาด ปรับปรุงคอนเทนต์หรือโปรโมชั่นให้น่าสนใจ และมีพลังมากพอที่จะเปลี่ยนผู้ชมเป็นผู้ซื้อได้ต่อไป 

อีกเรื่องที่ผมได้ข้อคิดดี ๆ จาก คุณบุรินทร์ เกล็ดมณี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เรดดี้แพลนเน็ต จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนผู้ให้บริการสมัครสมาชิกกับ Alibaba.com ในประเทศไทย ก็คือเรื่องข้อดีของช่องทางออนไลน์ที่ยังขยายโอกาสในการโกอินเตอร์ เอสเอ็มอีไทยมองไกลไปถึงตลาดต่างประเทศ ไม่จำกัดตนเองอยู่แต่ภายในบ้าน เช่น การนำสินค้าเข้าไปขายใน Amazon หรือกระทั่ง Alibaba ซึ่งเป็นช่องทางการขายที่สามารถเข้าถึงได้ในหลาย ๆ ประเทศ สำหรับ Alibaba นั้นได้ข่าวว่า บุกไปกว่า 40 ประเทศทั่วโลก และมีกว่า 2 ล้านร้านค้า ซึ่งปัจจุบันทราบว่ามีสมาชิกของ Alibaba ในประเทศไทย ประมาณ 6 แสนรายแล้ว

ช่องทางออนไลน์ โซเชียลมีเดียต่าง ๆ จึงนับเป็นมิติใหม่สำหรับเอสเอ็มอี ในการกล้าที่จะคิดใหญ่ และทำธุรกิจให้ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย เพียงแต่วันนี้คุณเปลี่ยนตนเอง หรือเริ่มต้นก้าวเข้าสู่โลกออนไลน์แล้วหรือยัง หากยังไม่รีบก้าว คุณอาจจะก้าวไม่ทันโลกนะครับ


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : คิดจะเปลี่ยนโลก เปลี่ยนตัวเองก่อน

view