จากประชาชาติธุรกิจ

สต๊อกมันสำปะหลังเป็นเรื่อง "อภิสิทธิ์" บี้ ก.พาณิชย์ข้องใจไม่ขายมันเส้น/แป้งมันเกือบ 1 ล้านตันเสียที ทั้ง ๆ ที่มันขาดตลาดราคาพุ่งเกินกว่าต้นทุนรับจำนำ ล่าสุดส่ง "อำนวย ปะติเส" ลุยตรวจสต๊อกมันทั่วประเทศ หวังควานหา "สต๊อกลม-มันเน่า" จับผิดผู้ส่งออกเวียนเทียนเอาของดีส่งออก ยัดของคุณภาพแย่เข้าโกดังรัฐบาล

จากโครงการรับจำนำสต๊อกมันสำปะหลัง (มันเส้น) ในอดีตที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของกระทรวงพาณิชย์มีมากกว่า 970,000 ตัน กำลังเป็นปัญหาของรัฐบาล เมื่อเกิดเสียงวิจารณ์ในวงการค้าผู้ค้าและผู้ส่งออกมันสำปะหลัง ว่าเหตุใดกระทรวงพาณิชย์จึงไม่ยอมขายมันเส้นจำนวนดังกล่าว ทั้ง ๆ ที่มีการเปิดให้ยื่นเสนอราคาทุกสัปดาห์ จนตั้งข้อสังเกตว่าปัญหาดังกล่าวเกิดจากการเสนอราคาซื้อขายหรือมีปัญหา เกี่ยวกับมันเส้นที่เก็บรักษาในสต๊อกมาอย่างยาวนานไม่ต่ำกว่า 18 เดือนนั้น มีปริมาณอยู่ครบหรือไม่ และ คุณภาพสินค้าเป็นอย่างไร

ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า จากกรณีดังกล่าวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้งให้นายอำนวย ปะติเส เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบคุณภาพและปริมาณมันสำปะหลังใน สต๊อกของรัฐบาล เพื่อหาคำตอบใน 2 ประเด็น ได้แก่ มันเส้นในสต๊อกของรัฐบาลมีจำนวนครบถ้วนหรือไม่ กับคุณภาพมันเส้นอยู่ในระดับใด

ล่าสุด นายอำนวยได้เรียกประชุมคณะกรรมการตรวจสอบคุณภาพและปริมาณในปลายสัปดาห์ที่ ผ่านมาที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ที่ประชุมมีมติให้แต่งตั้งคณะทำงาน 2 ชุดเข้าไปดูแลกำกับการปฏิบัติงานตรวจสอบสต๊อกมันสำปะหลัง ทั้งสต๊อก แป้งมันกับสต๊อกมันเส้นใน 16 จังหวัด 70 โกดัง มีชุดตรวจสอบ 10 ชุด โดยใช้เจ้าหน้าที่จากบริษัทเซอร์เวเยอร์ ชุดตรวจสอบมีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจนับสต๊อกเป็นเวลา 3 วัน (13-15 ก.ค. 2553) มีเป้าหมายหลักอยู่ที่คลังสินค้า 5 แห่งในจังหวัดนครราชสีมา

"ชุด ตรวจสอบจะเข้าตรวจนับสต๊อกมัน ที่อยู่ในจังหวัดใกล้เคียงกันในเวลาพร้อมกัน เพื่อป้องกันการยักย้ายถ่ายเทนำมันเส้น หรือแป้งมันจากโกดังหนึ่งมาใส่ในอีกโกดังหนึ่ง การตรวจนับสต๊อกจะใช้ท่อเจาะเข้าไปในกองมัน บางแห่งอาจจะต้องเจาะลึกถึง 5 เมตร สุ่มเจาะหลาย ๆ กองแล้วส่งให้ ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบคุณภาพและคำนวณปริมาณมันที่เก็บอยู่ในสต๊อกทั้งหมดเสนอ คณะกรรมการชุดใหญ่สรุปผลการตรวจสอบเสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาภายในวันที่ 21 กรกฎาคมนี้" แหล่งข่าว 1 ในชุดตรวจสอบกล่าว

ความสงสัยในปริมาณมัน ที่เก็บสต๊อกและคุณภาพสินค้าจนนำไปสู่การตรวจสต๊อกข้างต้น เกิดจากวิธีการระบายมันเส้นและแป้งมันในสต๊อกของกระทรวงพาณิชย์เป็นไปอย่าง ล่าช้า โดยการระบายสต๊อกมันเส้นครั้งใหญ่ครั้งสุดท้าย 349,736 ตันเกิดขึ้น ในวันที่ 24 มีนาคม 2553 ปรากฏมีผู้เข้าร่วมเสนอซื้อ 14 ราย ให้ราคาเฉลี่ย ก.ก. ละ 5.8-6 บาท เป็นราคาที่ค่อนข้างสูงจากราคารับจำนำเฉลี่ย ก.ก.ละ 5 บาทกว่า ปรากฏคณะทำงานระบายสต๊อกมันสำปะหลังของ กระทรวงพาณิชย์ได้ใช้เวลาในการต่อรองราคานาน สุดท้ายวันที่ 11 พฤษภาคม มีมติ "ไม่เสนอ" คณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลังแห่งชาติ (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน) พิจารณาอนุมัติการขายตามที่มีผู้เสนอซื้อทั้ง 14 ราย

"ตรงจุดนี้ได้ สร้างความสงสัยให้กับบรรดาผู้ส่งออกมันสำปะหลังและผู้ใช้มันสำปะหลังเป็น วัตถุดิบภายในประเทศมากว่า ทำไมกระทรวงพาณิชย์ไม่ยอมขายมันเส้นทั้ง ๆ ที่ได้ราคาดี แต่เลือกที่จะเก็บมันเส้นในสต๊อก 970,000 ตันต่อไปอีก จากการสอบถามไปยังผู้เกี่ยวข้องในการระบาย สต๊อกเป็นการภายในทราบว่า คณะทำงานได้เสนอขายไปแล้ว แต่เรื่องถูกดึงไว้โดยฝ่ายการเมือง สุดท้ายไม่มีการเปิดประมูลอีกจนกระทั่งปัจจุบันนี้" แหล่งข่าว 1 ในผู้สนใจ ยื่นซองเสนอราคาประมูลมันเส้นกล่าว

การไม่ยอมระบายสต๊อกมันสำปะหลัง ของรัฐบาลประกอบกับผลผลิตมันลดมากกว่า 30% (จาก 26 ล้านตันหัวมันสดเหลือ 17-18 ล้านตัน) จากการระบาดของ "เพลี้ยแป้ง" มีผลทำให้ราคามันเส้นและหัวมันสดในตลาดปรับตัวสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ราคาปัจจุบันหัวมันสดซื้อขายกันอยู่ที่ 2.50-3 บาท/ก.ก.แต่ไม่มีของ ขณะที่ราคามันเส้นพุ่งขึ้นไปถึง 6.20-6.40 บาท/ก.ก. (203-208 FOB/ตัน) และราคาแป้งมัน 15.50-15.80 บาท/ก.ก. (480-500 FOB/ตัน) จึงเกิดความกังวลกันว่า ผู้ส่งออกจะนำมันเส้น/แป้งมันในสต๊อกรัฐบาลออกไปขายจนเกิด "สต๊อกลม" ประกอบกับมีข่าวในวงการค้ามันเข้ามาว่า คุณภาพมันเส้นในสต๊อกรัฐบาลที่เก็บไว้ "แย่มาก" บางโกดังเป็น "ดีโก้" หรือมันเน่า เกิดความร้อนจนไฟไหม้โกดังมาแล้ว

"นายกรัฐมนตรีคงได้รับ ข้อมูลในส่วนนี้และเกิดความสงสัยว่า ทำไมคุณพรทิวา ถึงไม่ยอมขายมันในสต๊อกออกไปเสียที คุณอำนวยออกไปตรวจนับแต่เนื่องจากคุณอำนวยเป็นมือใหม่ยังไม่รู้สายสนกลใน ระหว่างผู้ส่งออกกับเซอร์เวเยอร์ ที่หากินพึ่งพาอาศัยกันมาอย่างยาวนาน แถมยังใช้ระยะเวลาตรวจสอบตั้ง 3 วัน ทั้ง ๆ ที่ในอดีตยุคที่การส่งออกมันอัดเม็ดเฟื่องฟูยังใช้เวลาตรวจนับสต๊อกเพื่อจัด สรรโควตาเพียงวันเดียวก็ยังปรากฏการโกงให้เห็น แถมโกดังเก็บมันก็อยู่ในต่างจังหวัดอะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้เสมอ" แหล่งข่าวกล่าว

มีรายงานข่าวจาก 3 สมาคมร่วม

มันสำปะหลังเข้า มาว่า ทางสมาคมได้ทำหนังสือเรื่องการระบายสต๊อกมันสำปะหลังของรัฐบาลไปยังนายก รัฐมนตรี โดยตั้งข้อสังเกตในเรื่องที่กระทรวงพาณิชย์ไม่ยอมขายมันเส้นจำนวน 349,736 ตันในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันก็มีข่าวออกมาว่า กระทรวงพาณิชย์จะขายมันในลักษณะรัฐต่อรัฐแทน ซึ่งสมาคมขอคัดค้าน เนื่องจากยังมีความต้องการใช้มันสำปะหลังทั้งภายในและการส่งออกอีกมาก "แต่กลับไม่ยอมขายให้" ส่วนเรื่องคุณภาพของ

มันเส้นส่งออกนั้น สมาคมได้รับการ "ต่อว่า" จากผู้ซื้อในประเทศจีนเข้ามามาก แสดงว่า สต๊อกมันเส้นที่รัฐเก็บไว้กำลังมี "ปัญหา" ในเรื่องของคุณภาพสินค้าแน่นอน