สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ไอโฟน 4 กับวิกฤตศรัทธา จุดเปลี่ยน แอปเปิล ?

จากประชาชาติธุรกิจ

บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐ "แอปเปิล" เพิ่งประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุด โดยสามารถทำผลงานได้แข็งแกร่งเหนือความคาดหมาย แม้จะเผชิญกับวิกฤตศรัทธาจากปัญหาเสารับสัญญาณที่มีส่วนทำให้สายหลุด  
  เอเอฟพีรายงานว่า ผลการดำเนินการของแอปเปิลในไตรมาส 3 ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งเหนือความคาดหมายของนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีต โดยกำไรพุ่งถึง 78% อยู่ที่ 3.25 พันล้านดอลลาร์ จาก 1.83 พันล้านดอลลาร์ ส่วนรายได้ก็เพิ่มขึ้นแตะระดับ 15.7 พันล้านดอลลาร์ จาก 9.73 พันล้านดอลลาร์ ในปีที่แล้ว มากกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินกันไว้ที่ 14.75 พันล้านดอลลาร์
  "สตีฟ จ็อบส์" ซีอีโอของแอปเปิล กล่าวว่า นี่เป็นไตรมาสที่สร้างปรากฏการณ์เหนือความคาดหมาย ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดตัว "ไอโฟน 4" หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของบริษัท รวมถึง "ไอแพด" ที่มีจุดเริ่มต้นที่ดี และการที่ยอดขายเครื่องคอมพิวเตอร์ "แมค" ก็เพิ่มขึ้น
  ทั้งนี้ แอปเปิลขายไอแพดได้ทั้งหมด 3.27 ล้านเครื่อง ในไตรมาสล่าสุด ส่วนไอโฟนขายได้ 8.4 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 61% จากปีก่อน ซึ่งในจำนวนนี้นับรวม "ไอโฟน 4" ราว 1.7 ล้านเครื่อง ที่ขายได้ในช่วง 3 วันแรก หลังวางจำหน่ายเมื่อ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา ด้าน "ไอพอด" เครื่องเล่นเพลงดิจิทัลกลับมียอดขายลดลง 8% และเครื่องแมคขายได้ 3.47 ล้านเครื่อง
  "แยร์ ไรเนอร์" นักวิเคราะห์ของออพเพนไฮเมอร์ แอนด์ โค กล่าวกับรอยเตอร์สว่า นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่ผลงานของแอปเปิลแซงหน้าการคาดการณ์ของวอลล์สต รีต ขณะเดียวกันตอนนี้นักลงทุนกำลังกังวลเกี่ยวกับปัญหาเรื่องเสารับสัญญาณของไอ โฟน 4 ที่อาจจะส่งผลต่อยอดขาย แต่แอปเปิลก็ได้ส่งสัญญาณถึงความแข็งแกร่ง
  โดยแอปเปิลต้องปวดขมับกับข้อบกพร่องของไอโฟน 4 ที่พบคำร้องเรียนจากผู้ใช้ตั้งแต่หลังวางขายใหม่ ๆ ซึ่งหากผู้ใช้ถือโทรศัพท์ในบางลักษณะอาจทำให้สัญญาณขาดหายและสายหลุดได้ ขณะที่นิตยสาร "คอนซูเมอร์ รีพอร์ต" ซึ่งทดสอบผลิตภัณฑ์และแนะนำคุณภาพสำหรับผู้บริโภค ไม่แนะนำให้ใช้งานไอโฟน 4
 "สตีฟ จ็อบส์" บัญญัติศัพท์เรียกปัญหานี้ว่า Antennagate ซึ่งมาจากคำว่า antenna ที่แปลว่าเสาอากาศ ผนวกกับคำว่า gate ที่ใช้ต่อท้ายเพื่อหมายถึงกรณีอื้อฉาว
  ดูเหมือนว่าไอโฟน 4 ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของแอปเปิล กำลังเผชิญความท้าทายจากปัญหา Antennagate ซึ่งอาจลากฉุดศรัทธาของสาวกแอปเปิล ทำให้แอปเปิลจัดแถลงข่าวเรื่องนี้หลังกระแสวิพากษ์วิจารณ์เริ่มขยายวงมาก ขึ้น โดยเสนอทางออกแบบ "โลว์เทค" เพื่อแก้ปัญหา "ไฮเทค" ด้วยการแจกซองกันกระแทกสำหรับผู้ซื้อไอโฟน 4 ฟรี จนถึง 30 กันยายน ส่วนผู้ที่ซื้อซองหุ้มมาแล้วก็สามารถขอรับเงินคืนได้ ซึ่งประเมินกันว่าจะคิดเป็นต้นทุนราว 175 ล้านดอลลาร์ เทียบกับกรณีเรียกคืนสินค้าที่อาจส่งผลให้ต้นทุนพุ่งถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์ และส่งผลต่อแบรนด์แอปเปิลอย่างมาก
 ในงานแถลงข่าว จ็อบส์กล่าวยอมรับว่า ไม่มีโทรศัพท์มือถือเครื่องใดที่สมบูรณ์แบบ พร้อมกันนี้ จ็อบส์ระบุด้วยว่า สมาร์ทโฟนค่ายอื่น ๆ ก็มีปัญหาเรื่องเสาอากาศและสัญญาณเช่นกัน
 นี่ทำให้บรรดาคู่แข่งที่ถูกพาดพิงตบเท้าออกมาตอบโต้ในทันที ไม่ว่าจะเป็น "เอชทีซี" ที่บอกว่า ปัญหาเสารับสัญญาณไม่ได้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเหมือน ๆ กัน ส่วน "โนเกีย" ระบุว่าบริษัทควักเงินลงทุนจำนวนมาก เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้มือถือของมนุษย์ รวมถึงการจับโทรศัพท์ การฟังเพลง และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
  ขณะที่ "รีเสิร์ช อิน โมชั่น" (อาร์ไอเอ็ม) ผู้ผลิต "แบล็คเบอร์รี่" ระบุว่า นี่เป็นเกมโยนบาป โดยแอปเปิลพยายามจะลากอาร์ไอเอ็มเข้าไปร่วมในปัญหาที่แอปเปิลสร้างขึ้นมาเอง
  วอลล์สตรีต เจอร์นัล ระบุว่า ไม่ว่าผลประกอบการของแอปเปิลจะออกมาดีหรือไม่ แต่สิ่งที่นักลงทุนกังวลที่สุดตอนนี้คือผลกระทบจากปัญหาเสารับสัญญาณของไอ โฟน 4 เพราะนี่ไม่ใช่สถานการณ์ปกติที่จะพบเห็นได้บ่อย ๆ ที่สตีฟ จ็อบส์ ต้องออกโรงจัดแถลงข่าวเป็นพิเศษเพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์ของบริษัท
  ปัญหาที่สำคัญคือข้อบกพร่องของไอโฟน 4 ดังกล่าว จะบานปลายจนส่งผลให้แอปเปิลเสียโมเมนตัมหรือไม่ ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนที่ดุเดือด ซึ่งแอปเปิลจะต้องสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนให้ได้ว่า ปัญหาของไอโฟนจะไม่กระทบต่อการขยายตัวของบริษัทอย่างรุนแรง
  ด้าน "ดิ อินดีเพนเดนต์" รายงานว่า แอปเปิลต้องเตรียมรับมือกับวิกฤตด้านภาพลักษณ์จากปัญหาเชิงเทคนิคของไอโฟน 4 รวมถึงการที่บริษัทมั่นใจในตัวเองเกินไป ก็อาจทำลายความรักของผู้คนที่มีต่อบริษัทในที่สุด
  โดยเมื่อแรกเริ่มที่เกิดปัญหา แอปเปิลอธิบายว่าเกิดจากซอฟต์แวร์มีปัญหา ซึ่งส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของบริษัทในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีของโลก ขณะที่สตีฟ จ็อบส์ แนะให้ผู้ใช้ถือโทรศัพท์ให้ถูกต้อง ซึ่งฉุดภาพลักษณ์ของสินค้าไฮเอนด์ของแอปเปิลลง ประกอบกับกระแสข่าวที่ว่า วิศวกรอาวุโสของแอปเปิลเคยเตือนเกี่ยวกับการออกแบบที่อาจทำให้เกิดปัญหาใน การรับสาย แต่ก็ไม่ได้มีการดำเนินการใด ๆ
  นักวิเคราะห์บางรายมองว่า ปัญหาดังกล่าวอาจกระทบต่อยอดขายของไอโฟน 4 เพราะผู้ซื้ออาจชะลอแผนไปจนกว่าบริษัทจะปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ ซึ่งผลสำรวจของไอดีซีพบว่า 66% ของผู้ที่ซื้อไอโฟนรุ่นเก่ายังรีรอที่จะเปลี่ยนมือถือของตัวเองเป็นรุ่นใหม่ และ 25% ของผู้ซื้อรายใหม่ชะลอแผนซื้อไอโฟน 4 ออกไปก่อน
 ขณะที่บางฝ่ายมองว่า ปัญหานี้อาจกระทบต่อกระแสความนิยมของผู้บริโภค ดังที่ "โทนี่ แซคโคนากี" นักวิเคราะห์จากเบิร์นสไตน์ รีเสิร์ช เตือนว่า การก่อตัวของความเชื่อมั่นที่มากเกินไปของบริษัทที่แสดงออก มา อาจมีส่วนช่วยคู่แข่งให้กลับมาต่อกรกับแอปเปิล และเป็นความเสี่ยงที่จะทำให้ลูกค้ารู้สึกห่างเหินกับบริษัท รวมทั้งบั่นทอนความสำเร็จของบริษัท

 

Tags : ไอโฟน 4 วิกฤตศรัทธา จุดเปลี่ยนแอปเปิล

view